ตอนที่ 286 สวะสมควรตาย!
เกาชุนเห็นว่าจ้าวหยุน ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เขาจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก จึงได้แต่ถอนหายใจออกมา” ถ้าเกิดพี่จ้าวพบครอบครัวของสหายแล้ว ท่านจะกลับมารับใช้ฝ่าบาทได้หรือไม่?”
จ้าวหยุนได้ยิ้มออกมา”ข้า จ้าวหยุน มีพื้นเพมาจากอาณาจักรหนานหยาน หากสามาถสะสางธุระส่วนตัวเสร็จ ฝ่าบาทเป็นเป้าหมายแรกที่ข้าจะให้ความจงรักภักดีอย่างแน่นอน”
เกาชุน พยักหน้าทันทีที่ได้ยิน” เช่นนั้นก็ดี! ฝ่าบาทนั้นเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล หาก ท่านมาอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของพระองค์ ท่านย่อมสามารถแสดงความสามารถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตนเองออกมาได้”
จ้าวหยุน ยิ้มออกมาเขาได้ยกมือขึ้นคํานับ”เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน!”
“แล้วพบกัน!”
“แล้วพบกัน!”
จ้าวหยุน ได้หันหลังและจากไป
เกาชุนมองไปที่อีกฝ่ายและถอนหายใจออกมา”หากฝาบาทได้ จ้าวหยุนผู้นี้มาอยู่ใต้พระหัตถ์ของพระองค์ ย่อมจะดีมาก!”
อย่างไรก็ตาม
จ้าวหยุนได้ตัดสินใจแล้วว่า จะดูแลครอบครัวของสหายผู้ล่วงลับไปแล้ว ถ้าเขายอมแพ้เพราะคําพูดของตนเอง บางทีเกาชุนอาจจะดูถูกอีกฝ่ายอยู่บ้าง
ดังนั้นการที่จ้าวหยุนจากไปเช่นนี้ ทําให้เกาชุนชื่นชมจ้าวหยุนมากขึ้น
“โชคดีที่จ้าวหยุนผู้นี้มีความซื่อสัตย์ ในอนาคต หากเขาให้ความจงรักภักดีต่อฝาบาท ย่อมไม่อาจทรยศหักหลังอย่างแน่นอน”
เกาชุนได้สันศีรษะทันที
เขาได้หันหลังกลับ และนําทหารที่เหลือของกองพันทหารค่ายไปปกป้องภูเขาเหยียนซานและรอกําลังเสริมจากมณฑลเอินหลง
ขณะเดียวกัน ลู่เฟิง ได้นําทหารองค์รักษ์เดินทางมาเป็นเวลาห้าวัน ในที่สุดเขาก็มาถึงมณฑลใกล้กับสามมณฑลทางตอนเหนือ : มณฑลหยู่ซิง
มณฑลหยู่ซิงไม่ใช่มณฑลใหญ่ ในบรรดามณฑลและเมืองทั้งหมดในอาณาจักรหนานหยาน ถือว่าเป็นมณฑลขนาดกลางเท่านั้น
ลู่เฟิงได้นํากองทัพของเขานับ 100,000 นายมาถึงทุกคนได้ก้มลงและถวายการรับใช้ทันที
” ข้าน้อย เซียงรุ่ยหราน อ๋องแห่งมณฑลเฮยเสียน ถวายบังคมฝาบาท!”
ผู้นําที่นี่คือเซียงรุ่ยหราน อ๋องแห่งมณฑลเฮยเสียน และกองกําลังหนึ่งแสนนายของเมืองที่ควรปกป้องอยู่มณฑลเฮยเสียน
พวกเขาควรจะอยู่ปกป้องมณฑลเฮยเสียน แต่เซียงรุ่ยหราน ได้นําพวกเขามาที่ มณฑลหยู่ซิง และ ซ่อนตัวจากสนามรบเพื่อโอกาสรอดชีวิต
ขณะที่เชียงรุ่ยหรานพูดถึงมณฑลเฮยเสียน ทหารหลายคนก็รู้สึกละอายใจ
พวกเขามีพื้นเพมาจากมณฑลเฮยเสียน และเป็นคนพิทักษ์เมือง ท้ายที่สุด พวกเขาก็ละทิ้งมณฑลเฮยเสียน และหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่เพื่อเอาตัวรอด
พวกเขารู้สึกละอายใจอย่างมาก!
เป็นความละอายใจที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
ลู่เฟิงมองไปที่เชียงรุ่ยหรานอย่างเย็นชา เขาได้พูดขึ้นทันที” นําตัวมันไปตัดศีรษะ!”
ตุบ!
เซียงรุ่ยหรานราวกับถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ การแสดงออกของเขาตกตะลึงทันที
เมื่อทหารเข้ามาลากตัวเขา เขาได้ตอบสนองและรีบพูดขึ้น” ฝ่าบาท หากพระองค์ต้องการที่จะฆ่ากระหม่อม พระองค์น่าจะมีเหตุผลนะพะยะค่ะ?”
“กระหม่อมไม่ทราบว่าตนเองทําผิดอะไร ได้โปรดฝาบาทพิจารณาด้วย!”
เซียงรุ่ยหรานร้องห่มร้องไห้ร้องขอชีวิต
เขาหารู้ไม่ว่า ลู่เฟิงได้รับข่าวจากจินยี่เหว่ย ในวันเดียวกับที่ทหารคนนึงมารายงานเขาที่ภูเขาติงจิ้ง
เขามองไปที่ เซียงรุ่ยหราน และ กล่าวพูดอย่างเย็นชา”เจ้าในฐานะอ๋องแห่งมณฑลเฮยเสียน ทันทีที่ได้ยินว่า พวกคนเถื่อนทางตอนเหนือนํากองกําลัง 1.5 ล้านนายบุกโจมตีสามมณฑลทาง ตอนเหนือ เจ้าไม่เพียงแต่ไม่ทําการต่อต้านแต่ยังหลบหนีไปพร้อมกับทหารคุมเมืองนับแสนนาย ท้ายที่สุด มณฑลเฮยเสียนก็ถูกพวกคนเถื่อนยึดครอง”
” พวกคนเถื่อนในมณฑลเฮยเสียน ได้ฆ่าผู้คนนับล้านภายในสามวัน เหล่าบุรุษล้วนถูกตัดศีรษะไม่เว้นไม่ว่าจะผู้ใหญ่เด็กหรือคนแก่ เก้าในสิบของสตรีถูกนํามาเป็นทาสและใช้สนองตัณหาของพวกมัน ในสามวันที่ผ่านมามีเสียงกรีดร้องของผู้คนนับไม่ถ้วน!”
“เจ้ายังจะบอกว่าตนเองไม่มีความผิดอยู่อีกงั้นเหรอ?”
” หากเจ้าที่เป็นผู้ดูแลมณฑลเฮยเสียนในตอนนั้นนํากองกําลัง 100,000 นาย เผชิญหน้ากับพวกคนเถื่อนและปกป้องเมือง อย่างน้อยเจ้าก็สามารถยืนหยัดได้เกิน 7 วัน ภายใน 7 วันนี้ กองกําลังช่วยเหลือน่าจะมาถึง!”
“แต่เจ้ากลับไม่ได้ทําเพื่อพวกเขา ละทิ้งมณฑลเฮยเสียน ละทิ้งผู้คนนับล้านทําให้ มณฑลเฮยเสียนตกอยู่ในความสิ้นหวัง!!”
“ความผิดเท่านี้เพียงพอที่ข้าจะสังหารเจ้าหรือไม่?”
ลู่เฟิงจ้องมองไปที่เซียงรุ่ยหรานอย่างเย็นชา”เจ้ากล้าพูดต่อหน้าข้าว่าไม่มีความผิด เจ้าคิดว่าเจ้าไม่มีส่วนรับผิดชอบกับการตายของผู้คนนับล้านในมณฑลเฮยเสียนเลยหรืออย่างไร?”
” กระหม่อม,กระหม่อมมิได้!”
ใบหน้าของเซียงรุ่ยหรานซีดลง” หากตอนนั้นข้ายืนกรานต่อสู้กับพวกคนเถื่อนก็คงไม่สามารถชนะทั้งยังสูญเสียกองกําลัง นี่คือเหตุผลที่ข้ารีบนํากองกําลังถอยร่นกลับมาเพื่อรอการมาถึงของฝาบาท และจะร่วมเป็นพลังในการต่อสู้”
“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไม่?”
ลู่เฟิงชี้ไปที่ทหารข้างเซียงรุ่ยหรานและพูดเสียงดัง” บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น?”
”ฝาบาท..พวกเราถูกท่านอ๋องบังคับ พวกเราไม่สามารถต่อต้านได้!”
“ฝ่าบาท วันนั้น ท่านแม่ทัพของพวกเรานํากองกําลังไปปกป้องเมือง แต่เซียงรุ่นหราน ได้ฆ่าแม่ทัพของพวกเรา และใช้ทหารรักษาเมืองกว่า 100,000 นาย สังหารสมาชิกครอบครัวของเขามากกว่าสามพันชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีไปยังมณฑลหยู่ซึ่งตอนนี้พวกเรารู้สึกผิดอย่างมาก!”
“ฝ่าบาทได้โปรดให้ความเป็นธรรมด้วย!”
” พวกเราขอร้องฝาบาทให้ความเป็นธรรมด้วย!”
กองทัพหนึ่งแสนนายทั้งหมดได้ขอร้อง
เสียงนั้นได้ดังขึ้นในหูของเซียงรุ่ยหราน ทําให้ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ
” ที่แท้ เจ้ากลับฆ่า คนของตัวเองไปมากกว่า 3,000 คน และ ยังมีชีวิตอีกนับล้านในมณฑล เฮยเสียน!”
ลู่เฟิงมองไปที่ เชียงรุ่ยหรานอย่างเย็นชา”เพียงแค่โทษของการฆ่าคนกว่าสามพันชีวิต ก็มีโทษล้างตระกูลแล้วในตอนนี้!”
” หลวนเฉิน!”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”หลวนเฉินได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
” พาจินยี่เหว่ย ไปหาสมาชิกครอบครัวของเซียงรุ่ยหราน ไม่ว่าจะหญิงชายคนแก่ หรือเด็กฆ่าพวกมันทุกคนไม่ต้องปราณีและอย่างปล่อยให้หนีรอดไปได้!” ลู่เฟิงคํารามออกมาด้วยความโกรธ
เสียงนั้นทรงพลัง จนทหารนอกมณฑลหยู่ซิงได้ยิน แม้แต่คนที่อยู่ใกล้กําแพงเมืองในมณฑลหยู่ซิงก็ยังได้ยิน
ตุบ!
เซียงรุ่ยหราน ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยใบหน้าสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นลู่เฟิงมุ่งมั่นที่จะฆ่าตระกูลตัวเองให้ได้เขาได้มองไปที่ลู่เฟิงด้วยความโกรธ” ลู่เฟิง หากเจ้ากล้าฆ่าล้างครอบครัวของข้า ข้าจะทําให้เจ้าไม่ตายดีแน่!”
ตุ้ม!
แต่ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปถึงตัวของลู่เฟิง เขาก็ถูกลู่เฟิงเตะจนกระเด็นไปไกลหลายเมตร
” ต้วนซุย!”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”
”ลากมันลงไปเลาะแขนแลาะขาเสียบประจานให้เหยื่อที่หลบหนีออกมาจากมณฑลเฮยเสียน เห็นภาพที่น่าเศร้าสลดของมัน”
* ขอรับ!”
ตัวนซุยได้ลากร่างของเซียงรุ่ยหราน เข้าไปในมณฑลหยู่ซิง
หลายคนในมณฑลเฮยเสียน ที่เห็นเซียงรุ่ยหราน ถูกต้วนซุยลากมา พวกเขาก็ตกตะลึงอย่างมาก