บทที่ 246 นักต้มตุ๋น

บทที่ 246 นักต้มตุ๋น

“วิ่ง วิ่ง ใครบอกให้เจ้าวิ่ง” ชายที่มีใบหน้าโหดเหี้ยมวิ่งหอบมาถึง และเห็นหลี่ซื่อถูกกดอยู่ที่พื้น เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยความโกรธ และเตะหลี่ซื่ออย่างแรงจนเขาโอดครวญออกมา

ในที่สุดเมื่อเขาคลายความโกรธลง ชายผู้นั้นก็กล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าไม่ต้องการจ่ายเงินคืนใช่หรือไม่? ได้ วันนี้เจ้าจะจ่ายด้วยเงินหรือจ่ายด้วยขาล่ะ วันนี้มาชำระหนี้กันเถอะ”

หลี่ซื่อรู้ว่าคนผู้นี้เป็นคนโหดเหี้ยม และสิ่งที่เขาพูดคือสิ่งที่เขาจะทำ เมื่อเขาได้ยินว่าคนผู้นี้ต้องการขาของเขา หลี่ซื่อก็กลัวจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว “อย่าเลย ไว้ชีวิตข้าเถอะ พี่ชายไว้ชีวิตข้าเถอะ!”

“พูดมาสิ เจ้าต้องการจ่ายคืนด้วยขาซ้ายหรือขาขวาดีล่ะ? ห้ะ?” ชายผู้นั้นเหยียบไปที่ต้นขาของหลี่ซื่ออย่างแรง หลี่ซื่อสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด แต่ด้วยร่างกายที่ถูกกดไว้อย่างแรง เขาจึงไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

“ไม่เช่นนั้น ก็เอาขาที่สามของเจ้ามาแทน เป็นอย่างไรล่ะ?” ชายผู้นั้นจ้องไปที่เป้าของหลี่ซื่อด้วยแววตาที่มุ่งร้าย นั่นทำให้คนรอบข้างส่งเสียงหัวเราะ

“อย่า อย่านะ!” หลี่ซื่อรีบปิดร่างกายส่วนล่างของเขาอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีสิ่งนี้ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา เขาคงจะไม่มีทางอยู่รอดในช่วงครึ่งหลังของชีวิตได้ “พี่ชาย ไว้ชีวิตข้าด้วย ไว้ชีวิตข้าเถอะ!”

เมื่อชายผู้นั้นเห็นลักษณะคล้ายหมี*[1]ของหลี่ซื่อ เขาก็โล่งใจมาก “วันนี้เจ้าจะให้มันหรือไม่?”

“ข้าให้ ข้าให้” หลี่ซื่อกลัวว่าจะถูกคนผู้นี้ตอน ดังนั้นเขาจึงกล่าวได้เพียงว่า “ข้าจะไปที่โรงหมอเพื่อขอเงินจากหมอเหลย”

กู้เสี่ยวหวานบังเอิญวิ่งเข้ามาได้ยินคำพูดของหลี่ซื่อพอดี นางจึงยืนแอบอยู่ในที่ที่สามารถเห็นพวกเขาและได้ยินพวกเขาพูด จากนั้นจึงตั้งใจฟังสิ่งที่พวกเขาพูด

เมื่อนางได้ยินหลี่ซื่อบอกว่านางจะไปหาหมอเหลย จิตใจของกู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกสั่นไหว

หลี่ซื่อผู้นี้ค่อนข้างคุ้นเคยกับหมอเหลยเป็นอย่างดี และนางก็เพิ่งรู้เมื่อครั้งที่แล้วที่กู้เสี่ยวอี้ได้รับบาดเจ็บ หลี่ซื่อก็เป็นคนที่พาพวกเขาไปหาหมอเหลย

กู้เสี่ยวหวานใช้เงินไปถึงหกร้อยตำลึงเงิน เมื่อท่านหมอพานตรวจและรักษากู้เสี่ยวอี้ในภายหลัง เขากล่าวว่ากู้เสี่ยวอี้ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัสเลย และอวัยวะภายในของกู้เสี่ยวอี้ก็ไม่ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

กู้เสี่ยวหวานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอดและมันกลายเป็นปริศนาในใจของนาง วันนี้เมื่อได้เจอหลี่ซื่อแล้ว ทำไมนางจะไม่สืบหาความจริงล่ะ

“แล้วถ้าเจ้ายังหนีล่ะ?” เห็นได้ชัดว่าชายผู้นั้นไม่เชื่อ เพราะกลัวว่าหลี่ซื่อจะวิ่งหนีไปอีกครั้ง “ถ้าเจ้าหนีไป ข้าจะตัดขาที่สามของเจ้าทิ้งแล้วสร้างเจ้าเป็นหุ่นเชิด”

หลี่ซื่อมองไปที่คนตรงหน้า แววตาของเขาดุร้าย และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโหดหี้ยม คนผู้นี้เป็นอันธพาลในเมืองหลิวเจียแห่งนี้ และแม้แต่รัฐบาลก็เกรงกลัว ถ้าวันนี้ตนเองไม่จ่ายเงินคืนจริง ๆ เกรงว่าพรุ่งนี้คงจะได้เห็นร่างกายท่อนบนที่ตะวันออกเฉียงเหนือของตลาดผัก และร่างกายส่วนล่างของตนในภูเขาที่รกร้าง

หลี่ซื่อตัวสั่นด้วยความกลัว “ไม่ ๆ ข้าจะไม่หนีไปไหน”

หลี่ซื่อจมูกฟกช้ำ ใบหน้าบวมเป่ง และเท้าของเขาก็ถูกเตะจนบาดเจ็บจึงไม่สามารถเดินได้แม้แต่ก้าวเดียว ดังนั้นทั้งสองคนจึงช่วยพยุง และพาเขาไปที่โรงหมอ

กู้เสี่ยวหวานต้องการทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นนางจึงรีบเดินตามไป

คนกลุ่มนี้มาถึงที่โรงหมอ และประตูของโรงหมอนั้นแทบไม่มีคนเลย

หลี่ซื่อถูกลากเข้ามา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงน่ารังเกียจดังมาจากข้างใน “พวกเจ้าเป็นใคร ออกไป ออกไป”

หลี่ซื่อพูดด้วยรอยยิ้มอย่างประจบสอพลอ “น้องชาย โปรดพาข้าไปพบท่านอาจารย์ที!”

ปรากฏว่าหลี่ซื่อเป็นลูกศิษย์ของหมอเหลย

“ท่านอาจารย์ไม่อยู่ พวกเจ้ารีบออกไปเถอะ” ชายผู้นั้นพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกหลี่ซื่อออกไป

คนพาลผู้นั้นกล่าวอย่างดุเดือดและรุดขึ้นหน้า เมื่อชายหนุ่มในโรงหมอเห็นชายที่มีใบหน้าโหดเหี้ยม ท่าทีของเขาก็อ่อนลงทันทีและกล่าวอย่างสั่นเทาว่า “พวกเจ้า พวกเจ้าจะทำอะไร!”

“คนผู้นี้เป็นหนี้ข้า เขาต้องคืนเงินแก่ข้าในวันนี้ มิฉะนั้นเขาจะต้องชดใช้!”

“นั่นไม่ใช่เรื่องของเรา!” ชายผู้นั้นพึมพำและกล่าวอย่างไม่พอใจ “เขาเป็นหนี้ก็เก็บเงินที่เขาสิ ทำไมถึงต้องมาที่โรงหมอของเราด้วย”

หลี่ซื่อก้มศีรษะลงพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์น้อง ข้าไม่มีเงินแม้แต่เหรียญเดียว เจ้ารีบไปบอกท่านอาจารย์ แล้วขอให้เขามาช่วยข้า!”

“ข้าบอกแล้วว่าท่านอาจารย์ไม่อยู่!” ชายผู้นั้นหันกลับไปกล่าวกับหลี่ซื่อ และเปลี่ยนสีหน้าทันที “บอกแล้วว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่ามาหาท่านอาจารย์ ถ้าเกิดมีผู้ใดเห็นขึ้นมาจะไม่ดี”

“ศิษย์น้อง ข้าหาลูกค้ามากมายมาให้โรงหมอแห่งนี้ ท่านอาจารย์คงไม่ใช่คนที่เห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วยหรอก!” หลี่ซื่อกังวลเพราะกลัวว่าวันนี้เขาจะไม่ได้เงิน และกำลังเสียขาไปจริง ๆ

“คุยสนุกจัง เจ้าหาลูกค้าอย่างนั้นหรือ?” ชายหนุ่มยิ้มเยาะและเย้ยหยันว่า “การทำการค้า ใครต้องการให้เจ้าหาลูกค้ามาให้กัน ไสหัวไป ไสหัวไป อย่ามาทำให้กิจการของข้าต้องเสียเวลา”

คนผู้นั้นกล้าที่จะต่อกรกับอันธพาล แต่หลี่ซื่อพบบ่อยจึงไม่กลัวเขา เขาทำให้อันธพาลขุ่นเคืองและพาเข้ามาที่ร้านนี้ ถ้าท่านอาจารย์รู้ก็จะตำหนิเขาอย่างแน่นอน

“เจ้าไม่สนใจจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” เมื่อชายผู้นั้นเห็นว่าคนในโรงหมอแห่งนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะช่วยหรือสนใจหลี่ซื่อเลย “ไป พาเขาออกไป แล้วตัดขาที่สามของเขาออกมาให้ข้า”

โรงหมอแห่งนี้มีภูมิหลังเล็กน้อย คนผู้นั้นไม่ต้องการมีปัญหากับหมอเหลยเพราะหลี่ซื่อ

เมื่อหลี่ซื่อเห็นว่าคนผู้นั้นกำลังมา และเมื่อเขาเห็นว่าศิษย์น้องของเขาไม่ได้ช่วยเขาเลย เขาก็ตื่นตระหนกและตะโกนว่า “ศิษย์น้อง พวกเจ้าอย่ามองเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วยสิ! ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์…” หลี่ซื่อตะโกนเสียงดัง เมื่อคนในโรงหมอไม่สนใจเขาเลย เขาจึงถูกลูกน้องของชายผู้นี้ลากออกมา เขาตื่นตระหนกและตะโกนเสียงดังว่า “ท่านอาจารย์ ข้าพาคนไข้มามากมายมาให้ท่าน แล้วถ้าพาใครมาท่านก็ให้ข้าคนละยี่สิบตำลึงเงิน ท่านขาดคุณธรรมขนาดนี้เลยหรือ!”

ในโรงหมอยังมีคนไข้ที่รอรับยา เมื่อได้ยินที่หลี่ซื่อกล่าว พวกเขาก็รีบเงี่ยหูฟังและหันมองไปทางนั้น

ทั้งตัวของหลี่ซื่อเต็มไปด้วยฝุ่นจากการถูกทำร้าย ใบหน้าของเขาซีดเผือด เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดช่วยเขาจริง ๆ เขาก็โพล่งออกมา “ท่านอาจารย์ลืมไปแล้วหรือ? คราวที่แล้วข้าพาครอบครัวกู้มาจากหมู่บ้านอู๋ซี ข้าได้ยินว่าท่านได้รับหกร้อยตำลึงเงินจากคนผู้นั้น แล้วทำไมท่านถึงให้ข้าเพียงยี่สิบตำลึงเงิน นั่นเป็นผู้ที่ข้าพามาไม่ใช่หรือ!”

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ ในที่สุดนางก็เข้าใจ

เดิมทีหลี่ซื่อนี้เป็นนักต้มตุ๋น เมื่อเห็นว่ามีคนในครอบครัวของพวกนางได้รับบาดเจ็บ จึงเจาะจงมาพบพวกตน จากนั้นจึงพาพวกเขามาที่โรงหมอเถื่อนแห่งนี้ เพื่อหลอกเอาเงินจากพวกนาง!

*[1] ส่วนใหญ่จะใช้ในเรื่องตลกในหมู่เพื่อน ๆ ใกล้เคียงกับความหมายของ ‘โง่’ คนตัวใหญ่โง่เหมือนหมี หมีมักจะ ‘ช้า’ และบางครั้งก็ถูกสัตว์ตัวเล็กรังแก

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ในที่สุดเสี่ยวหวานก็รู้สักทีว่าตนเองโดนหลอกเข้าแล้ว

ไหหม่า(海馬)