ตอนที่ 269 ผู้ร้องขอให้ช่วยชีวิต

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

จู​จื่อ​อวี​้​ได้ยิน​ว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​ฟ้อง​ทางการ​ ​ก็​รักษาหน้า​นิ่ง​ไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​พลัน​ห้าม​ขั้น​มาทัน​ที

เจียง​อี​ตะลึง​ตกใจ​ด้วย​อีก​คน​ ​พลาง​ดึง​มือ​เจียง​ซื่อ​ ​“​น้อง​สี่​ ​จะ​ไป​ฟ้อง​ทางการ​ได้​อย่างไร​”

ไฟ​ใน​อย่า​นำ​ออกไฟ​นอก​อย่า​นำเข้า​ ​นี่​คือ​ความคิด​ของ​คน​ส่วนมาก​ ​โดยเฉพาะ​กับ​เจียง​อี​ที่​เป็น​ลูกสะใภ้​ ​เป็น​ภรรยา​ ​แน่นอน​ว่า​จัดการ​กัน​ภายใน​นั้น​ดีที​่​สุด

ฟ้อง​ทางการ​?​ ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​คิด

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​ขออภัย​ ​“​แต่ว่า​ข้า​ส่ง​อาหมาน​ไป​ฟ้อง​ทางการ​แล้ว​”

เจียง​อี​ตะลึง​พลาง​มองดู​รอบ​ๆ​ ​ไม่เห็น​เงา​ของ​อาหมาน​แล้ว​จริงๆ

“​น้อง​สี่​ ​เจ้า​ให้​อาหมาน​ไป​ฟ้อง​ทางการ​แล้ว​จริงๆ​ ​หรือ​”​ ​เจียง​อี​ไม่กล้า​เชื่อ​ว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​กล้า​ทำ​เช่นนี้

เจียง​ซื่อ​ทำลาย​ความหวัง​ของ​เจียง​อี​จน​หมด​ด้วย​การ​ผงกศีรษะ​ ​“​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ได้ยิน​ว่า​ใต้เท้า​เจิน​แห่ง​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​ไข​คดี​ได้​เสมอ​ ​ข้า​จึง​เชิญ​เขา​มาช​่ว​ยสืบ​เสียหน่อย​ ​แล้ว​เดี๋ยว​ความจริง​จะ​ต้อง​ปรากฏ​เป็นแน่​ ​ถ้าเช่นนั้น​ ​พี่เขย​ก็​ไม่ต้อง​เสียแรง​ตรวจสอบ​แล้ว​ ​พี่เขย​คิด​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

จู​จื่อ​อวี​้​เสียหน้า​มาก​ ​ถึงแม้​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด​ ​แต่​ภายในใจ​นั้น​โกรธ​ไม่น้อย​ ​แววตา​ที่ลุ่ม​ลึก​จับจ้อง​อยู่​ที่​เจียง​อี

ภายใต้​แววตา​นี้​ ​เจียง​อี​รู้สึก​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​ ​แต่​ยัง​ปกป้อง​เจียง​ซื่อ​และ​กล่าว​ ​“​ท่าน​พี่​ ​น้อง​สี่​ยัง​เล็ก​ ​ไม่รู้​เรื่อง​อะไร​…​”

จู​จื่อ​อวี​้​หน้า​ดำทะมึน​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด

เรื่อง​ของ​จวน​จู​ถูก​ฟ้อง​ไป​ถึง​ทางการ​โดย​ไม่​ผ่าน​การอนุญาต​จาก​เขา​ ​เพียง​คำ​ว่า​ ​‘​ไม่รู้​เรื่อง​อะไร​’​ ​ก็​สามารถ​ปล่อยไป​ได้​เลย​อย่างนั้น​หรือ

เจียง​ซื่อ​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​แววตา​ทั้ง​ไร้เดียงสา​และ​สงสัย​ ​“​พี่ใหญ่​ ​วันนี้​พวกเรา​เกือบ​ได้รับ​อันตราย​ถึง​ชีวิต​ ​การ​ที่​ข้า​ขอ​ใต้เท้า​เจิน​มาตร​วจ​ดู​เสียหน่อย​เป็นเรื่อง​ที่​ควร​ทำ​มิใช่​หรือ​ ​หรือว่า​ศักดิ์ศรี​และ​หน้าตา​นั้น​สำคัญ​กว่า​ชีวิต​ของ​พี่​กับ​ข้า​ ​พี่เขย​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​คง​มิได้​คิด​เช่นนั้น​หรอก​ใช่ไหม​”

จู​จื่อ​อวี​้​ยิ้ม​ฝืน​ออกมา​หนึ่ง​ที​ ​“​ไม่​คิด​เช่นนั้น​แน่นอน​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​จัดการ​ภายใน​ได้​ ​เหตุ​ไฉน​ถึง​ต้อง​ฟ้อง​ถึง​ทางการ​ให้​เป็นเรื่อง​น่าอาย​เล่า​”

เมื่อ​ถูก​เจียง​ซื่อ​พูด​จนมุม​ถึง​เพียงนี้​ ​จู​จื่อ​อวี​้​มี​ไฟ​ลุก​อยู่​เต็ม​ทรวงอก​แต่​ไม่​กลับ​ระบาย​ออกมา​ไม่ได้

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​และ​กล่าว​ ​“​พี่เขย​เป็น​คน​มี​การศึกษา​ ​น่าจะ​เคย​ได้ยิน​คำพูด​ของ​นักปราชญ์​ ​‘​แต่ละคน​มีด​้า​นที​่​เก่ง​ไม่​เหมือนกัน​’​ ​พี่เขย​ต้องการ​จัดการ​เรื่อง​นี้​กัน​ภายใน​นับว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​แต่​ถ้า​ตรวจสอบ​แล้ว​ไม่​พบ​สิ่งใด​ล่ะ​?​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​ค่อย​เชิญ​เจ้าหน้าที่​ทางการ​เข้ามา​มีส่วนร่วม​ ​ถ้าเช่นนั้น​เขา​ก็​พลาด​ช่วงเวลา​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ไป​แล้ว​มิใช่​หรือ​ ​พี่เขย​เป็นห่วง​พี่ใหญ่​เช่นนี้​ ​คง​ไม่​อาจ​ทน​เห็น​คนที​่​ทำร้าย​พี่ใหญ่​อยู่​อย่างสบายใจ​เหนือ​กฎหมาย​หรอก​กระมัง​”

จู​จื่อ​อวี​้​ถูก​ถาม​จน​ทำได้​เพียง​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น

“​พี่ใหญ่​เจ้า​คะ​ ​นั่ง​รถ​ข้า​กลับ​ไป​ดีกว่า​”​ ​เจียง​ซื่อ​ดึง​เจียง​อี​เบา​ๆ

เจียง​อี​หันหน้า​มอง​จู​จื่อ​อวี​้​อย่าง​อด​ไม่ได้

“​ออกจาก​ที่นี่​ก่อน​เถอะ​”​ ​สีหน้า​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​เต็มไปด้วย​ความจน​ใจ

ความลำบาก​ใจ​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​ทำให้​เจียง​อี​ยิ่ง​รู้สึก​อับอายขายหน้า

การ​ที่นา​งอ​อก​มาถ​วาย​ธูปเทียน​ ​แม่​สามี​ก็​ไม่​ปลื้มใจ​อยู่​แล้ว​ ​ตอนนี้​เกิดเรื่อง​ใหญ่​เช่นนี้​ขึ้น​อีก​ ​หลังจาก​กลับ​ไป​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​จะ​รายงาน​อย่างไร

เจียง​ซื่อ​แอบ​ถอนหายใจ​ ​พลาง​ดึง​เจียง​อี​ขึ้นรถ​ม้า​ที่​เช่า​มา

นาง​เปิดม่าน​ออก​ ​พร้อมกับ​ยื่น​ใบหน้า​อัน​งดงาม​ออกมา​ ​“​เหล่า​ฉิน​ ​บังคับ​ให้​นิ่ง​หน่อย​นะ​”

คำพูด​นี้​มีนัย​แฝง​ ​เหล่า​ฉิน​นั้น​เข้าใจ​เป็น​อย่างดี​ ​จึง​ตอบกลับ​เสียงดัง​ ​“​คุณหนู​วางใจ​ได้​ ​จะ​ขับ​ให้​นิ่ง​ที่สุด​อย่างแน่นอน​ขอรับ​”

สายตา​ที่​มองดู​รถม้า​คัน​เล็ก​เตี้ย​เริ่ม​ขยับ​ช้าๆ​ ​แววตา​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​นิ่ง​สงบ​อยู่กับที่​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​แล้ว​ถึง​ตะคอก​ใส่​สาว​รับใช้​สอง​คนที​่​ถูก​ทิ้ง​ไว้​ ​“​ยัง​ไม่​ขึ้นรถ​ม้า​อีก​!​”

อา​หยากั​บอา​จู​ไม่กล้า​ส่งเสียง​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​พลาง​ปีนป่าย​ขึ้นไป​ยัง​รถม้า​จวน​จู​ริมถนน​ที่​ใกล้​จะ​แยก​ชิ้นส่วน​ออกจาก​กัน​อย่าง​กล้า​ๆ​ ​กลัว​ๆ

จู​จื่อ​อวี​้​พลิกตัว​กระโดด​ขึ้น​บน​หลัง​ม้า​ ​แล้ว​ขี่​ตามหลัง​อยู่​ข้างๆ​ ​รถม้า​ของ​สอง​พี่น้อง​ ​บน​ใบหน้า​ไม่มี​สีหน้า​ใด​จึง​มอง​ไม่​ออก​ว่า​คิด​สิ่งใด​อยู่

เจียง​ซื่อ​สัมผัส​ได้​ถึง​ความรู้สึก​ที่​หม่นหมอง​ของ​เจียง​อี​ ​หลังจาก​ขึ้นรถ​ม้า​ก็​เงียบ​ไป​พักใหญ่

“​พี่ใหญ่​โกรธ​ข้า​รึ​”​ ​เจียง​ซื่อ​ไม่​กลัว​สิ่งใด​ ​นาง​กลัว​แต่​ใน​ช่วงเวลา​สำคัญ​ ​พี่ใหญ่​จะ​เลือก​อยู่​ข้างเดียว​กับ​จู​จื่อ​อวี​้​และ​อยู่​ห่าง​จาก​นาง

เจียง​อี​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​และ​ถอนหายใจ​ ​นาง​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​ผม​ที่​ดำ​เงางาม​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​“​พี่ใหญ่​จะ​โกรธ​เจ้า​ลง​ได้​อย่างไร​กัน​ ​เพียงแค่​เรื่อง​ใน​วันนี้​ ​น้อง​สี่​ใจร้อน​มาก​ไป​สักหน่อย​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​หาก​รู้​ไป​ถึง​ทางการ​จะ​จบ​ลงยาก​”

“​พี่ใหญ่​ยัง​จำ​เรื่อง​ของ​จวน​หย่ง​ชังปั​๋ว​ได้​อยู่​หรือไม่​”

เจียง​อีนิ​่ง​ไป​ครู่หนึ่ง​ถึง​พยักหน้า​ ​“​จะ​จำ​ไม่ได้​ได้​อย่างไรเล่า​”

จวน​หย่ง​ชังปั​๋​วกับ​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​เป็นเพื่อน​บ้าน​ใกล้เคียง​กัน​มา​หลาย​ปี​ ​สำหรับ​นาง​แล้ว​ ​สอง​สามี​หย่ง​ชังปั​๋​วก​็​เป็น​ผู้อาวุโส​ที่​คุ้นเคย​เป็น​อย่างดี​ ​เมื่อ​นึกถึง​ความ​โชคร้าย​ที่​พวก​ท่าน​ประสบ​ ​เจียง​อีก​็​จะ​รู้สึก​แย่​ขึ้น​มา

“​พี่ใหญ่​ลอง​คิดดู​ ​ใน​ตอนนั้น​ ​หากว่า​จวน​หย่ง​ชังปั​๋ว​เลือก​ที่จะ​ไม่​ฟ้อง​ทางการ​ ​สุดท้าย​แล้ว​จะ​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ฆาตกร​คือ​แม่ครัว​ที่​เกลียดชัง​หย่ง​ชังปั​๋ว​เป็น​สิบ​ปี​เพราะ​ความเข้าใจผิด​ ​หย่ง​ชังปั​๋​วก​็​ต้อง​ลงเอย​ด้วย​การ​เป็น​ภาวะ​ซึมเศร้า​จาก​การ​ฆ่า​ภรรยา​จนตาย​ ​และ​เรื่อง​นี้​ก็​จะ​กลายเป็น​ความเจ็บปวด​ที่อยู่​ภายในใจ​ของ​พี่น้อง​ตระกูล​เซี​่ย​ไป​ตลอดกาล​”

ซึ่ง​เมื่อ​เทียบ​กับ​บิดา​ที่​ฆ่า​มารดา​ด้วยมือ​ของ​เขา​เอง​ ​ผลสรุป​สุดท้าย​ก็​เป็นที่ยอมรับ​ได้มา​กก​ว่า​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย

แม้ว่า​เจียง​อีเห็น​ด้วย​กับ​คำพูด​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​แต่​นาง​ก็​ยัง​ส่าย​หัว​ ​“​เรื่อง​ของ​วันนี้​จะ​เหมือนกับ​เรื่อง​ของ​จวน​หย่ง​ชังปั​๋ว​ได้​อย่าง​…​”

เจียง​ซื่อ​กุมมือ​เจียง​อี​แน่น​ ​“​พี่ใหญ่​เจ้า​คะ​ ​มี​คน​คิด​จะ​ทำร้าย​พี่​นะ​ ​พี่​นึกถึง​เยียน​ๆ​ ​ด้วย​สิ​เจ้า​คะ​”

เจียง​อี​พลัน​ตัวสั่น

สตรีที​่​เป็นมา​รดา​ล้วน​แข็งแกร่ง​ ​เยียน​ๆ​ ​เป็น​จุดอ่อน​ของ​นาง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​และ​เป็นต้น​ตอ​ของ​ความกล้า​ด้วย​เช่นกัน​ ​หากว่า​มี​คน​จะ​ทำร้าย​นาง​จริงๆ​ ​การถูก​แม่​สามี​ตำหนิ​ต่อว่า​ ​ก็​ยังดี​กว่า​เกิดเรื่อง​แล้ว​บุตรสาว​ของ​คน​ไร้ค​นพึ​่ง​พา

“​แต่​ถ้า​ทางการ​ตรวจ​ไม่​พบ​สิ่งใด​เลย​ล่ะ​”

เมื่อ​ได้ยิน​เจียง​อี​ถาม​เช่นนี้​ ​เจียง​ซื่อ​ถึงกับ​โล่งอก​ ​หาก​พี่ใหญ่​พูด​เช่นนี้​แล้ว​ ​อย่างน้อย​ก็​ไม่​ตีตัวออกห่าง​กับ​นาง​เพราะ​เรื่อง​นี้

“​ถึง​ตรวจสอบ​แล้วแต่​ไม่​พบ​ ​อย่างน้อย​ก็​เป็นการ​ส่งเสียง​เตือน​ให้​กับ​คนที​่​ต้องการ​ทำร้าย​พี่ใหญ่​ ​ให้​เขา​ได้​รู้​ว่า​คน​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วอ​ย่าง​พวกเรา​ ​ไม่ได้​เป็น​ลูก​พลับ​นุ่มนิ่ม​ที่จะ​ยอมให้​ใคร​บีบ​ขยี้​ง่ายๆ​”

เจียง​อี​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​พลาง​พิง​กับ​กำแพง​รถม้า​อย่าง​เหน็ดเหนื่อย​และ​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด​อีก​ ​เริ่ม​จาก​ศาลา​ใน​วัด​ ​ตามมา​ด้วย​ม้า​ตื่นตกใจ​ ​อุบัติเหตุ​เกิดขึ้น​ติดต่อกัน​ถึง​เพียงนี้​ ​ช่าง​รู้สึก​เหนื่อย​จริงๆ

ภายใน​รถม้า​เงียบสงบ​ตลอดทาง​จน​เข้ามา​ถึง​ใน​เมือง

เสียง​จาก​ภายนอก​ดัง​ขึ้น​อย่างเห็นได้ชัด​ ​เป็น​เสียงหัวเราะ​พูดคุย​ของ​ผู้คน​บน​ถนน​ ​เสียง​ตะโกน​ของ​พ่อค้า​ที่​เดิน​อยู่​บน​ถนน​และ​เสียง​เอี๊ยด​ของ​รถม้า​ ​มาบร​รจบ​รวมกัน​เป็น​ภาพ​แห่ง​ความรุ่งเรือง

เจียง​ซื่อ​ไม่มี​ใจชื่น​ชม​สิ่ง​เหล่านี้​ ​จึง​นั่ง​คิด​สิ่ง​ที่จะ​ทำต่อ​ไป​อย่าง​เงียบๆ

รถม้า​พลัน​นิ่ง​ ​ตามมา​ด้วย​เสียง​กรีดร้อง

“​เหล่า​ฉิน​ ​ข้างนอก​นั่น​เกิด​อะไร​ขึ้น​รึ​”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​ผ้าม่าน​กั้น​ประตู​รถม้า​ ​มีเสียง​เรียบๆ​ ​ของ​เหล่า​ฉิน​ดัง​เข้ามา​ ​“​มีส​ตรี​คน​หนึ่ง​พุ่ง​ออกมา​กะทันหัน​ ​จน​เกือบ​ชนม​้า​ของ​คุณชาย​จู​ขอรับ​”

เจียง​อี​พลัน​เบิกตา​โต​พร้อมกับ​เปิดม่าน​และ​มองออก​ไป

จู​จื่อ​อวี​้​ลง​จาก​ม้า​แล้ว​ ​พลาง​เอ่ย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​อ่อนโยน​ ​“​แม่นาง​เป็น​อะไร​หรือไม่​”

หญิงสาว​ดึง​แขน​เสื้อ​จู​จื่อ​อวี​้​แน่น​ราวกับ​ได้​เจอ​ที่พึ่งสุดท้าย​ ​และ​เอ่ย​ตอบ​เสียง​หอบ​ ​“​คุณ​ ​คุณชาย​ ​ช่วย​ข้า​ด้วย​…​”

จู​จื่อ​อวี​้​หันกลับ​ไป​มอง​รถม้า​และ​สบตา​กับ​เจียง​อี​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​และ​จนใจ

เจียง​อี​จัด​เสื้อ​ตาม​จิตสำนึก​ ​จากนั้น​ลง​จาก​รถม้า​เดิน​มา​อยู่​ข้างๆ​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ถาม​ ​“​เกิด​สิ่งใด​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​ท่าน​พี่​”

เวลานี้​ ​มีเสียง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​เป็นพักๆ​ ​“​หลีก​ไป​ๆ​!​”

แล้ว​บุรุษ​ร่าง​ใหญ่​สอง​คน​ก็​ฝ่า​ฝูงชน​ที่​ขวางทาง​ออก​แล้ว​เดิน​เข้ามา​จับตัว​หญิงสาว​และ​จากไป​ ​ปาก​ยัง​ด่าทอ​ ​“​เจ้า​ยัง​กล้า​หนี​?​ ​เจ้า​นี่​มัน​กล้า​พลิก​ฟ้า​พลิกแผ่นดิน​จริงๆ​ ​นะ​!​”

หญิงสาว​จับ​แขน​เสื้อ​จู​จื่อ​อวี​้​ไม่ยอม​ปล่อย​พร้อมกับ​ร้องขอ​ให้​ช่วย​ ​“​คุณชาย​ช่วย​ข้า​ด้วย​…​”

จู​จื่อ​อวี​้​ขมวดคิ้ว​ ​ไม่มี​ทีท่า​อื่นใด

“​ยัง​กล้า​ขอความช่วยเหลือ​อีก​?​ ​ข้าว​่า​เจ้า​นี่​มัน​ไม่เห็น​โลงศพ​ไม่​หลั่ง​น้ำตา​!​”​ ​ชาย​ร่าง​ใหญ่​คน​หนึ่ง​ยกมือ​ขึ้น​ฟาด​ใส่​หญิงสาว​หนึ่ง​ที

หญิงสาว​ที่​ถูก​ตบ​จน​ล้ม​ไป​ ​คลาน​เข้าไป​กอด​ขา​เจียง​อี​อย่าง​หมดแรง​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​ร้องขอ​ความช่วยเหลือ​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ได้​โปรด​ช่วย​ข้า​ด้วย​ ​ข้า​ยอม​เป็น​วัว​เป็น​ม้า​รับใช้​ท่าน​…​”