บทที่ 383 ยั่วยุ

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 383 ยั่วยุ

บทที่ 383 ยั่วยุ

พอฉู่เหินลุกขึ้นนั่ง เขาลูบ ๆ ไปที่เตียง ก่อนจะพบมีของเหลวเหนียว ๆ ย่อมหนึ่งติดมือเขามา พอมองไปทิศที่มือลูบอยู่เขาก็พบว่าเตียงขาวสะอาดนั้นมีเลือดติดอยู่ ฉากนี้เขาเข้าใจมันเป็นอย่างดีเชี่ยวละ!

ตอนแรกที่เขาฟื้นจากหุบเขาเทียนซาน ข้างกายตัวเองก็มีเลือดแบบนี้แหละ เพียงแต่ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร เลยไม่ได้สนใจ

ทว่าหลังจากได้นอนกับเสี่ยวชิงแล้ว พอเขาตื่นขึ้นก็พบว่าข้างกายเขามีเลือดแบบเดียวกันนี้ติดอยู่ พอถึงตอนนั้นเขาก็เข้าใจแล้วว่าเลือดนั้นมันหมายถึงอะไร! อย่างเช่นในวันนี้ที่บนเตียงมีเลือดแบบนี้อีกครั้ง ดังนั้นชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงกับอีกหลาย ๆ สิ่ง

ยิ่งบวกกับอาการผลกระทบของพลังที่สลายไปไม่เห็นแล้ว พอเอาทั้งสองมารวมกันมันก็หมายความว่า… ถ้าเขายังเดาไม่ออกเขาก็ไม่ใช่ฉู่เหินแล้วล่ะ!

หลังจากยืนสำรวจเสื้อผ้าของตัวเองที่สวมอยู่ เขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพบว่ากระดุมสองเม็ดของตัวเองนั้นติดอยู่ผิดตำแหน่ง ทั้งหมดนี้ก็ชัดเจนแล้ว! ฉู่เหินถอนหายใจยาวออกมา ก่อนหน้าไม่รู้ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อตอนนี้ตัวเองรู้แล้ว ถ้างั้นก็คงต้องไปขอโทษผู้หญิงคนนี้ซักหน่อย

อีกทั้งเขาคล้ายจะเดาออกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นหญิงสาวคนเดียวกับที่รินเหล้าให้เขาแน่นอน หญิงสาวที่เฉลียวฉลาดแบบนี้ เขาจะรับผิดชอบกับเธอยังไงดี? หลังจากคิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็จัดชุดของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเดินออกไปข้างนอก

พอเดินออกมา ฉู่เหินก็เห็นอากงที่นั่งสัปหงกอยู่ไม่ไกลเท่าไรนัก ฉู่เหินเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก่อนจะผสานมือคารวะชายชราหนึ่งที

“ขอบคุณอากงในความปรารถนาดี ผู้น้อยอยากพบสุ่ยเซี่ยสักครู่ คำพูดเหล่านี้ผมต้องการจะพูดต่อหน้าสุ่ยเซี่ยเท่านั้น!” ฉู่เหินอยากเจอหญิงสาว เขาอยากจะดูให้เห็นกับตาว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ช่วยตัวเองไว้คนนั้นหรือเปล่า ถ้าไม่ได้พบสักครั้ง ชีวิตของฉู่เหินก็คงยากจะสงบใจได้!

หลังจากอากงได้ยินที่ฉู่เหินบอก ชายชราก็เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เขามองไปทางฉู่เหินด้วยสายตาที่ผู้อาวุโสมองคนอายุน้อยกว่าด้วยความเมตตา แต่คำพูดที่ชายชราใช้พูดออกมานั้นกลับเย็นชาอย่างถึงที่สุด!

“ผู้หญิงไม่ควรมาพบเจอกับบุรุษนอกบ้าน เธอจะอยากเห็นเขาไปทำไม ตอนนี้แม่หนูน้อยนั้นกำลังกักตนฝึกพลังอยู่ ไม่ต้องเจอน่ะดีแล้ว เรื่องการทหารข้างนอกนั่นก็ยังไม่สงบดี เธอเองก็ค่อนข้างยุ่งไม่ใช่หรือไง ยังไม่รีบไปดูอีก” คำพูดเย็นชานั้นทำให้ใบหน้าของฉู่เหินชาไปหมด เขาไม่เข้าใจว่าชายชราคนนี้คิดอะไรในใจกันแน่

“อากง ร่างกายของผม ผมรู้ดี อยู่ ๆ ผลกระทบด้านพลังก็หายไปเอง นี้น่าจะเป็นเพราะสุ่ยเซี่ยช่วยเหลือไว้ ไม่ว่าจะยังไงผมก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจของสุ่ยเซี่ย” ฉู่เหินคิดว่าในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินยอม ถ้างั้นตัวเองก็คงต้องพูดออกไปตรง ๆ เนี่ยแหละ มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาอยากจะรู้ว่าอากงจะตอบว่าอะไร

“นายพลฉู่ ฉันว่าเธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ เรื่องผลกระทบของร่างกายของเธอ ฉันได้ใช้วิธีพิเศษควบคุมมันเอาไว้เอง ในส่วนของตรงนี้เธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็กลับไปซะเถอะ งานของเธอทั้งเยอะแล้วก็ยุ่งไม่ใช่เหรอ!” อากงพูดออกมาอย่างเฉยเมย ทำทีเป็นไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะบอก

ฉู่เหินอ้าปากคล้ายจะพูดอะไรบ้างอย่าง เขารู้อยู่แล้วว่าอากงกำลังพูดโกหก อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเองก็ได้มีทหารผู้น้อยวิ่งเข้ามาจากด้านนอก คนคนนี้คือทหารอารักขาของฉู่เหินที่มาพร้อมกับเขานั่นเอง เมื่อท่าทีดังกล่าว ชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่

ฉู่เหินแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนร่วมได้ ทันทีที่เขาเห็นว่าทหารอารักขามีใบหน้าตื่นตระหนกวิ่งเข้ามา เขาก็พลันตีหน้านิ่งและเตรียมใจรับกับเรื่องที่กำลังจะได้ยินต่อจากนี้!

“นายพลฉู่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ด้านนอกมีผู้อาวุโสของพวกซอมบี้ชื่อว่าเฉิน! ซอมบี้พวกนั้นแต่ละตนล้วนแล้วแต่มีพลังวรยุทธ์ที่สูง ๆ กันทั้งนั้น ตอนนี้ฉู่ฉุนได้เรียกรวบรวมกำลังพลกันแล้ว รอแต่ท่านไปเท่านั้น!” นายทหารอารักษ์ขาคนนั้นใช้เวลาสั้น ๆ อธิบายหนึ่งรอบจบ

ฉู่เหินได้ยินดังนั้นก็พลันหรี่ตา เขารู้ดีว่าพวกซอมบี้ต้องมีไพ่สุดท้ายในมืออยู่แล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเอาออกมาเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสซอมบี้พวกนี้จะเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดในกองทัพซอมบี้แล้ว การที่คนแบบนี้ปรากฏตัวขึ้น…หรือนี่ว่าจะเป็นสัญญาณเตือนถึงศึกใหญ่ครั้งต่อไป!

จากนั้นชายหนุ่มก็หมุนตัวเตรียมจะจากไป แต่อยู่ ๆ ก็นึกเรื่องของสุ่ยเซี่ยขึ้นมาได้ ฉับพลันเขาก็หยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองชายชรา

“เธอไปจัดการให้เสร็จก่อนเถอะ ดูท่าศึกใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้าแล้ว ถ้าครั้งนี้ชนะก็จะเป็นศึกสุดท้ายแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะให้ข้อตกลงกับเธอหนึ่งอย่าง ยิ่งไปกว่านั้น พวกนายเองก็ยังเด็กมากนัก ไม่เห็นจำเป็นต้องสนใจช่วงเวลาสั้น ๆ นี้หรอก ปล่อยให้มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเถอะ!” หลังจากอากงคิด ๆ ดูแล้ว เขาก็พลันพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ทหารองครักษ์ไม่เข้าใจที่ชายชราพูดก็จริง แต่ฉู่เหินนั้นเข้าใจดี หลังจากได้ยินประโยคนี้ดวงตาของเขาก็เปล่งแสงบางอย่างออกมา จากนั้นจึงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ชายหนุ่มรู้ว่าที่อากงพูดแบบนี้ถือว่าเป็นการยอมรับเรื่องที่เขาถามไปเมื่อกี้แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้เขาก็ไม่คิดเรื่องนี้ให้กวนใจอีกแล้วละ เพียงแค่รอให้ศึกสงครามสิ้นสุดลงก่อน เอาไว้หลังจากนี้ค่อยมาพูดคุยกับหญิงสาวก็ยังทัน

แน่นอน สำหรับเรื่องที่จะพูดคุยกับหญิงสาวว่าอย่างไร ในใจเขาก็ยังไม่ได้คิดเช่นกัน ฉู่เหินเป็นคนรักเดียวใจเดียวมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เขากลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เข้า บอกตรง ๆ ว่าทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นัก

แต่ยังไงเขาก็รู้สึกขอบคุณเธอที่ช่วยเขาจากปัญหา ดังนั้นตอนนี้คงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไปโดยหวังว่าหลังจากจัดการเรื่องวุ่นวายที่เมืองโบราณเสร็จ ตัวเองจะสามารถคิดหาทางออกที่เหมาะสมให้กับทั้งสองฝ่ายได้ แน่นอนว่านี้เป็นเพียงความคิดในใจเขา ในโลกนี้ไม่มีสิ่งทำสำเร็จได้ทั้งสองอย่างหรอก!

หลังจากฉู่เหินคารวะอากงเสร็จ ชายหนุ่มก็รีบควบม้ามาที่กองทัพอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ทุกคนได้มารวมตัวกันที่นี่แล้ว ใบหน้าของพวกเขาฉาบไว้ด้วยความกังวลใจเล็ก ๆ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นคนไกลเลย ฉู่ฉุนเองก็มีสีหน้ากังวลใจเช่นเดียวกัน!

หลังจากฉู่เหินกลับมาจากข้างนอก ชายหนุ่มก็นั่งฟังรายละเอียดทันที พอเขาฟังเสร็จก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ในตอนนี้นั้นที่นอกเมืองโบราณได้มีผู้อาวุโสซอมบี้กว่า 20 ตนยืนอยู่ ดูท่าจะไม่ใช่เล่น ๆ เสียแล้ว…

ดูท่าพวกซอมบี้กำลังยั่วยุในฉู่เหินออกไปสู้กับพวกมัน ซึ่งนอกจากซอมบี้ 20 ตนที่ว่าแล้ว ด้านหลังของพวกมันก็ยังมีซอมบี้อีกกว่า 500,000 ตน ฉากนี้ทำให้ชาวเมืองรู้สึกไม่สบายใจมากเลยทีเดียว!

ที่จริงเป็นเพราะว่าซอมบี้ 20 ตนนั้นมีพลังวรยุทธ์ที่สูงมาก เกรงว่าพวกมันทั้ง 20 ตนนี้จะมีพลังวรยุทธ์อยู่ในขั้นราชันราดาขึ้นไปด้วยซ้ำ คนทั้งเมืองโบราณนั้นไม่มีใครเลยที่อยู่ในขั้นราชันดารา แล้วแบบนี้จะไปสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างไรกัน?

ฉู่เหินที่ได้ยินตั้งแต่ต้นก็เริ่มขมวดคิ้ว เขากำลังคำนวณผลดีผลเสียทั้งสองฝ่าย ถ้าสู้ตัวต่อตัว แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นยอดฝีมือขั้นราชันดารา ชายหนุ่มน่าจะพอสามารถล้มอีกฝ่ายได้บ้างถ้าเป็นการซุ่มโจมตีด้วยพลังกิเลน เขาไม่กลัวหรอก ถึงแม้อีกฝ่ายจะอยู่ในขั้นราชันดาราแล้วก็ตาม

ดูท่าการรับในครั้งนี้จะถือได้ว่าเป็นจุดสำคัญพอตัว ไม่รู้ว่าพวกซอมบี้พวกนี้จะยังมีไพ่ตายอยู่อีกไหมก็ไม่รู้ ถ้าเกิดตอนที่พวกสู้กัน ซอมบี้พวกนี้เกิดเอาไพ่ตายใบอื่นออกมาอีก เกรงว่าถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็นฝั่งของมนุษย์ที่เสียเปรียบ

“ทุกคนฟัง!” หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว นัยน์ตาของฉู่เหินก็ขยับครั้งหนึ่ง เตรียมพร้อมวางแผนกองทัพ เหล่าขุนนางนั้นกลัวว่าฉู่เหินจะไม่มีวิธี มาตอนนี้พอเห็นว่าเขาเริ่มวางแผนโต้กลับแล้ว ฝั่งมนุษย์ก็ดูจะกลับมามีไฟต่อสู้อีกครั้ง!

ทุกคนในสนามรบคล้ายจะมีความเชื่อมั่นในตัวของฉู่เหินอย่างหนึ่ง เนื่องจากฉู่เหินได้นำพาพวกเขาฆ่าฟันไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เคยแพ้มาก่อน ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าในครั้งนี้เองก็จะเป็นเช่นกัน!