“ดูเหมือนเลโอนาร์โดจะเหนื่อยแล้ว มีใครอยากคุยเรื่องอะไรอีกไหม?”

ผมพูดเพื่อพยายามสลายบรรยากาศที่เลโอนาร์โดทิ้งไว้ มันได้ผลเมื่อทุกคนต่างส่ายหัว

“โอเค งั้นประชุมก็คงจบลงเพียงเท่านี้”

พอผมพูดจบ ทุกคนก็ลุกขึ้นและเริ่มแยกย้ายกันไปจัดการงานของตัวเอง โดยเหลือเพียงเด็กผู้หญิง 2 คนที่ยังคงอยู่ภายในห้อง ไนล่าและนาตาเลียที่น่าแปลกใจ

“เธอมีอะไรจะพูดกับฉันเหมือนกันเหรอ?”

นาตาเลียพยักหน้าให้กับคำถามของผม 

เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็มุ่งความสนใจไปที่ไนล่าซึ่งตอนนี้กำลังมองผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“แล้วเธออยากรู้อะไรหล่ะ?”

ผมถามขึ้นมา

“บอกฉันทุกสิ่งที่นายรู้เกี่ยวกับลูกครึ่งแวมไพร์คนนั้นที”

ไนล่าถาม ซึ่งผมก็ถอนหายใจ

“ฉันก็พอเล่าให้ฟังได้อยู่ แต่เธอไม่มีสิทธิ์พยายามบังคับคนๆ นั้นหรอกนะ ผู้คนที่อยู่ภายในการดูแลของฉันเองก็ได้รับความคุ้มครองเช่นกัน”

ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งพร้อมกับดวงตาที่กลายเป็นเย็นชา แต่การทำแบบนี้ไม่ได้ทำให้ไนล่ายอมถอยเลย เธอกลับเผยรอยยิ้มบิดเบี้ยวที่เผยให้เห็นเขี้ยวของเธอแทน

“โอ้..…งั้น~ นายก็จะปกป้องฉันเหมือนกันสิน้า?~”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นแต่ผมไม่หลงกลและยังคงทำหน้าจริงจังอยู่เหมือนเดิม

“ฉันจริงจังนะ ถ้าเธอลองทำอะไรไปหล่ะก็…คุณจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาด้วย”

“โอเค ฉันจะจำเอาไว้แล้วกัน”

+100 ความรัก

เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมถอยให้ ไนล่าก็ยอมรับในที่สุด

“โอเค สิ่งที่ฉันรู้ก็คือ…”

ผมเริ่มคุยกับเธออย่างช้าๆ เกี่ยวกับโซเนียด้วยเรื่องราวที่ปะปนกันไประหว่างความจริงและเรื่องโกหก การที่ผมบังเอิญเจอเธอในห้องฝึกซ้อมและการได้รู้สถานการณ์ของเธอ 

ผมได้พูดคุยกับเธออย่างชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโซเนียและเลโอนาร์โด แน่นอนว่าผมต้องทำให้แน่ใจด้วยว่าเลโอนาร์โดจะกลายเป็นตัวร้ายที่นี่

จากนั้นผมก็เล่าถึงว่าโซเนียเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าได้อย่างไรและเวลาที่เธอ ‘ปลุก’ อีกสายเลือดหนึ่งของเธอขึ้นมา สิ่งนี้น่าเชื่อและปลอดภัยมากกว่าความจริงมาก

“…และวันนี้เธอก็ตื่นขึ้นมา และด้วยเหตุผลบางอย่างเลยทำให้เธอกระโดดเข้ามาหาฉันและเริ่มดื่มเลือดของฉันไป”

“เธอดื่มเลือดของนายไปเหรอ?”

ไนล่าถามผมด้วยสีหน้านิ่วคิ้วขมวด

“ใช่ นั่นเป็นปัญหาหรือเปล่า?”

ผมถามด้วยสีหน้าไร้เดียงสา แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร

“เห้อออ…ใช่ มันเป็นปัญหา”

ไนล่าพูดพร้อมกับส่ายหัวขณะนั่งลง

“ปัญหาคืออะไรหล่ะ?”

ผมถามโดยที่คราวนี้ขมวดคิ้วเต็มหน้า 

เมื่อเห็นแบบนั้นไนล่าก็ส่ายหัวขณะถามผม

“นายรู้อะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมของแวมไพร์บ้าง?”

“ก็ไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่”

ผมโกหกไป

“การให้อาหารแวมไพร์ครั้งแรกนั้นสำคัญมาก เพราะมันทำหน้าที่เป็นรอยประทับ โดยปกติแล้วพ่อแม่จะต้องเป็นคนทำ เนื่องจากเลือดมาจากแหล่งกำเนิดจึงไม่เป็นปัญหา แต่จะแตกต่างไปสำหรับคนแปลกหน้า”

ไนล่าพูดโดยที่ตอนนี้ดวงตาของเธอจับจ้องมาที่ผม

“เลือดที่เธอดื่มครั้งแรกถือเป็นสัญญาณแห่งความสุข แต่มันสำคัญกว่ามากสำหรับลูกครึ่งแวมไพร์ พูดสั้นๆ ก็คือตอนนี้เธอผูกพันกับนายแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตของเธออยู่ในมือนายแล้ว….”

ทันทีที่ไนล่าพูดจบ ความเงียบอันน่าเบื่อก็กระจายทั่วทั้งห้อง 

ผมคิดไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามขึ้นมา

“มีวิธีทำลายมันไหม?”

“ไม่”

เมื่อได้ยินคำตอบของไลน่า ผมก็นิ่งเงียบเพื่อครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้ง

“มันจะส่งผลยังไงบ้าง?”

“โดยพื้นฐานแล้วเธอจะเชื่อฟังคำสั่งของนายทั้งหมด และมองว่านายเป็นญาติที่ใกล้ชิดมาก นายจะต้องให้เลือดของเธอเป็นประจำด้วย”

“แค่นี้เหรอ?”

ผมถามเพื่อยืนยัน

“ใช่”

ไนล่าพยักหน้าพร้อมกับดวงตาที่จ้องมองมาที่ผมเพื่อรอดูการตัดสินใจของผม 

ผมรู้ว่าเธอกำลังมองหาอะไร และผมก็จะไม่ทำให้เธอผิดหวัง

“ไนล่า…เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับ…”

เธอตอบทันที

“ประลองด้วย 2 ครั้ง”

ผมพูดขึ้นมา

“5 ครั้ง”

ไนล่าเรียกร้อง

“2 ครั้งแล้วฉันจะฝึกกับเธอ”

“3 ครั้งและฝึกกับฉัน”

ไนล่าตอบโต้ข้อเสนอของผมทันที

“2 ครั้ง”

ผมพูดอย่างมั่นคง

“3 ครั้ง”

เธอเองก็ยืนหยัดมั่นคงเช่นกัน

“2 ครั้งและฉันจะช่วยเธอครั้งหนึ่ง”

ครั้งนี้เธอไม่ได้ปฏิเสธทันทีและคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็พยักหน้า

“ตกลง”

“ดี”

เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วเราก็จับมือกัน หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงในขณะที่ผมพูด

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้โซเนียไปหาเธอ เธอต้องช่วยให้โซเนียคุ้นเคยกับสายเลือดแวมไพร์และสอนเธอทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องข้อตกลงของเรา และลองดูว่ามีทางใดที่จะทำให้โซเนียเป็นอิสระได้บ้าง”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ไนล่าก็มีรอยยิ้มที่แตกต่างออกไปมาก

“นายเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เลย…”

+300 ความชอบ

“เธอได้พูดอะไรหรือเปล่า?”

ผมถามแต่เธอก็ส่ายหัว

“เปล่า…ฉันจะช่วยแล้วกัน ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของฉันเอง”

เมื่อพูดเช่นนั้นจบแล้วไนล่าก็ยืนขึ้นขณะเตรียมจะจากไป เธอโบกมือให้นาตาเลียและกระซิบอะไรบางอย่างกับที่เธอก่อนจะจากไป โดยทิ้งเราทั้งคู่ไว้ตามลำพัง 

ในไม่ช้าดวงตาของผมก็มองไปที่ความงามที่อยู่ตรงหน้าซึ่งกำลังเคลื่อนไหวไปมาอย่างกระวนกระวายใจ

ผมสีเขียวและสีฟ้าผสมกันของเธอถูกจัดไว้อย่างสวยงามไปทางด้านหลังยาวไปจนถึงปลายหลังของเธอ ผิวของเธอเป็นสีแทน ในขณะที่หูแหลมน่ารักของเธอขยับไปมา 

เนื่องจากเชื้อสายคนแคระเลยทำให้เธอมีขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก ดวงตาทั้งสามของเธอเคลื่อนไหวไปรอบๆ อย่างกังวล ในขณะที่ความแดงบนใบหน้าของเธอตอนนี้ยาวไปถึงคอแล้ว 

แค่จากการเคลื่อนไหวของเธอ ผมบอกได้เลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธออยู่เพียงลำพังกับผู้ชาย

[ ชื่อ : นาตาเลีย เบฟูเรซ มิลาซ

เพศ : หญิง

อายุ : 16 ปี

เผ่าพันธุ์ : คนแคระ/ปีศาจ

ความสามารถ : 10/10

พลัง : ระดับต้นกำเนิดขั้น 5

ฉายา : เจ้าหญิงแห่งคนแคระ, ผู้สร้างต้นกำเนิด, ต้าวน่ารัก….ฯลฯ

ความสัมพันธ์ : 50%

คำอธิบาย : เด็กผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ทำให้ทุกคนต้องอิจฉา ผู้สร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จเพียงลำพังและผู้ได้รับพรจากเทพีแห่งงานฝีมือ

เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่างในอดีต เธอมีความกลัวและความอึดอัดใจอย่างมากกับเพศตรงข้าม อยากจะเปลี่ยนแปลงมันแต่เธอทำไม่ได้ และยังคงฝันถึงเจ้าชายผู้มีเสน่ห์ของเธอ

เนื่องจากแรงดึงดูดทางสายเลือด เธอพบว่าคุณเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอไม่รังเกียจ ที่จริงแล้วเธอรู้สึกมีความสุขและพึงพอใจเมื่ออยู่ใกล้คุณ เธอปรารถนาที่จะรู้จักคุณมากขึ้นและอาจพัฒนาไปจนถึงความรักที่แท้จริงได้

ความยาก : C+ (ตอนนี้เธอกำลังมองหาความรัก ถอดกางเกงออกแล้วเขย่าลูกป๋องแป๋งเพื่อชนะใจเธอ) ]

เมื่อเห็นข้อมูลของเธอ ผมก็พบว่าค่าความสัมพันธ์ที่เธอมีต่อผมนั้นหยุดอยู่ที่ 50% ซึ่งถือว่าค่อนข้างเป็นเรื่องปกติเนื่องจากสายเลือดของผมมีผลแค่ทำให้เธอสนใจผมมากขึ้นเท่านั้น มันอยู่ที่ผมแล้วว่าจะทำให้เธอรักผมอย่างแท้จริงได้ไหม แค่เธอมีค่าความสัมพันธ์ถึง 50% ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสายเลือดของผมแข็งแกร่งแค่ไหน เคสของโลร่าและวีน่านั้นพิเศษมาก พวกเธอ…..

ไม่ปกติ…..

ช่ายยยผู้หญิง 2 คนนั้นไม่ปกติ 

มุ่งความสนใจกลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบัน ผมยิ้มอย่างมีเสน่ห์ขณะพูด

“นาตาเลีย…เธอต้องการอะไรรึเปล่า? มีปัญหาอะไรในกลุ่มไหม?”

“มะ-ไม่ค่ะ ฉันแค่อยากช่วยคุณเหมือนกัน ฉะ-ฉันหมายถึงช่วยกลุ่ม!”

‘ตั๊ลร๊าก’

ผมคิดขณะมองเธอที่กำลังจับกระโปรงของตัวเองในขณะที่ดวงตาทั้ง 3 ของเธอกำลังวิ่งไปรอบๆ ห้องเพื่อปฏิเสธที่จะมองมาที่ผม

“จริงเหรอ? เยี่ยมเลย เธอต้องการจะช่วยเรื่องอะไรเหรอ?”

ผมถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้นาตาเลียผ่อนคลายมากขึ้น

“คะ-คือฉันสะ-สามารถทำผ-”

นาตาเลียจับปากตัวเองขณะที่กำลังพูดอยู่ราวกับว่าเผลอกัดลิ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ 

เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ส่ายหัวกับความซุ่มซ่ามของเธอ ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความหวานมากมายภายใน

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต