ตอนที่ 527 กลับตัวเป็นคนดี ตอนที่ 528 ชีวิตที่สิ้นหวัง

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 527 กลับตัวเป็นคนดี

เปาไล่จื่อคลี่ยิ้มกว้าง

ฮั่วหลินเด็กน้อยทั้งสามรู้สึกน่าสนใจเป็นพิเศษ จากนั้นจึงชมเชยไปเรื่อยเปื่อย

“อาเปา ข้าได้ยินพี่สาวคนรองกล่าวว่าเมื่อวานท่านขับไล่คนที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อหมู่บ้านไปตั้งหลายคน! ตอนแรกข้าก็ยังไม่เชื่อ แต่วันนี้พอข้ามองเห็นท่านก็เชื่อในทันที! ท่านแตกต่างไปแล้วจริงๆ!” ซ่งต๋าพูด

“ใช่! วันนี้ปู่เปาหน้าตาสดใส มองดูอ่อนโยนเป็นพิเศษ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ดุดันขนาดนั้น” ฮั่วหลินปั้นหน้าจริงจัง

เด็กน้อยที่อยู่ข้างๆ ก้าวถอยหลังไปหนึ่งฝีก้าว

พวกเขาไม่เห็นใช่หรือไม่ เปาไล่จื่อเพิ่งแย่งเงินเหรียญทองแดงของเขาไปหยกๆ!

“พี่รองบอกว่าอาเปากลับเนื้อกลับตัวแล้ว เห็นทีว่าจะเป็นความจริงสินะ” ซ่งอู่กล่าวอย่างให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน

เปาไล่จื่อเบิกตาโตแวบหนึ่ง แม่เจ้า เขาก็แค่อาบน้ำเท่านั้นเอง!

“นี่ พวกเจ้าคุยอะไรกันรึ” มีหญิงวัยป้าเดินผ่านมามองเห็นเข้า จึงรีบเดินเข้ามาหาอย่างระแวดระวังทันที คิดว่าเปาไล่จื่อต้องการรังแกเด็กๆ อีกแล้ว

เปาไล่จื่อสีหน้าหงิกงอลงทันที รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักเช่นกัน

ไอ้เด็กน้อยเหล่านี้ วันๆ เอาแต่รนหาเรื่อง!

“ท่านป้า ท่านว่าอาเปาวันนี้ดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษใช่หรือไม่ พี่สาวคนรองข้ากล่าวว่าเมื่อวานอาเปาบอกว่าต้องการทำตัวเป็นคนเก่งกาจมีหน้ามีตายิ่งกว่าอาสี่ข้า! เขาต้องการกลับตัวเป็นคนดีแล้ว! เมื่อครู่ช่วยเก็บเศษเงินของโก่วต้านที่หล่นอยู่บนพื้นด้วยละ!” ซ่งต๋าคลี่ยิ้มกว้าง

“ใช่ๆ!” ฮั่วหลินรีบพยักหน้าทันควัน

เปาไล่จื่อเผยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกในชั่วพริบตา ถูกดวงตาอันใสบริสุทธิ์ของฮั่วหลินคู่นั้นจับจ้อง ถึงขั้นเกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาเล็กน้อยชั่วขณะ

กลั้นใจนำเหรียญทองแดงสองเหรียญนั่นหยัดใส่มือของโก่วต้าน “เก็บเอาไว้ให้ดี อย่าทำหายอีกละ!”

ปวดใจจริง!

ป้าคนนั้นเบิกตาโตด้วยความตระหนกตกใจ “โอ้ นี่ไอ้คนขี้เกียจรู้จักพัฒนาแล้วรึ”

“ท่านป้า ไฉนท่านจึงเรียกอาเปาว่าคนขี้เกียจเล่าขอรับ! พี่รองบอกว่าคนเราล้วนมีชื่อกันทั้งนั้น อยากให้เกียรติผู้อื่นก็ต้องเรียกชื่อคนเขาขอรับ” ซ่งต๋ากล่าวขึ้นอีกครั้งอย่างเป็นจริงเป็นจัง

พวกเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไปประเภทนี้ ไม่ได้พิถีพิถันมากมายขนาดนั้น มีชื่อเรียก แต่ ‘ชื่อ’ จริงยังคงไม่มี อย่างมากสุดก็แค่คำเรียกตามลำดับการเกิดในครอบครัวหรือเป็นชื่อเล่น และเรียกขานได้ค่อนข้างสะดวกด้วยเช่นกัน

เปาไล่จื่อนามว่าอะไรหรือ

ป้าผู้นั้นนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

เปาไล่จื่อเองก็ชะงักงันไปเช่นกัน

ตอนที่เขาอายุสิบกว่าปี บนใบหน้ามีสิวปรากฏขึ้นมากมาย หลังสิวหายไปผิวหน้าก็ขรุขระ เพราะยามปกติก็ชื่อเสียงไม่ดี คนอื่นบอกว่าเขาเป็นพวกอันธพาล ไม่รู้จักทำมาหากิน ดังนั้นก็เลยถูกผู้คนเรียกว่าเปาไล่จื่อ

นับแต่นั้นมา ก็ไม่มีคนเรียกขานเขาด้วยชื่อของเขาอีกเลย

“ข้าถามท่านแม่ข้าแล้ว ท่านปู่เปานามว่าเปาต้าจื้อ ความหมายก็คือมีความทะเยอทะยานมุ่งมั่น! พ่อแม่ของท่านปู่เปาจะต้องมีความคาดหวังอันยิ่งใหญ่มากต่อตัวเขาแน่นอน!” ฮั่วหลินพูดเกินจริงเสริมขึ้นมา

เปาไล่จื่อตะลึงงัน

บิดามารดาเขาเสียชีวิตไปตั้งนานแล้วนะ!

ไม่มีคนสั่งสอนไม่มีคนควบคุมดูแล จะมีความทะเยอทะยานมุ่งมั่นอะไรที่ไหนกันเล่า

“ฮั่วต้าหลางพูดถูก! ต้องเรียกชื่อ! น้องต้าจื้อ!” ป้าผู้นั้นก็มีไหวพริบเช่นกัน ส่งเสียงหัวเราะออกมาแล้วเอ่ย “ข้าว่าวันนี้เจ้าดูมีชีวิตชีวาไม่น้อยเลย! หากหัวหน้าหมู่บ้านรับรู้ว่าปัจจุบันเจ้าหัดทำเรื่องดีๆ แล้ว จะต้องดีใจแน่!”

ขณะพูด นางก็เดินจากไปอย่างสุขใจ

“พวกเจ้าเด็กน้อยทั้งสามคน…” เปาไล่จื่อค่อนข้างหงุดหงิดขึ้นมาทันใด “หยอกข้าเล่นใช่หรือไม่”

พูดสิ่งเหล่านี้เพราะคิดจะทำอะไรกันแน่!

“ไม่ได้หยอกท่านเล่นเสียหน่อย จริงๆ นะ เมื่อวานแม่ข้าชมท่านยกใหญ่ เดิมทีข้ายังรู้สึกแปลกๆ อยู่เลย ต่อมาได้ยินคำพูดของแม่ข้าแล้วรู้สึกว่ามีเหตุมีผลเป็นพิเศษ!” ฮั่วหลินมีรูปลักษณ์ที่ชวนให้ผู้คนหลงใหลได้มากที่สุด ดังนั้นยามนี้จึงแสดงออกอย่างยอดเยี่ยมด้วยการกล่าวขึ้นอีกครั้ง “แม่ข้าบอกว่าท่านกับปู่สี่ของข้าเป็นคู่ปรับกัน แต่เมื่อวานท่านเอาชนะความโกรธเคืองนั้นมาถ่ายทอดคำพูดให้นางรู้ นั่นต้องเป็นเพราะเห็นแก่ความที่นางและท่านเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันแน่ ท่านเป็นคนที่ตั้งใจจริงในการปกป้องหมู่บ้านเรา!”

“ท่านก็คือผู้ที่ข้างนอกเย็นชาแต่จิตใจดีงาม ภายนอกดูไม่รู้จักทำเรื่องดีๆ แต่ในความเป็นจริงเพราะไม่มีคนเข้าใจท่าน! ใต้หล้านี้มีใครเป็นคนไม่ดีมาแต่เกิดที่ไหนกันเล่า”

“แม่ข้าบอกว่า ปู่สี่เมื่อก่อนก็เป็นคนออกนอกลู่นอกทางเช่นกัน ภายหลังต่อมาก็ได้ดิบได้ดีแล้ว ท่านฉลาดกว่าปู่สี่ข้าเสียด้วยซ้ำ จะต้องทำได้ดียิ่งกว่าเขาแน่!”

ลูกไม้ประจบสอพลอเยอะทีเดียวเชียวนี่ ไม่มีใครเข้าใจพูดเพ้อเจ้อได้ไปยิ่งกว่าเขาแล้ว

แม่เขาบอกไว้ว่าพูดหลายประโยคหน่อยก็ไม่ใช่ว่าจะสิ้นเปลืองแรง และไม่แน่ว่าจะจัดการปัญหาเรื้อรังอย่างหนึ่งให้หมู่บ้านได้ด้วย

หากชมเชยเขาขนาดนี้แล้วยังไม่เปลี่ยนแปลง เช่นนั้นก็ไม่เสียหาย อย่างแย่สุดก็คือเป็นลักษณะเช่นที่ผ่านๆ มา

ตอนที่ 528 ชีวิตที่สิ้นหวัง

ฮั่วหลินหยีดวงตาโตๆ จนโค้งดุจดวงจันทร์เสี้ยวก็ไม่ปาน รอยยิ้มที่จริงใจมองดูเหมือนเซียนตัวน้อย ทั้งตัวเปล่งประกายรัศมีความจิตใจดีและน่ารักน่าเอ็นดู

“ปู่เปา ข้าตัดสินใจแล้วว่าจากนี้จะเริ่มชอบท่านแล้วละ!” ฮั่วหลินคลี่ยิ้มอีกครั้งแล้วกล่าวใส่เปาไล่จื่อ

เปาไล่จื่อถึงกับรู้สึกหัวใจถูกโจมตีเข้าอย่างจัง

ในชั่วพริบตาเดียว ถึงกับหน้าแดงก่ำและเผยสีหน้าลนลานทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเล็กน้อย!

และในเวลานี้เอง เหล่าผู้จุดชนวนก็โบกมือน้อยๆ ใส่เขายกใหญ่ จากนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้ง “พวกเราไปโรงเรียนก่อนละ!”

เปาไล่จื่อตะลึงงัน ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร

“หลานหลิน เจ้านี่ปากหวานจริงๆ” หลังเดินจากมา ซ่งต๋าอดยกนิ้วโป้งให้ฮั่วหลินไม่ได้ “เมื่อก่อนอาเปานิสัยเสียมาก หากไม่ใช่เพราะคำขอของพี่รอง ข้าก็พูดถ้อยคำที่ขัดใจลักษณะนี้ออกมาไม่ได้เช่นกัน”

“ขัดใจ?” ฮั่วหลินมุ่นคิ้ว

“ใช่น่ะสิ แม้ว่าพี่รองบอกว่าเขาน่าจะไม่ได้จิตใจเลวร้ายเป็นพิเศษ แต่…ในช่วงเวลาสั้นๆ จะปรับเปลี่ยนได้อย่างไรกันเล่า ข้ายังค่อนข้างกลัวเขาอยู่ดี” ซ่งต๋าเอ่ยพูดความจริง

ให้เขาเปลี่ยนมุมมองต่ออันธพาลไม่เอาการเอางานคนหนึ่งอย่างกะทันหัน เป็นความคิดที่เพ้อเจ้อชัดๆ

“หลานหลินไม่ได้แสร้งทำหรอกหรือ” ซ่งอู่กล่าว

ซ่งต๋าตะลึงงัน มองเขาอย่างไม่กล้าเชื่อ

“ทำไมต้องแสร้งทำด้วย ปู่เปาก็ไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่อข้า ครั้งนี้ยังช่วยเตือนท่านแม่ข้าด้วย ข้าย่อมขอบคุณเขาด้วยใจจริงอยู่แล้วสิ?” ฮั่วหลินกล่าว

“แต่…เขามีจุดประสงค์ ซึ่งก็เพื่อให้พี่รองเอาเงินให้” ซ่งต๋ารีบกล่าวทันควัน

“เช่นนั้นแล้วอย่างไรหรือ จุดประสงค์ไม่สำคัญหรอก” ฮั่วหลินคลี่ยิ้ม “แม่ข้าบอกว่า บำเพ็ญตนบำเพ็ญใจ แม้ไม่ควรคิดร้ายต่อใคร ก็ควรพึงระวังคนคิดร้ายกับตัวเรา แต่อย่างเรื่องประเภทนี้ ยอมใช้น้ำใจมองคนอื่นดีกว่าการใช้ใจที่เกลียดชังมองคนอื่น เช่นนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นมากยิ่งกว่า”

“…” ซ่งต๋าหัวเราะเจื่อน “หลานหลิน เจ้าจิตใจดีงามเกินไปแล้ว หากภายภาคหน้าเจอคนที่คิดจะลักพาตัวเจ้าไปขายอีกจะทำอย่างไร คงไม่ถูกขายแล้วยังช่วยคนเขานับเงินอีกกระมัง!”

ฮั่วหลินเชิดหน้าน้อยๆ ของเขาขึ้น

ดูถูกเขาเกินไปแล้ว

หากเจอคนชั่วร้าย เขาย่อมไม่ออมมือแน่ จะดึงหนวดอีกฝ่ายให้เกลี้ยงเลย และกระทืบคนเขาให้จมลงไปใต้ดินด้วยเท้าเดียว ฝังเอาไว้สักสองสามปี รากงอกเมื่อใดค่อยขุดออกมาเจอท้องฟ้าเจอตะวัน!

แต่คำพูดนี้ ฮั่วหลินไม่พูดออกไป อีกทั้งยังยิ้มหวานหยด “ท่านน้า ก็มีพวกท่านอยู่นี่ไง มีพวกท่านอยู่ทั้งคน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ขายข้าไม่ได้!”

เมื่อถ้อยคำนี้หลุดออกมา ซ่งต๋าและซ่งอู่พลันรู้สึกสบายใจไปชั่วขณะ

ดูสิ หลานหลินครอบครัวเขาปากหวานขนาดไหน!

“วางใจเถอะ! เหล่าน้าๆ จะคุ้มครองเจ้าไปชั่วชีวิต!” ซ่งต๋าชักสีหน้าจริงจัง

หลานที่ซื่อบื้อขนาดนี้จะต้องปกป้องให้ดี มิเช่นนั้นจะถูกคนหลอกได้ง่ายเกินไป!

และในเวลานี้ เปาไล่จื่อกำลังสงสัยเกี่ยวกับชีวิตคนเรา

ครั้นผู้คนในหมู่บ้านว่างงานก็จะไปพูดคุยทั่วสารทิศ เมื่อครู่ป้าผู้นั้นไม่ทันไรก็ไปซุบซิบนินทากับสตรีในหมู่บ้านหลายคน ไม่รู้ว่าพูดคุยกันอย่างไรจึงไปถึงหูของหัวหน้าหมู่บ้านซ่งเข้าแล้ว

เปาไล่จื่อเป็นคนหนึ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านซ่งเพ่งเล็งและให้ความสนใจด้วยใจจริงมาโดยตลอด ยามนี้ได้ยินว่าคนผู้นี้ทำเรื่องดีๆ แล้วก็ดีใจยกใหญ่ในทันใด รีบให้ลูกสะใภ้ของครอบครัวตัวเองไปบอกกล่าวกับเหล่าหญิงวัยกลางคนในหมู่บ้านว่าจากนี้ไปเห็นคนผู้นี้ก็ให้ชมเชยเขามากๆ หน่อย อย่าเอาแต่พูดจาไม่น่าฟังอยู่เรื่อย!

ด้วยเหตุนี้ ไม่พ้นสามวัน สถานการณ์รอบข้างของเปาไล่จื่อก็เปลี่ยนไป

เมื่อก่อนเรียกเขาว่าไล่จื่อซึ่งหมายถึงคนไม่เอาการเอางาน ยามนี้เรียกเขาว่าต้าจื้อ

เด็กๆ ที่เมื่อก่อนเห็นเขาก็เป็นอันต้องวิ่งแจ้น นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ยังเอ่ยปากเรียกเขาว่าท่านอา ท่านลุง…

เปาไล่จื่อรู้สึกว่าชีวิตสิ้นหวังแล้ว

นี่ยังจะให้เขาไปรีดไถเงินได้อย่างไรอีกเล่า!

คนเหล่านี้ แต่ละคนยิ้มแย้มต้อนรับ เด็กๆ เหล่านั้นไร้เดียงสาไร้พิษสง ในสมองเขามักปรากฏใบหน้าอันน่ารักน่าเอ็นดูของฮั่วต้าหลาง เมื่อครู่อยากจะลอบคว้าไก่ในเล้าของชาวบ้าน แต่ทันใดนั้นก็นึกสะดุดใจขึ้นมาอีก จากนั้นจึงชักมือกลับอย่างอดไม่ได้!