ตอนที่ 272 มหาสงคราม 4
ตอนที่ 272 มหาสงคราม 4

“ทรยศ?!” ลูตี้รู้สึกราวกับกำลังดื่มด่ำแอลกอฮอล์ที่ขมขื่น ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายออกไปอย่างไร

“ฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา จะกล้าทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?!”

“ธรรมดา? ฮ่า ๆ! แต่ยาปลุกเซ็กส์ของคุณมันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ธรรมดาเลยสักนิด!”

ยาปลุกเซ็กส์ไม่ใช่ยาธรรมดาทั่วไปที่ผู้คนจะมีไว้ครอบครองได้!

จะต้องมีความใกล้ชิดกับตลาดมืดอย่างแน่นอน

ลูตี้ถูกเค้นให้สารภาพภายใต้การทรมาน แล้วจึงสารภาพออกมาว่าพ่อบุญธรรมคนก่อนคือผู้ใต้บังคับบัญชาของสวี่รุ่ยอวิ๋น

ไม่ใช่พ่อบุญธรรมของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ฝ่ายเดียวกับสวี่รุ่ยอวิ๋น แต่ยังมีคนอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่

แหล่งข่าวที่ได้รับมาสามารถบรรยายได้เพียงแต่ความตกตะลึง

กล่าวได้ว่าองค์ชายรองซ่อนตัวลึกอยู่พอสมควร…

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูทั้งห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบ เธอจึงโทรศัพท์หาผู้เป็นพ่อผ่านคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์

สวี่เทียนอวี๋เห็นว่าคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ดังขึ้น และตัดสายทิ้งโดยไม่กล่าวอะไร

สวี่หลิงอวิ๋นกดโทรหาเขาอีกครั้งโดยไม่รอให้ผู้เป็นพ่อรับสาย ก่อนจะเธอส่งพลังจิตออกไป “ห้ามตัดสายลูก!”

สวี่เทียนอวี๋ค้นพบว่าคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ของเขาถูกเชื่อมต่ออีกครั้ง และร่างของลูกสาวก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน

“หลิงอวิ๋น ทำไมถึงได้ซนแบบนี้? รีบกลับไปพักผ่อนซะ!” สวี่เทียนอวี๋จ้องมองลูกสาว ตลอดสองวันที่ผ่านมาหลิงอวิ๋นคงจะตกใจกลัวมากเลยใช่ไหม?

ดูสิว่าหน้าของเธอซูบลงขนาดไหน!

“เสด็จพ่อ!” สวี่หลิงอวิ๋นเหลืออด ทำไมเสด็จพ่อถึงเอาแต่มองว่าเธอเป็นเด็ก?

“ลูกจะอาสานำทัพออกไปเอง” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว “ในเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะลูก เพราะงั้นลูกจะรับผิดชอบมันเอง”

“โอ้ ลูกรัก! การไปสนามรบมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ลูกยังเด็ก สิ่งสำคัญคือการไปโรงเรียน! ทำตัวให้ว่านอนสอนง่ายหน่อย! พ่อจะประสาทเสียอยู่แล้ว!”

ท้ายที่สุด สวี่เทียนอวี๋กำลังจะวางสายจากคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์

“ไม่!” สวี่หลิงอวิ๋นใช้พลังจิตควบคุมมือของสวี่เทียนอวี๋ไม่ให้กดวางสาย

“อ๊ะ?!” สวี่เทียนอวี๋ตกตะลึง ใครควบคุมมือของเขากัน?!

“เสด็จพ่อ อย่าเพิ่งมองมา ลูกทำมันเอง!” สวี่หลิงอวิ๋นสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ “ความแข็งแกร่งของลูกพัฒนาขึ้นแล้ว!”

“พัฒ? พัฒนา?!” สวี่เทียนอวี๋ตกตะลึง จ้องมองลูกสาวในวิดีโอ “ข่าวดีน่ะสิ ลูกกลายเป็นแปดดาวแล้ว?! ฮ่า ๆๆ!”

“ลูกสาวของเราคืออัจฉริยะ!”

ผู้คนทั้งหลายจ้องมองจักรพรรดิเงียบ ๆ ใบหน้าที่เคร่งขรึมก่อนหน้านี้กำลังหัวเราะพูดคุยและสรรเสริญลูกสาวของตนเอง!

“ไม่! ลูกเลื่อนขั้นไปเก้าดาวต่างหาก!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว ขณะที่ควบแน่นมีดขนาดเล็กในมือ

มีดขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสวี่หลิงอวิ๋นเริ่มขยายใหญ่ออกมาขึ้นเรื่อย ๆ จนดาบเลเซอร์ขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นเหนือพระราชวงศ์ทั้งหลัง

“นี่! นี่มันคือระดับ 9 ดาว! 9 ดาวจริง ๆ ด้วย!”

กว่าสาวใช้และองครักษ์ทั้งหลายจะตอบสนองอะไร ดาบเลเซอร์ขนาดมหึมาก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือพระราชวงศ์เสียแล้ว

“มีแค่ระดับ 9 ดาวเท่านั้นที่สร้างดาบขนาดใหญ่ได้!” องครักษ์รู้สึกตกตะลึง กดส่งสัญญาแจ้งเตือนในมือของพวกเขาจนดังระงม พระราชวังทั้งหลายถูกปิดกั้นไม่ให้มีใครสามารถเข้าออกได้ในทันที

“ข้าศึกกำลังมา”

องครักษ์เดินไปที่ประตูห้องประชุมและรายงานสถานการณ์ภายนอกด้วยความประหม่า

“กลับไปซะ นั่นองค์หญิงสาม! เธอเพิ่งเลื่อนขั้นไประดับ 9 ดาว!”

จักรพรรดิถึงกับหลั่งน้ำตา

ราชวงศ์ทั้งหลายต้องใช้ระยะเวลากี่ปีถึงจะสามารถสร้างอัจฉริยะที่ไร้ที่ติขึ้นมาได้? แม้แต่แลนเซล็อตกับโอคาซียังเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 9 ดาวเมื่อตอนอายุยี่สิบหกปีไม่ใช่เหรอ?

แต่ลูกสาวของเขาอายุเพียงแค่สิบแปดปีเท่านั้น!

นายพลทั้งหลายรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าองค์หญิงสามเป็นผู้มากพรสวรรค์ มุมปากของพวกเขายกขึ้นและเผยให้เห็นรอยยิ้ม

“เยี่ยม! เยี่ยมเลย! จักรวรรดิชิงเหย้าของเรารอดตายแล้ว!”

“องค์หญิงสามช่างน่าทึ่งเหลือเกิน! สมกับเป็นสุดยอดอัจฉริยะ!”

“ถึงจะรู้ว่าองค์หญิงสามเป็นคนเก่งกาจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!”

เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขารู้สึกว่าองค์หญิงสามเก่งพอแล้ว ทว่าองค์หญิงสามกลับทำให้พวกเขาประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

จักรวรรดิเอเดนบอกว่าองค์ชายรัชทายาทของพวกเขายอดเยี่ยมอย่างนั้นหรือ? แต่องค์หญิงของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าอีก!

โดยเฉพาะจอมพลก็อดวินที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

ดูนี่สิ ว่าที่ลูกสะใภ้ของตระกูลแอนดรูว์! หึหึ! ในอนาคนตระกูลแอนดรูว์จะมีระดับ 9 ดาวถึงสองคน และอาจจะกลายเป็นระดับ 10 ดาวทั้งสองคน!

ตระกูลไหนจะมีระดับ 10 ดาวบ้าง หึหึ! จะต้องกลายเป็นตระกูลทรงอิทธิพลอย่างแน่นอน!

ไคกีจ้องมองดาบเลเซอร์ขนาดมหึมาที่ลอยตัวอยู่บนฟากฟ้า ขณะที่ความวิตกกังวลก่อขึ้นในหัวใจของเขา สัญญาแจ้งเตือนดังขึ้น แต่ทันใดนั้นมันกลับเงียบลงภายในสามนาที

จากนั้นองค์หญิงสามก็ทะลุทะลวงไปจนถึงระดับ 9 ดาว ข่าวดังกล่าวแพร่กระจายตัวไปทั่วทั้งพระราชวังจนยกระดับความรู้สึกของคนทั้งหลาย!

“เสด็จพ่อ! ลูกมีอะไรจะพูดหน่อยเพคะ! ตอนนี้ลูกนำกองทัพออกไปได้หรือยังเพคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นทำอะไรไม่ถูก นอกจากใช้พลังจิตสัมผัสมือของพ่อ “หยุดหัวเราะได้หรือยังเพคะ? เสด็จพ่อ!”

“อ๊ะ? ได้ ๆ!” สวี่เทียนอวี๋ยิ้มแย้มขณะจ้องมองลูกสาว “ลูกรัก ลูกเพิ่งเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 9 ดาว เพราะงั้นจะต้องป้องกันตนเองให้ดี เพื่อที่ลูกจะได้เลื่อนขั้นเป็นระดับ 10 ดาวเร็ว ๆ เข้าใจไหม?”

“จนกว่าลูกจะเลื่อนขั้นไปถึง 10 ดาวได้ ลูกรัก อย่ามาพูดเรื่องนำกองทัพออกไปสู้รบอีก แล้วพ่อจะมอบบัลลังก์ให้ลูก!”

“พ่อ! ลูกจะเอาบัลลังก์ไปทำอะไร? ลูกไม่อยากเหนื่อยกับการต้องขึ้นครองราชย์หรอกเพคะ!” สวี่หลิงอวิ๋นกลอกตา “เสด็จพ่อ ลูกตัดสินใจแล้วว่าจะไปสนามรบ!”

“ถ้าเสด็จพ่อให้ลูกนำกองทัพมันก็คงจะดี แต่ถ้าไม่ ลูกก็ไม่มั่นใจว่าหากจะมีแม่ทัพคนไหนเต็มใจให้ลูกเข้าร่วมหรือเปล่า!”

ทันทีที่กล่าวเช่นนั้น จักรพรรดิก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรอีก มีเพียงนายพลทั้งหลายด้านล่างที่เริ่มพูดคุย

“โอ้ ฝ่าบาทอยากเข้าร่วมกองทัพของกระหม่อมไหมพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมขอสัญญาว่าจะให้ท่านเป็นผู้นำกองทัพแต่เพียงผู้เดียว และรับรองได้ว่าทหารทั้งหมดอยู่ในระดับมากกว่า 6 ดาว! คิดว่ายังไงพ่ะย่ะค่ะ?!”

“ไร้สาระ! ฮึ่ม! ถ้าองค์หญิงสามเต็มใจจะเข้าร่วมกับกระหม่อม กระหม่อมจะมอบตำแหน่งพลทหารให้กับองค์หญิงสาม!”

“พูดไปเรื่อย! องค์หญิงสามจะต้องการตำแหน่งพลทหารไปทำไม? พวกคุณไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไง? มาหากระหม่อมดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ! กองทัพทหารของกระหม่อมที่มีแต่ชายหนุ่มรูปหล่อมีชื่อเสียง รับรองได้ว่าท่านจะไม่รู้สึกวิงเวียนศีรษะและเหนื่อยล้าสายตาทุกวันแน่นอน!”

“ไร้สาระกันทั้งเพ! องค์หญิงสามต้องการเข้าร่วมกองทัพทหารของตระกูลแอนดรูว์ต่างหากล่ะ!”

เดิมทีก็อดวินนั่งฟังด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อยิ่งฟังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกนายพลเหล่านี้ไร้ยางอายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ!

ก็อดวินเยาะเย้ยคนเหล่านั้นด้วยการหันศีรษะไปถามภาพฉายขององค์หญิงสาม “โอ้ องค์หญิงสาม มันคงจะดีไม่น้อยถ้าฝ่าบาทเต็มใจจะเข้าร่วมกองทัพตระกูลแอนดรูว์ของเรา ท่านมาเป็นผู้บังคับบัญชาร่วมกับโอคาซีดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?!”

สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองชายชราผู้เป็นพ่อของโอคาซีที่ต่อสู้ร่วมกันมา

ขณะครุ่นคิดในใจ ลูกชายของท่านยังทะเลาะกับฉันอยู่เลย ถ้าเกิดฉันออกไปสู้รบพร้อมกับเขาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ยังไม่ไปเสียจะดีกว่า!