เฉินฮวนฮวนไม่กล้าที่จะรู้สึกอีกต่อไป เธอรีบดึงมือของเธอกลับมาและส่ายหัวอย่างแรง
“ไม่ ไม่ ไม่จำเป็นต้องรู้สึก คุณพูดถูก ถูกมากๆ…”เธอพูดตะกุกตะกัก ดวงตาสีแอปริคอทของเธอเปียกชื้นจนดูน่ารังเกียจ
“คุณรู้สึกจริงใจ หรือว่า…”เฟิงหานชวนอยากจะพูดต่อแต่ก็หยุดเสียก่อน
เฉินฮวนฮวนตอบกลับไปทันที: “ฉันจริงใจจริงๆ ฉันคิดว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นถูกต้อง ถูกต้องจริง ๆ และฉันจะไม่ปฏิเสธคุณอีก!”
เธอเครียดจะตายอยู่แล้วจริงๆ ถ้าหากเฟิงหานชวนเลือกที่จะจับมือเธอจริงๆ งั้น…งั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรอีก เธอคาดว่าเธอคงจะช็อกไปเลยแน่ๆ
“ต่อไปไม่อนุญาตให้เรียกผมว่าคุณอาอีกแล้วนะ เข้าใจไหม?”เฟิงหานชวนกอดเธอไว้ในอ้อมแขน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการขู่
เฉินฮวนฮวนรู้สึกได้ถึงการขู่ของเขา และเธอทำได้เพียงแค่พยักหน้าในอ้อมกอดของเขา และพูดอย่างคลุมเครือว่า: “รู้ รู้ ฉันรู้”
เธอคงไม่กล้าเรียกเฟิงหานชวนว่า “คุณอา” อีกแน่นอน มันชัดอยู่แล้วที่เธอเรียกชื่อนี้เธอเพราะแค่ต้องการแขวะเฟิงหานชวน แต่สุดท้ายมันก็เปลี่ยนไปแล้ว….
เมื่อเห็นว่าเฉินฮวนฮวนเชื่อฟังขนาดนี้ เฟิงหานชวนก็ปล่อยเธอด้วยท่าทางที่มีความสุข
เฉินฮวนฮวนขยับตัวออกอย่างรวดเร็วและสูดอากาศหายใจอยู่สักครู่ เมื่อกี้เฟิงหานชวนกอดเธอแน่นไว้ในอ้อมแขนของเขา จนทำให้เธอรู้สึกหายใจลำบาก
“ที่ผมปล่อยมือคุณ คุณแทบรอไม่ไหวที่จะไปไกลๆจากผมแล้วใช่ไหม?”เฟิงหานชวนทำปากบึ้งตึงและเอ่ยถามอย่างเย็นชา
แต่เฉินฮวนฮวนได้ยินคำขู่เล็กน้อยภายในน้ำเสียงของเขา
“ฉันแค่หายใจ”หลังจากเฉินฮวนฮวนอธิบายไปแล้ว เธอก็ล้มตัวลงนอนทันที เธอรีบเอาผ้าห่มคลุมตัวเองแล้วพูดว่า: “ฉันจะนอนแล้ว”
จากนั้นเธอก็หลับตาลงโดยไม่สนใจว่าเฟิงหานชวนต้องการจะพูดอะไรอีกหรือไม่ก็ตาม
หลังจากนั้นไม่นานภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ เฟิงหานชวนเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนเฉินฮวนฮวนเองที่พยายามจะนอนให้หลับอย่างไรเธอก็นอนไม่หลับสักที
ขณะที่เธอหลับตาลง จิตใจของเธอก็เต็มไปด้วยภาพที่ทั้งสองจูบกันบนโซฟา ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินนานา พวกเขาก็คงจะ…
เฟิงหานชวนมองไปที่เฉินฮวนฮวนตลอดเวลา เขาต้องการรอจนกว่าเธอจะหลับไป แต่เมื่อมองไปยังเปลือกตาที่สั่นเทาของหญิงสาว เขาคิดว่าเฉินฮวนฮวนน่าจะนอนไม่หลับแน่ๆ
ดังนั้นเขาจึงเอนตัวลงและถามเสียงเบาๆข้างหูของเธอว่า: “นอนไม่หลับเหรอ?”
“อ๊าย!”เฉินฮวนฮวนลืมตาทันที เธอหันศีรษะและมองไปที่เฟิงหานชวน
“กำลังคิดอะไรอยู่? มองดูแล้วเหมือนว่าคุณกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัวของคุณ “เฟิงหานชวนถามด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง
“ฉัน……ฉันไม่ได้คิดอะไร ฉันแค่ยังไม่หลับ “แน่นอนว่าเฉินฮวนฮวนไม่กล้าพูดว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในตอนนี้
ถ้าเป็นเช่นนั้นมันจะเป็นการเตือนเฟิงหานชวน และเป็นไปได้ว่าเฟิงหานชวนคงอยากจะรีบๆจบเรื่องนี้โดยเร็ว
ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว และมันก็คงน่าจะดึกแล้วด้วย เธอต้องรีบพักผ่อน
“ถ้านอนไม่หลับอย่างนี้ บางทีอาจจะเป็นอาการนอนไม่หลับ”สีหน้าของเฟิงหานชวนดูจริงจัง เขาพูดต่อว่า: “อาการนอนไม่หลับมันเป็นโรคและต้องได้รับการรักษา”
“มันไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ จริงๆแล้วฉันสามารถหลับได้เร็วมาก ฉันไม่จำเป็นต้องรับการรักษา”เนื่องจากเฟิงหานชวนดูเหมือนจะพูดอย่างจริงจัง เฉินฮวนฮวนก็ตอบกลับไปอย่างจริงจังเช่นกัน
“ในเมื่อไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ ทำไมคุณถึงไม่นอนสักทีล่ะ”เฟิงหานชวนถามเธออีกครั้ง
“ฉัน……ฉันแค่ยังไม่หลับ ฉันเพิ่งหลับตาไปไม่นานเองนะ “เฉินฮวนฮวนยังคงตอบอย่างจริงจัง
เฟิงหานชวนลุกขึ้นนั่งในเวลานี้ เขาลงจากเตียงอีกด้านแล้วเดินไปที่ประตูห้อง
เฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย เฟิงหานชวนกำลังจะทำอะไร?
เธอหยุดเขาทันที: “เดี๋ยวก่อน เฟิง…หานชวน คุณจะไปไหน? ”
คืนนี้เฟิงหานชวนจะออกไปข้างนอกโดยไม่นอนน่ะเหรอ?
“ผมจะไปอุ่นนมร้อนๆให้คุณดื่ม ดื่มแล้วจะได้หลับสบายๆ”เฟิงหานชวนพูดประโยคนี้ทิ้งไว้ จากนั้นก็ปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป
เมื่อมองไปยังประตูที่ถูกปิด เฉินฮวนฮวนก็ตกอยู่ในความงุนงง เธอได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
เฟิงหานชวนอาสาไปทำนมร้อนๆให้เธอ เพื่อที่เธอจะได้นอนแต่หัวค่ำ?
เฉินฮวนฮวนมีอาการง่วงนอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็รู้สึกหายง่วงแล้วด้วย เฟิงหานชวนเอาใจใส่เธอจริงๆและเป็นห่วงเป็นใยเธอมาก
อย่างไรก็ตามเธอเพิ่งจะเข้าใจเขาผิดโดยคิดว่าเขาอารมณ์ร้อนมากหรืออะไรสักอย่าง ที่จริงเขาน่าจะอยากพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอให้เร็วขึ้นเท่านั้นใช่ไหม?
เฉินฮวนฮวนนึกถึงคำพูดข้างเดียวของหลิ่วเยว่เอ่อร์และเธอก็ปักใจเชื่อ ทำให้เธอเข้าใจเฟิงหานชวนผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนแรกก็ชัดเจนว่าจะไม่เข้าใจเขาผิดอีก แต่ก็กลับมาสงสัยในตัวของเขาอีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นเฟิงหานชวนไม่เพียงแต่ไม่โกรธเธอ แถมยังอาสาไปอุ่นนมร้อนๆให้เธออีก ยกเว้นยายและแม่ของเธอก็ไม่มีใครปฏิบัติต่อเธอด้วยความกรุณาแบบนี้อีกแล้ว
ห้านาทีต่อมา
เฟิงหานชวนถือแก้วนมร้อนๆเดินมาหาเฉินฮวนฮวน เฉินฮวนฮวนนั่งอยู่ข้างเตียง สีหน้าของเธอดูซีเรียสมาก
“เป็นอะไรไป?”เขาเอื้อมมือไปแตะศีรษะของเธอ แล้วยื่นแก้วใบนั้นให้กับเธอ
เฉินฮวนฮวนมองดูนมร้อนๆสีขาวที่อยู่ข้างหน้าเธอ ไอร้อนที่โชยขึ้นมาทำให้เธอสามารถได้กลิ่นหอมของนมอย่างชัดเจน
เธอรีบเอื้อมมือออกไปหยิบแก้วนมร้อนๆ ดวงตาของเธอฉายแววหดหู่ เธอเพียงรู้สึกว่าตอนนี้ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัว
เนื่องจากเฟิงหานชวนยืนอยู่ข้างหน้าของเฉินฮวนฮวน เขาจึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเฉินฮวนฮวนในขณะนี้ได้ จนกระทั่งเฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้นมองเขา เขาจึงพบว่ามีน้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาของเฉินฮวนฮวน
“คุณเป็นอะไรไป?”เฟิงหานชวนย่อตัวลง มองดูผู้หญิงตรงหน้าที่ดูเจ็บปวด เขาเอานิ้วลูบแก้มเธอเบาๆ น้ำเสียงของเขาดูเป็นกังวลมาก
ตอนที่เขาลงไปอุ่นนมข้างล่าง ทำไมจู่ๆเฉินฮวนฮวนถึงร้องไห้ได้ มันเกิดอะไรขึ้น?
“อาหาน ทำไมคุณถึงดีกับฉันนัก ทำไมถึงอุ่นนมให้ฉันล่ะ?”เฉินฮวนฮวนรู้สึกประทับใจจริงๆ เธอพูดพึมพำกับเขาราวกับว่ากำลังพึมพำกับตัวเอง
“ซื่อบื้อ!”เฟิงหานชวนอดไม่ได้ที่จะตอบกลับไปว่า: “คุณเป็นภรรยาของผม ถ้าผมไม่ทำดีกับคุณ แล้วจะให้ผมไปทำดีกับใคร?”
ประโยคนี้ราวกับคลื่นไฟฟ้าอันทรงพลัง มันส่งผลกระทบต่อหัวใจดวงน้อยๆของเฉินฮวนฮวนโดยตรง เธอเพียงรู้สึกว่าหัวใจของเธอหยุดเต้นไปในทันที
เธอมองไปที่เฟิงหานชวนที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างไร้เดียงสา ตัวของเธอแข็งทื่อไปโดยปริยาย
“ทำไมถึงนิ่งไป ไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ?”ตอนนี้เฟิงหานชวนกังวลเกี่ยวกับสิ่งๆหนึ่งเสมอ นั่นคือเฉินฮวนฮวนไม่เชื่อเขา
ท้ายที่สุดแล้วมีความเข้าใจผิดและมีความขัดแย้งมากมายระหว่างเขากับเธอ
“ไม่ ฉันเชื่อคุณ ฉันไม่ใช่ไม่เชื่อคุณ ฉันแค่…”เฉินฮวนฮวนหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามกลั้นน้ำตา
มันควรจะมีความสุขสิที่มีคนมารัก ทำไมเธอถึงยังอยากร้องไห้อยู่อีก? เธอไม่ควรจะร้องไห้ในเวลานี้
ควรจะยิ้มสิ!