ตอนที่ 189

Earth’s Best Gamer

ตอนที่ 189

จิวแป๊ะทงนั้นไร้เดียงสาและมีความอยากรู้อยากเห็นในชีวิตของเขามาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสิ่งของและศิลปะการต่อสู้ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ในหุบเขาร้อยเกสรในตอนกลางวัน หลังจากที่จีเยีและหยางกัวเชิญเขาไปพบกับใครบางคน ขาก็พบว่าพวกเขาหมายถึงใครและอยากจะวิ่งหนีไปทันที

แต่หยางกัวพยายามทําให้เขาสนใจด้วยฝ่ามือเศร้าโศกมรณะที่เซียวเหล่งนึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อให้จิเย่สามารถบอกข้อมูลแก่เขาได้

คนทั่วไปอาจไม่สามารถบอกที่มาของพลังกลิ่นอายมังกรที่จีเยี่ปลดปล่อยออกมาได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชั้นนําอย่างจิวแป๊ะทงกับอิดเต็งที่น่านับถือสามารถทําได้อย่างแน่นอนที่สําคัญกว่านั้นห้องของจิวแป๊ะทงก็อยู่ตรงข้ามห้องโฟง

ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาในตอนที่เห็นจีเยบินออกจากห้องของตัวเอง

“ เฒ่าทารก!”

เมื่อเห็นว่าเฒ่าทารกออกจากห้อง จีเยู่ก็ควบแน่นกลิ่นอายมังกรสีขาวใต้เท้าและเก็บไว้ในร่างกายของเขา

“น้องชายจี นายสอนเทคนิคสร้างมังกรให้ฉันที และฉันจะสอนเทคนิคที่นายจะสามารถสู้กับตัวเองได้ฟังดูเป็นไงบ้าง?”

หลังจากเฝ้าดูสิ่งที่จีเยีทํา จิวแป๊ะทงก็ดูเหมือนจะถูกล่อลวงมากยิ่งขึ้น

“เทคนิคนี้มีลักษณะเฉพาะตัว คุณไม่สามารถเรียนรู้มันได้ อย่างไรก็ตาม ฉันมีเทคนิคที่คล้ายคลึงกันที่สามารถแลกเปลี่ยนกับคุณได้เฒ่าทารก!”

จีเยยิ้มออกมาหลังจากเขาลงมาบนพื้น

จากนั้นเขาก็บอกเฒ่าทารกเกี่ยวกับความรู้เรื่องกลิ่นอายต่อสู้!

“ห้ะ? น่าสนใจ! น่าสนใจ! ฉันไม่รู้ว่ามีเทคนิคเช่นนี้อยู่ด้วยเลย!”

กลิ่นอายต่อสู้ค่อนข้างคล้ายกับกลิ่นอายมังกรในระดับหนึ่ง เฒ่าทารกจึงค่อนข้างกระตือรือร้น

ฮ่ม!

ในขณะที่ฟังจีเย่ เขาก็พยายามฝึกฝนมัน หลังจากผ่านมาสักพักหนึ่งแสงโปร่งใสที่เป็นตัวแทนของกลิ่นอายต่อสู้ก็เปล่งประกายออกมาจากกึ่งกลางหว่างคิ้วของเขา!

“ห้ะ?”

จีเย่ค่อนข้างประหลาดใจ

ในสนามรบแห่งโชคชะตา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเทคนิคที่ใครบางคนสอนให้กลายเป็นสกิลของตัวเองด้วยแต้มเกียรติยศ

นอกจากนี้จิวแป๊ะทงผู้ที่เป็นภาพฉายในสนามรบแห่งโชคชะตาก็ไม่สามารถมีแต้มเกียรติยศได้

แต่ในความคิดที่สอง จีเย่ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

ด้านหนึ่ง เขาได้ผสาน กลิ่นอายมังกร กับ “ตัวเอง และเขาก็ได้นํากลิ่นอายต่อสู้เข้าไปผสานด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ความเข้าใจในกลิ่นอายต่อสู้ของเขาจึงพัฒนาไปสูงยิ่งขึ้น และเขาก็ได้สร้างวิธีบ่มเพาะกลิ่นอายต่อสู้สําหรับมนุษย์ขึ้นมา

ในทางกลับกัน กลิ่นอายต่อสู้ของมนุษย์อินทรีนั้นเป็นกหารหลอมรวมระหว่างพลังภายในกับพลังจิต

แม้ว่าเฒ่าทารกะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ เทคนิคที่เขาฝึกฝนก็เป็นของสํานักเต๋ และพวกเขาก็ยังเน้นไปที่พลังภายในและพลังจิต

นอกจากนี้ เฒ่าทารกก็ไไม่เพียงแค่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของสํานักเตเท่านรั้น พลังภายในของเขายังขึ้นอยู่กับพรสูตรเก้าหยินซึ่งเป็นเทคนิคที่หวงซางได้เรียนรู้จากลัทธิเต๋คลาสสิกแะมีเทคนิคการโจมตีทางจิตอย่างการถ่ายโอนวิญญาณ!

ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะจินตนาการว่าจิวแป๊ะทงไม่เพียงแค่มีพลังภายในระดับวิสามัญ แต่ยังมีพลังจิตคที่สูงกว่าระดับวิสามัญอันดับ 5 มันจึงง่ายมากสําหรับเขาที่จะบ่มเพาะกลิ่นอายต่อสู้บนรากฐานนั้น!

เหตุผลที่เฒ่าทารกฟังการตีความของจีเยู่ในขณะที่ฝึกฝนเทคนิคนั้นก็เพราะเขาได้สร้างเทคนิคเฉพาะตัวออกมา

“ฮ่าๆๆ ในตอนที่ฉันติดอยู่ที่เกาะดอกท้อโดยมารหวง ฉันเหงามาก ฉันจึงปล่อยให้มือซ้ายและมือขวาของฉันต่อสู้กันเองจากนั้นฉันก็สร้างเทคนิคที่น่าสนใจนี้”

หลังจากการรวบรวมกลิ่นอายต่อสู้บางส่วน จิวแป๊ะทงก็ภูมิใจที่จะบอกกับจีเย่เกี่ยวกับเทคนิคการต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวาที่เขาคิดค้นขึ้นมา

การต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา

[ระดับ : วิสามัญ]

[ขั้น : เหนือชั้น (หายาก)]

[รายละเอียด : นี่คือสุดยอดเทคนิคของ“เฒ่าทารก”จิวแป๊ะทงผู้ที่มีพรสวรรค์เท่านั้นที่จะเข้าใจมันได้หลังจากเข้าใจแล้วเราจะสามารถทํางานได้อย่างพร้อมเพรียงกันและใช้เทคนิคต่างๆ ด้วยมือทั้งสองข้างได้!]

การทํางานหลายอย่างพร้อมกันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จิวแป๊ะทงสามารถเข้าใจกลิ่นอายต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว

เขาสามารถฝึกฝนมันพร้อมกับฟังการตีความของจีเย่

สําหรับจีเย่ เทคนิคนี้นั้นสําคัญยิ่งกว่า

หากเขาสามารถเข้าใจ การต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา ได้จริง เขาจะสามารถโจมตีศัตรูได้ด้วยศิลปะเก้าหยางศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขาซุ่มโจมตีพวกมันจากด้านหลังด้วยดาบมังกรหยก

นอกจากนี้ยังหมายความว่าเขาสามารสร้างภาพลวงตาด้วยไข่มุกมังกรลวงตาในขณะที่โจมตีด้วยมันหรือสั่งวิญญาณราชาหมาป่า ในขณะที่จัดการกับศัตรูด้วยกลิ่นอายมังกร!

ด้วยการผสมผสานวิธีการต่างๆ ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาจะเพิ่มเป็นสองเท่าได้อย่างง่ายดาย!

ยิ่งไปกว่านั้น เทคนิคนี้ยังเป็นเพียงเวอร์ชั่นระดับวิสามัญที่อ่อนแอในสนามรบแห่งโชคชะตาเท่านั้น

อันที่จริง ย้อนกลับไปในนิยายต้นฉบับ เมื่อความเชี่ยวชาญในเทคนิคนี้ถึงระดับที่เหมาะสม พวกเขาจะสามารถคัดลอกความคอกของพวกเขาไปยังร่างโคลนได้หลายตัว!

“ขั้นแรกในการฝึกฝนการต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวาก็คือการวาดวงกลมด้วยมือซ้ายและสี่เหลี่ยมด้วยมือขวาของนายในเวลาเดียวกันนายต้องทําให้เสร็จในหนึ่งนาที!”

พลังจิตของจีเย่อยู่สูงกว่าระดับวิสามัญอันดับ 5 แล้ว นอกจากนี้ทรัพยากรทั้งหมดที่เขาใช้ไปเขาก็เกือบจะมีความจําที่น่าทึ่งในปัจจุบัน

หลังจากจิวแป๊ะทงอธิบายรายละเอียดเทคนิคแล้ว เขาก็จดจําเนื้อหาและเคล็ดลับของเทคนิคและเปลี่ยนมันเป็นสกิลของเขา

อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับจิวแป๊ะทงผู้ที่ได้รับกลิ่นอายต่อสู้หลังจากการฝึกฝนเพียงครู่เดียว แม้ว่าจิเย่จะพยายามอย่างหนัก แต่เขาก็ล้มเหลวในการทําขั้นแรกของการต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวาให้สําเร็จวาดวงกลมด้วยมือซ้ายและสี่เหลี่ยมด้วยมือขวาของนาย”หลังจากฝึกฝนหนึ่งชั่วโมง

“น้องชายจี มันยากเกินไปสําหรับนายเหรอ?”

ถึงตอนนี้ เฒ่าทารกยังกสามารถปกคลุมกําปั้นของเขาได้ด้วยกลิ่นอายต่อสู้สีเทาโปร่งใสได้แล้ว!

เขาค่อนข้างแปลใจที่เห็นว่าจีเยยังคงวาดวงกลมและสี่เหลี่ยม

จีเย่ดูเหมือนจะเขินอายมากยิ่งขึ้น

มันเป็นความจริงที่เขาไม่สามารถเรียนรู้ การต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา” ได้เอย่างรวดเร็ว

“การต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา” เป็นเทคนิคพิเศษขั้นเหนือชั้นน เช่นเดียวกับ นักทํานายที่แท้จริง” ของเอี้ยนชิง

มันขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของแต่ละคนว่าพวกเขาจะเข้าใจเทคนิคนี้ได้มากเพียงใด

อันที่จริง เทคนิคนี้ยากกว่า “นักทํานายที่แท้จริง สําหรับผู้เริ่มต้น “วาดวงกลมด้วยมือซ้ายและสี่เหลี่ยมด้วยมือขวาของนายในเวลาเดียวกันไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับผู้ที่ไม่เคยฝึกฝนมาก่อน

นั่นก็เป็นเพียข้อกําหนดพื้นฐานที่สุดเช่นกัน ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไหร่ ข้อกําหนดก็จะยิ่งยากยิ่งเท่านั้น

ในนิยายต้นฉบับ ผู้ที่มใจบริสุทธิ์และไม่ซับซ้อน เช่น ก๊วยเจ๋งและเซียวเหล่งนึ่งมีแนวโน้มที่จะเข้าใจการต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา”ในขณะที่หวงหรงผู้ที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดนหนังสือนั้นไม่สามารถเรียนรู้มันได้

“แค่กๆ!”

จีเยต้องยอมรับว่าเขานั้นน่าจะฉลาดมากเกินไป

ท้ายที่สุด เขาก็มีคะแนนสูงที่สุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองหยาง เขาไม่ได้โง่เกินไปที่จะเข้าใจอย่างแน่นอน

อืม ต้องเป็นแบบนั้น!

“ใช่แล้วน้องชายจี ดูเหมือนว่านายจะไม่สามารถปล่อยให้มือซ้ายและมือขวาของนายต่อสู้กันเองได้เราจะทํายังไงดี?”

จิวแป๊ะทงเกาหัวและกล่าวอย่างเชื่องช้า

“ฉันได้เรียนรู้เทคนิคที่นายสอนฉันแล้ว แต่ฉันไม่สามารถตอบแทนนายได้ในตอนนี้”

“งั้นฉันจะสอนเทคนิคหมัดที่ฉันสร้างขึ้นบนเกาะดอกท้อให้กับนาย นายสามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้ด้วยเทคนิคนี้แม้ว่าพลังภายในของนายจะต่ํากว่า”

“ฉันสร้างเทคนิคนี้ขึ้นมาเพราะฉันคิดว่าพลังภายในของฉันอ่อนแอเกินไปสําหรับมารหวง มันช่วยฉันเอาชนะเขาได้แม้ว่าฉันจะอ่อนแอกว่า!”

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เฒ่าทารกก็ตบหัวและคิดหาทางแก้ไข

“เทคนิคหมัด?”

ดังนั้นในตอนที่ใกล้รุ่งสาง เทคนิคใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนแถบสกิลของจีเย่

[หมัดแสงว่างเปล่า]

[ระดับ : วิสามัญ]

[ขั้น : เหนือชั้น]

[รายละเอียด : นี่คือเทคนิคหมัดที่ละเอียดอ่อนที่สุดในโลกที่จิวแป๊ะทงสร้างขึ้น มันโจมตีศัตรูยังจุดที่อ่อนแอที่สุดและชดเชยข้อบกพร่องของคุณ!]

มันเป็นเทคนิคขั้นเหนือชั้นอีกหนึ่งเทคนิค

นอกจากนี้ เช่นเดียวกับ การต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา เทคนิคนี้ยังมีคุณสมบัติระดับเหนือธรรมชาติในนิยายต้นฉบับ

เนื่องจากทักษะหมัดยนั้นละเอียดอ่อนมาก หลังจากเฒ่ามารกเข้าใจเทคนิคที่ดีที่สุดแล้ว เขาก็สามารถสลายการโจมตีพลังภายในของศัตรูในทุกคุณลักษณะด้วยเทคนิคนี้

จีเยคิดว่าหากเขาสามารถพบวิธีพัฒนาเทคนิคนี้ให้เป็นขั้นสมบูรณ์ด้วยการผสานได้ เขาอาจจะได้รับ “พลังหมัด”ระดับเหนือธรรมชาติที่สามาถรต้านทานการโจมตีด้วยการโจมตีพลังภายในทุกคุณลักษณะได้

ด้วยวิธีนี้ หมัดของเจขาจะสามารถทําลายทุกการโจมตีที่พุ่งเป้ามาที่เขา!

หมัดแสงว่างเปล่ามีประโยชน์กับเขาเท่ากับการต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา

“อย่างไรก็ตาม เฒ่าทารก นี่ควรจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม คุณสอนฉันเรื่อง “การต่อสู้ระหว่างมือซ้ายและมือขวา” ฉันแค่ไม่สามารถเรียนรู้มันได้เอง”

“ฉันจะมอบสิ่งนี้ให้กับคุณสําหรับหมัดแสงว่างเปล่าที่คุณสอนฉัน!”

หลังจากจีเยู่ได้เรียนรู้เทคนิคแล้ว เขาก็หนิบปืนสไนเปอร์ไรเฟิลจากแหวนว่างเปล่าและมอบมันให้กับจิวแป๊ะ

ยกว่า สไนเปอร์ไรเฟิล ระยะยิงของมันสามารถไกลได้หลายกิโลเมตร คุณสามารถฆ่านกบนท้องฟ้าได้ด้วยสิ่งนี้”

“นี่คือความสนุก!นี่คือความสนุก!”

เฒ่าทารกนั้นตื่นเต้นกับปืนมากซึ่งเป็นเรื่องใหม่สําหรับเขา

จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเกาหัวของเขา

เขาตั้งใจที่จะตอบแทนความโปรดปรานที่จีเย่เสนอนมวิญญาณให้กับป้าหยิงโดยให้เทคนิคทั้งสองนี้

จีเยได้มอบบางสิ่งคืนให้กับเขาและปืนสไนเปอร์ไรเฟิลก็ยิ่งสนุกมากจนเขาลังเลที่จะปฏิเสธมัน

เมื่อไหร่เขาจะจตอบแทนความโปรดปรานได้กัน?