ตอนที่ 186

Earth’s Best Gamer

ตอนที่ 186 จิวแป๊ะทง

“เดี๋ยวก่อน สิ่งที่สะท้อนกลับมามากที่สุดกับบึงมังกรดําดูเหมือนว่าจะไม่ใช่สายเลือดมังกรน้ํา”

“แต่มันคือกลิ่นอายมังกร…”

จีเยสัมผัสมันอย่างระมัดระวัง

ดูเหมือนว่าเลือดมังกรน้ําจะไม่ใช่สิ่งที่สะท้อนกับบึง แต่เป็นกลิ่นอายมังกรที่ถูกเปลี่ยนนแปลงมาจากหินแห่งอารยธรรมอันดับ 7

“ตามคําอธิบายของบึงมังกรดํา หนึ่งในหน้าที่ของกลิ่นอายมังกรก็คือสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆที่ปนเปื้อน” ให้เป็นวัตถุที่สายเลือดมังกรน้ําสามาถควบคุมได้งั้นเหรอ?”

หัวใจของจีเย่สั่นไหว

อย่างไรก็ตามยิ่งมังกรดําเป็นเพียงระดับวิสามัญเท่านั้น แลมันก็อยู่ในสนามรบแห่งโชคชะตา

เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีวัตถุระดับเหนือธรรามชาติเหมือนกับจุดทรัพยากรในดินแดนแห่งมรดก

“หยุดนะ!”

“ท่านด้วน ท่านบังคับฉันอย่างป่าเถื่อนแบบนี้ได้ยังไง?”

หลังจากที่บึงสั่นสะเทือนเป็นเวลานานกว่าหนึ่งนาที ในที่สุดก็มีคนปรากฏตัวออกมา

หญิงชราคนนั้นมีผมสีขาวเต็มหัวและมีใบหน้าขุ่นเคือง ลักษณะของเธอบ่งบอกว่าเธอเคยเป็นสาวงามมาก่อนแต่เสียงของเธอค่อนข้างดุร้าย

“ฉันแทบจะไม่สามารถทําแบบนนั้นได้ คุณจีคือคนที่มีทักษะที่น่าทึ่ง!”

อิดเต็งที่น่านับถือยังไม่หายจากอาการตกตะลึงในตอนที่เขาตอบกลับ พร้อมกับส่ายหัวของเขา

จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าคําพูดของเขาฟังดูราวกับตําหนิเย่ ดังนั้นเขาจึงมองจีเยู่ด้วยสีหน้าขอโทษ

“อย่ากังวลเลย”

จีเย่ยิ้มออกมา

“เฮ้ ท่านไม่ต้องหลอกฉันท่านกําลังพยายามยกยอชายหนุ่มคนนี้”

หญิงชรามองที่จีเยู่ด้วยความสงสัย

ชายหนุ่มอายุไม่เกินยี่สิบต้นๆ ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าเขาจะทําแบบนั้นได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเกินความเข้าใจของเธออย่างแท้จริง และแม้แต่อิดเต็งที่น่านับถือก็ไม่สามารถทําแบบนั้นได้ ดังนั้นเธอจึงต้องเชื่อในคําอธิบาย

ชายหนุ่มคนนี้สามารถทําอย่างนั้นได้จริงเหรอ?

“อ่าวว อ่าวว…”

หัวขนาดเล็กสีขาวสองหัวปรากฏขึ้นจากด้านหลังเธอ และพวกมันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจิ้งจอกเก้าหางนัยน์ตาที่แวววับของพวกมันกวาดสายตาไปรอบๆ

“หวีดดด!”

เมื่อเห็นจิเย่ หนึ่งในนั้นก็โบกอุ้งมือไปข้าหงน้าและกรีดร้องอย่างโกรธเคือง

เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของมันเห็นได้ชัดว่มันกําลังบ่นกับ พ่อแม่” ของมัน

“นายกําลังบอกว่าเขาจับนายเมื่อคืนที่ผ่านมางั้นเหรอ? เป็นเขาจริงๆ สินะ…”

หลังจากอาศัยอยู่กับจิ้งจอกทั้งสองมาหลายปี หญิงชราก็สามารถเข้าใจความหมายคร่าวๆของพวกมันได้

ตอนนี้เธอคงต้องเชื่ออิดเต็งที่น่านับถือแล้ว

เนื่องจากจิ้งจอกเก้าหางนั้นว่องไวและรวดเร็วมากแม้แต่ผู้ที่มีสกิลคล่องแคล่วก็ไม่สามารถตามพวกมันได้อย่างง่ายดายนับประสาอะไรกับการจับพวกมัน

“ท่านต้วน ท่านมาทําอะไรที่นี่?”

หลังจากตระหนักว่าเย่น่าพึ่งแค่ไหน หญิงชราก็เพิกเฉยต่อคําบ่นของจิ้งจอกและหันไปหาอิดเต็งที่น่านับถือ

“ปล่อยอดีตให้อยู่กับอดีต ฉันลืมตัวตนเก่าของฉันไปแล้วแล้ว หยิง เธอรู้จักชายคนนี้มั้น?”

อิดเต็งที่น่านับถือถอนหายใจ

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่คิวเชียนหัน

หญิงชราผมขาวนั้นถูกเรียกว่า “ป้าหยิง

ย้อนกลับไปในตอนที่อิดเต็งที่น่านับถือยังคงเป็นฮ่องเต้แห่งอาณาจักรต้าหลี่ หยิงนั้นเป็นหนึ่งในนางสนมของเขาจิวแป๊ะทงเฒ่าทารก”ได้มาเยือนต้าหลี่พร้อมกับหวังฉงหยางหยิงนั้นมีความสัมพันธ์กับจิวแป๊ะทงและให้กําเนิดบุตรชายนอกกฎหมาย

ก่อนกรแข่งขันดาบครั้งที่สองบนภูเขาฮั่ว ชิวเชียนหรันได้ทําร้ายทารกด้วยศิลปะกําปั้นเหล็กพยายามลดพลังของอิดเต็งด้วยการบังคับให้เขารักษาทารกด้วยวิธีนี้อิดเต็งจะไม่มีพลังงานที่แข่งขันกับเขาเพื่อพระสูตรเก่าหยิน

อย่างไรก็ตาม ฮ่องเต่ไม่ทรงทําแบบนั้นเพราะความโลภ ทําให้โอรสสิ้นพระชนม์ ความเสียใจทําให้ฮ่องเต้ทรงเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธและต่อมาก็ได้เป็นอิดเต็งที่น่านับถือ

ด้วยความหวังสิ้นหวัง หยิงเกือบจะเป็นบ้าเพราะความจริงที่ว่าเธอไม่สามารถาสังหารชีวเชียนหวั่นหรือหาจิวแป๊ะทงพบเธอจึงอาศัยอยู่ในบึงมังกรดํานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ด้วยเหตุนี้ ชิวเชียนหรันซึ่งปัจจุบันเป็นไต้ซือเชียนก็ต้องการมาขอการอภัยจากป้าหยิงก่อนที่เขาจะเสียชีวิตอิดเต็งที่น่านับถือมาที่นี่เมื่อแปดวันก่อนและได้ทําตามคําขอร้องทุกวันแต่ป่าหยิงก็ไม่ปรากฏตัวออกมา

จนกระทั่งวันนี้ที่จีเยบทําเสียงดังจนเธอต้องออกมา

“อะไรกัน? เขาคือชิวเชียนหน…ฮ่ม! ฉันจะไม่ยกโทษให้เขา!”

หลังจากการได้รับรู้ว่าเหตุใดไต้ซือทั้งสองจึงมาที่นี่ ป้าหญิงก็ปฏิเสธคําขอ

เธอไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะเธอต้องการให้เขาตายด้วยคว่ามเสียใจ

“ผู้อาวุโสหยิง ฉันยไม่รู้เรื่องราวความแค้นเก่าของคุณ แต่เขียนที่น่านับถือกําลังจะจากไปและฉันเกลียดความคิดที่จขะเห็นเขาตายด้วยความเสียใจ ฉันขอโทษนะ แต่ฉันต้องเข้าไปยุ่ง”

จีเยได้ยินเรื่องาวกับจากผู้อาวุโสเพิ่ง

ตามคําแนะนําของผู้อาวุโสเมิ่ง เขาตัดสินใจที่จะก้าวขึ้นมาเป็น “คนเลว”

“นาย…”

ใบหน้าของป่าหยิงซีดในตอนที่ได้ยินคําพูดของจีเย่

หลังจากเหตุการณ์ที่เขาสร้างขึ้นในบึงมังกรดํา และความจริงที่ว่าจีเย่สามารถจับจิ้งจอกได้ ป่าหยิงรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจีเย่

ชายหนุ่มไม่เพียงแค่บังคับให้เธอออกมา แต่เขายังเข้าข้างศัตรูของเธออีกด้วย!

ดูเหมือนว่าความคิดจะทําให้เธอครุ่นคิดเธอนั่งลงกับพื้นและเริ่มร้องไห้ออกมา

“นายขอให้ฉันออกมาไม่ได้ นายก็บังคับฉัน และตอนนี้นายก็กําลังขอให้ฉันให้เลิกเกลียดแค้น แต่นายไม่ได้ พูดอะไรเกี่ยวกับชายคนนั้นที่ยังไม่ออกมาพบฉัน”

ปรากฏว่า ป่าหยิงอาศัยอยู่อย่างสันโดษที่นี่ในบึงมังกรดําเพราะทารกเฒ่าจิวแป๊ะทงผู้ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กม.

อย่างไรก็ตาม จิวแป๊ะทงก็ยังรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทําในตอนนั้น และจะไม่พบเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

เมื่อถูกจีเยีบังคับ ป้าหญิงก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เธอจึงตะโกนใส่ชายทั้งสามคน

“ดีมาก! หากนายพาชายคนนั้นมาหาฉันและปล่อยให้เขาพูดกับฉัน ฉันจะยกโทษให้ชายคนนี้”

นั่นทําให้สิ่งต่างๆ ง่ายขึ้น

“อ่า! เธอหมายถคงทารกเฒ่างั้นเหรอ? เขากับฉันเข้ากันได้ดีมาก ฉันจะพาเขามาเอง!”

หยางกัวรู้จักจิวแป๊ะทง ดงนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที

“ฉันชื่อป้าหยิง และนายต้องบอกเขาให้กระจ่างก่อนที่จะพาเขามาหาฉัน ไม่อย่างนั้นเขาจะหนีไปทันทีที่เห็น ฉันและฉันจะไม่สามารถหาเขาเจออีก ฉันจะยกโทษให้ชิวเชียนหรันตราบใดที่เขามา!”

จากนั้นเธอก็หน้าแดงและปล่อยให้อิดเต็งที่น่านับถือเล่าอดีตของพวกเขาใฝห้คนอื่นฟัง

“หุบเขาร้อยเกสรอยู่ห่างออกไป 50 กม. และการเดินทางไปกลับใช้เวลาครึ่งวัน ฉันรู้เรื่องยาเล็กน้อย ให้ฉัน รักษาเชียนที่น่านับถือก่อนดีมัยเพื่อให้เขจาแข็งแรงพอที่จะรอให้เรากลับมาพร้อมกับผู้อาวุโสจิว?”

จีเยู่ได้แนะนําอิดเต็งที่น่านับถือก่อนที่เขาจะออกเดินทางไปพร้อมกับหยางกัว

“อืมม..”

อิดเต็งมองไปที่ชิวเชียนหนผู้ที่แทบจะหายใจไม่ออก และหันไปมองป้าหยิงและลังเล

“ปรมจารย์จีเป็นหมอที่ยอดเยี่ยม! หนึ่งในปรมจารย์ของคฤหาสน์แห่งอสูรนั้นได้รับบาดเจ็บ และเลือดของจิ้งจอกเป็นสิ่งเดียวที่จะรักษาเขาได้ แต่ปรมจารย์จทําให้เขามั่นคงด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย

หยางกัวกล่าวเสริม

“ฮ่ม! ทําสิ่งที่นายต้องการ! ถ้านายพาเขามาหาฉันได้ ฉันจะให้จิ้งจอกทั้งสองแก่นาย!”

“แต่ถ้านายทําไม่ได้ต่อให้รักษาชายคนนี้ได้ แต่ฉันก็ยังจะฆ่าเขาในภายหลัง!”

ป้าหยิงในตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทําไมชายหนุ่มถึงอยากจับจิ้งจอกของเธอ เธอจึงพ่นลมหายใจและกล่าวคําพูดเหล่านั้น

“อมิตาพุทธ ขอบคุณมาก”

เมื่อได้ยินแบบนั้น อิดเต็งที่น่านับถือก็พยักหน้า

แน่นอนว่าเขาไม่ได้หวังในสิ่งที่จีเย่สัญญาไว้มากนัก

เนื่องจากตัวเขาเองก็เป็นหมอที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน และพลังต้นกําเนิดของเขาและนิ้วยหยางทําให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาอาการบาดเจ็บภายในที่เก่งกาจที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่เขาทําได้เพื่อช่วยชิวเขียนหวันเลย

แต่เนื่องจากจีเย่ต้องการช่วย มันคงไม่สุภาพหากปฏิเสธ

ชิวเชียนหนกําลังมีลมหายใจเฮือกสุดท้ายและไม่ตอบสนองต่อความช่วยเหลือของจีเย่เลย

ในที่สุด ในขณะที่คนอื่นเฝ้าดูด้วยความสงสัย แสงสีขาวแห่งการรักษาก็พุ่งออกจากมือของจีเยีและปกคลุมเชียน

ประมาณ 1 นาทีต่อมา จีเยก็กล่าวว่า “ฉันกลัวว่าอาการบาดเจ็บของเชียนที่น่านับถือจะรุนแรงเกินไป และเขาตั้งใจที่จะตาย ฉันทําให้เขามั่นคงได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น”

“น้องหยาง รีบไปกันเถอะ เราควรพาผู้อาวุโสจิวกลับมาก่อนอาทิตย์ตกดิน!”

หลังจากนั้น จีเย่ก็ส่ายหัวให้กับป่าหยิง แสร้งทําเป็นยอมแพ้

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาไม่จําเป็นต้องกล่าวมากความ ตามคําแนะนําของป่าหยิง จีเยีและหยางกัวได้พบกับจิวแป๊ะทงซึ่งเป็นเฒ่าทารกที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากฝูงชนในหุบเขาร้อยเกสร

เนื่องจากหยางกัว จิวแป๊ะทงจึงไม่ได้ปฏิเสธพวกเขา

“ไม่ ฉันไม่ไป!”

อย่างไรก็ตาม จิวแป๊ะทงยังคงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เขาทํากับท่านต้วน และร้าสึกละอายใจเกินกว่าที่จะพบป้าหยิง

ไม่ว่ากหยางกัวจะพูดยังไง เขาก็ไม่ไป

“อะไรกัน? ฉันมีลูกชายงั้นเหรอ?!”

เขาร้องไห้ออกมาหลังจากที่เย่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับทารกที่ป่าหยิงมี

เฒ่าทารกน่าจะเป็นตัวละครที่มีหัวใจไร้เดียงสาที่สุดในหนังสือ ดังนั้นเขาจึงตกตะลึงกับข่าวและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

หลังจากนั้น เมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับความลําบากที่ป่าหยิงเผชิญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เขาก็อดไม่ได้ที่จะกลับไปที่บึงมังกรดําพร้อมกับอีกสองคน

“คุณ… ในที่สุดคุณก็ยอมมาพบฉัน!”

ป้าหยิงดีใจมากที่พวกเขาพาจิวแป๊ะทงกลับมา

“น่าเสียดายที่เขาจากไปแล้ว…”

บทสนทนาต่อมาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสุข

“ท่านตัวน ฉันขโมยสนมของท่าน และท่านก็ไม่ช่วยลูกชายของฉัน ฉันจะบอกว่า อดีตก็คืออดีต!”

จิวแป๊ะทงบอกกับอิดเต็งที่น่านับถือหลังจากนั้น

“นี่คือฆาตรกร นายสามารถฆ่าเขาในตอนนี้ได้เลย!”

อิดเต็งที่น่านับถือมีความรอบรู้ในพระไตรปิฎก และเขาพร้อมที่จะยอมรับความจริง ดังนั้นเขาจึงชี้ไปที่ชิวเขียนหวัน

“หยิง เธอจัดการเลย!”

จิวแป๊ะทงส่ายหัวและบอกป้าหยิง

“หากไม่ใช่เพราะเขา ฉันคงไม่ได้พบคุณอีกแล้วในชีวิตนี้ นอกจากนี้เรายังไม่สามารถนําคนตายกลับมาได้ลืมไปเถอะว่ากิดอะไรขึ้นในอดีต

ป้าหยิงถอนหายใจ

“แน่นอนว่าหากคุณพูดแบบนั้นร เราจะยกโทษให้เขา!”

เฒ่าทารกพยักหน้า

“ขอบคุณมาก”

ชิวเชียนหรันได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแท้จริง

ชีวิตของเขาแขวนอยู่กับเส้นปราณแท้จริงเส้นสุดท้ายของเขา

ตอนนี้ในที่สุดเขาก็โล่งใจในตอนที่ได้ยินว่าทั้งจิวแป๊ะทงและป้าหยิงยกโทษให้เขาที่สังหารลูกชายของพวกเขา

“อาจารย์ ขอบคุณสําหรับทุกอย่าง!”

เขาบอกกับอิดเต็งที่น่านับถือ

จากนั้นเขาก็หลับตาลงและปล่อยปราณแท้สลายไป เขาพร้อมที่จะตาย

อย่างไรก็ตาม…

“ห้ะ?”

หลังจากนั้น เขาก็พบว่าอาการบาดเจ็บของเขาบรรเทาลงมาก

เขาน่าจะตายทันที

อย่างไรก็ตาามช่วงเวลาเกิดขึ้นมาก่อน

ช่วงเวลาแห่งความน่าอดอัดใจ…