ตอนที่ 235 เนรคุณ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 235 เนรคุณ
หลี่จือเจี๋ยมองสลับไปมาระหว่างองค์รัชทายาทและไป๋ชิงเหยียน เห็นเพียงทั้งสองคนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน สายตาที่มองมายังเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ราวกับทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกัน!

เขาคาดการณ์ความเชื่อใจที่องค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าจิ้นมีต่อไป๋ชิงเหยียนผิดไป แพ้แล้ว…เขาต้องยอมรับ

ไป๋ชิงเหยียนกำดาบแน่นพลางเบี่ยงกายหนีสายตาของหลี่จือเจี๋ย หันไปก้มหน้ากล่าวกับองค์รัชทายาทด้วยเสียงเบา “องค์ชายเก็บศพของยอดฝีมือที่แต่งกายด้วยชุดต้าจิ้นไว้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ค่ายหู่อิงพอฝีมืออยู่บ้าง พวกเขาอาจสืบหาเบาะแสจากร่างของคนเหล่านี้ได้ พวกเราจะได้รู้จุดประสงค์ที่แน่ชัดของซีเหลียงแล้วป้องกันไว้ล่วงหน้าได้พ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเห็นว่าฟางเหล่าที่ยืนอยู่ด้านหลังองค์รัชทายาทมองมาที่นาง ไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปกล่าวกับฟางเหล่า “ฟางเหล่ามีความเห็นเช่นใดบ้างขอรับ”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนมีท่าทีนอบน้อมถึงเพียงนี้ ฟางเหล่ารู้สึกดีมาก เขายกมือลูบเครา เดินเข้าไปประชิดหลังขององค์รัชทายาทพลางกล่าวเสียงเบา “องค์ชาย แม่ทัพไป๋กล่าวมีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้พวกเราได้แต่คาดเดาจุดประสงค์ของซีเหลียงไปต่างต่างนานา! สิ่งที่องค์ชายทรงตรัสเมื่อครู่ถือเป็นการข่มขู่เหยียนอ๋องแล้ว พวกเขาคงไม่กล้าก่อเรื่องอีกแน่พ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทพยักหน้า

ฉินซ่างจื้อเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ เขาหันไปมองไป๋ชิงเหยียนอย่างอดไม่ได้

ไป๋ชิงเหยียนยอมลงให้ฟางเหล่าเพื่อต้องการศพของทหารหน่วยกล้าตายเหล่านั้นถึงเพียงนี้ เป็นเพราะต้องการสืบหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของซีเหลียงจริงๆ หรือ

ฉินซ่างจื้อรู้สึกว่าไม่ใช่ เขามีลางสังหรณ์ว่าไป๋ชิงเหยียนมีส่วนเกี่ยวข้องกับทหารหน่วยกล้าตายเหล่านั้น

ขมับของฉินซ่างจื้อเต้นตุบๆ รู้สึกเหมือนมีสิ่งใดดลใจให้เขาตาสว่าง เขาเบิกตาโพลงมองไปทาง

ไป๋ชิงเหยียน…บังเอิญสบกับสายตาของหญิงสาวพอดี

ฉินซ่างจื้อจ้องเข้าไปในดวงตาลึกล้ำมองไม่เห็นก้นบึ้งของไป๋ชิงเหยียน กำมือที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น ลำคอตีบตัน

พวกเขาต่างรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในชิวซานกวนจากการบอกเล่าของไป๋ชิงเหยียนและเสิ่นเหลียงอวี้ ไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง หากไป๋ชิงเหยียนและเสิ่นเหลียงอวี้กล่าวความจริงแค่ครึ่งเดียวอีกครึ่งปิดบังเอาไว้ หรือแม้กระทั่งกล่าวความจริงแค่ส่วนเดียว อีกส่วนโกหกเล่า!

ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนรักพวกพ้อง หากทหารหน่วยกล้าตายที่เสียชีวิตเหล่านั้นคือคนของหญิงสาว หญิงสาวไม่มีทางทนเห็นศพของพวกเขาถูกซีเหลียงย่ำยีอย่างแน่นอน

ทว่า เหตุใดไป๋ชิงเหยียนต้องพาคนบุกไปโจมตีชิวซานกวนในยามวิกาลด้วย!

“เหยียนอ๋องยังมีสิ่งใดอีกหรือไม่ หากไม่มี…จงทิ้งศพเหล่านี้ไว้ที่นี่และเชิญกลับไปได้แล้ว” องค์รัชทายาทกล่าว

แม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อ แม่ทัพเสิ่นคุนหยาง แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียนและแม่ทัพกู่เหวินชังจับดาบที่เอวแน่น แสดงท่าทีราวกับหากเหยียนอ๋องไม่ทิ้งศพไว้ที่นี่ วันนี้เขาไม่มีทางจากไปได้

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หลี่จือเจี๋ยทำได้เพียงข่มความไม่พอใจเอาไว้

วันหน้ายังอีกยาวไกล ยังต้องเดินทางไปเมืองหลวงพร้อมกับต้าจิ้น เขาต้องคิดแผนการออกอย่างแน่นอน

“ขอบพระคุณที่องค์รัชทายาทพระทัยกว้างพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยกัดฟันก้มศีรษะให้องค์รัชทายาทอย่างจำยอม

“หวังว่าเหยียนอ๋องจะไม่ทำให้เราผิดหวังอีก” องค์รัชทายาทกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน

หลี่จือเจี๋ยทำความเคารพเสร็จก็ถูกลู่เทียนจัวประคองขึ้นไปยังรถม้า จากนั้นกลับไปอย่างเงียบเชียบ

“ท่านอ๋องทรงไม่ต้องโมโหมากไปพ่ะย่ะค่ะ วันหน้ายังอีกยาวไกล วันหน้าเราจะชำระแค้นครั้งนี้คืนให้ต้าจิ้นเป็นร้อยเท่าพ่ะย่ะค่ะ!” ลู่เทียนจัวปลอบใจหลี่จือเจี๋ย

หลี่จือเจี๋ยหรี่ตาแคบลง ริมฝีปากที่ซีดเผือดยกยิ้มขึ้นน้อยๆ “นั่นสินะ! วันหน้ายังอีกยาวไกล ข้าไม่รีบ!”

“เสิ่นเหลียงอวี้ ให้คนนำศพของสหายค่ายหู่อิงไปฝังให้เรียบร้อย! ทหารหน่วยกล้าตายเหล่านี้มอบให้ค่ายหู่อิงเป็นคนตรวจสอบ พวกเจ้าต้องสืบหาความจริงให้ได้ อย่าทำให้องค์รัชทายาทผิดหวังเป็นอันขาด!”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปสั่งเสิ่นเหลียงอวี้

เสิ่นเหลียงอวี้ขบกรามแน่นพลางพยักหน้า “เสี่ยวไป๋ไซว่วางใจได้ขอรับ!”

“องค์ชายทรงเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนที่กระโจมเถิดพ่ะย่ะค่ะ ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ทัพจางและกระหม่อมจัดการเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดกล่าวกับองค์รัชทายาท

องค์รัชทายาทมองดูใบหน้าที่อ่อนล้าซีดเผือดของไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่ง จากนั้นพยักหน้าพลางกำชับ “แม่ทัพไป๋ก็ไม่ได้พักผ่อนทั้งคืน เจ้าร่างกายไม่แข็งแรง ควรพักผ่อนให้มาก เรื่องพวกนี้ปล่อยให้แม่ทัพจางตวนรุ่ยเป็นคนจัดการเถิด!”

แม่ทัพจางตวนรุ่ยกำหมัดรับคำ เขารู้สึกซาบซึ้งใจมาก คนตระกูลไป๋แม้แต่สตรีที่มีร่างกายอ่อนแอยังทนลำบากทำเพื่อบ้านเมืองถึงเพียงนี้ ช่างน่านับถือมากจริงๆ

“หลังจากเสร็จศึกเมื่อคืน แม่ทัพไป๋ไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจนไม่ได้พักผ่อนทั้งคืน ท่านไปพักผ่อนสักหน่อยเถิดขอรับ” แม่ทัพจางตวนรุ่ยกล่าว

“ขอบพระทัยที่องค์ชายทรงใส่ใจพ่ะย่ะค่ะ ชิงเหยียนมีเวลาอยู่ในกองทัพไม่นานจึงอยากทำเพื่อองค์ชายให้มากที่สุด พอกลับไปที่ซั่วหยางคงไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนผายมือเชิญองค์รัชทายาท “ชิงเหยียนส่งองค์ชายกลับกระโจมพ่ะย่ะค่ะ ชิงเหยียนยังมีเรื่องต้องกล่าวกับองค์ชายต่อพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทพยักหน้าพลางเดินกลับกระโจมพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน

“ตอนที่พวกแม่ทัพเสิ่นคุนหยางมาถึง องค์ชายทรงพักผ่อนแล้ว พวกเขาจึงไม่ได้ไปรบกวน ทว่า

ชิงเหยียนพบพวกเขาและบอกปณิธานที่ยิ่งใหญ่ขององค์ชายให้พวกเขารับรู้แล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาล้วนสาบานว่านับจากนี้จะเชื่อฟังคำสั่งขององค์ชายพ่ะย่ะค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “แม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อเป็นคนหยาบ บางทีอาจกล่าววาจาไม่เหมาะสมไปบ้าง หวังว่าองค์ชายจะไม่ถือสา ทว่า องค์ชายวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ ทุกคนต่างทราบดีว่าเฉิงหย่วนจื้อจงรักภักดีต่อแคว้นต้าจิ้นมากพ่ะย่ะค่ะ”

“เราเข้าใจ แม่ทัพทุกคนของกองทัพไป๋ล้วนเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจและจงรักภักดีต่อบ้านเมืองด้วยกันทั้งสิ้น!” องค์รัชทายาทเดินไปยังกระโจมที่พักพร้อมกับไป๋ชิงเหยียนท่ามกลางแสงอรุณที่สาดส่อง เมื่อได้ยินแผนการและคำขอร้องของไป๋ชิงเหยียน องค์รัชทายาทอดรู้สึกเสียดายไม่ได้

หากไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่สตรี หากนางร่างกายแข็งแรง บางที…หลังจากที่เขาได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาอาจให้นางคุมกองทัพไป๋ต่อไป เพราะแม่ทัพที่เก่งกาจและจงรักภักดีต่อเขาเช่นนี้ไม่ได้มีมากนัก!

“ส่วนเสิ่นเหลียงอวี้แห่งค่ายหู่อิงมีอิทธิพลต่อกองทัพไป๋มาก อีกทั้งยังเป็นแม่ทัพหลักของท่านอาห้า แม้เสิ่นเหลียงอวี้จะจงรักภักดี ทว่า เขาค่อนข้างยโส ตอนฝึกฝนทหารไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้าไปยุ่มย่าม! หลังจากท่านอาห้าเสียชีวิต…นอกจากเสิ่นเหลียงอวี้แล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกฝนทหารที่แข็งแกร่งเช่นค่ายหู่อิงได้อีก องค์ชายควรฟังเขาในเรื่องฝึกทหาร ทว่า เรื่องอื่นควรให้แม่ทัพขององค์ชายควบคุมเขาไว้พ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นอาจทำให้เขาเหิมเกริมขึ้น ภายภาคหน้าคงไม่ฟังคำสั่งของแม่ทัพใหญ่ ลงมือปฏิบัติการด้วยตัวเองแน่พ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทหันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่กำลังกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ ในใจยิ่งรู้สึกดี…ไป๋ชิงเหยียนวางแผนทุกอย่างเพื่อเขาจริงๆ

ฉินซ่างจื้อกล่าวถูกต้องแล้ว ไป๋ชิงเหยียนมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ขอเพียงทำให้หญิงสาวรับรู้ว่าเขาเป็นเจ้านายที่มีปณิธานหวังครอบครองใต้หล้า ไป๋ชิงเหยียนจึงจะยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา

องค์รัชทายาทกลับถึงกระโจม เขาไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เขาดื่มน้ำชาสนทนากับฟางเหล่าแทน

“กระหม่อมคิดว่าแผนการของแม่ทัพไป๋ที่มีต่อเสิ่นเหลียงอวี้แห่งค่ายหู่อิงล้วนทำเพื่อองค์ชายจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายใช้คนไม่เคยคิดหวาดระแวง กระหม่อมเองที่ใจแคบหวาดระแวงไปต่างต่างนานา” ฟางเหล่ายอมรับความผิดทั้งหมดไว้เองพลางกล่าวสรรเสริญองค์รัชทายาท

องค์รัชทายาทหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เรารู้ดีว่าฟางเหล่าทำเพื่อเรา ก่อนเดินทางมาที่นี่เสด็จพ่อทรงกำชับให้เราสืบวิธีการฝึกฝนของค่ายหู่อิงมาให้ได้ จากนั้น…”

องค์รัชทายาททำมือปาดคอ

“องค์ชาย…” จู่ๆ ฟางเหล่าก็นึกสิ่งใดขึ้นมาได้ เขาวางถ้วยชาในมือลงพลางกล่าวกับองค์รัชทายาท “องค์ชาย คำกล่าวต่อไปนี้ของกระหม่อมอาจดูเนรคุณ ทว่า กระหม่อมคือที่ปรึกษาขององค์ชาย บางคำก็จำต้องกล่าวออกมา หากล่วงเกินไปบ้างหวังว่าองค์ชายจะไม่ถือสาพ่ะย่ะค่ะ!”