ตอนที่ 211 อาจแทงตายได้เลย
หมอเสิ่นถึงกับชะงัก ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลังได้ยินเสียงของนางแล้ว ภายในใจกลับรู้สึกตกตะลึงอย่างบอกไม่ถูก มันให้ความรู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกฉีก
ทว่าเมื่อได้ก้มหน้ามองเจ้าผีน้อยที่อยู่ในวงแขนด้วยท่าทางไร้เรี่ยวแรงทั้งยังอยู่ในท่าทางมึนงง เขาจึงเกิดความฮึกเหิมขึ้นมาอีกหน กล่าวด้วยเนื้อตัวสั่นเทาว่า “เจ้า…เจ้าอย่ามาขู่ให้ข้าตกใจ ข้าขอบอกไว้ก่อน หากพวกเจ้ากล้าทำอะไรข้าแม้แต่ปลายเส้นขน ข้าจะทำให้ผีน้อยตัวนี้ถูกฝังไปพร้อมกับข้า”
น้ำเสียงนั้นดังอยู่เหนือศีรษะของหนานหนาน เด็กน้อยจึงตระหนักขึ้นได้ว่าเขาถูก…ลัก…พา…ตัว…แล้ว
ลักพาตัวเชียวนะ อณูทั้งหมดบนร่างกายของหนานหนานถูกกระตุ้น คราก่อนตอนที่เขาถูกลักพาตัวก็เป็นช่วงเมื่อหนึ่งปีก่อน ในที่สุดช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ก็มาถึงอีกครั้งแล้วในวันนี้
เด็กน้อยกระทืบเท้า เอียงศีรษะอีกครั้ง เงยหน้ามองไปยังคนที่อยู่ด้านหลัง พร้อมถามอย่างไร้เดียงสาว่า “เจ้าตัวปลอม นี่เจ้าคิดจะลักพาตัวข้าจริง ๆ รึ?”
หมอเสิ่นชะงัก จากนั้นจึงตะคอกเสียงแข็งใส่ “หุบปาก ห้ามพูด มิเช่นนั้นข้าฆ่าเจ้าแน่” ครั้นตะคอกจบ เขาก็รีบเงยหน้าขึ้นอีกหน มองไปยังโม่เสียนและเย่ฮ่าวหรานที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางระแวดระวัง ร่างกายสั่นเทิ้มอย่างหนัก
เย่ฮ่าวหรานรู้สึกร้อนใจ แอบใช้สายตาเหลือบมองเย่ซิวตู๋ เพราะเกรงว่าพี่ห้าอาจใช้สายตาแล่เนื้อเถือหนังของเขาแล้ว
ทว่า…
เอ๋ เหตุใดพี่ห้าถึงได้นิ่งสงบเช่นนี้ ดูท่าทางไม่ประหม่าแม้แต่น้อย นอกจากเมื่อครู่ตั้งแต่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ สีหน้าของเขาก็ดูปกติมาก
เย่ฮ่าวหรานแอบลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะแอบมองไปทางอวี้ชิงลั่ว
สตรีผู้นี้นิ่งสงบยิ่งกว่าพี่ห้าของเขาเสียอีก สายตาที่แฝงด้วยความเย้ยหยันดูเหมือนจะแฝงด้วยความเห็นอกเห็นใจเล็ก ๆ อยู่ในนั้น
เห็นอกเห็นใจ? นางเห็นอกเห็นใจใคร? หนานหนาน หมอเสิ่น หรือว่าเย่ฮ่าวหรานอย่างเขา?
เย่ฮ่าวหรานเนื้อตัวสั่นเทา ไม่กล้าฟุ้งซ่าน หันกลับไปจ้องมองหมอเสิ่นต่ออีกหนเพื่อหาโอกาสลงมือ โชคดีที่พี่ห้าไม่ได้มองเขา สิ่งนี้ทำให้แรงกดดันภายในใจของเย่ฮ่าวหรานน้อยลงไปไม่น้อย
อันที่จริงการช่วยเหลือหนานหนานออกมานั้นไม่ใช่เรื่องยาก หมอเสิ่นที่เป็นตาเฒ่าไร้วรยุทธ์คนหนึ่งจะสู้เขาและโม่เสียนได้อย่างไรกัน
ถ้าจะแย่ก็แย่ตรงที่ในมือของคนคนนั้นมีเข็มเงินหนึ่งเล่ม ปลายเข็มเล่มนั้นจ่อไปที่คอของหนานหนาน หากพวกเขาไม่ระมัดระวัง ไม่แน่หนานหนานอาจตายได้เลย
คนแซ่เสิ่นผู้นี้แม้ว่าจะเป็นหมอปีศาจตัวปลอม แต่ทักษะทางการแพทย์ก็ไม่ได้แย่ เขาย่อมทราบดีว่าจุดอ่อนของมนุษย์ที่ทำให้ตายได้อยู่จุดใด
“หมอเสิ่น หากเจ้ายอมปล่อยเด็กแต่โดยดี เรารับปากว่าจะช่วยขอร้องเสด็จพ่อให้ ผ่อนโทษจากหนักให้เป็นเบา” เย่ฮ่าวหรานพูดเสียงดังขึ้นทันใด โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นหนานหนานเริ่มเคลื่อนไหว เขายิ่งตกใจจนแทบปรี่ตัวเข้าไปดึงตัวหนานหนานกลับมา
หมอเสิ่นยิ้มเยาะ “ข้าไม่เชื่อคำสัญญาของเจ้า พวกเจ้าไปเตรียมม้ามาให้ข้า ส่งข้าออกไป มิเช่นนั้นข้าไม่เกรงใจเจ้าเด็กนี่แน่”
เย่ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ส่งสายตาหาเหวินเทียนก่อน
เหวินเทียนหันไปมองเย่ฮ่าวหราน อีกฝ่ายพยักหน้าถือเป็นการอนุญาตแล้ว ทว่ารอยยิ้มกลับเย็นชาและโหดเหี้ยม ยิ้มเยาะออกมาทีหนึ่ง เมื่อครู่เขาคิดจะลงมือเพื่อช่วยหนานหนานจริง ๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นของอวี้ชิงลั่ว จิตใจของเขาก็หนักแน่นขึ้น
หากอวี้ชิงลั่วไม่เป็นกังวล เช่นนั้นก็หมายความว่าหนานหนานไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย ต่อให้ภายในใจของเขาจะคิดเช่นนี้ ฝ่ามือกลับแอบกำเข้าหากันเล็กน้อย เตรียมตัวที่จะออกไปช่วยหนานหนานทุกเมื่อ
หนานหนานอยู่ในวงแขนของหมอเสิ่น ครั้นได้ยินบทสนทนาของหมอเสิ่นและเย่ฮ่าวหราน จึงเกิดความไม่พอใจขึ้นทันใด
“ม้าตัวหนึ่ง? ไม่ได้ ๆ ม้าตัวหนึ่งแต่พวกเรานั่งกันสองคนคงวิ่งได้ไม่เร็ว อีกอย่างข้าก็ไม่คุ้นชินกับการนั่งบนหลังม้าด้วย ข้าชอบนั่งบนรถม้ามากกว่า เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ท่านบอกให้ท่านอาแปดเตรียมรถม้าที่ลากด้วยม้าสามตัวดีกว่า ม้าสามตัวลากพวกเราต้องวิ่งได้เร็วกว่าเป็นแน่ ถูกต้องหรือไม่ อ๋อ แล้วก็ ๆ ในเมื่อพวกเราจะหนีตาย เช่นนั้นก็ต้องเตรียมอาหารแห้งและสุราด้วย รวมถึงเงินด้วยนะ แล้วก็เสื้อผ้าเครื่องนอนอะไรพวกนั้นก็ต้องมีนะ ระหว่างทางหากเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาคงลำบากแย่”
“…”
ทุกคนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมถึงกับตกตะลึงเพราะคำพูดของหนานหนาน แต่ละคนเริ่มส่ายหน้าเพราะเห็นอกเห็นใจหนานหนาน เด็กน้อยผู้น่าสงสาร ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นใด คงมิใช่ว่าเมื่อครู่ตกใจจนเสียสติหรอกกระมัง ถึงได้แนะนำให้อาชญากรเตรียมพร้อมมากขึ้น
หมอเสิ่นชะงัก ฝ่ามือสั่นตามเล็กน้อย “เจ้า ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก เจ้าไม่ได้ยินรึ? ห้ามพูด”
“นี่ เหตุใดเจ้าถึงไม่รู้จักหลักการและเหตุผลสักนิดเลย ข้าอุตส่าห์หวังดีเตือนเจ้า เจ้าก็ควรจะขอบคุณข้าสักคำเข้าใจหรือไม่?” หนานหนานบ่นพึมพำ ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจคำพูดของหมอเสิ่น “ข้าจะบอกอะไรให้นะ ในฐานะที่เป็นผู้ลักพาตัวระดับสูง เป็นผู้ลักพาตัวที่มีสมองและประสบความสำเร็จ ก่อนอื่นต้องวางแผนอย่างระมัดระวัง เจ้าดูตัวเจ้าสิ ไม่มีแผนการสักนิด มือก็ยังสั่นอีก ข้าจะบอกอะไรให้ เจ้าหยุดสั่นได้แล้ว หากเจ้ายังสั่นแบบนี้ต่อไป เข็มเล่มนั้นคงได้แทงข้าจนตาย หากแทงข้าตายในมือของเจ้าก็ไม่มีตัวประกันแล้ว ยิ่งทำให้หนีไม่พ้นเข้าไปใหญ่”
หนานหนานมีความจริงใจเป็นพิเศษ ในฐานะที่เป็นเด็กวัยห้าขวบ ในฐานะที่เป็นตัวประกันวัยห้าขวบ ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากที่เขาจะทำเรื่องเช่นนี้
หมอเสิ่นชะงัก หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น ภายหลังจึงค้นพบว่ามือของเขาไม่ได้สั่นอีกต่อไปแล้วจริง ๆ ทว่า…ทว่าริมฝีปากของเขากลับสั่นรุนแรงยิ่งขึ้น ดวงตากลอกไปมาจนยุ่งเหยิง
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลง คาดว่าคงรู้แล้วว่าหนานหนานได้ลงมือแล้ว ด้วยเหตุนี้ นางยิ่งไม่ต้องเป็นกังวลเข้าไปใหญ่
มุมปากของเย่ซิวตู๋กระตุกวูบ ตอนนี้เขากล้ามั่นใจได้ว่าหนานหนานไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อยจริง ๆ ดูจากการแสดงออกของหนานหนาน กลับดูเหมือนจะตื่นเต้นเล็กน้อยด้วย
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงอาวุธบนตัวของอวี้ชิงลั่วที่นางพกไว้ป้องกันตัวเอง เช่นนั้นบนตัวของหนานหนานก็คงมีไม่น้อยเช่นกัน มิเช่นนั้นอวี้ชิงลั่วคงไม่ปล่อยให้เด็กคนหนึ่งออกจากบ้านได้อย่างไร้กังวลเช่นนี้ แม้จะอยู่ในวังก็ไม่มีความกังวลแม้แต่น้อยเช่นกัน
ครั้นนึกถึงตรงนี้ เย่ซิวตู๋จึงเบาใจลงอีกเล็กน้อย หันไปพยักหน้าให้โม่เสียนเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าอย่าได้ประมาท
โม่เสียนเข้าใจในทันที เขาจึงดึงเย่ฮ่าวหรานให้ถอยไปด้านหลังสองก้าว
การเคลื่อนไหวของทุกคนหยุดลง หมอเสิ่นกำลังรอม้า คนอื่น ๆ กำลังเฝ้าดูสถานการณ์ด้วยใจจดใจจ่อ เหล่าองค์ชายที่อยู่ชั้นสองกำลังครุ่นคิดว่าจะทำให้หมอเสิ่นลงมืออย่างไร ทางที่ดีที่สุดคือลงมือฆ่าเจ้าเด็กที่รังแกลูกชายของพวกเขาซะ
มีเพียงคนเดียว ที่แอบสั่งให้ผู้อารักขาที่อยู่ด้านหลังเตรียมตัวลงมือแล้ว
ผู้อารักขาที่อยู่ด้านหลังเวยเยวี่ยนโหวพยักหน้า เดินออกจากโรงเตี๊ยมไปอย่างเงียบ ๆ เพียงไม่นานก็เดินกลับเข้ามาอย่างเงียบเชียบอีกครั้ง
จากนั้นจึงยื่นคันธนูที่มีความยาวเท่ากับแขนให้เวยเยวี่ยนโหว
เวยเยวี่ยนโหวหรี่ตาลงเล็กน้อย หมอเสิ่นต้องตาย มิอาจปล่อยให้เขาหนีออกไปได้ และมิอาจปล่อยให้ไปถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาทด้วย ส่วนเจ้าเด็กคนนั้นน่ะหรือ เฮอะ ต่อให้ตาย เช่นนั้นก็มีศพตายเพิ่มอีกหนึ่งคน มากสุดความผิดนี้ก็อยู่บนหัวของหมอเสิ่น
นัยน์ตาของเวยเยวี่ยนโหวเผยแววชั่วร้ายจาง ๆ เขาสั่งให้คนรับใช้นำหน้าไม้ขึ้นมา หลังจากใส่ลูกธนูลงบนหน้าไม้แล้ว จึงเล็งไปที่คอหอยของหมอเสิ่น
…………………………
สารจากผู้แปล
สมกับเป็นบุตรท่านอ๋องซิว ขนาดโดนเข็มจ่อคอแล้วก็ยังไม่กลัวอะไรเลย
คิดจะฆ่าปิดปากหมอเสิ่นหนีความผิดเรอะท่านโหว
ไหหม่า(海馬)