ตอนที่ 258 การล่มสลายของจวนกงอ๋อง (4)

หวนคืนชะตาแค้น

บน​ถนน​ที่​มุ่งหน้า​ไป​ลานประหาร​เบียดเสียด​ไป​ด้วย​ผู้คน​ ​ครั้น​เหล่า​ราษฎร​นึกถึง​บุญคุณ​ที่​กู้​เซียง​มีต​่​อพ​วก​เขา​และ​คุณงามความดี​ของ​ตระกูล​กู้​ ​ไฟ​โทสะ​ก็​ยิ่ง​พวยพุ่ง​ ​คนที​่​อยู่​ข้างทาง​ต่าง​ทยอย​ปา​ไข่​และ​ผลไม้​เน่า​มากมาย​ใส่​คนที​่​อยู่​ใน​เกวียน​ขัง​ ​คนที​่​โดน​รุม​ประชาทัณฑ์​คน​แรก​ก็​คือ​จู​ซื่อ​ที่อยู่​คัน​หน้า​สุด

เพียงแต่​เสื้อผ้า​ขาดวิ่น​ของ​นาง​ ​ผมเผ้า​กระเซอะกระเซิง​ ​ถึงแม้​จะ​ถูกจับ​เข้า​คุก​ได้​ไม่นาน​แต่​ร่างกาย​กลับ​ซูบผอม​จน​เหลือ​แต่​กระดูก​ ​แววตา​ของ​นาง​ล่องลอย​ว่างเปล่า​ ​ถึงแม้​จะ​ถูก​ไข่เน่า​ปา​ใส่​หน้า​แต่กลับ​แน่นิ่ง​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ใด​เลย​สักนิด​ราวกับ​นาง​ทื่อ​ทึ่ม​ไป​แล้ว

จู​ซื่อ​น่าจะ​ทื่อ​ทึ่ม​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​นับตั้งแต่​พระราช​โองการ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เล่า​ต่อกัน​ไป​ถึง​ใน​คุก​ ​จู​ซื่อ​ก็​ไร้​ซึ่ง​ความ​เกรี้ยว​โกรธ​จน​สิ้น​ ​เพราะ​ทุกอย่าง​จบสิ้น​แล้ว​ ​ความมั่งคั่ง​และ​เกียรติยศ​ที่นา​งคะ​นึง​หา​…​จบสิ้น​ลง​แล้ว

ใน​หอ​สุรา​แห่งหนึ​่ง​ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​ลานประหาร​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​กำลัง​นั่ง​กรอก​เหล้า​ใส่​ปาก​พร้อม​ดวงตา​แดงก่ำ​ ​พอ​มองออก​นอก​หน้าต่าง​แววตา​ก็​ทอด​มอง​จับจ้อง​ไป​ยัง​ลานประหาร​ด้านล่าง​ที่​เคย​ว่างเปล่า​ซึ่ง​ตั้งอยู่​ไม่​ไกล​นัก​ ​ทว่า​ตอนนี้​กลับ​แน่นขนัด​ไป​ด้วย​ผู้คน

หรง​เหยี​่​ยน​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​เผย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​มอง​มู่​หร​งอ​วี​้​ที่​เห็นได้ชัด​ว่าไม่ได้​พักผ่อน​มา​เป็นเวลา​นาน​ก่อน​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ราษฎร​ของ​แคว้น​หวา​รัก​ความ​ครื้นเครง​มากกว่า​ราษฎร​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​เสียอีก​”

มู่​หร​งอ​วี​้​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​แต่​ไม่​พูด​อะไร​ ​หรง​เหยี​่​ยน​เอง​ก็​ไม่สน​ใจ​ ​ในเมื่อ​ต้อง​เห็น​แม่​แท้ๆ​ ​ของ​ตน​ถูก​ประหาร​คาตา​ย่อม​มีสิทธิ์​ระเบิดอารมณ์​ออกมา​จริงๆ​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ไม่ได้​จงใจ​ยั่วโมโห​มู่​หร​งอ​วี​้​อีก​ ​เพียงแค่​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​พลาง​กวาดตา​มอง​สถานการณ์​ใน​ลานประหาร​ด้วย​ท่าที​สบาย​ๆ

สักพัก​รถม้า​ที่​ใช้​ลาก​เกวียน​กักขัง​นักโทษ​ก็​เคลื่อน​เข้ามา​อย่าง​ช้าๆ​ ​จากนั้น​จู​ซื่อ​และ​เหล่า​คน​ตระกูล​จู​ก็​รอท​หาร​มาลา​กตัว​ไป​คุกเข่า​บน​ลานประหาร​ ​เหล่า​คน​ตระกูล​จู​ใน​ลานประหาร​ต่าง​พากั​นก​รีด​ร้อง​โหยหวน​ ​หาก​เทียบ​กับ​จู​ซื่อ​แล้ว​พวกเขา​ถูก​ใส่ความ​แท้ๆ​ ​ในเมื่อ​พวกเขา​ไม่ได้​ทำ​อะไร​เลย​ ​กระทั่ง​ไม่รู้​เรื่อง​อะไร​ด้วยซ้ำ​ ​ทว่า​เวลานี้​กลับ​ต้อง​ถูก​บั่น​คอ​เป็นเพื่อน​จู​ซื่อ​ใน​ลานประหาร

ระหว่าง​นั้น​มี​เพียง​จู​ซื่อ​เพียง​คนเดียว​ที่​มีท​่า​ที​สงบ​หรือ​กล่าว​ได้​ว่านั​่​งคุก​เข่า​เหม่อลอย​อยู่​ด้านหน้า​สุด​โดย​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​แววตา​ล่องลอย​ว่างเปล่า

ทันใดนั้น​มู่​หร​งอ​วี​้​ที่นั่ง​อยู่​ใน​หอ​สุรา​ก็​ลุกขึ้น​ ​แต่​หรง​เหยี​่​ยน​กลับ​ยกมือ​มากด​เขา​ไว้​พร้อม​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​เจ้า​คิด​จะ​ทำ​อะไร​”​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​จับจ้อง​หรง​เหยี​่​ยน​แน่นิ่ง​ไม่​พูด​อะไร​ ​หรง​เหยี​่​ยน​หัวเราะ​ลั่น​เกิน​จริง​ ​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​เจ้า​อย่า​บอก​ข้า​นะ​ว่า​เจ้า​จะ​ชิง​ตัว​คนใน​ลานประหาร​”

มู่​หร​งอ​วี​้​กำหมัด​แน่น​แต่​ไม่​พูด​อะไร​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ถอนหายใจ​ส่าย​ศีรษะ​กล่าว​ ​“​ข้าว​่า​เจ้า​ปล่อยไป​เถิด​ ​เรื่อง​คุ้มกัน​ของ​เมืองหลวง​แคว้น​หวา​แน่นหนา​แค่ไหน​เจ้า​น่าจะ​รู้ดี​มากกว่า​ข้า​ ​ตอนนี้​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เจ้า​อยู่​ที่ไหน​ยัง​พอ​แฝงตัว​ออก​นอกเมือง​ไป​ได้​ ​หาก​เจ้า​ปรากฏตัว​ใน​ลานประหาร​ ​พอ​ถึง​ตอนนั้น​อาจ​ต้อง​เผชิญ​กับ​ธนู​นับ​พัน​นับ​หมื่น​ ​หาก​เจ้า​ไม่​อยาก​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​แล้วก็​อย่า​ทำให้​ข้า​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​เลย​”

ครั้น​มองออก​ไป​ด้านนอก​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ก็​เอ่ย​ต่อ​ ​“​ยิ่งไปกว่านั้น​ต่อให้​เป็น​จู​ซื่อ​ก็​คง​ไม่​อยาก​ให้​เจ้า​ทำ​อะไร​ผลีผลาม​เช่นนี้​กระมัง​ ​อย่างน้อย​ตราบใดที่​ยัง​มีชีวิต​ก็​ยัง​กลับมา​ผงาด​ได้​”​

ผ่าน​ไป​นาน​ในที่สุด​มู่​หร​งอ​วี​้​ถึง​ค่อยๆ​ ​นั่งลง​ ​เพียงแต่​ถ้วย​สุรา​ใน​มือ​ของ​เขา​กลับ​ถูก​มือ​ที่​สั่นเทิ้ม​บีบ​จน​แตก​ละเอียด​ ​สุราชั​้น​ดี​ใน​ถ้วย​กระฉอก​เปื้อน​เต็มมือ​ ​รวมถึง​เสื้อผ้า​ก็​พลอย​เปียกชุ่ม​ไป​ด้วย

เมื่อ​เห็น​มู่​หร​งอ​วี​้​กลับมา​สงบ​ลง​ได้​อีกครั้ง​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ถึง​ฉีก​ยิ้ม​อย่าง​พอใจ​ ​ความจริง​ต่อให้​เขา​ไม่อยู่​ที่นี่​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​ไม่มีทาง​ทำ​เรื่อง​ผลีผลาม​เช่นนั้น​จริงๆ​ ​เขา​เข้าใจ​คน​อย่าง​มู่​หร​งอ​วี้ดี​ ​ในเมื่อ​กมล​สันดาน​ของ​พวกเขา​เหมือนกัน​ ​สติสัมปชัญญะ​ย่อม​มาก​่อ​นอา​รมณ์​เสมอ​ ​เพราะ​แต่ไหนแต่ไรมา​พวกเขา​ล้วน​สนใจ​ผลประโยชน์​ของ​ตัวเอง​มาก​ที่สุด

ข้าง​ลานประหาร​มี​คน​พลุกพล่าน​เต็มไปหมด​ ​เหล่า​ราษฎร​ที่​แห่​เข้ามา​มุง​ดู​ต่าง​พากั​นรุม​ประณาม​จู​ซื่อ​ ​แต่กระนั้น​กลับ​ไม่เห็น​มู่​หร​งอ​วี​้​โผล่​หน้า​มา​เลย

ข้าหลวง​ที่​คอย​คุม​เรื่อง​การ​ประหาร​มอง​เวลา​ด้วย​ความร้อนรน​ใจ​ ​เพราะ​เกือบ​ถึง​ช่วง​บ่าย​แล้วแต่​องค์​ชาย​หกกลับ​ไม่​ปรากฏตัว​ให้​เห็น​เลย​ ​วันนี้​การ​ประหาร​ยก​ครัว​ตระกูล​จู​ย่อม​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​แต่กลับ​มีเรื่อง​สำคัญ​กว่านั​้น​แฝง​อยู่​ก็​คือ​องค์​ชาย​หก​มู่​หร​งอ​วี​้​อาจ​ปรากฏตัว​ที่นี่​ ​ลานประหาร​ถูก​รายล้อม​ด้วย​คน​และ​ม้ามา​กมาย​เพื่อ​ดัก​ซุ่ม​โจมตี​ ​ขอ​แค่​มู่​หร​งอ​วี​้​ปรากฏตัว​ต้อง​จับตัว​เขา​ได้​อยู่​แล้ว​ ​ดูท่าทาง​ตอนนี้​ฝ่า​บาท​และ​จื้อ​อ๋อง​คง​ต้อง​ผิดหวัง​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ไม่​โผล่​หน้า​มา​ให้​เห็น​เลย​สักนิด​ ​ในขณะเดียวกัน​ก็​ชวน​ให้​ใครต่อใคร​ต่าง​อุทาน​ถึง​ความ​ใจ​เหี้ยม​ของ​กง​อ๋อง​เช่นกัน

“​ผิง​อ๋อง​เสด็จ​!​”

ผู้คุม​ประหาร​สติล​่​อง​ลอย​ ​เกี้ยว​ของ​มู่​หรง​ซี​ถูก​คน​ยก​เดิน​เข้ามา​อย่าง​ช้าๆ​ ​ทุกคน​ค่อยๆ​ ​ทยอย​เข้าไป​รับเสด็จ​ ​ราษฎร​ต่าง​รู้​ว่า​ผิง​อ๋อง​ผู้​นี้​ก็​คือ​อดีต​องค์​รัชทายาท​ ​หนึ่ง​ใน​ผู้เคราะห์ร้าย​ของ​คดี​ตระกูล​กู้​ใน​ตอนนั้น​ ​อีกทั้ง​ยัง​ถูก​สอง​แม่​ลูก​จู​ซื่อ​ลอบ​วางยา​ทำร้าย​จน​มีชีวิต​อยู่​ได้​อีกไม่นาน​ ​เวลานี้​เหล่า​ราษฎร​ต่าง​ทยอย​หลีกทาง​ให้​เขา

มู่​หรง​ซีสวม​ชุด​สีเหลือง​นวล​เหมือน​ใน​ยาม​ปกติ​ ​สีหน้า​ซีด​ขาว​ดู​สุขภาพ​ย่ำแย่​แต่​ท่าทาง​กลับ​ดู​สงบ​มาก​ ​เขา​ก้มหัว​เดิน​ออกมา​จาก​เกี้ยว​มอง​เหล่า​ข้าหลวง​ที่​เดิน​เข้ามา​รับเสด็จ​ ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​รบกวน​ใต้เท้า​ทุกท่าน​แล้ว​”

ผู้คุม​ประหาร​รีบ​เอ่ย​ ​“​มิบั​งอาจ​ ​ที่​แห่ง​นี้​มีมลทิน​ ​ไม่รู้​ว่า​ผิง​อ๋อง​เสด็จ​มาที​่​นี่​เพราะ​…​”​ ​ระยะนี้​ฝ่า​บาท​ปฏิบัติ​ต่อ​ผิง​อ๋อง​ไม่ธรรมดา​เลย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยาม​นี้​คดี​ของ​ตระกูล​กู้​ก็​ถูก​แก้ไข​แล้ว​ ​อย่างน้อย​ไม่ว่า​จะ​ด้วย​ความรู้สึก​หรือ​เหตุผล​ใน​ระยะนี้​ฝ่า​บาท​ต้อง​ปฏิบัติ​ต่อ​อดีต​องค์​รัชทายาท​ผู้​นี้​ดีมาก​อยู่​แล้ว

มู่​หรง​ซียิ​้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​อยาก​คุย​กับ​อวิ​๋​น.​..​จู​ซื่อ​ ​ไม่ทราบ​ว่า​สะดวก​หรือไม่​”

“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ถึง​อย่าง​ก็​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ ​ผิง​อ๋อง​ตามสบาย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ไม่ว่า​ผิง​อ๋อง​อยาก​จะ​พูด​อะไร​กับ​จู​ซื่อ​ ​กระทั่ง​ผิง​อ๋อง​อยาก​โบย​นาง​สัก​ยก​หรือ​บีบ​คอนาง​ให้​ตาย​ก็​ไม่มีใคร​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​ในเมื่อ​บาดแผล​ที่​จู​ซื่อ​ทำร้าย​ผิง​อ๋อง​เยอะ​กว่า​มาก

มู่​หรง​ซีพ​ยัก​หน้า​ด้วย​ท่าที​อ่อนโยน​ ​“​ขอบใจ​มาก​”

พอ​มู่​หรง​ซี​เดิน​มา​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​จู​ซื่อ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​สตรีที​่​เผย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​จน​มอง​ท่าที​ไม่​ออก​อย่าง​สิ้นเชิง​จาก​มุม​ที่สูง​กว่า

ถึงแม้​จู​ซื่อ​จะ​เป็น​ใบ้​ ​แต่​ดวงตา​ไม่ได้​พร่า​เลือน​และ​หู​ไม่ได้​หนวก​ ​ดวงตา​ที่ว่างเปล่า​เหม่อลอย​ใน​เดิมที​ก็​วูบ​ไหว​เล็กน้อย​พร้อม​เผย​สีหน้า​ขึงขัง​ทันทีที่​เห็น​มู่​หรง​ซี​ ​ปาก​ก็​กรีดร้อง​คร่ำครวญ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ถูก​สอง​คน​ขนาบ​ข้าง​ซ้าย​ขวา​ ​เกรง​ว่า​คง​กระโจน​ใส่​มู่​หรง​ซี​แล้ว​ ​ดวงตา​สอง​ข้าง​ที่​มัก​อ่อนโยน​ ​สงบ​และ​ไร้​การชิงดีชิงเด่น​ใน​อดีต​กลับ​ฉายแวว​ประกาย​ความป่าเถื่อน​ออกมา

มู่​หรง​ซียิ​้ม​บาง​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​อวิ​๋น​เฟย​ ​ท่าน​อยาก​พูด​อะไร​อย่างนั้น​หรือ​ ​”

จู​ซื่อ​ย่อม​พูด​อะไร​ไม่ได้​อยู่​แล้ว​ ​นาง​ทำได้​แค่​ขึงตา​มอง​มู่​หรง​ซี​ ​มู่​หรง​ซี​และ​นัง​สารเลว​มู่​ชิง​อีนั​่​นน​่า​สะอิดสะเอียน​เหมือนกัน​ ​สีหน้า​ท่าที​ใน​ตอนนี้​ ​อีกทั้ง​เขา​เรียก​นาง​ว่า​อวิ​๋น​เฟย​เช่นนี้​ยัง​ทำให้​นาง​รู้สึก​แย่กว่า​ถูก​เรียกว่า​จู​ซื่อ​เสียอีก​ ​เพราะ​นี่​บ่งบอก​ว่า​แผนการ​และ​ความอดทน​เกือบ​ครึ่ง​ชีวิต​ของ​นาง​กลายเป็น​เพียง​เรื่องตลก​เท่านั้น

มู่​หรง​ซีก​ลับ​ไม่ใส่ใจ​ดวงตา​อาฆาตแค้น​ของ​นาง​ ​เขา​เพียง​ยก​ยิ้ม​พลาง​ส่าย​ศีรษะ​ ​“​อวิ​๋น​เฟย​ ​ท่าน​เดา​ว่าน​้​อง​หก​จะ​นั่ง​อยู่​ที่ใด​หรือ​ ​ตาม​ความเข้าใจ​ที่​ข้ามี​ต่อน​้​อง​หก​ ​ตอนนี้​เขา​ต้อง​นั่ง​ดูท่า​นอยู​่​ที่ใด​สัก​แห่ง​ใน​ละแวก​นี้​แน่นอน​ ​แต่​น่าเสียดาย​…​เพราะ​เขา​ไม่​มาช​่วย​ท่าน​ ​กระทั่ง​ไม่​มา​เจอ​ด้วยซ้ำ​”

เสียงร้อง​คร่ำครวญ​ของ​จู​ซื่อ​ดัง​ขึ้น​พร้อม​แววตา​เคียดแค้น​อาฆาต​ ​มู่​หรง​ซี​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​อวิ​๋น​เฟย​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ ​ข้า​รู้​นาน​แล้ว​ว่าน​้​อง​หก​ไม่​โผล่​หน้า​ออกมา​ง่ายๆ​ ​ดังนั้น​วันนี้​ข้า​ถึง​ไม่ผิด​หวัง​เลย​สักนิด​ ​แต่​เสด็จ​พ่อ​ ​น้อง​สี่​และ​น้อง​เจ็ด​ออกจะ​ผิดหวัง​อยู่​สักหน่อย​ ​ในเมื่อ​น้อง​หก​ฆ่า​องค์​หญิง​สุดที่รัก​ของ​เสด็จ​พ่อ​เชียว​”

จู​ซื่อ​ชะงัก​ไป​ ​นาง​ไม่เข้าใจ​ว่า​มู่​หรง​ซีพูด​เรื่อง​นี้​กับ​นาง​เพื่อ​อะไร​ ​มู่​หรง​ซีค​ลี่​ยิ้ม​พลาง​ส่าย​ศีรษะ​เอ่ย​ ​“​ข้า​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​ทำไม​หรือ​ ​ความจริง​เสด็จ​พ่อ​ทรง​ตัดสิน​ลงโทษ​ประหาร​เร็ว​ขนาด​นี้​ ​ข้า​ยัง​รู้สึก​ผิดหวัง​อยู่​บ้าง​ ​หาก​ผ่าน​ไป​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน​…​ไม่แน่​อวิ​๋น​เฟ​ยอาจ​ได้​เห็น​จุดจบ​ของ​น้อง​หก​แล้วก็​ได้​ ​อวิ​๋น​เฟ​ยอยา​กรู​้​หรือไม่​เล่า​ว่า​สุดท้าย​น้อง​หก​จะ​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”