ตอนที่ 305 กินไม่ลงจริงๆ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 305 กินไม่ลงจริงๆ

ตอนบ่าย ลู่จือฉินกับเย่ว์จือกวงไปเก็บสมุนไพร มู่เถาเยาอยู่ที่ถ้ำคอยดูอาการของแม่หมาป่า

หมาป่าขาวพ่อลูกก็เฝ้าแม่หมาป่ากับลูกๆ สีเทาสองตัวกับเธอด้วย

มู่เถาเยาอาศัยช่วงเวลานี้กางเต็นท์สองหลังข้างก้อนหินใหญ่ ห่างจากกองไฟที่เย่ว์จือกวงทำไว้ออกไปไกลหน่อย

จากนั้นก็จัดแยกของกินของใช้ไปวางในจุดเดียวกันไม่ไกลจากเต็นท์

หมาป่าน้อยสีขาวเดินตามมู่เถาเยาไม่หยุด ลูกหมาป่าสีเทาสองตัวหมอบอยู่ข้างๆ แม่ของพวกมัน มองมู่เถาเยาทำนั่นทำนี่

หมาป่าขาวแค่เหลือบขึ้นมามองบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่จะคอยดูแม่หมาป่ามากกว่า

“เอาล่ะ ฉันเสร็จแล้ว ขาวน้อย ไปดูแม่ของนายกันนะ”

เธอได้ยินเสียงลมหายใจของแม่หมาป่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อนหน่อย

สมุนไพรสดออกฤทธิ์ได้ดีจริงๆ

แต่ก็ต้องคอยใส่ยาสม่ำเสมอ ใส่ยาวันละครั้ง

มู่เถาเยาล้างมือด้วยน้ำจากเถาวัลย์แล้วพาหมาป่าขาวตัวน้อยไปนั่งตรงก้อนหินใหญ่

แม่หมาป่าทนฤทธิ์ยาไม่ไหวหลับไปแล้ว

หมาป่าขาวเห็นมู่เถาเยาเข้ามาก็ไม่ได้ร้อง แต่เอาหัวดันๆ เธอ

มู่เถาเยาลูบหัวใหญ่ๆ ของมัน “ช่วงสองสามวันนี้พวกเราจะกลับมาค้างคืนที่นี่ จากนั้นพอกลับไปฉันจะทำยาที่ช่วยรักษาแผลของเมียนายกับยาที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ให้พี่รองเอามาให้พวกแกกินนะ”

ไม่ว่าหมาป่าขาวจะฟังเข้าใจหรือไม่ อย่างไรเสียเธอก็ได้พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่ต้องทำ สบายใจแล้ว

“เจ้าขาว ฉันได้ยินเสียงน้ำตกแถวนี้ นายเฝ้าลูกเมียไว้นะ เดี๋ยวฉันกลับมา”

มู่เถาเยาชี้ไปทางที่มีเสียง

“ขาวน้อย ไปด้วยกันไหม”

หมาป่าขาวตัวน้อยกระโดดอยู่บนก้อนหินใหญ่ จากนั้นก็กระโดดลงเอง กลิ้งกลุกๆ ล้มไม่เป็นท่า

อุ๊บ…

มู่เถาเยาระเบิดหัวเราะ

ก้มตัวอุ้มมันขึ้นมา ปัดฝุ่นบนตัวมัน “จะรีบไปไหนเล่า”

ขาวน้อยส่งเสียงร้องด้วยความน้อยใจ

“เอาล่ะๆ พวกเราไปดูกันหน่อยว่ามีปลาไหม ถ้ามีเย็นนี้กินปลาย่างกัน”

มู่เถาเยาหันไปบอกหมาป่าขาวแล้วอุ้มขาวน้อยเดินไปตามเสียงน้ำ

หมาป่าขาวร้องเรียกให้ฝูงหมาป่าตามไป

พูดตามตรง มู่เถาเยาชอบที่จะอยู่กับสัตว์มากจริงๆ

ขอแค่พวกมันไม่คิดกินเธอ งั้นก็อยู่ด้วยกันได้

ผ่านไปประมาณสิบนาที น้ำตกขนาดเล็กสูงประมาณสิบเมตรก็ปรากฏในสายตา

น้ำตกไม่ใหญ่ไม่เล็ก ดูกำลังดี คล้ายมังกรเหาะลงจากเขา

ป่ากับภูเขาที่เงียบสงบยิ่งทำให้เสียงน้ำดังกังวาน

“อาบน้ำตรงนี้ได้”

มู่เถาเยาพอใจมาก

พวกเธอเดินกันมาสามวัน เพิ่งจะพบแหล่งน้ำแบบนี้เป็นครั้งแรก

สองวันแรกเจอแต่น้ำที่ซึมออกมา อย่าว่าแต่อาบน้ำเลย เอาสองมือรองน้ำมาล้างหน้าก็ยังต้องรอตั้งนาน!

มู่เถาเยาวางขาวน้อยลง ถอดรองเท้าลงน้ำ

ไม่นานก็ถูกน้ำตกกระเด็นเปียกชุด

หลังจากชำระล้างร่างกายแล้วเธอก็สวมชุดที่เปียกเดินไปดูปลายน้ำหน่อยว่ามีปลามากน้อยแค่ไหน

จับกลับไปตอนนี้ไม่ดี ยังอีกสักพักกว่าจะได้เวลากิน รอเย็นหน่อยอาจารย์กับพี่รองกลับมาค่อยแยกมาอาบน้ำล้างหน้าแล้วจับกลับไปย่างสดๆ

มู่เถาเยาเล่นน้ำอยู่สักพักก็ขึ้น ใช้กำลังภายในทำให้เสื้อผ้ากับผมแห้งแล้วเดินกลับที่พักพร้อมฝูงหมาป่า

ตรวจดูแม่หมาป่าอีกครั้ง

แม้จะยังหลับอยู่ แต่ลมหายใจของมันก็เริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่แผ่วเบาราวกับจะหมดลง

สัตว์ป่าหลายชนิดมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองดีกว่ามนุษย์มาก

ถ้ามนุษย์บาดเจ็บแบบนี้แถมยังยื้อมานานขนาดนี้เพิ่งจะได้รับการรักษา ต้องตายแน่นอน

หลังจากตรวจดูแม่หมาป่ากับลูกๆ ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว มู่เถาเยาก็เดินสำรวจรอบถ้ำหมาป่าพร้อมฝูงลูกหมาป่าบราวนี่ออนไลน์

ขากลับหอบสมุนไพรกลับมาประมาณหนึ่ง

ไม่ใช่สมุนไพรล้ำค่าหายากอะไร แต่แม่หมาป่ากับลูกสีเทาของมันกลับใช้ได้

ในขณะที่เธอกำลังแยกสมุนไพรอยู่นั้นแม่หมาป่าก็ตื่น ส่งเสียงร้องเรียก

ขาวน้อยดีใจจนวิ่งวนรอบๆ หินก้อนใหญ่

มันฟังออก เสียงของแม่มันมีแรงแล้ว

มู่เถาเยาอุ้มขาวน้อยไปวางบนก้อนหินใหญ่ก่อนแล้วตรวจแม่หมาป่าอีกครั้ง

“เก่งมากเจ้าเทา! ผ่านมาได้แล้วนะ!”

หมาป่าขาวเงยหน้าหอน กระโดดลงจากหินก้อนใหญ่วิ่งเข้าไปในถ้ำ ไม่นานก็ออกมาอีกครั้ง ปากคาบกระดูกสีขาวท่อนหนึ่ง

มู่เถาเยามีสีหน้างุนงง

เธอไม่ใช่สุนัขเสียหน่อย ทำไมต้องเอากระดูกมาให้เธอด้วย

“เจ้าขาว พวกนายมีนิสัยเก็บสะสมกระดูกด้วยเหรอ แปลกจัง”

หมาป่าขาวหอนต่อเนื่อง

มู่เถาเยางงหนักกว่าเดิม

เธอไม่เข้าใจว่าหมาป่าขาวต้องการสื่ออะไร

หมาป่าขาวร้อนใจจนเดินวนรอบตัวเธอ

มู่เถาเยาแอบอยากขำ เหมือนกับว่ามันให้ของล้ำค่าแก่เธอ แต่เธอกลับไม่รู้ว่าคืออะไร มีประโยชน์อะไร

ลองสังเกตของในมือดีๆ “เอ๊ะ ไม่ใช่กระดูกเหรอ งั้นมันคืออะไรล่ะ ไม่ใช่กระดูก ไม่ใช่กระเบื้อง…เอาส่องแดดดู อืม มีรูเล็กๆ คล้ายรูขุมขนหนาแน่นไปทั่ว เจ้าขาว นี่มันอะไรเหรอ”

หมาป่าขาวส่งเสียงร้องหนึ่งครั้ง

“…ให้ฉันกินเหรอ อ๋า…ฉันกินไม่ลงจริงๆ!”

คราวนี้ขาวน้อยก็ร้อนใจจนร้องตามหมาป่าขาวไปด้วย

“…พวกนายอยากให้ฉันเป่ามันเหรอ”

ถูกหมาป่าคาบมา แถมยังไม่รู้ว่าเก็บไว้ตรงไหนนานเท่าไร มู่เถาเยาทำใจเป่าไม่ไหวจริงๆ

“ล้างได้ไหม”

เปิดฝาขวดน้ำดื่ม แสร้งทำเป็นจะเทน้ำลงบนของสิ่งนี้เพื่อล้าง

หมาป่าขาวไม่มีท่าทีอะไร

งั้นก็แสดงว่าล้างได้!

มู่เถาเยาเทน้ำล้างของในมือที่ขาวเหมือนหยก ลื่นเหมือนเมือกอย่างมีความสุข สะบัดให้แห้ง ใช้กระดาษทิชชู่ตั้งใจเช็ด จากนั้นถึงเอามาวางตรงปากแล้วเป่า

“ฟิ้ว…”

เป่าอีก

“ฟื้ด…”

“อี๊ด…”

มู่เถาเยามองขาวน้อยขาวใหญ่ พูดไม่ออก

ทำไมเสียงทุเรศแบบนี้!

เหมือนเสียงกา เสียงหนู…เสียงของสัตว์หลายๆ ชนิด

ไม่รอให้เธอพูดอะไรต่อก็ได้ยินเสียงวิ่งที่กำลังแห่มาทางนี้ ราวกับมีสัตว์นับหมื่นตัวกำลังมุ่งมาที่นี่

คงไม่ใช่สัตว์ป่าอาละวาดใช่ไหม

แต่เห็นหมาป่าขาวไม่ขยับ ขาวน้อยก็ดูตื่นเต้นดีใจ แม้แต่ลูกหมาป่าสีเทาสองตัวยังโยกหัว ก็รู้ได้ว่าเสียงทุเรศที่เกิดจากการเป่านี้ไม่ใช่สัญญาณอันตรายอะไร

มู่เถาเยามองหมาป่าที่ค่อยๆ เข้ามารวมตัวกัน เธอถาม “เจ้าขาว หมาป่าในป่าพิษหมาป่าวิ่งมาที่นี่กันหมดเหรอ นี่เป็นนกหวีดหมาป่าเหรอ ใช้สำหรับติดต่อโดยเฉพาะแบบโทรศัพท์มือถือของพวกเราเหรอ”

แน่นอนว่าหมาป่าขาวตอบเธอไม่ได้ แต่มันเงยหน้าหอน เสียงกลับเหมือนที่มู่เถาเยาเป่าเมื่อครู่

“เอ่อ…พวกนายเข้าใจภาษาอื่นด้วยเหรอ เอิ่ม เหมือนจะเข้าใจนะ อย่างน้อยก็เห่าเป็น”

ลู่จือฉินกับเย่ว์จือกวงรีบร้อนกลับมาในเวลานี้

“เกิดอะไรขึ้นเสี่ยวเยาเยา พวกเราเห็นฝูงหมาป่ากลุ่มใหญ่วิ่งมาทางนี้…”

ทั้งสองคนเป็นห่วงว่าจะมีสัตว์ป่าชนิดอื่นมาทำร้าย ฝูงหมาป่าก็เลยมาต่อสู้ จึงรีบร้อนเหาะกลับมากัน

มู่เถาเยาชูของในมือให้ทั้งสองคนเห็น “เจ้าขาวให้หนูมาค่ะ หนูเป่าไปไม่กี่ทีก็กลายเป็นแบบนี้…”

เย่ว์จือกวงรับของสีขาวเนื้อละเอียดชิ้นนั้นมาดูแล้วถามขึ้น “มันคืออะไรเหรอ นกหวีดหมาป่าเหรอ ไม่อย่างนั้นทำไมหมาป่ามากมายถึงมารวมกันที่นี่ได้ ฟังเสียงอึกทึกนี่สิ ด้านหลังยังมีฝูงหมาป่าวิ่งมาไม่หยุดเลยนะ…”

ลู่จือฉิน “เสี่ยวเยาเยา อากวง ตระกูลเย่ว์ของพวกเธอมีเรื่องเล่าไม่ใช่เหรอว่าทำให้หมาป่าเป็นทหารได้ นี่จะเป็นสิ่งที่เหมือนป้ายคำสั่งอะไรแบบนั้นหรือเปล่า”