นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 119 รีบดับไฟ!
“เสี่ยวเทียน ไปห้องครัวกับข้า!”
โจวกุ้ยหลานพาเจ้าก้อนน้อยวิ่งไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็วฉับไว นางดึงผ้าฝ้ายออกมาสองผืนขณะที่วิ่งเข้าใกล้ จากนั้นก็มุ่งไปยังห้องครัว
เมื่อเข้าห้องครัว โจวกุ้ยหลานก็โยนผ้าสองผืนนั้นลงในโอ่งน้ำทันที ทำให้เปียกแล้วคลุมตัวเจ้าก้อนน้อยไว้ หยิบมุมหนึ่งปิดปากและจมูกของเขา
“แค็กๆ ท่านแม่ ทรมาน…” เจ้าก้อนน้อยสำลักจนไอ ถูกควันรมจนลืมตาไม่ขึ้น
“เด็กดี ข้าจะพาเจ้าพุ่งออกไป!”
โจวกุ้ยหลานปลอบนำผ้าเปียกอีกผืนมาคลุมตัวเองไว้ แล้วตักน้ำราดศีรษะเจ้าก้อนน้อย
ตอนนี้ประตูห้องครัวก็มีควันลอยขึ้นหนาแล้ว
โจวกุ้ยหลานลนลานอย่างหนัก มือสั่นระริก
ต้องหนีออกไป! ต้องเร็วด้วย!
โจวกุ้ยหลานสกัดกั้นอารมณ์ของตัวเอง
ตอนนี้จะว้าวุ่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าก้อนน้อยจะยิ่งกลัว
เจ้าก้อนน้อยกอดขาโจวกุ้ยหลานแน่น ไอไม่หยุด
โจวกุ้ยหลานตักน้ำราดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของตัวเอง อุ้มเจ้าก้อนน้อยไปทางประตูห้องครัว แต่พอยื่นมือลูบประตูกลับพบว่าร้อนแล้ว
ข้างหลังก็ไหม้แล้ว…
โจวกุ้ยหลานเครียดจัด
ขณะกำลังขบคิด เปลวไฟก็ลอดช่องประตูเข้ามา
เจ้าก้อนน้อยกลัวจนหลับตาปี๋
โจวกุ้ยหลานจะบ้าอยู่แล้ว บนเขามีนางอยู่ครอบครัวเดียว ต่อให้ตะโกนก็ไม่มีใครได้ยิน
โจวกุ้ยหลานตัดสินใจ นางอุ้มเจ้าก้อนน้อยวิ่งไปถึงข้างโอ่งน้ำ แล้ววางเขาลงไปในนั้น ในนี้มีน้ำมาก เขาแช่อยู่ในนั้นน่าจะปลอดภัย
“ท่านแม่…แค็กๆ…ท่านแม่ก็เข้ามา…แค็กๆ” เจ้าก้อนน้อยกล่าวพลางดึงมือของโจวกุ้ยหลาน
โจวกุ้ยหลานตระหนักว่าออกไปไม่ได้แล้วในตอนนี้ ไม่กล้าลังเลจึงเข้าไปอยู่ในโอ่งน้ำด้วย กอดเจ้าก้อนน้อยอยู่ในอก แล้วถือผ้าปิดปากปิดจมูกเขาไว้
“เสี่ยวเทียนกลัวไหม?” โจวกุ้ยหลานกอดร่างสั่นเทาของเจ้าก้อนน้อยแน่น แยกริมฝีปากถาม
เจ้าก้อนน้อยที่ถูกปิดจมูกส่ายหน้า บ่งบอกว่าตนไม่กลัว
แต่พอมีดวงเพลิงแลบเข้ามา เขาก็ตกใจคอหด
โจวกุ้ยหลานตื้นตันใจมาก กอดเขาแน่นอีกนิด “เสี่ยวเทียนไม่กลัว เดี๋ยวพ่อเจ้าก็กลับมาแล้ว ถึงตอนนั้นก็มาช่วยเราแล้ว”
นางอยากมอบรอยยิ้มปลอบใจให้เจ้าก้อนน้อย แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้ากลับแข็งทื่อ ขยับไม่ได้
สวีฉางหลิน เจ้ารีบกลับมาเร็ว ไม่อย่างนั้นลูกเมียเจ้าต้องตายแน่ เจ้าต้องเป็นพ่อม่ายนะ!
โจวกุ้ยหลานกระวนกระวาย มือสั่น จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระดานประตูมอดไหม้
ประตูนี่ต้านทานได้อีกไม่นานแล้ว ถ้าสวีฉางหลินยังไม่กลับมา พวกนางต้องตายแน่ๆ!
โจวกุ้ยหลานปิดปากและจมูกเจ้าก้อนน้อยมิดชิดกว่าเดิม
ณ เหล่าไท่ไท่ หมู่บ้านต้าสือ
หลังจากหมอตรวจอาการทั้งสองแล้ว ก็กำชับกับสวีฉางหลิน “ไม่เป็นอะไร แค่ร่างกายไม่ได้กินเนื้อมานาน ของที่กินวันนี้มันเกินไป ร่างกายก็เลยรับไม่ไหว”
“ข้าก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร นังเด็กกุ้ยหลานทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้” เหล่าไท่ไท่บ่น
“ตรวจดูสักหน่อยก็ดี” สวีฉางหลินเอ่ยพลางหันไปมองทางหมอ “ค่ารักษาเท่าไร?”
หมอสูงวัยเก็บหมอนตรวจของตัวเอง ตอบ “ข้าก็ไม่ได้จ่ายยา ท้องเสียไม่กี่วันก็หาย เจ้าให้ข้าสิบอีแปะก็แล้วกัน”
สิบอีแปะ?
เหล่าไท่ไท่เบิกตากว้าง เสียดายสุดแสน
ยาอะไรก็ไม่ได้ให้ แค่จับชีพจรเท่านั้นก็สิบอีแปะ! แพงเกินไปแล้ว!
“ท่านแม่ ท่านแม่จ่ายเถอะ” โจวต้าได้มองสีหน้าเหล่าไท่ไท่ รู้ว่ามารดาตนรู้สึกแพง จึงเตือนทันที เกรงว่ามารดาตนจะกล่าวอะไรนอกเหนือจากนั้น
เหล่าไท่ไท่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ทราบอะไรควรไม่ควร หมอคนนี้เป็นหมอคนเดียวในแถวนี้ พวกเขาเจ็บป่วยอะไรก็มาให้เขาตรวจ จะล่วงเกินไม่ได้
พอคิดอย่างนี้แล้วนางก็เดินออกไปข้างนอก
สวีฉางหลินล้วงสิบอีแปะในตัวยื่นให้หมอ
“น้องเขย นี่จะให้เจ้าออกเงินได้อย่างไร? เจ้าเก็บเงินเถอะ รีบเก็บเร็ว!” โจวต้าไห่เอ่ยพลางห้ามสวีฉางหลิน
สวีฉางหลินทางนั้นเบี่ยงมือหลบมือของโจวต้าไห่ได้อย่างง่ายดาย ยัดเงินไว้ในมือหมอ “ใครจ่ายก็เหมือนกัน”
“จะได้อย่างไร?” โจวต้าไห่ยังตามยื้อ แต่สวีฉางหลินเก็บมือกลับมาแล้ว
“จ่ายเงินแล้ว” สวีฉางหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชืด
เงินก็ให้หมอไปแล้ว เจ้ายังจะเอาคืนมือหรืออย่างไร?
“ฉางหลิน ข้าขอบใจเจ้าแล้ว” เหล่าไท่ไท่เดินไปได้ครึ่งเดียวก็หยุด แล้วหันกลับมายิ้มเอ่ยกับสวีฉางหลิน
“สมควร” สวีฉางหลินตอบ เก็บข้าวของของหมอ แล้วเอ่ยกับหมอว่า “เช่นนั้นข้าจะส่งท่านกลับไป?”
หมอสูงวัยลุกขึ้น รับคำ แล้วเดินออกไปข้างนอกกับสวีฉางหลิน
เหล่าไท่ไท่ฉวยโอกาสบอกกับโจวต้าไห่ “ต้าไห่ เจ้าก็ออกไปส่งด้วย”
“ได้!”
โจวต้าไห่รับคำแล้วตามออกไป
พอทั้งสองส่งหมอออกจากบ้านแล้วก็เดินกลับ
สวีฉางหลินมักรู้สึกตะขิดตะขวงในใจเล็กน้อย เมื่อหันไปทิศบ้านของตัวเอง ท่ามกลางความมืดมิดกลับเห็นแสงไฟบนภูเขา ควันดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า
พวกเขาพลันสะดุ้ง ทิ้งหีบไม้ของหมอสูงวัยลงพื้น แล้ววิ่งไปทางภูเขาทันที
“ต้าไห่ เจ้าส่งท่านหมอกลับไป!” สวีฉางหลินบอก คนวิ่งอ้าวออกไปแล้ว
“ฉางหลิน? เจ้าไปไหน?” โจวต้าไห่ถามแล้วหันไปมอง
นั่นไม่ใช่…นั่นไม่ใช่ทางบ้านของกุ้ยหลานหรือ?
นี่…ไฟไหม้แล้ว?
โจวต้าไห่ลนลาน เหงื่อบนหน้าผากหยดลงมาพรากๆ มือเท้าเย็นเยียบชั่วขณะ
“ไอ้หยา ไฟไหม้บนภูเขาแล้ว” หมอสูงวัยเห็นภาพนี้แล้วก็สะท้อนใจ
เสียงนั้นทำให้โจวต้าไห่ตื่นจากภวังค์ หันไปตะโกนทางบ้านตัวเอง “ท่านแม่! รีบออกมาเร็ว บ้านกุ้ยหลานไฟไหม้แล้ว รีบเรียกคนไปดับไฟเร็ว!”
กล่าวจบก็วิ่งไปทางภูเขาอย่างรวดเร็ว แต่พอเขาวิ่งไปก็ไม่เห็นเงาหลังสวีฉางหลินแล้ว
เขาร้อนรุ่มใจ วิ่งพลางตะโกน “ไฟไหม! รีบตื่นมาดับไฟเร็ว!”
ท่ามกลางความมืดมิด เสียงนั้นจึงดังกว่าปกติ ปลุกผู้คนที่กำลังหลับใหลตื่นขึ้นมาไม่น้อย
“ไฟไหม! รีบดับไฟ!”
“รีบตื่นมาดับไฟเร็ว!”
ข่าวนี้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วในหมู่บ้านต้าสือ ไม่นานทุกบ้านก็วิ่งออกมาอย่างร้อนรน
ตอนนี้ โจวต้าไห่วิ่งไปถึงข้างหน้าแล้ว
เหล่าไท่ไท่ก้าวเท้าสั้นๆ วิ่งออกมา มองไปทางนั้น เหงื่อกาฬตรงหลังผุดออกมาไม่หยุด
“ไอ้หยาสวรรค์!”
ตะโกนเสียงหนึ่ง นางรีบวิ่งไปที่บ้านโจวต้าซาน ระหว่างทางเห็นคนเปิดประตูวิ่งออกมาไม่น้อย นางตะโกนตลอดทาง “รีบขึ้นเขาไปดับไฟเร็ว! ไฟไหม้ภูเขาแล้ว!”
พอตะโกนออกไป คนเหล่านั้นจึงเห็นไฟที่อยู่ตรงภูเขา
ตายแล้ว ถ้าภูเขาไฟไหม้ บ้านพวกเขาที่อยู่ตีนเขาก็จะวอดวายไปด้วย!