บทที่ 307 เป็นฟ้าและดินของพวกเจ้า

แต่คำพูดนั้นของฮวาเซียงเซียงกลับเป็นการเตือนนาง สถานที่นี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าใดนัก ต้องหาที่ที่สามารถปล่อยกายปล่อยใจได้ทั้งคืนและไม่ต้องรีบตื่นขึ้นมา

นางไม่ได้นั่งคุยกับฮวาเซียงเซียงนานมากนัก เพราะคิดว่าเผยยวนคงใกล้จะอาบน้ำเสร็จแล้ว เมื่อรีดเสื้อผ้าแห้งแล้วจึงกลับไป

ก่อนออกจาก ห้องฮวาเซียงเซียงที่ยืนพิงประตูก็ขยิบตาให้นาง “ใจเย็น ๆ หน่อยล่ะ”

จี้จือฮวนจำเอาไว้แล้ว รอฮวาเซียงเซียงแต่งงาน นางจะเอ่ยล้อบ้าง

ตอนกลางคืนในโรงเตี๊ยมไม่เหมือนกับในหมู่บ้าน ด้านล่างยังมีคนดื่มเหล้ากันอยู่ ด้านบนก็มีเสียงดังเต็มไปหมด เสียงพูดคุยก็ไม่นับว่าเบา ตอนที่จี้จือฮวนกลับมาเผยยวนก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายในห้องจึงเต็มไปด้วยไอน้ำ เขาคงจะเพิ่งใส่เสื้อผ้าเสร็จและรอนางกลับมา ปลายผมยังคงเปียกอยู่

จี้จือฮวนเพิ่งจะเดินเข้าห้อง เขาก็ปิดประตูจากทางด้านหลังทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้นอนด้วยกัน เมื่อก่อนตอนนอนด้วยกันก็มีลูก ๆ ทั้งสามคนนอนด้วย อีกทั้งตอนนั้นเขาก็ยังนอนเป็นผักอยู่ ครั้งล่าสุดก็เป็นตอนที่ไปบ่อน้ำพุร้อนทว่าทุกอย่างกลับเลือนราง ตอนนี้จึงรู้สึกขัดเขินแปลก ๆ

จี้จือฮวนแขวนเสื้อผ้าบนไม้แขวน ก่อนจะไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ของตัวเองจากในห่อผ้า

เผยยวนจ้องมองนางอย่างเงียบ ๆ แววตาคู่นั้นราวกับหมาป่า

จี้จือฮวนบุ้ยปาก “ไม่ใช่ไม่เคยเห็นเสียหน่อย”

สมองของเผยยวนตอนนี้ได้ระเบิดไปแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบกลับไป “ฟ้ามืด ตอนนั้นมองไม่ชัด”

แต่การลูบไล้ก็ยังชัดเจนอยู่ดี อย่ามาแกล้งเนียนหน่อยเลย

จี้จือฮวนเบ้ปาก “ข้าจะไปอาบน้ำก่อน”

เสี่ยวเอ้อเอาน้ำมาส่งหลายถัง เผยยวนใช้อ่างล้างหน้าตักออกมาเช็ดตัว น้ำในถังอาบจึงยังสะอาดอยู่

จี้จือฮวนดับเทียนที่ด้านหลังฉากกั้น เหลือที่หัวเตียงไว้เพียงดวงเดียว แล้วจึงลงไปในถังอาบน้ำ เสียงน้ำสาดกระเซ็นดังขึ้น เผยยวนสามารถรอได้อย่างสงบนิ่งก็แปลกแล้ว

นางมองไปที่ฉากกั้นพบว่ายังสามารถเห็นเงาของเผยยวนผ่านแสงเทียนได้ แผ่นหลังของเขาใหญ่ ไหล่กว้าง เอวสอบ กำลังนั่งจ้องเชิงเทียนอย่างเหม่อลอยอยู่บนเตียง รูปร่างด้านข้างงดงามและสมบูรณ์แบบยิ่งนัก

ทว่าเผยยวนที่กำลังเหม่อลอยกลับไม่ทำอะไรเลย เขาเอาแต่จ้องมองไปที่ส่วนโค้งส่วนเว้าที่สวยงามซึ่งโผล่ขึ้นมาให้เห็นบนพื้นเป็นครั้งคราว เขากลืนน้ำลายลงคอ จนกระทั่งรู้สึกปวดตาจึงได้หลับตาลง

ถ้าจี้จือฮวนออกมาตอนนี้ คงยังสามารถเห็นเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นมาบนหลังมือของเขาได้ เนื่องจากการเกร็งตัว

หลังจากนั้นไม่นานเสียงน้ำกระเซ็นก็ดังขึ้นอีก เงาบนพื้นก็ทอดยาวไปจนถึงกำแพงใต้ขอบหน้าต่าง ร่างของนางสะท้อนบนผนังสีขาวราวกับการเชื้อเชิญที่ไร้เสียง ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสตรี

จู่ ๆ เผยยวนก็นึกถึงการปลุกห้องเจ้าสาว*กับเหล่าทหารเมื่อก่อน เขาเคยเห็นห้องของบ่าวสาวที่ทั้งห้องเป็นสีแดงสด หากฮวนฮวนสวมชุดแต่งงาน…

* ปลุกห้องเจ้าสาว (闹洞房) พิธีสร้างความครื้นเครงในห้องเจ้าสาวหลังพิธีแต่งงาน

เผยยวนรู้สึกว่าเขาต้องเร่งมือแล้ว ช่วงที่ออกมาไม่มีเวลาปักชุดแต่งงาน เมื่อกลับไปต้องอดหลับอดนอนปักชดเชยเสียแล้ว

ไม่เช่นนั้นหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาอาจจะทนไหว แต่เผยน้อยคงทนไม่ไหวเป็นแน่

จี้จือฮวนห่อผมเอาไว้ เมื่อออกมาก็ดับเทียนแล้วเอ่ยขึ้น “นอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้า”

เผยยวนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็รู้ว่าสภาพของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เขาเองก็ไม่อยากทำที่นี่

“เจ้าอยากนอนด้านในหรือด้านนอก?”

เผยยวนเอ่ยถาม

ตามกฎของตระกูลสูงศักดิ์ สตรีมักอยู่ด้านนอกเพื่อคอยปรนนิบัติสามี แต่เผยยวนไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น ทุกอย่างเขาล้วนเคารพความเคยชินของจี้จือฮวน

“ด้านใน” ความจริงแล้วเวลานอนจี้จือฮวนมักจะรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นน้อยครั้งที่จะหลับลึก ต่อให้อยู่ในร่างใหม่ก็ยังคงมีนิสัยเช่นนั้นอยู่

หากเผยยวนอยู่ด้านนอก นางคิดว่าตนเองจะสามารถวางใจฝากด้านหลังเอาไว้ที่เขาได้

ภายในม่านคลุมเตียงที่มืดสนิท ตอนนี้มีเพียงพวกเขาสองคน จี้จือฮวนหดตัวเข้าไปด้านใน เผยยวนเห็นว่านางนอนสบายดีแล้ว จึงคลี่ผ้าห่มออกแล้วมุดเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขามีรูปร่างใหญ่โต ทันทีที่ขึ้นมาเตียงจึงยุบลงไปทันใด อีกทั้งเตียงหลังนี้ก็เล็กมาก ทั้งสองคนแทบจะตัวติดกันโดยมีเพียงเสื้อผ้ากั้นอยู่เท่านั้น

จี้จือฮวนขยับตัวไปมาในผ้าห่ม ก่อนจะหมุนกายมาเผชิญหน้ากับเขา จากนั้นก็แอบจับมือเขาไว้ข้างใน

“เผยยวน”

“หืม?” เสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย พลางจับมือนางเอาไว้ให้แน่น “ข้าอยู่นี่”

“มีเจ้าอยู่ช่างดีจริง ๆ”

เขาหัวเราะเบา ๆ “คำพูดนี้ข้าควรเป็นคนพูดมากกว่า”

“รอมีโอกาส พวกเราเข้าหอกันเถอะ” จี้จือฮวนเอ่ยเสียงเบา “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการ”

เผยยวนกลืนน้ำลายลงคอ อาจเป็นเพราะคิดไม่ถึงว่านางจะเอ่ยตรง ๆ เช่นนี้

แต่ฮวนฮวนก็มีนิสัยเช่นนี้ นางไม่ขัดเขินและไม่อายที่จะแสดงความปรารถนาที่มีต่อเขา

“อืม”

ร่างเล็กที่นุ่มนิ่มและเย้ายวนกลิ้งเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา “นอนเถอะ ฝันดี”

“อืม”

ถนนด้านนอกค่อย ๆ เงียบลง บรรดาพ่อค้าเร่ต่างทยอยกลับบ้าน คนที่ดื่มเหล้าอยู่ที่ชั้นล่างก็ค่อย ๆ เงียบลง เผยยวนอาศัยแสงจันทร์พิจารณาหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างละเอียด

คิ้วและใบหน้าของนาง ขนตางอนยาว จมูกเล็ก ๆ ของนาง ปากที่เม้มเล็กน้อยเวลานอน เขาชอบทุกอย่าง

เผยยวนก้มลงไปหาใบหน้าของนางอย่างช้า ๆ ลำคอยาวระหงไล่ลงไปที่กระดูกไหปลาร้า ภายในชุดนอนสีชมพูยังเผยให้เห็นเส้นเล็ก ๆ สีเหลืองอ่อน

เขาชะงักไปเล็กน้อย ในหัวเริ่มมีภาพที่เห็นในร้านหนังสือวันนี้ผุดขึ้นมา ภาพทั้งหมดปรากฏขึ้นในหัวของเขา พลันก็รู้สึกร้อนรุ่มจนทนไม่ไหว เขาไม่กล้ามองนางอีก จึงหันไปนอนหงายและหายใจเข้าลึก ๆ

นางพลิกตัวมาเผชิญหน้ากับเขา ลมหายใจเบาบางเป่ารดลงบนหน้าของเขา จนเขาต้องกลืนน้ำลายลงคอ และหลับตาลงพยายามไม่คิดถึงนางอีก

นางพึมพำสองสามคำน่าจะเป็นเพราะรู้สึกหนาว ทว่าเผยยวนกลับร้อนผ่าว นางพลิกไปพลิกมาก่อนจะเบียดตัวเข้าหาเขา ขาข้างหนึ่งเกี่ยวมาตามผ้าห่ม

ทันทีที่แข้งขาของนางสัมผัสกับตัวเขา ร่างของเผยยวนก็ยิ่งเกร็งมากขึ้น แม้จะมีเนื้อผ้ากั้นอยู่ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นจากเท้าคู่นั้น หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ และรีบลุกขึ้นนั่งตรงปลายเตียง เอามือแตะเท้าเล็ก ๆ ของนาง เย็นมากจริง ๆ ก่อนหน้านี้ท่านหมอเคยบอกว่าร่างกายของนางอ่อนแอ

ผู้หญิงขี้หนาวร่างกายไม่ได้ร้อนเท่าผู้ชาย เขาจึงตัดสินใจถอดถุงเท้าของนาง เปิดสาบเสื้อของตัวเองออก และเอาเท้าของนางวางไว้ใกล้กับหน้าท้องของเขา คงเพราะรู้สึกถึงความอบอุ่น นางจึงส่งเสียงงึมงำออกมาด้วยความสบาย ก่อนจะหลับสนิทไปโดยไม่รู้ตัว

เขาก้มลงมองเท้าเล็ก ๆ สองข้างบนหน้าท้องของตัวเอง การมองเห็นในตอนกลางคืนของเขายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แม้จะมองผ่านผ้าม่านเตียงที่หนาและหนัก แต่เขาก็สามารถมองเห็นเล็บเท้าที่กลมมนบนเท้าคู่นั้นของนางได้อย่างชัดเจน เท้าที่ยังใหญ่ไม่เท่าฝ่ามือของเขา เผยยวนเห็นนางหลับไปแล้ว จึงก้มหน้าลงไปจูบ

เขาใช้ร่างกายของตัวเองมอบความอบอุ่นให้แก่นาง แล้วจึงได้ยัดเท้าของนางเข้าไปในผ้าห่ม คลุมไว้อย่างแน่นหนาแล้วจึงได้ลงจากเตียง เดินไปที่อ่างล้างหน้าและล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เพื่อระงับความร้อนรุ่มในร่างกายแล้วจึงกลับมานอนอย่างเงียบ ๆ

จี้จือฮวนกึ่งหลับกึ่งตื่น ได้ยินเสียงก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที เผยยวนจึงรีบเดินกลับมา “ข้าลุกขึ้นมาล้างหน้า ทำให้เจ้าตื่นหรือ?”

นางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จับชายเสื้อของเขาไว้ก่อนจะนอนลงอีกครั้ง “เปล่า เพียงแต่แปลกที่ กังวลว่าพวกเด็ก ๆ ตอนกลางคืนจะนอนหลับหรือไม่ อาชิงจะฉี่รดที่นอนหรือไม่”

เผยยวนหัวเราะเบา ๆ “เจ้าตัวแสบทั้งสามคนนั่นฉลาดจะตายไป วางใจเถอะ”

จี้จือฮวนถอนหายใจออกมา “บางทีพ่อแม่ก็คงมีความรู้สึกเช่นนี้ มีความกังวลอยู่ทุกขณะ”

นับตั้งแต่ที่พวกเขาเรียกนางว่าแม่ จี้จือฮวนก็มีพวกเขาอยู่เต็มหัวใจแล้ว

เผยยวนกุมมือของนางเอาไว้ ในค่ำคืนที่มืดมิดนางจึงมองหน้าของเขาไม่ชัด แต่ยังคงสามารถมองเห็นดวงตาที่สว่างไสวของเขาได้ ราวกับดวงดาวในค่ำคืนที่มืดมิด เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ข้าจะปกป้องพวกเจ้าไปตลอดชีวิต พวกเจ้าไม่ต้องกังวลสิ่งใดและจะมีความสุขตลอดไป ข้าจะเป็นฟ้าและดินให้พวกเจ้าเอง”

เขากระซิบข้างหูของนางด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ทว่ากลับไพเราะกว่าคำสัญญาและคำสาบานก่อนหน้านี้เสียอีก

.

.

.