ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 72

ร็อบบี้น้อยกล่าว “ผมพูดผิดเหรอครับ? น้าชอบซุบซิบแล้วน้าก็ชอบขุดคุ้ยความลับคนอื่นมากจนน้ายอมขุดดินลึกสามฟุตเพื่อให้ได้ความลับของเขามา ผมไม่รู้จะเรียกน้าว่าอะไรแล้วถ้าไม่ใช่เครื่องขุดดิน?”

โจเซฟินโกรธมากจนเธอเหวี่ยงหมัด ต้องการที่จะชกร็อบบี้น้อยสักหมัด ร็อบบี้น้อยวิ่งไปรอบบ้าน กระโดดไปมา โจเซฟินวิ่งตามเขานานมากจนเธอกระหืดกระหอบและพองตัวขึ้นจากการพยายามหายใจเข้า ไม่ว่าเธอจะวิ่งยังไง เธอก็ไม่สามารถแตะต้องเสื้อผ้าของร็อบบี้น้อยแม้แต่ปลายก้อย

เจย์มองดูการวิวาทอันมีวคามสุขระหว่างหลานและน้าอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าเขาจะประหลาดใจที่ ‘เจนสัน’ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กร่าเริงสดใส แต่มันก็ไม่เลวเลยหากนี่จะกลายมาเป็นนิสัยถาวรของเขา

เพราะว่าคนขับรถไม่อยู่ โจเซฟินจึงได้รับหน้าที่ให้ขับรถพาพวกเขาไปที่เคเอฟซี ในขณะที่เจย์และร็อบบี้น้อยนั่งหลัง โจเซฟินจงใจปรับกระจกมองหลังให้ตรงกับสายตาของ ‘เจนสัน’

ร็อบบี้น้อยนั่งบนตักของเจย์ มือนุ่มนิ่มของเขาจับจมูกของพ่อเขาเล็กน้อย จากนั้น เขาก็จับผมของพ่อ ในชั่วครู่ เขาก็ไม่หยุดจับตัวพ่อเขาเลย

“เด็กนี่เป็นโรคไฮเปอร์รึไงนั่น?” โจเซฟินช่วยไม่ได้ที่จะต้องถามออกมา

สายตาของเจย์มืดมนลง ที่ผ่านมา เจนสันมักจะนั่งนิ่งเป็นหุ่นไล่กาเสมอตอนที่นั่งอยู่ในรถ แต่วันนี้ ‘เจนสัน’ กลับจับนู่นนี่และดิ้นไปมาเหมือนเขาอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้

มีร่องรอยของความเป็นห่วงในสายตาของเจย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเขาพบการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของตัวเขา เขาจึงหันออกไปมองหน้าต่าง

ด้านนอกหน้าต่าง รถนั้นขับไปตามถนน ถนนนั้นสว่างไสว และทั้งเมืองก็คึกคัก สีมากมายฉายเข้ามาในดวงตาของเขา แต่ที่เขาเห็นนั้นมีเพียง ดำ ขาว และเทา

เขากำลังไตร่ตรองเรื่องที่โรสกำลังจะจากไปพรุ่งนี้ อาการของเจนสันนั้นจะค่อย ๆ ทรงตัวขึ้นหากเธอจากเจนสันไปตลอดกาล หลังจากนั้น เขาก็จะค่อย ๆ พัฒนาและดีขึ้นตามลำดับ

ไม่ว่าสวรรค์จะมอบเจนสันผู้นิ่งเงียบหรือเจนสันผู้ร่าเริงให้ ขอแค่เขาสุขภาพดี นั่นก็เพียงพอแล้ว

ร็อบบี้น้อยกำลังเพลิดเพลินกับพิซซ่าในเคเอฟซี เจย์กับโจเซฟินทำหน้าเจื่อนเหมือนเคี้ยวขี้ผึ้งเมื่อพวกเขาเห็นว่าร็อบบี้น้อยกินพิซซ่ายังไง เขาดูคุ้นเคยกับการกินพิซซ่า แม้ว่านั่นจะไม่ใช่ประเด็นหลักก็ตาม

ร็อบบี้น้อยเก็บพิซซ่าที่เหลืออย่างระมัดระวังลงกระเป๋า เจย์มอง ‘เจนสัน’ ที่กำลังตั้งใจอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าต้องแสดงความทุกข์ออกมาอย่างไรดี

โจเซฟินหยิบพิซซ่าของร็อบบี้น้อยมาแล้วโยนลงถังขยะ “บรรพบุรุษน้อย นายจะดูแลพิซซ่าเหลือ ๆ นั่นทำไมเนี่ย? นั่นเป็นนิสัยที่ไม่ดีนะ”

ร็อบบี้น้อยโมโห “นี่เรียกว่าการสิ้นเปลือง การเหลือทิ้งมันน่าละอายนะ!”

เจย์สังเกตความเปลี่ยนไปของเจนสันทีละน้อย ๆ กระแสความกังวลเล็กน้อยก่อนหน้าเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นมหาสมุทร มันทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง

เจนสันนั้นคุ้นเคยกับเคเอฟซีมากกว่าโจเซฟิน หากเจย์มีตรรกะบ้าง เขาก็ต้องเริ่มสงสัยแล้วว่าเจนสันอาจถูกสิงร่างจริง ๆ

ระหว่างทางกลับบ้าน ร็อบบี้น้อยผลอยหลับบนอ้อมแขนของเจย์

เจย์พลันเรียกชื่อน้องสาวของเขาอย่างกะทันหัน “โจเซฟิน!”

“หา?” โจเซฟินกำลังตั้งใจขับรถอยู่ เธอหันมามองเจย์ที่เรียกเธออย่างแปลกใจ

“ทำอะไรสักอย่างให้ฉันที”

โจเซฟินมองพี่ชายที่กำลังเคร่งขรึมของเธอแล้วเข้าใจทันทีว่าเขาต้องมีเรื่องจริงจัง “พี่ แค่บอกฉันมา! ตราบใดที่ยังอยู่ในขอบเขตที่ฉันทำได้ ฉันจะทำทุกอย่างแม้ว่ามันจะหมายถึงหยาดเหงื่อและเลือดของฉัน”

“ฉันอยากรู้ว่าทำไมทุกครั้งที่เจนสันพบกับโรส เขาถึงเปลี่ยนไปทุกครั้ง” เจย์พูดหลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง

โจเซฟินชะงัก “นายต้องการให้ฉันสืบเรื่องโรส?”

“เธอจะไปจากเมืองพรุ่งนี้ เธอต้องรีบแล้ว”

“ไม่มีปัญหา”