บทที่ 266 ถูกหลอก

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

“คุณหนู!” ร่างกายของเฉียวเสวี่ยอิงสั่นสะท้านพร้อมกับรีบหันกลับไปมองด้านหลังโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วนางกลับไม่เห็นใครอยู่เลย

ซูอันกำลังรอโอกาสนี้มาโดยตลอด เขาจงใจลากบทสนทนาไปยืดยาว เพื่อให้เฉียวเสวี่ยอิงลดความระมัดระวังของนางลงเพื่อสร้างโอกาสโจมตี

โดยไม่ลังเลใด ๆ เขาพุ่งเข้าไปเสียบแท่งพิษที่กลางหลังของเฉียวเสวี่ยอิง ชายหนุ่มไม่ได้แสดงความเมตตาใด ๆ ในครั้งนี้ แม้ว่าการปล่อยให้คนสวยตายไปแบบนี้ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่เขารู้ดีว่าเหตุผลที่นางเข้ามาในมิติลับนี้ก็เพื่อปลิดชีพเขา ด้วยระดับการบ่มเพาะระดับที่ห้าของนาง ความเมตตาใด ๆ อาจเป็นหนทางสู่ความตายของเขาเอง!

‘เพลงกระบี่ปราบมาร’ นั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากและเมื่อบวกกับการที่ซูอันสร้างความประหลาดใจให้นาง แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับเฉียวเสวี่ยอิง ก็ไม่สามารถหวังที่จะหลบเลี่ยงมันได้

ฉึก!

เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่

ซูอันสามารถทะลวงมีดสั้นของเขาเข้าไปในร่างกายของเฉียวเสวี่ยอิงได้ตามที่หวัง! อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ดูโล่งใจเลย เพราะมีบางอย่างแปลก ๆ กับความรู้สึกที่มือซึ่งกำแท่งพิษเอาไว้

ตามที่เขาคาดไว้ ทันใดนั้นจู่ ๆ แสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นที่กลางหลังของ ‘เฉียวเสวี่ยอิง’ และชั่วพริบตาต่อมาทั้งร่างของนางก็แปรสภาพเป็นดอกไม้ที่กระจายไปในอากาศ และจากนั้นร่างของเฉียวเสวี่ยอิงตัวจริงก็ยืนอยู่ห่างออกไปหลายจั้ง และจ้องมองมาที่เขาด้วยสีหน้าเดือดดาลสุดขีด

ในทันทีที่นางหันหลังกลับและไม่เห็นใครเลย นางก็รู้ว่าตัวเองได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ความคิดแรกเริ่มของนางคือการใช้เกราะพลังชี่เพื่อป้องกันการโจมตีที่กำลังจะเข้ามาแน่ ๆ แต่สัญชาตญาณเตือนนางว่าแค่นั้นมันยังไม่พอ! การโจมตีที่นางกำลังจะเผชิญนั้นมันอันตรายถึงชีวิตต่อให้นางจะใช้เกราะพลังชี่แล้วก็ตาม!

นางไม่เข้าใจว่าทำไมซูอันสามารถทำให้นางรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ แต่นางก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยหันไปใช้ทักษะต้องห้ามที่นางสามารถใช้ได้เพียงสามครั้งในชีวิตของนางเท่านั้น ภาพสะท้อนแห่งจันทรา! ทักษะนี้สามารถถ่ายเทความเสียหายที่นางได้รับไปยังดอกไม้!

“เจ้าทำให้ข้าต้องใช้ภาพสะท้อนแห่งจันทราไปโดยเปล่าประโยชน์!” เฉียวเสวี่ยอิงตะโกนเสียงดังลั่น

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!

ต้องรู้ว่าทักษะ ภาพสะท้อนแห่งจันทรา เป็นทักษะไพ่ตายของนาง! นางเคยตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายหลายครั้งนับตั้งแต่ยังเด็ก แต่นางก็ไม่เคยยอมใช้ภาพสะท้อนแห่งจันทราสักครั้ง นางรู้ว่าทักษะต้องห้ามนี้สามารถช่วยนางได้เพียงสามครั้งจากคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังกว่าซึ่งนางคงไม่เอาตัวเข้าไปสู้ด้วยหากไม่เข้าตาจน ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงเห็นว่ามันมีค่ามาก

แต่ตอนนี้ นางเสียมันไปให้กับชายที่นางไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่ามดตัวหนึ่ง!

แม้ว่านางจะร้องโวยวาย แต่ก็ไม่มีใครตอบนาง ซูอันได้หันหลังหนีกลับเข้าไปในป่าไปแล้วและเพียงครู่เดียวร่างของเขาก็หายไปกับป่าที่รกทึบ

ในที่สุดเฉียวเสวี่ยอิงก็เข้าใจว่าอันที่จริงซูอันจำนางได้ตั้งแต่แรก และเขาแค่แสร้งทำให้นางลดความระมัดระวังลงเพื่อที่จะฆ่านาง

นางวางแผนที่จะหลอกซูอัน แต่กลับกลายว่านางเป็นคนโง่เสียเอง นางโกรธและอับอายจนแทบจะเป็นบ้า!

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!

นางรีบไล่ตามเขาทันที ตั้งใจจะสับไอ้เวรนี่ให้เป็นชิ้น ๆ เพื่อระบายความโกรธของนาง

ซูอันพยายามวิ่งหนีให้เร็วที่สุด ในขณะที่เขาตระหนักได้ว่าแม้เขาจะใช้ วิชาร่างก้าวทานตะวัน เขาก็ยังไม่สามารถเอาชีวิตเฉียวเสวี่ยอิงได้ และถ้าไม่ใช่เพราะภูมิประเทศที่ซับซ้อนในป่า เขาคงถูกจับได้ไปนานแล้ว

หลังจากวิ่งไปพักหนึ่ง ซูอันก็ใช้โอกาสที่เขายังอยู่ในจุดบอดของนางปีนขึ้นไปบนต้นไม้และปกปิดกลิ่นอายของเขา โดยหวังว่านางจะหาไม่พบ

เฉียวเสวี่ยอิงไล่ตามมาจนถึงบริเวณที่นางสัมผัสได้ว่าซูอันหายไปจากจุดนี้ นางผ่อนฝีเท้าลงและเดินช้า ๆ อย่างสบาย ๆ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ซูอัน ข้ายอมรับอย่างใจจริงเลยว่าสมองของเจ้าไม่ธรรมดาเป็นอย่างมากที่สามารถทำให้ข้าพลาดท่าได้ถึงขนาดเมื่อครู่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าพลาดอย่างมหันต์ก็คือการวิ่งเข้ามาในป่าแห่งนี้!”

ซูอันตกตะลึง การใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศของป่าทำให้เขาสามารถกำจัดเจียเจิ้งจิ่งและคนอื่น ๆ ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงพยายามทำเหมือนเดิมตามสัญชาตญาณ

“เจ้าลืมไปแล้วงั้นเหรอว่าธาตุที่ข้าใช้มันคืออะไร?”

เฉียวเสวี่ยอิงยกมือขึ้น และใบไม้บนพื้นก็เริ่มเคลื่อนไหว ใบไม้ที่อ่อนปวกเปียกจู่ ๆ แข็งแกร่งราวกับเหล้กกล้าและคมราวกับมีดโกนขึ้นมาทันตา และจากนั้นพวกมันก็พุ่งตรงไปยังที่ที่ซูอันซ่อนตัวอยู่!

ชายหนุ่มกระโดดลงจากต้นไม้ทันทีเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายพบเขาเข้าแล้ว เขาจ้องมองนางด้วยความประหลาดใจในขณะที่ถามว่า “เจ้าสัมผัสได้ถึงข้างั้นเหรอ?”

เฉียวเสวี่ยอิงไม่ได้รีบเคลื่อนไหว “ต้นไม้และหญ้าทุกต้นในป่านี้คือตาและหูของข้า เจ้าจะไปซ่อนที่ไหนได้?”

สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไป ถ้าสิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริง มันก็หมายความว่าเขาเป็นคนทำให้ตัวเองจนมุมโดยเลือกที่จะหนีเข้ามาในป่านี้ อย่างไรก็ตาม เขายังพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าผู้ใช้ธาตุไม้จะมีพลังมากถึงขนาดนั้น แต่อย่างน้อยที่สุด เขายังไม่เคยเห็นผู้บ่มเพาะธาตุไฟคนใดเรียกลาวาจากใต้ดินขึ้นมาได้

“ก่อนหน้านี้เจ้าทำอะไรกับข้า? ทำไมข้าถึงได้เจ็บปวดแทบขาดใจตายแบบนั้น?” เฉียวเสวี่ยอิงถาม

นี่เป็นคำถามที่กวนใจนางมาตลอด เมื่อพิจารณาจากระดับการบ่มเพาะที่ต่างกัน การโจมตีของซูอันไม่มีทางทำลายการป้องกันของนางได้

“เจ้าอยากรู้เหรอ? เรียกข้าว่าพี่ใหญ่ซูก่อนสิ แล้วข้าจะบอกเจ้า” ซูอัน ตอบอย่างไม่จริงจ้ง

อย่างไรก็ตาม สมองของเขากำลังประมวลผลอย่างรวดเร็ว เขากำลังหาวิธีหลบหนีจากสถานการณ์นี้

สีหน้าของเฉียวเสวี่ยอิงบูดบึ้งลง “แม้จะไม่ได้เจอกันนาน แต่เจ้าก็ยังหน้าด้านเหมือนเดิม!”

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +400!

ซูอันถอนหายใจ “ไม่ได้เจอกันนาน แต่ปากเจ้าก็ยังเหม็นเหมือนเดิม!”

เฉียวเสวี่ยอิงพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา นางค่อย ๆ สะบัดนิ้วขึ้น และใบไม้บริเวณรอบ ๆ ก็เริ่มลอยวนเวียนรอบ ๆ ร่างกายของนาง “ข้าจะตัดแขนและขาของเจ้า ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าหลังจากพิการเจ้าจะยังพูดจากวนประสาทได้อีกมั้ย?!”

ด้วยการโบกมือของนาง ใบไม้ที่คมราวกับมีดโกนเหล่านั้นก็พุ่งเข้าหาแขนขาของซูอันทันที มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือล้ำจนดูเหมือนว่าจะมาถึงเขาในชั่วพริบตา…

ซูอันเค้นพลังทั้งหมดหลบใบไม้เหล่านั้นอย่างรวดเร็วจนเห็นเงาของเขาเป็นภาพติดตา เหงื่อเย็นผุดเต็มหลังของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะวิชาร่างก้าวทานตะวัน การโจมตีก่อนหน้านี้คงทำให้เขาพิการไปแล้วแน่นอน!

เมื่อรู้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ถ้าเขายังคงเอาแต่ป้องกัน เขาจึงเริ่มพุ่งเข้าหาเฉียวเสวี่ยอิง โดยหวังว่าจะยับยั้งการโจมตีของนางได้บ้าง เขาได้เปลี่ยนไปใช้กระบี่แล้ว เขาเก็บแท่งพิษไว้ใช้ในช่วงเวลาวิกฤติเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่ามันเป็นไพ่ตายของเขา มิฉะนั้น มันจะยากขึ้นมากสำหรับเขาที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ ถ้าอีกฝ่ายเริ่มระมัดระวังตัวจากมัน

“หืม?”

ทักษะการเคลื่อนไหวของซูอันนั้นแปลกประหลาดมากจนเฉียวเสวี่ยอิง ไม่สามารถเข้าใจได้ นางเลือกที่จะถอยห่างออกมา แต่กระบี่ของซูอันยังคงไล่ตามนางมาติด ๆ ไม่ปล่อยให้นางหนีไปได้โดยง่าย

นางโบกมืออย่างเย็นชา ใบไม้ที่พื้นลอยขึ้นมาล้อมรอบตัวนางอีกครั้งราวกับผีเสื้อที่กำลังร่ายรำ ปิดกั้นการโจมตีจากซูอัน

ซูอันพยายามโจมตีนางจากมุมที่ต่างกัน แต่เขาไม่สามารถเจาะการป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นจากกำแพงใบไม้เหล่านี้ได้…