บทที่ 285 คำอ้อนรัก

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่285 คำอ้อนรัก

“เดี๋ยว ๆ คุณ คุณว่าอะไรนะ?”

คราวนี้ มาถึงทีคุณนายเจ้าของร้านต้องสะเทือนใจผวาตื่นแล้ว สายตาหล่อนมองไปที่มู่เซิ่งอย่างไม่กล้าจะเชื่อ เจ้าหนุ่มคนนี้ดูท่าค่าตัวระดับทั่ว ๆ ไป อย่างมากก็พวกไว้ท์คอล่านั่งออฟฟิศ แต่สินค้าราคาสามสิบเจ็ดล้าน ตาไม่มีการกะพริบ ก็ตกลงซื้อเลย

เขา เขามีเงินขนาดนั้นเลยเชียวหรือ?

คุณนายเจ้าของร้านคว้ามือมู่เซิ่งโดยสัญชาตญาณ กลัวว่ามู่เซิ่งจะแกล้งล้อเล่น แล้วเดี๋ยวจะทำให้ชุดวิวาห์สุดยอดชุดนี้เสียหายได้

ขณะเดียวกัน หล่อนก็มองไปที่หยางเหนิง ความหมายในแววตาเห็นชัดเลยว่า คิดจะถามหยางเหนิง มู่เซิ่งจะมีปัญญาเอาเงินก้อนโตขนาดนี้ออกมาได้หรือไม่

แต่ทว่า แม้กระทั่งหยางเหนิงเองก็ตะลึงผวาอึ้งนิ่ง

สามสิบเจ็ดล้าน ถ้าท่านหลงเป็นคนจ่าย เขาก็ไม่รู้สึกตื่นใจเท่าไหร่ แต่เด็กหนุ่มคนนี้ตามที่ท่านหลงบอก ก็เป็นแค่เพียงคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น จะไปเอาเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาจากไหนได้?

“ผมว่า ก็ซื้อชุดนี้แหละ รูดการ์ดได้ไหม?” มู่เซิ่งพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ได้ แน่นอนว่าได้ แต่ว่า ชุดวิวาห์ขุดนี้ราคาทั้งหมดคือสามสิบเจ็ดล้าน คุณแน่ใจนะว่าจะซื้อ?” คุณนายเจ้าของร้านถามย้ำอีกรอบ

ขณะที่มู่เซิ่งกำลังเตรียมจะผงกหัว เจียงหว่านดึงมือมู่เซิ่ง พูดว่า “มู่เซิ่ง ระยะนี้สภาพในบริษัทไม่สู้ดี นายใช้จ่ายเงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อชุดวิวาห์ชุดเดียว จะป็นการฟุ่มเฟือยเกินเหตุไหม อีกทั้งการซื้อชุดวิวาห์มาแล้ว พวกเราก็ใช้อยู่แค่ครั้งเดียวนี้เท่านั้น….”

“ชุดวิวาห์สวมใส่กับตัวเธอได้ ถึงจะเป็นเพียงครั้งเดียว ก็สุดคุ้มแล้ว” มู่เซิ่งพูด “พูดก็พูด ผมยังเห็นว่าชุดวิวาห์นี้ยังไม่ได้มีค่าพอจะสวมใส่บนตัวเธอด้วยซ้ำ”

คุณนายเจ้าของร้านได้ยินคำพูดนี้ อดไม่ได้ที่จะค้อนตาคว่ำ ชุดวิวาห์ราคาสามสิบกว่าล้านยังมีค่าไม่พอ นี่มันจะคุยเว่อกันถึงไหนกัน? ไอ้หมอนี่จะเป็นพวกเอาแต่คุยโม้ละมั้ง?

ทว่า เห็นมู่เซิ่งควักบัตรเครดิตธนาคารออกมา รูดเป็นตัวเลขเข้าบัญชียาวเหยียดมา คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์พูดไม่ออกในทันที

ไม่ว่าเขาจะขี้โม้หรือไม่ แต่ว่ามู่เซิ่งมีปัญญาซื้อชุดวิวาห์นี้ได้ นี่เป็นเรื่องจริง ๆ

“ที่รักจ๊ะ พวกเราไปลองชุดวิวาห์กัน” เอาชุดวิวาห์ออกมาจากตู้กระจก มู่เซิ่งพูดยิ้ม ๆ

“แต่ว่า……” เจียงหว่านยังรู้สึกลังเล

สำหรับเรื่องมาฮันนี่มูนนี้ เรื่องชุดวิวาห์สำหรับเจียงหว่าน ไม่ใช่เรื่องที่ใส่ใจนัก และโดยสายตาของหล่อนนั้น ก็รู้สึกถึงจำนวนเงินสามสิบเจ็ดล้านกับชุดวิวาห์ชุดหนึ่งนั้นแพงมากเกินไปจริง ๆ

แต่ทว่า หล่อนจะไม่ยอมรับไม่ได้ว่า ชุดวิวาห์ที่เห็นอยู่ในสายตานี้ สวยวิจิตรมาก ๆ เลยทีเดียว จนหล่อนใคร่อยากที่จะสวมใส่เข้าไปแล้ว

“ไม่ต้องแต่ว่าอีกแล้ว เรื่องในวันนี้ ต้องเชื่อฟังผม” มู่เซิ่งกุมมือเจียงหว่านไว้แล้วพูด

เจียงหว่านจึงได้แต่ผงกหัว

นาทีนั้นเอง หล่อนได้สัมผัสรับพลังที่แข็งแกร่งมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนจากมู่เซิ่ง ถึงกับสะท้อนความรู้สึกอยู่ในใจ เงินจำนวนนี้ในสายตาของมู่เซิ่ง ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เพราะฉะนั้นหล่อนจึงได้ผงกหัวรับอย่างยอมตาม ภายใต้การดูแลของมู่เซิ่ง หยิบเอาชุดวิวาห์ลงมา เดินเข้าไปในห้องลองชุด

มู่เซิ่งรออยู่หน้าห้องอย่างใจเย็น

ในเวลานั้น คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์แอบดึงหยางเหนิงเบา ๆ ลากเขามาชิดข้างตัว กระซิบถามไปว่า “หยางเหนิง นี่มันอะไรกันแน่ ไหนเธอบอกว่าสองคนนี้เป็นคนธรรมดา ๆ ไง?”

“ก็ใช่ไง ท่านหลงบอกกับผมเอง ให้พาเพื่อนธรรมดา ๆ สองคนของเขาไปเที่ยวที่เกาะสองใจ ตอนนั้นผมก็ฟังมาชัดเจนแบบนี้” หยางเหนิงก็งงเบลอไปเหมือนกัน

เมื่อกี้นี้ที่มู่เซิ่งจู่ ๆ ก็ทุ่มออกมาอย่างมือหนักนั้น ทำให้เขาต้องแปลกใจ ใช่หรือเปล่าว่าท่านหลงหลอกเขา

แต่ว่า ท่านหลงจำเป็นอะไรที่ต้องมาหลอกเขา?

เขาจ้องมองเจียงหว่านกับมู่เซิ่งอยู่พักหนึ่ง พูดว่า “อ่า ผมนึกออกละ ผู้หญิงคนนี้รู้สึกเป็นคนตระกูลเจียง ใกล้ ๆ นี้ผมได้เห็นหล่อนอยู่ในข่าวของโครงการเขตซีไห่ รับงานโครงการใหญ่ระดับพันล้าน ฉะนั้นน่าจะมีเงินมากอยู่ในตอนนี้”

คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ผงกหัว ถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องนี้ก็พอมีเหตุผลอธิบายได้

“แล้วผู้ชายคนนี้หละ ก็น่าจะมีเงินไม่น้อยนะ?” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ถามต่อ

“เขานะหรือ?ผมรู้ เป็นบ่าวแต่งเข้าของบ้านตระกูลเจียง ชื่อมู่เซิ่ง” หยางเหนิงคิดทบทวนนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ

แค่จบคำ คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์อดไม่ได้เม้มปากเบี้ยว ยังคิดว่าคนผู้ชายนี่มีเงินเสียอีก มองดูแบบนี้ น่าจะมีเงินไม่เท่าไหร่ คงพวกขยะที่ยังคอยพึ่งผู้หญิงเลี้ยง โครงการระดับพันล้านถึงแม้ว่าใหญ่มาก แต่ที่ได้มาถึงมือเต็มที่ก็สักร้อย-สองร้อยล้าน ใช้จ่ายเงินมากขนาดนี้ซื้อชุดวิวาห์ มันก็พวก (ตบหน้าตัวเองให้บวมอวดโชว์เป็นคนอ้วน) อวดรวยแค่นั้น

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นเงินของเมียอีกด้วยซ้ำ นี่เป็นเรื่องทำให้คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์รู้สึกเหยียดแคลนอยู่ในใจ

“เงินมากมายขนาดนี้ ปาดรูดทีเดียวก็หลุดไปแล้ว นายไม่รู้สึกปวดใจเลยหรือ?” เห็นมู่เซิ่งนั่งรออยู่ที่หน้าห้องลองชุด คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ขยับตัวเข้าไปหา ถามเหน็บแนมไป

“ก็ยังดี” มู่เซิ่งผงกหัวพูดตอบไป

ว่ากันตามข้อเท็จจริง เงินแค่นี้ในสายตาของเขา มันไม่ใช่อะไรที่ต้องคิดมากเลย ถ้าไม่ใช่ว่าร้านนี้มีชุดวิวาห์ชุดนี้ชุดเดียว เขายังจะรู้สึกว่าถูกเกินไปด้วยซ้ำ

คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์สะบัดฮึเสียงเย็นชาออกจมูก ไอ้หมอนี่ เป็นพวกขี้โม้จริง ๆ ด้วย

“ฉันว่าน่าประหลาด ทำไมท่านหลงจะรู้จักกับคนพวกนี้ได้” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์พูดขึ้น

ในสายตาของหล่อน ท่านหลงเป็นคนระดับฝีมือและสายตาลุยมองทะลุฟ้าแล้ว ความยิ่งใหญ่ของเขานั้นยากที่จะเห็นได้ในนึกคิด เจียงหว่านถึงทำบริษัทจนระดับใหญ่ขึ้นมาแล้ว แต่ต่อหน้าคุณหลงนั้น ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดถึง หลายบริษัทที่กิจการใหญ่กว่าของหล่อนมีแต่จะหาช่องเอาใจท่านหลง แล้วมู่เซิ่งนี่ไปรู้จักกับท่านหลงได้ยังไง นี่คือประเด็นที่คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์หาเหตุผลไม่ได้

“คนอย่างผมนี่ คุณรู้สึกว่าเป็นคนแบบไหนหรือ?” มู่เซิ่งหันหน้ามาถาม

“คุณ…….”

คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์เจอเข้ากับยิ้มบริสุทธิ์ใจของมู่เซิ่ง เกิดความรู้สึกใจหายขึ้นมาในทันที พูดเสียงค่อย ๆ ไปว่า “คุณก็บ่าวแต่งเข้าคนหนึ่งไง”

“คุณพูดไม่ผิด ใช่ก็คือใช่ที่เป็นบ่าวแต่งเข้าของตระกูลเจียง” มู่เซิ่งผงกหัว ยอมรับสถานะของตัวเอง

วางท่าทางนิ่งเฉย เหมือนไม่มีอะไรต้องใส่ใจ

มาถึงตอนนี้ คำแดกดันประชดประชันเต็มท้องที่จะใส่มู่เซิงเลยพูดไม่ออก

แม้มู่เซิ่งเองก็ยังไม่ใส่ใจ หล่อนพูดออกไปจะได้อะไร แล้วจะใช้ทำอะไรได้?

“ฮึ ความคิดจะก้าวหน้าไม่มีเลยสักนิด ฉันขี้เกียจจะคุยด้วยละ” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ออกอาการเซ็งชืดหมดอารมณ์

ไม่นานนัก เจียงหว่านก็ได้ใส่ชุดวิวาห์แล้ว เดินออกมาจากห้องลองชุด ทันทีที่ประตูห้องลองชุดเปิดออก ทุกคนตะลึงงันอยู่กับที่

แม้แต่คุณนายเจ้าของร้านยังลืมคิดต่อไปว่าจะกระแนะกระแหนมู่เซิ่งยังไงอีก ลูกนัยน์ตาเหมือนถูกแม่เหล็กดูดหยุดนิ่งกับที่ ติดแน่นกับตัวของเจียงหว่าน

หล่อนเองที่เป็นเจ้าของร้านชุดวิวาห์นี่ เห็นหญิงสาวแต่งชุดวิวาห์มานับไม่ถ้วน บ้างก็หุ่นเบ๊อะบ๊ะ บ้างก็สีผิวไม่รับ หล่อนไม่เคยได้เห็นเหมือนอย่างเจียงหว่าน หญิงสาวที่ทำให้ชุดวิวาห์แต่งได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้

เหมือนกับว่าชุดวิวาห์นี้ ก็คือตัดวัดตามทรวดทรงขนาดของหล่อนโดยตรง ไม่ว่าส่วนแขนส่วนคอปก ล้วนลงตัวพอดิบพอดี ถึงหล่อนเองจะเป็นผู้หญิง ดูแล้วก็ยังเกิดความรู้สึกใคร่จะรัก อันเป็นความรักด้วยใจบริสุทธิ์

ในขณะเดียวกันนั้น คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ก็ยังอยู่กับความคิดที่คิดไม่ตก ทำไมหญิงงามขนาดนี้ ต้องไปอยู่กับผู้ชายไม่ได้เรื่องแบบนี้ แล้วยังจะถ่ายชุดวิวาห์กันด้วย

มู่เซิ่งยืนอยู่หน้าห้อง ในเวลานั้นก็ยืนมองจนหลงไปเลย

“เป็นยังไงบ้าง สวยไหม?” เจียงหว่านจับชายกระโปรง สีหน้าเขินอายระคนตื่นใจมองไปที่มู่เซิ่ง

มู่เซิ่งก็อดใจไม่อยู่เดินเข้าไปยืนข้างเจียงหว่าน เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เธอได้กลิ่นอะไรไหม้หรือเปล่า?”

“อุ้ย ที่ไหน?” เจียงหว่านชะงัก สีหน้าแสดงออกในความตื่นตระหนก

มู่เซิ่งจูงมือเจียงหว่าน แล้วพูดว่า “หัวใจผมไง ทันทีที่เห็นเธอในนาทีนั้น ก็ได้ลุกไหม้ขึ้นมาแล้ว”

“คิ๊ก ๆ —–”

พอเจียงหว่านได้ยินที่พูด ใบหน้าแสนสวยแดงไปทั่ว แลบลิ้นหลอกแล้วพูดว่า “มู่เซิ่ง นายไปเลียนคำอ้อนรักแบบนี้มาจากที่ไหนกัน เชยจัง…….”