ตอนที่ 559 หย่าร้างเจ้า ตอนที่ 560 อย่าฆ่าข้า

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 559 หย่าร้างเจ้า

ซ่งอิงไม่ได้โอ้เอ้อยู่ตัวอำเภอนานมากนัก เพียงแค่เดินเล่นในร้านค้าของตนเองหนึ่งรอบและปล่อยให้หนิวต้าลี่อยู่ที่ร้าน จะได้คอยติดตามงูดำไปพบเห็นโลกภายนอกให้เต็มที่ด้วยเช่นกัน

เงินที่หามาได้ระยะนี้ล้วนถูกงูดำเอามาใช้จ้างคนงานแล้ว โรงผลิตเล็กๆ จึงได้เริ่มดำเนินการผลิตขึ้นมา พร้อมส่งมอบสินค้าให้ร้านขายเครื่องประทินโฉมทั้งห้าร้านได้ทุกเมื่อ

ส่วนห้าร้านเครื่องประทินโฉมเหล่านั้น ณ ตอนนี้ก็ไม่ว่างงานเช่นกัน

เพื่อให้ผงาดขึ้นมาได้ในครั้งนี้ พวกเขาเองก็ทุ่มทุนไปไม่น้อย

สิ่งของจำนวนมากมายที่ร้านชุ่ยเหยียนไจขายล้วนมีต้นแบบออกมาจากร้านพวกเขาเอง ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสิ่งของของร้านตนเองจะขายดีกว่าร้านชุ่ยเหยียนไจ พวกเขาต่างก็ทุ่มเทแรงใจเพื่อยกระดับชนิดของสีสันเครื่องประทินความงามขึ้นมาหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่นขี้ผึ้งทาปาก พวกเขาก็ได้คิดค้นสีสันออกมาไม่น้อยเลย

แน่นอนว่าซ่งอิงยังให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมแก่พวกเขาอีกด้วย

มีหนึ่งในนั้น ก็คือการหา ‘โฆษกโฆษณา’ มาสักคน

อิทธิพลของโฆษกโฆษณา สามารถตัดสินปริมาณผู้ซื้อ รวมไปถึงปริมาณการขายของเครื่องประทินโฉมจากร้านพวกเขาได้โดยตรงอย่างแน่นอน

ปัจจุบันโรงอี้จวินได้รับความนิยมแล้วจึงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ส่วนร้านอื่นๆ ยามนี้ต่างก็แอบคัดเลือกบุคคลที่เหมาะกับงานนี้ไว้แล้วเช่นกัน

เพราะก่อนหน้านี้ถูกร้านชุ่ยเหยียนไจย่ำยีจนอนาถเหลือแสน ตอนนี้พวกเขาเองก็ไม่กล้าละโมบโลกมากเกินไปเช่นกัน จึงให้ความสำคัญไปที่สถานการณ์ของเครื่องประทินโฉมในร้านตัวเอง และกำหนดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าให้เรียบร้อย

บางร้านไปหาบุตรสาวตระกูลผู้ร่ำรวยสูงศักดิ์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ยกยอปอปั้นสักสองสามประโยค นอกจากนั้นก็ให้ตั๋วลดราคาที่ประทับตราร้านตัวเองเอาไว้ และรับประกันว่าจะทำให้คุณหนูจากตระกูลผู้ร่ำรวยสูงศักดิ์ผู้นั้นเป็นลูกค้าหมายเลขหนึ่งของร้าน อีกฝ่ายย่อมยินดีตอบรับเป็นธรรมดา

แล้วยังมีบางส่วนที่ไปหาสตรีสูงศักดิ์ที่ค่อนข้างทรงเกียรติภายในเมือง คนเหล่านี้หน้าใหญ่ใจโตและแวดวงที่คบหาสมาคมก็หลากหลาย

ที่ใจกล้าสุดคือหนึ่งร้านในนั้นไปหานางคณิกาชั้นยอดที่ซ่งอิงเคยเอ่ยถึงกับฮั่วเจ้ายวน…

สตรีทั่วไปไม่มีทางนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับหญิงคณิกา

แต่อย่างไรก็ตาม…

ผู้ชายไม่ได้คิดเช่นนี้

เมื่อนางคณิกาใช้แล้วดี จากนั้นมีการบอกแนะนำต่อๆ กันไป ก็ย่อมมีบุรุษลองซื้อเอาไปใช้เอาอกเอาใจสตรี

นอกจากนี้ ทุกร้านค้ายังออกแบบให้มีรางวัลจากการซื้อ อย่างเช่นเมื่อซื้อครบจำนวนที่ตั้งไว้ก็จะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ จำนวนหนึ่งส่งไปถึงที่

หากเป็นลูกค้าที่อุดหนุนกันสม่ำเสมอยาวนาน วันเกิดทุกปีจะได้รับของขวัญหนึ่งชิ้นโดยไม่ต้องเสียเงิน

นอกจากนี้สองสามร้านยังสร้างห้องที่เอามาใช้ ‘แต่งหน้า’ และจ้างหญิงวัยกลางคนที่มีทักษะฝีมือดี เรียนรู้วิธีการทำผมหลากหลาย ต่อให้เป็นแม่นางสาวน้อยจากครอบครัวสามัญชน ขอเพียงซื้อสินค้าก็จะได้ทาแป้งแต่งหน้า แล้วยังมีการทำผมอย่างงดงามให้โดยไม่คิดเงินอีกด้วย…

สิทธิประโยชน์มากมายเพียงนี้ แต่ราคากลับถูกกว่าร้านชุ่ยเหยียนไจเป็นไหนๆ

หลังจากเตรียมทั้งหมดนี้ไว้ครบครันแล้ว ก็จะได้เปิดกิจการใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ!

ห้าร้านค้าที่ซ่งอิงเลือกล้วนไม่ห่างไกลกันมากนัก ต่างฝ่ายต่างมีการแข่งขันกันเอง แม้ว่ามีการแข่งขันกัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องหลังจากที่กำราบร้านชุ่ยเหยียนไจลงไปได้แล้ว

ตอนนี้ทุกคนล้วนร่วมแรงร่วมใจกัน มีเพียงเป้าหมายหนึ่งเดียวร่วมกันเท่านั้น

ร้านชุ่ยเหยียนไจอยู่ ไม่ว่าใครก็อยู่รอดไม่ได้ มีเพียงคว่ำร้านชุ่ยเหยียนไจให้ได้เท่านั้น พวกเขาจึงจะได้รับความยุติธรรม!

ทุกสิ่งอย่างในตัวอำเภอดำเนินไปอย่างเป็นระบบระเบียบ ซ่งอิงไม่ได้รีบร้อนกลับบ้านเช่นกัน

นางกลับคิดไม่ถึงว่าเหมียวซื่อพร้อมพวกจะไร้ยางอายอย่างยิ่ง ถึงกับมาคอยนางอยู่ที่หน้าประตูบ้าน

“ลูกสะใภ้… ตอนนี้ข้าต้องไปทำงานหาเงินสักหน่อย ดังนั้น…ก็ฝากดูแลยายเจ้าสักสามสี่วัน เจ้าช่วยดูให้หน่อยจะได้หรือไม่” เหมียวซื่อกล่าวขอร้อง

“นางยังมีลูกชายและมีหลานชายหลานสาว ไฉนจึงตกมาอยู่ที่คนนอกอย่างข้าผู้นี้เสียเล่า” ซ่งอิงแสยะยิ้ม

ตอนนี้รู้ว่าเหมียวซื่อสวมรอยมาหลอก นางก็ยิ่งไม่เกรงใจ

ซ่งอิงเดินเตร็ดเตร่อยู่ในตัวอำเภอมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้จึงเป็นเวลาเย็นแล้ว เหลือเพียงแสงสว่างรำไร

ท่ามกลางลำแสงที่เลือนลาง ดวงตาเหมียวซื่อปรากฏความโมโห ก่อนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ซ่งซื่อ ข้าเป็นแม่สามีเจ้า ขืนเจ้าไม่เชื่อฟังคำพูดของข้า เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะหย่าร้างเจ้าแทนลูกชายของข้าเสียเลย”

ตอนที่ 560 อย่าฆ่าข้า

เดิมทีนางอยากพูดจาดีๆ กับซ่งอิง!

นับแต่ได้รู้จักลูกสะใภ้ผู้นี้ นางย้อนถามตัวเองก็ได้คำตอบว่าให้ความเกรงใจแก่นางมากพอตัวแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสาวน้อยผู้นี้พูดดีๆ ด้วยไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังขู่เข็ญ!

“ข้าไปฟ้องร้องเจ้าที่ส่วนราชการได้! หากนายอำเภอรับเรื่อง เจ้าจะต้องถูกลงไม้โบย!” เหมียวซื่อกล่าวขึ้นอีกครั้ง

“ก็จริง หากท่านเป็นแม่สามีของข้าโดยแท้จริงและมีหลักฐานชัดเจน ผลที่ตามมาที่ข้าต้องเผชิญย่อมไม่ดีเป็นแน่” ซ่งอิงยิ้มเล็กยิ้มน้อย “น่าเสียดาย ท่านมิใช่นี่?”

เหมียวซื่อตกตะลึง “เจ้า เจ้าพูดจาเหลวไหลอีกแล้ว!”

“ท่านไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร อีกไม่นานหรอก ท่านจะไร้คำพูดใดมาโต้แย้งได้” ซ่งอิงเชื่อในความสามารถการจัดการปัญหาของฮั่วเจ้ายวน

ถึงอย่างไรก็ไม่ดีนักหากจะจับตัวคนเขาไปโดยไร้เหตุไร้ผล ดังนั้นฮั่วเจ้ายวนน่าจะเลือกวิธีการให้ลูกน้องใต้อาณัติดำเนินการตรวจสอบคนพวกนี้ให้กระจ่างเสียก่อน เหมียวซื่อผู้นี้ได้รับการว่าจ้างมาหรือไม่ นอกจากนี้ฐานะตัวตนที่แท้จริงของนางคืออะไร ถึงเวลาจับตัวคนแล้วก็โยนไปให้ทางด้านที่ว่าการอำเภอแล้วค่อยนำฐานะตัวตนที่แท้จริงมอบให้นายอำเภอ เช่นนี้จึงจะพิจารณาลงโทษได้โดยทันที

จงใจหวังครอบครองทรัพย์สินผู้อื่นและปลอมแปลงตัวตน อย่างไรก็ต้องถูกจับเข้าไปรับโทษสี่ห้าปีกระมัง

เหมียวซื่อไม่เข้าใจคำพูดของซ่งอิง แต่นางสัมผัสได้ว่า สาวน้อยผู้นี้อยากทำร้ายนาง เดิมทีนางคิดวางแผนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้เห็นท่าจะไม่ได้เสียแล้วเหมียวซื่อมองหญิงชราที่นั่งอยู่บนพื้นปราดหนึ่ง

หญิงชราผู้นี้ร่างกายไม่แข็งแรง สะลืมสะลือเหม่อลอยตลอดทั้งวัน จำเป็นต้องคอยปรนนิบัติเสมอ ตอนนี้หญิงชราถูกนางแบกมาด้วย ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยอุจระและปัสสาวะ สกปรกอย่างยิ่ง

เหมียวซื่อมองซ้ายมองขวา

บริเวณรอบๆ ปราศจากผู้อื่น

เหมียวซื่อนั่งยองลงแล้วเริ่มร้องไห้ปรับทุกข์ “ท่านแม่ ไฉนเราจึงโชคร้ายถึงเพียงนี้ ไยจึงเจอะเจอสะใภ้ที่เป็นคนเยี่ยงนี้…”

ระหว่างร้องไห้คร่ำครวญ จู่ๆ ก็เอื้อมมือหยิบก้อนหินด้านหลังขึ้นมาหนึ่งก้อน จากนั้นทุบเข้าไปที่ด้านหลังศีรษะของหญิงชราอย่างไม่ลังเล!

ทันใดนั้น โลหิตสีแดงสดก็ไหลริน!

จากนั้นโยนก้อนหินนั่นมาตรงแทบเท้าซ่งอิง

“ท่านแม่! นางฆ่าคน! นางฆ่าคนแล้ว! ซ่งอิงฆ่าญาติผู้ใหญ่แล้ว! มากันเร็วเข้า!” พูดจบ เหมียวซื่อก็กุมศีรษะแล้วทำทีวิ่งหลบไปทั่ว “อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้าเลย! ลูกสะใภ้คนดี ข้า ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้ต่อภายนอกโดยเด็ดขาด เจ้าปล่อยข้าไปเถอะนะ!”

“…” ซ่งอิงเดาะลิ้น

มองก้อนหินใกล้เท้า จากนั้นมองไปยังหญิงชราผู้นั้น

หญิงชราผู้นั้นตาเหลือกและนอนหงายอยู่บนพื้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเหมียวซื่อจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ พูดคุยกันดีๆ ก็ได้นี่ ไม่นึกเลยว่าต้องลงไม้ลงมือด้วย หากใช้กำลังกับนางก็ยังพอโต้ตอบได้ แต่เหมียวซื่อกลับคว้าหินด้านหลังมาทุบหญิงชราผู้นี้เสียได้!

ทว่าซ่งอิงก็ไม่โง่เขลาถึงขั้นเดินเข้าไปประคอง

ถึงเวลาทั้งที่ไม่ได้ทำผิดก็จะกลายเป็นคนผิดขึ้นมาเสียดื้อๆ!

เหมียวซื่อส่งเสียงตะโกนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไม่ทันไรก็มีผู้คนพากันมา

ครั้นทุกคนมองเห็นคนที่อยู่บนพื้น ต่างก็ตระหนกตกใจ “นี่ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“เป็นฝีมือนาง! ข้าบอกกับซ่งซื่อว่าในครอบครัวตกทุกข์ได้ยาก หากข้าต้องคอยดูแลหญิงชราก็จะไม่มีเวลาไปถางพื้นที่รกร้างจึงอยากให้นางช่วยดูแลสักสามสี่วัน…แต่กลับนึกไม่ถึงว่านางจะยืนกรานหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยินยอม แล้วยัง…แล้วยังพูดว่าหญิงชราเนื้อตัวเต็มสิ่งปฏิกูล น่ารังเกียจ…”

“หญิงชราบ้านข้าพยุงลุกตัวขึ้นมาอยากพูดจากับนางสองสามประโยค ใครจะรู้ว่านางกลับใจดำอำมหิตทุบหินเข้าไปที่หลังศีรษะของหญิงชราเข้าเต็มเปา!”

เหมียวซื่อเป็นคนที่แสดงละครได้เยี่ยมคนหนึ่งทีเดียว ตอนนี้ยังทำท่ากุมศีรษะของตัวเองเอาไว้พลางพึมพำไม่เลิก “อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า”จะมองอย่างไร เหมียวซื่อก็ดูเป็นคนหนึ่งที่ถูกฆาตรกรทำให้ตกใจกลัวแทบแย่แล้ว

แม้ว่าทุกคนไม่อยากเชื่อ แต่ตอนนี้หญิงชรานอนหงายอยู่ตรงหน้า ถึงอย่างไรก็ต้องถามไถ่สักนิด “แม่นางฮั่ว สรุปแล้วนี่เกิดเรื่องอะไรหรือ ทำไม่นางจึงล้มไปเสียได้”

หมอยังไม่มา ทุกคนก็ไม่กล้าเดินเข้าไปลองจับชีพจร กลัวว่าไม่ทันระวังจะทำให้คนเขาเสียชีวิตเอาได้

ซ่งอิงส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ข้าอายุยังน้อยและดีงามขนาดนี้ จะกระทำผิดถึงขั้นข้าฆ่าคนเชียวหรือ วันนี้เหมียวซื่อมาข่มขู่ข้า ข้าก็เลยเปิดโปงฐานะตัวตนของนาง นางเห็นว่าตนเองถูกเปิดโปงแล้วจึงทำร้ายหญิงชราผู้นี้อย่างใจดำอำมหิต หวังใส่ร้ายป้ายสีข้า!”