บทที่ 259 จุมพิตผ่านชุดแต่งงาน

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​หลับตา​ลง​”

น้ำเสียง​ชัดเจน​แต่​แผ่วเบา​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยดัง​ขึ้น​ใน​หู​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​จากนั้น​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​ก้มหน้า​ลง​ ​ก่อน​จะ​เอื้อมมือ​หยิบ​ชุดแต่งงาน​ผ้าไหม​นั้น​มาปิด​ใบหน้า​ครึ่ง​ล่าง​ของ​หญิงสาว​เอาไว้​ ​เขามอง​ขน​ตายาว​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​และ​น้ำตา​ที่อยู่​ล่าง​ขน​ตา​ ​แล้ว​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน

อะไร​กัน​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กะพริบตา​ด้วย​ความ​สับสน

ในขณะนั้น​เอง

จู่ๆ​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​โน้มตัว​มา​จุมพิต​ที่​ริมฝีปาก​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ผ่าน​ชุดแต่งงาน

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​งุนงง​ ​นาง​รู้สึก​ถึง​ความนุ่มนวล​ของ​ผ้าไหม​ ​และ​รู้สึก​ถึง​ลมหายใจ​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ผ่าน​ผ้าไหม​ผืน​นั้น​ ​มัน​คือ​ลมหายใจ​เย็น​ๆ​ ​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย

นาง​มองดู​ดวงตา​คู่​สวย​จน​น่าประหลาด​ใจ​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ​แล้วก็​ตกอยู่ในภวังค์

นี่​มัน​อะไร​กัน

“​แค่​เป็นการ​ปรับตัว​ล่วงหน้า​”​ ​หลังจาก​จุมพิต​เสร็จ​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​ยืดตัว​ตรง​ ​ท่าที​ของ​เขา​แผ่วเบา​และ​อ่อนโยน​ราวกับว่า​เขา​ไม่ใช่​คนที​่​เพิ่ง​จูบ​นาง​เมื่อครู่นี้

ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ในขณะนั้น​ ​สิ่ง​เดียว​ที่​เขา​ต้องการ​ทำ​คือ​การจุม​พิต​นาง​เท่านั้น​…

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กระแอม​ไอ​สองครั​้ง​ ​“​คราวหน้า​ ​หาก​องค์​ชาย​ต้องการ​จะ​ปรับตัว​ล่วงหน้า​ ​ก็​ช่วย​บอก​ข้า​ก่อน​ ​ข้า​จะ​ได้​หา​สิ่ง​ที่​หนาก​ว่านี​้​มา​ใช้​”​ ​นาง​มี​เชื้อโรค​มากมาย​เพียงใด​กัน​ ​จน​ทำให้​เขา​ต้อง​จุมพิต​นาง​ผ่าน​ชุดแต่งงาน​เช่นนี้

แม้ว่า​มัน​จะ​ปลอดภัย​มาก​ ​และ​มัน​ก็​เป็นการ​ยืนยัน​อีกครั้ง​ว่า​ข้อตกลง​ของ​พวกเขา​ก่อนหน้านี้​นั้น​สมบูรณ์แบบ​ก็ตาม

องค์​ชาย​สาม​ยิ้ม​อย่าง​เจ้าเล่ห์​ ​เขา​รู้จัก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ดี​ ​และ​เรื่อง​ความสะอาด​นั้น​ก็​เป็น​เพียงแค่​ข้ออ้าง​ ​รวมถึง​การปรับตัว​ล่วงหน้า​ก็​เป็น​เพียง​ข้ออ้าง​ด้วย​เช่นกัน​ ​เขา​รู้จัก​นิสัย​ของ​นาง​ดี​ ​ดังนั้น​ ​เขา​จึง​ไม่​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ ​ก่อน​งานแต่งงาน​…

ใน​ช่วง​ค่ำ​ ณ​ ​จวน​อ๋อง​มู่​หรง

“​การ​ประลองยุทธ์​ใน​ครั้งนี้​ ​อดีต​ฮ่องเต้​ได้​ลด​เงิน​ที่​พวกเรา​เคย​ฝัง​ไว้​ครึ่งหนึ่ง​ ​หาก​ไม่ได้​รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​ไอ้เวร​ที่​ไม่​เกรงกลัว​อะไร​เลย​นั้น​ ​พวกเรา​ก็​ไม่​ควร​อยู่​เฉย​เช่นนี้​ ​ท่าน​พ่อ​ ​ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​ผู้หญิง​คน​นั้น​จะ​ต้อง​กลับมา​”

คนที​่​พูด​นั้น​ไม่ใช่​ใคร​อื่น​ ​แต่​เป็น​ฮองเฮา​นั่นเอง

มู่​หร​งอ​๋​อง​หลับตา​ลง​ ​“​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ที่​เหมาะสม​”

“​ท่าน​พ่อ​หมายความว่า​จะ​ให้​ข้า​รอต​่อ​ไป​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​เล็บ​ยาว​ที่​แหลมคม​ของ​ฮองเฮา​จิก​ผ้าเช็ดหน้า​สีขาว​ใน​มือ​ ​“​หาก​ข้า​ต้อง​รอนา​นก​ว่านี​้​ ​ไอ้เวร​นั่น​ก็​จะ​แต่งงาน​จริงๆ​ ​และ​ใน​ระยะเวลา​หนึ่ง​ปี​ครึ่ง​ ​อดีต​ฮ่องเต้​ก็​จะ​ต้อง​สั่ง​ให้​ฮ่องเต้​ส่งต่อ​บัลลังก์​ให้​กับ​ไอ้​ระยำ​นั่น​!​”

มู่​หร​งอ​๋​อง​มอง​นาง​และ​ครุ่นคิด​ ​“​พวกเรา​ต้อง​รอ​จนกว่า​นาง​จะ​แต่งงาน​ ​แต่ก่อน​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เป็น​เพียง​คน​ไร้ค่า​ก็​จริง​ ​แต่​ตอนนี้​ ​เมื่อ​ดู​จาก​สถานการณ์​แล้ว​การ​ที่จะ​ไป​ยั่วยุ​นาง​นั้น​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ฉลาด​เลย​ ​นาง​จะ​ยอมให้​คน​เดิน​เข้า​ประตู​มาง​่าย​ๆ​ ​เช่นนั้น​หรือ​ ​นอกจากนี้​ ​ต่อให้​นาง​จะ​มีอำนาจ​มาก​เพียงใด​ ​แต่​ด้วย​รูปลักษณ์​ของ​นาง​แล้ว​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ต้อง​รู้สึก​มี​ปมด้อย​อยู่​ลึก​ๆ​ ​ใน​ใจ​ ​องค์​ชาย​สาม​ไม่ได้​อยาก​จะ​แต่งงาน​กับ​นาง​หรอก​ ​เขา​เพียงแค่​ต้อง​ยอม​ทำตาม​ความต้องการ​ของ​อดีต​ฮ่องเต้​เท่านั้น​ ​ระหว่าง​พวกเขา​ไม่มี​อะไร​ต่อกัน​ ​พวกเขา​อาจ​อยู่​ด้วยกัน​อย่าง​สันติ​ ​และ​องค์​ชาย​สาม​ก็​อาจ​สนใจ​ใน​ตัวนาง​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ​แต่​เมื่อ​ผู้หญิง​คน​นั้น​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ​องค์​ชาย​สาม​ก็​จะ​ไม่รู้​สึก​สนใจ​ใน​ตัวนาง​อีก​ ​และ​ไล่​นาง​ออก​ไป​ ​ก่อน​จะ​หา​พระ​ชายา​คน​ใหม่​ ​ความหึงหวง​ของ​ผู้หญิง​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​คงจะ​ทำ​ทุก​วิถีทาง​เพื่อที่จะ​ได้​อยู่​ต่อ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​ ​เรา​ก็​จะ​มีโอกาส​…​”

“​ผู้หญิง​ ​ผู้หญิง​คนใด​หรือ​”​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ขมวดคิ้ว​ ​“​ท่าน​พ่อ​หมายความว่า​เหตุผล​ที่​องค์​ชาย​สาม​แต่งงาน​กับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ใน​ตอนนี้​ ​เป็น​เพียง​เพราะ​สาวใช้​คน​นั้น​หรือ​”

มู่​หร​งอ​๋​อง​ยิ้ม​ ​“​ฉาง​เฟิง​ ​เจ้า​ยัง​เด็ก​นัก​ ​มี​เพียง​ขุนนาง​ระดับอาวุโส​เท่านั้น​ที่จะ​มอง​เรื่อง​แบบนี้​ออก​ ​องค์​ชาย​สาม​เพียงแค่​หลอก​ใช้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ใน​การ​แต่งงาน​ก็​เท่านั้น​ ​มิเช่นนั้น​แล้ว​ ​ทำไม​เขา​ถึง​ต้อง​เลือก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ด้วย​เล่า​ ​ก็เพราะว่า​ในอนาคต​ ​เขา​จะ​ได้​ไล่​นาง​ออก​ไป​ได้​อย่างง่ายดาย​อย่างไร​ล่ะ​”

มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ไม่ได้​ยิน​สิ่ง​ที่​พ่อ​ของ​เขา​พูด​อีกต่อไป​ ​เขา​รู้สึก​หนักใจ​อย่างมาก

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อาจจะ​คิด​ว่า​เขา​เป็น​ผู้ชาย​งี่เง่า

แต่​องค์​ชาย​สาม​ก็​เช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​องค์​ชาย​สาม​ยัง​ไม่เข้าใจ​นาง​เลย​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่มีวัน​ยอมให้​สามี​ของ​ตนเอง​มี​ความสัมพันธ์​กับ​ผู้หญิง​อื่น​ ​หาก​นาง​รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​เช่นนั้น​ขึ้น​ ​นาง​ก็​จะ​ตัดใจ​อย่างเด็ดขาด​ ​เหมือนกับ​ที่นาง​ไม่​เหลือ​เยื่อใย​ให้​กับ​เขา​เลย​แม้แต่น้อย​…

งาน​อภิเษกสมรส​ของ​องค์​ชาย​สาม​ใกล้​เข้ามา​แล้ว​ ​นั่น​หมายความว่า​ใน​ช่วงเวลา​นี้​ ​ราชสำนัก​กำลัง​วุ่นวาย​มาก​ ​มี​ผู้คน​มากมาย​ที่​ไม่ต้องการ​ให้​จัดงาน​อภิเษกสมรส​ครั้งนี้​ขึ้น​ ​และ​มี​ผู้คน​อีก​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​ที่มา​ที่นี่​เพราะ​งาน​อภิเษกสมรส​ครั้งนี้​โดยเฉพาะ

ในขณะที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เพิ่งจะ​วาง​ชุดแต่งงาน​กลับ​ที่​เดิม​ ​และ​แต่งตัว​แต่งหน้า​ตามปกติ​ของ​ตนเอง​ ​นาง​ก็​เห็น​เด็กชาย​หัวโล้น​คน​หนึ่ง​เดิน​มา​แต่ไกล​ ​เขา​ถือ​ไม้เท้า​อยู่​ใน​มือ​ ​และ​มองดู​นาง​อย่างจริงจัง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​และ​กำลังจะ​เอ่ย​ถาม

องค์​ชาย​เจ็ด​ทำตัว​บึ้งตึง​ ​และ​พูด​เพียง​สอง​สาม​คำ​ ​“​คารวะ​ ​พี่สะใภ้​”

พี่สะใภ้​หรือ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้สึก​งุนงง​กับ​คำพูด​นั้น​เล็กน้อย

เด็กชาย​เงยหน้า​ขึ้นรา​วกับ​เป็นผู้ใหญ่​ตัวเล็ก​ ​“​พี่​สาม​ของ​ข้า​อยู่​ที่ใด​หรือ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้สึก​อยาก​จะ​กอด​และ​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา

“​ตามหา​ข้า​อยู่​หรือ​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยอ​อก​มาจาก​ด้านใน​ ​เขามอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ก่อน​จะ​มอง​เด็กชาย​หัวโล้น​ตัว​น้อย

ดูเหมือนว่า​เด็กชาย​ตัว​น้อย​จะ​ไม่เข้าใจ​สีหน้า​ของ​พี่​สาม​ ​เขา​ดึง​หน้า​และ​วาง​ไม้เท้า​ลง​บน​พื้น​ ​“​มี​คน​มาท​้า​ดวล​พี่​สาม​ ​และ​ตอนนี้​เขา​ก็​อยู่​กับ​เจ้าสำนัก​แล้ว​”

“​ข้า​รู้​แล้ว​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ตอบกลับ​พร้อมกับ​ถอนหายใจ​ ​เขา​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​และ​หันกลับ​มาม​อง​ ​“​ให้​ใคร​สัก​คน​มาช​่ว​ยอุ​้ม​เจ้า​ ​ขา​สั้น​ๆ​ ​นั้น​ทำให้​เจ้า​เดิน​ช้า​เกินไป​”

องค์​ชาย​เจ็ด​มอง​ลง​ไป​ที่​ขา​อวบอ้วน​และ​สั้น​เหมือน​ราก​บัว​ของ​ตนเอง​ ​แล้ว​ริมฝีปาก​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เขา​ก็​กระตุก​อย่าง​งุนงง​ ​ขา​ของ​เขา​สั้น​ก็​จริง​ ​แต่​เขา​ไม่ได้​เชื่องช้า​อะไร​ ​เพราะ​เขา​รู้จัก​วิชา​ตัวเบา​!

ตอนที่​เขา​อายุ​ได้​สี่​ขวบ​ ​พี่​สาม​ได้​หยิบ​ตำรา​มา​เล่ม​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​จับ​คาง​เขา​ ​และ​บอกว่า​ใน​ฐานะ​ของ​ลูกผู้ชาย​คน​หนึ่ง​ ​เขา​ไม่​ควร​ถูก​อุ้ม​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ในเวลานั้น​ ​เขา​มักจะ​เดินตาม​หลัง​พี่​สาม​ของ​ตนเอง​เสมอ​ ​แล้ว​ทำไม​ตอนนี้​ ​จู่ๆ​ ​พี่​สาม​ถึง​อยาก​ให้​มี​คน​อุ้ม​เขา​เล่า​…

องค์​ชาย​เจ็ด​มอง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยอย​่าง​สงสัย​ ​และ​เห็น​สายตา​ที่​อีก​ฝ่าย​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ทันใดนั้น​ ​เขา​ก็​เข้าใจ​ใน​คำพูด​ที่​พี่​สาม​หมายถึง

เตาะแตะ​เตาะแตะ

เขา​รีบ​วิ่ง​ไปหา​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​และ​ยื่นมือ​น้อย​ๆ​ ​ออก​ไป​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ดู​เขินอาย​ ​เพราะ​อย่างไร​ผู้หญิง​ผู้ชาย​ก็​ไม่​ควรจะ​แตะ​ตัว​กัน​ ​“​พี่สะใภ้​ ​ช่วย​อุ้ม​ข้า​หน่อย​ได้​หรือไม่​”

“​แน่นอน​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่​อาจ​ตื่นเต้น​ไปมา​กก​ว่านี​้​อีกแล้ว​ ​นาง​ก้มตัว​ลง​และ​อุ้ม​เขา​ขึ้น​มา​ ​ริมฝีปาก​ของ​นาง​โค้ง​เป็น​รอยยิ้ม​ ​“​ในอนาคต​ ​เจ้า​สามารถ​ขอให้​ข้า​อุ้ม​เจ้า​ได้​ตลอด​เลย​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ก็​รู้สึก​เศร้าใจ​ ​ภาพลักษณ์​ความเป็นชาย​ชาตรี​ของ​เขา​หายวับ​ไป​ทันที

เฮ้อ​ ​ทำไม​เขา​ถึง​ต้อง​ยอม​ทำ​ทุกอย่าง​ให้​พี่​สาม​ด้วย​เล่า

แต่​…

“​พี่สะใภ้​ ​ท่าน​ชอบ​มู่​หรง​ซื่อ​จื่อ​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​รู้สึก​ว่า​เขา​จำเป็นต้อง​รู้ความ​จริง​ใน​ข้อนี​้​อย่างชัดเจน​ ​เผื่อว่า​ในอนาคต​ ​พี่​สาม​ของ​เขา​จะ​ได้​ไม่​ถูก​ทอดทิ้ง​ ​เมื่อ​เขา​อารมณ์ไม่ดี​ ​เขา​ก็​จะ​กลายเป็น​คนที​่​น่ากลัว