ยังไม่รอให้เธอรู้สึกตัว เฟิงหานชวนก็จับข้อเท้าของเธอไว้ แล้วสวมรองเท้าให้เธอ
มืออีกข้างพยุงเท่าของเธอไว้ เขาไม่มีความรังเกียจเธอแม้แต่น้อย แถมยังดึงปากรองเท้าให้เธอเรียบร้อย
ในตอนที่เขากำลังจะสวมรองเท้าอีกข้างให้เฉินฮวนฮวน เฉินฮวนฮวนจึงได้ตอบสนองขึ้น เธอรีบถอยเท้ามาด้านข้าง หน้าแดงระเรื่อพูดขึ้น “ฉัน ฉันสวมเองได้ค่ะ ฉันมีมือ…”
ตอนนี้หลิวหลี่ถงยังคงทำความสะอาดอยู่ในห้องรับแขก จึงทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกเขิน เธอไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยแม้แต่จะมีผู้ชายคนไหนทำดีกับเธอขนาดนี้
เฟิงหานชวนไม่ได้รังเกียจเท้าของเธอเลยสักนิด แถมยังช่วยเธอสวมรองเท้าด้วยตัวเอง
เมื่อก่อน เธอเคยคบกับเยี่ยจิ่งเฉินเป็นแฟนเพียงคนเดียว อีกอย่างเธอกับเยี่ยจิ่งเฉินก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันเกินไป พูดได้ว่าใกล้ชิดกันมากที่สุดก็คือจับมือ
เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยของตัวเอง ไม่ค่อยเชื่อฟังสักเท่าไหร่ เดี๋ยวเต้นเร็ว เดี๋ยวเต้นช้า
“อย่าดื้อ ยกเท้าขึ้นมา ยังไงก็สวมให้คุณข้างหนึ่งแล้ว “เฟิงหานชวนไม่ยอมแพ้ ยื่นมือออกไปจับข้อเท้าข้างที่ไม่ได้สวมรองเท้าของเธอไว้
สัมผัสเย็น ทำให้เฉินฮวนฮวนสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นก็เชื่อฟังไม่ขยับเขยื้อนอีก ปล่อยให้เฟิงหานชวนช่วยสวมรองเท้าอีกข้างหนึ่งให้เธอจนเสร็จ
ตลอดเวลา หลิวหลี่ถงแอบดูอยู่ในห้องรับแขก จนกระทั่งทั้งสองออกไป สายตาของเธอดุร้ายมากขึ้น
…
จากตัวคฤหาสน์ไปจนถึงประตูใหญ่ของคฤหาสน์ มีระยะทางช่วงหนึ่ง
มือข้างหนึ่งของเฟิงหานชวนลากกระเป๋าเดินทาง อีกข้างหนึ่งจับมือของเฉินฮวนฮวนไว้แน่น เหมือนกับสามีที่มาส่งภรรยาไปที่ไกลลับ
เมื่อเห็นว่าห่างจากตัวคฤหาสน์ช่วงหนึ่งแล้ว เฉินฮวนฮวนเม้มปาก แล้วพูดขึ้น “อาหาน ไม่อย่างงั้น…ไม่อย่างงั้นรอให้ฉันกลับมา แล้วถ้าคุณยังอยากจะลองแต่งงานอีก พวกเราย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเถอะ”
เมื่อเฟิงหานชวนได้ยิน ก็หยุดเดิน สีหน้าเคร่งขรึมในทันที
จู่ ๆ ในใจของเฉินฮวนฮวนก็สะดุ้งขึ้นมา หรือว่า…เฟิงหานชวนไม่คิดจะลองแต่งงานกับเธอแล้ว?
วันนี้ตอนเช้า เขาทำดีกับเธอขนาดนี้ ก็เพื่อชดใช้เรื่องเมื่อคืน และก็เพื่อบอกลาเธอ?
ไม่ใช่การบอกลาธรรมดา แต่เป็นการบอกลาอีกแบบหนึ่ง?
“คุณ…ฉัน งั้นฉันฝึกอบรมเสร็จ ก็ไม่กลับมาแล้ว ฉันไม่มีสัมภาระอะไรที่ต้องกลับมาเอา งั้นพวกเราก็…บอกลากันตรงนี้เถอะ” เฉินฮวนฮวนสีหน้าไม่ค่อยดี
เธอไม่รู้ว่าทำไมเฟิงหานชวนเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ดีกับเธอขนาดนั้น ทั้งหมดก็เพื่อบอกลาเธอ ดังนั้นถึงได้ดีขนาดนี้เหรอ?
หรือว่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนเธอไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้? ดังนั้นเขาไม่อยากลองแต่งงานกับเธอแล้ว?
ได้ยินแบบนี้ เฟิงหานชวนหน้าเข้มยิ่งกว่าเดิม เขาหันตัวมามองหญิงสาวที่อยู่ด้านหน้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ผมทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยเหรอ?”
“คะ?” เฉินฮวนฮวนเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมถึงพูดออกมาว่า รอคุณกลับมา ถ้าหากผมยังอยากจะลองแต่งงานอีก?” เฟิงหานชวนเข้าใกล้เธอ ร่างกายแทบจะแนบชิดกับหญิงสาวตรงหน้า จากนั้นก็พูดเสียงเบา “คุณรู้สึกว่าพวกเรายังจำเป็นต้องลองแต่งงานอีกเหรอ?”
“หา?” เฉินฮวนฮวนตกใจจนอ้าปากค้าง
คำตอบแบบนี้ ไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้เมื่อครู่สักนิด
“ยังมีอีก คุณฝึกอบรมเสร็จ ก็จะบอกลาผม? คุณจะไปไหน? จะแยกจากสามีของคุณเหรอ?” เฟิงหานชวนเข้าใกล้เธอยิ่งกว่าเดิม
เฉินฮวนฮวนหน้าแดงขึ้น อารมณ์แทบจะเรียกได้ว่าขึ้น ๆ ลง ๆ เธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเข้าใจเฟิงหานชวนผิด
“ฉัน…เมื่อกี้ฉันเสนอว่าจะย้ายออกไปกับคุณ จู่ ๆ สีหน้าของคุณก็แย่ขนาดนั้น ฉันนึกว่า…นึกว่าเปลี่ยนใจแล้ว” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าตัวเองคาดเดาความคิดของเฟิงหานชวนไม่ถูกจริง ๆ
“เป็นเพราะคำพูดประโยคนั้น ของคุณ ดังนั้นสีหน้าถึงได้แย่” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนดูโมโหเล็กน้อย
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น ฉันแค่ไม่แน่ใจ…” เฉินฮวนฮวนก้มหน้าพูดเสียงเบา
เฟิงหานชวนยื่นมือออกไปจับไหล่เรียวบางของเธอไว้ แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต่อไป ไม่ต้องพูดขอโทษกับผม และอย่าไม่มั่นใจในตัวเอง คุณก็คือภรรยาในสำเนาทะเบียนบ้านของผม ยังจะกลัวอะไรอีก?”
“แหะ ๆ!” จู่ ๆ เฉินฮวนฮวนร่าเริงขึ้นมา เธอยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาว
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าความคิดของเฟิงหานชวนที่มีต่อเธอว่าเป็นยังไง แต่ว่าเขาคงจะเห็นเธอเป็นภรรยาตัวน้อยที่ต้องดูแลอย่างจริงจังแหละ?
งั้นเธอก็ต้องปฏิบัติต่อเขาเป็นเหมือนสามีที่สามารถพึ่งพาได้ถึงจะถูก!
“ดังนั้นฮวนฮวน ตอนนี้ผมเตือนคุณไว้ ถ้าต่อไปยังพูดมั่ว ๆ อีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ” เฟิงหานชวนก้มตัวลง เข้าใกล้ใบหูของเธอ แล้วพูดเสียงเบา “วิธีการลงโทษของผม คุณน่าจะรู้ดี”
ได้ยินแบบนี้ เฉินฮวนฮวนหน้าแดงขึ้นอีก
เธอหันหน้ากลับ แล้วยกเท้าวิ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว ให้ลมเย็นพัดหน้า เพราะอยากให้อุณหภูมิหน้าลดลงเร็ว ๆ
เฟิงหานชวนวิ่งตามไป แล้วยื่นมือออกไปโอบรัดเอวบางของเธอ จากนั้นพาเธอเดินไปข้างหน้าไปด้วย ถามไปด้วย “ทำไมถึงอยากย้ายออกไป? ก่อนหน้านี้เพิ่งจะปฏิเสธไปไม่ใช่เหรอ?”
พูดถึงเรื่องนี้ เฉินฮวนฮวนคิดถึงสิ่งที่หลิวหลี่ถงพูด เธอสีหน้าอึดอัดขึ้นมาทันที จากนั้นก็รีบพูดเรื่องนี้กับเฟิงหานชวน
“ฉันรู้สึกว่านานาน่าจะอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงระยะยาว ถ้าหากต่อไปเธอกับนายท่านทำเรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้บ่อย ๆ งั้นพวกแม่บ้านจะคิดว่าเป็นเสียงของฉัน ถ้าเป็นแบบนั้นฉันเสียหน้ามาก!” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้
เธอเป็นคนหน้าบาง ถ้าหากถูกคนอื่นเข้าใจผิดเรื่องแบบนี้ เธอยากที่จะทำใจรับจริง ๆ
เดิมทีเธอคิดว่าอยู่ที่คฤหาสน์เฟิงก็ดีมาก สะดวกมากในทุกด้าน แม่บ้านหลี่ดีกับเธอมาก ที่สำคัญคือฝีมือการทำอาหารของแม่บ้านหลี่ยอดเยี่ยมมาก
แต่ว่าจู่ ๆ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้เธอขายหน้าจริง ๆ อีกอย่างเมื่อคืนเธอเห็นเรื่องแบบนั้นของเฉินนานากับนายท่านเฟิง แถมเฉินนานายังกะพริบตากับเธอ
คิดอยู่พักหนึ่ง เธอรู้สึกว่ามันจะดีกว่าถ้าเธอกับเฟิงหานชวนย้ายออกไป
“ผมเข้าใจ อันที่จริงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมก็กะจะพาคุณย้ายออกไป เพียงแต่คุณไม่ค่อยอยากออกไป ผมจึงไม่ได้บังคับ” เฟิงหานชวนเดิมทีมีความคิดนี้อยู่แล้ว ตอนนี้เฉินฮวนฮวนเสนอขึ้น เขาแค่คิดไม่ถึง
เขารู้สึกว่าถ้าหากพวกเขาสองคนอยู่กันตามลำพัง จะบ่มเพาะความรู้สึกได้ง่าย นอกจากนี้ยังสะดวกที่จะทำเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น
ที่สำคัญก็คือเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ภายใต้สายตาของนายท่าน
ถ้าหากพวกเขาอยู่ที่คฤหาสน์ต่อไป เขาคิดว่าต่อไปฮวนฮวนกลับมาจากการฝึกอบรม นายท่านจะต้องหาวิธีเร่งพวกเขาให้มีลูก ยังไงซะเขาก็อยู่กับนายท่านมาหลายปีขนาดนี้ เขารู้นิสัยของนายท่านดี
อีกอย่างเขาเพิ่งจะอยู่ด้วยกันกับเฉินฮวนฮวน ไม่อยากจะให้ฮวนฮวนตั้งท้องเร็วขนาดนั้น ยังอยากจะใช้ชีวิตแบบไม่มีลูกก่อนสักสองปี
พอมีลูก หลาย ๆ เรื่องจะไม่ค่อยสะดวก
ตอนนี้ฮวนฮวนยังเรียนมหาลัยอยู่ อายุยังน้อย เรื่องลูกค่อยวางแผนกันหลังจากเธอเรียนจบ
เรื่องพวกนี้เฟิงหานชวนคิดไว้เรียบร้อยแล้ว