ในที่สุดหยานชิงเจ๋อก็เสร็จสิ้น เขาค่อยๆสงบลมหายใจลง จากนั้นก็ก้มลงไปมองที่ท้องน้อยของซูสือจิ่น
บนหน้าท้องที่แบนราบ มีร่องรอยที่เขาทิ้งไว้มากมาย
เขาจึงตระหนักได้ว่าตนเองกับเธอทำเรื่องระหว่างสามีภรรยากัน เขาสับสนงุนงงเล็กน้อย จนแทบจะมองเธอชะงักงันอยู่หลายวินาที ต่อมาก็รีบลุกขึ้นไปหยิบกล่องกระดาษทิชชูข้างๆ จากนั้นก็ดึงออกมาหลายๆแผ่นแล้วนำไปเช็ดบนร่างกายของเธอ
ซูสือจิ่นไม่พูดอะไร ยังคงเงียบอยู่ตลอด และมองหยานชิงเจ๋อที่กำลังเช็ดร่องรอยที่เขาทิ้งไว้บนร่างกายเธอออกไป
เขาดูเหมือนประหม่าเล็กน้อย มือที่ถือกระดาษทิชชูสั่นเล็กน้อย ที่มุมปากเม้มแน่นมาก จากนั้นก็ถือกองกระดาษทิชชูเหล่านั้น รีบเดินออกไปด้านนอก
เมื่อเขาเดินออกไป ไม่ได้สังเกตว่ามีเก้าอี้วางอยู่ข้างๆ จึงชนเข้าไปอย่างจัง
ซูสือจิ่นได้ยินหยานชิงเจ๋อพ่นลมหายใจออกมา ดูเหมือนว่าจะถูกกระแทกอย่างแรง
เธอก้มมองร่างกายของตนเอง ข้างบนนั้นมีรอยแดงมากมาย ทั้งหมดเป็นรอยจูบที่เขาทิ้งไว้ให้เธอเมื่อกี้นี้
ซูสือจิ่นรู้สึกว่าในสมองยุ่งเหยิงไปหมด เธอไม่รู้ว่าอีกสักครู่เขากลับมาจะบอกว่าเธอไปอ่อยเขาหรือเปล่า ถึงแม้จะบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรักเธอ
ได้ยินเสียงในห้องน้ำดังออกมา ซูสือจิ่นก็ตระหนักว่าหยานชิงเจ๋ออาจจะกลับมาในไม่ช้า
เธอรีบคว้าชุดนอนที่เขาโยนให้เธอ มาสวมใส่ทันที
ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนซื้อเสื้อตัวนี้ คอเสื้อต่ำมาก เธอดึงมันขึ้น แต่หน้าอกอีกครึ่งหนึ่งก็ยังคงเผยออกมาด้านนอก
อีกอย่างกระโปรงชุดนอนก็สั้นมาก สั้นแค่โคนต้นขาเท่านั้น!
ซูสือจิ่นกอดหน้าอกตัวเองไว้ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะ และยังคงมีกลิ่นอายของหยานชิงเจ๋ออยู่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงลุกขึ้น คิดที่จะรีบออกไป
เธอกระโดดด้วยขาเดียว ทีละก้าวๆไปยังห้องเสื้อผ้าที่อยู่อีกห้องหนึ่ง
ที่นั่นก็มีห้องน้ำ เธอกำลังเปิดไฟ ก็ได้ยินเสียงประตูจากด้านหลัง
หยานชิงเจ๋ออาบน้ำเสร็จแล้ว เพราะคาดไม่ถึงว่าซูสือจิ่นจะออกมา ฉะนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่อะไรเลย ทั้งหมดทั้งสิ้นจึงได้เปิดเผยต่อสายตาของซูสือจิ่น
ชั่วขณะทั้งสองคนก็เงียบไม่พูดจา บรรยากาศที่ทำอะไรไม่ถูกจนเหมือนเกิดสุญญากาศขึ้นมา
ซูสือจิ่นรีบละสายตาทันที จากนั้นก็เปิดไฟห้องน้ำอีกห้องหนึ่ง
หางตาของเธอเห็นหยานชิงเจ๋อกำลังเดินเข้ามาหาเธอ เธอตกใจจนกระโดดด้วยขาเดียวเข้าไปข้างใน แล้วปิดประตูห้องน้ำทันที
ที่หยานชิงเจ๋อเดินเข้ามาก็เพื่อจะเตือนซูสือจิ่นว่า ก่อนหน้านี้ฝักบัวที่ห้องน้ำนั้นมันเคยตกลงมา จึงเสียใช้การไม่ได้ ตอนนี้มีแค่น้ำเย็นเท่านั้น
แต่เขาก็ถูกปิดประตูใส่ จึงได้แต่เคาะประตูจากด้านนอก
ซูสือจิ่นตกใจรีบเปิดฝักบัว แกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยิน
ทันทีที่น้ำเย็นๆราดรดลงมาบนศีรษะ ความเย็นทำให้เธอสะดุ้งโหยงจนต้องกรีดร้องออกมา
เธอต้องการจะไปปิดน้ำ แต่เพราะว่าขาเดียวจึงเคลื่อนไหวไม่สะดวก ฉะนั้นจึงกระโดดไปอย่างไม่มั่นคง ทำให้ล้มลงนั่งอยู่กับพื้น
เพราะเหตุนี้น้ำเย็นๆจึงรดลงมาบนตัวของเธอ……
หยานชิงเจ๋อที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างใน แววตาก็เคร่งขรึมไม่สนใจอะไร หันหลังกลับออกไปด้านนอก หยิบกุญแจห้องน้ำมาเปิดประตูออก
ทันใดนั้นซูสือจิ่นที่สวมชุดนอนอยู่ และภาพที่ถูกน้ำรดจนเปียกชุ่มเป็นลูกหมาตกน้ำก็ตกอยู่ในสายตาของเขา
นี่เธอโง่หรือเปล่า? ทำไมไม่รู้จักลองเปิดน้ำอุ่นดูก่อน และอีกอย่าง คาดไม่ถึงว่าจะสวมเสื้อผ้าอาบน้ำเชียวเหรอ?!
เธอมีชีวิตอยู่มาจนโตขนาดนี้ได้อย่างไร?!
ทันทีที่คำถามนี้ผุดขึ้นมา หยานชิงเจ๋อก็นึกได้ว่า เธอเติบโตมาได้อย่างไร
ดูเหมือนว่าในช่วงเวลาที่เธอเติบโตขึ้นมา ทั้งหมดมีเขาคอยเป็นเงาอยู่ตลอด
ครั้งแรกที่เธอดื่มเหล้าจนเมา เขาก็ช่วยเธอไว้ เธอสอบได้คะแนนไม่ดี เขาก็ปลอบใจเธอ เธอเจ็บป่วย เขาก็ดูแลเธอ จนกระทั่งก่อนหน้านี้ที่เธอไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา เขาก็ช่วยจัดกระเป๋าเดินทางให้เธอ……
เมื่อนึกถึงอดีตขึ้นมา หยานชิงเจ๋อก็ใจลอยเล็กน้อย
เพราะอะไร อยู่ดีๆพวกเขาถึงได้กลายเป็นเช่นนี้นะ?!
ซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อเหม่อลอยมองมาที่ตนเอง เธอก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปพยุงตัว ต้องการจะลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก
เพราะความหนาวเย็น เธออดไม่ได้ที่จะจามออกมา จึงเป็นการทำลายความเงียบสงบในเวลานี้
หยานชิงเจ๋อมีปฏิกิริยาตอบกลับทันที รีบเข้าไปปิดฝักบัว จากนั้นก็อุ้มซูสือจิ่นขึ้นมาจากบนพื้น
เขานำเธอไปยังห้องน้ำอีกห้องหนึ่ง เปิดน้ำอุ่น จากนั้นก็จะไปถอดเสื้อเธอออก
เธอกดมันไว้ เพราะความหนาวเหน็บ จึงตัวสั่นเทามองไปที่หยานชิงเจ๋อ
เขาขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยปากเป็นครั้งแรกหลังจากมีความสัมพันธ์กัน : “มีใครเขาใส่เสื้อผ้าอาบน้ำกันด้วยเหรอ?!”
ซูสือจิ่นก้มหน้าลง และพบว่าในการเคลื่อนไหว คอเสื้อของเธอนั้นก็ถูกดึงให้ต่ำลงไปอย่างมาก อีกทั้งมันก็เปียกชื้นจนแนบติดตัว มันไม่ได้ดีไปกว่าการไม่ได้ใส่เลย
ฉะนั้นเธอจึงไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนอีกต่อไป ปล่อยให้หยานชิงเจ๋อถอดชุดนอนกระโปรงของเธอออก
เขาอุ้มเธอมาวางไว้ใต้ฝักบัว จากนั้นก็หันไปมองก้นของซูสือจิ่นว่าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า
ที่นั่นมีแค่รอยแดงเล็กน้อย ไม่ได้หัก อาจเป็นเพราะว่าบริเวณนั้นเนื้อหนาหรือเปล่า?
จู่ๆหยานชิงเจ๋อก็นึกถึงเรื่องเมื่อกี้ขึ้นมา ลูกกระเดือกกลิ้งไปมาสองครั้ง อีกทั้งยังรู้สึกว่าร่างกายของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เขามีสีหน้าแข็งทื่อ ไม่สามารถรับได้ที่ตนเองเป็นอย่างนี้ ฉะนั้นจึงรีบเดินออกจากห้องน้ำไป
เป็นเวลาสักพัก ร่างกายของเขาจึงค่อยๆสงบลงจนกลับสู่ภาวะปกติ
หยานชิงเจ๋อสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ได้ยินซูสือจิ่นปิดฝักบัว จึงเดินเข้าไปอุ้มเธอออกมา
“ผมของฉัน……” ตัวของซูสือจิ่นพันไว้ด้วยผ้าขนหนู ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ยาว แต่เวลานี้ก็เปียกชื้นจนมีน้ำหยดลงมา
หยานชิงเจ๋อไม่ได้พูดอะไร อุ้มเธอไปยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้งอีกด้านหนึ่งของห้องโดยตรง แล้วหยิบไดร์เป่าผมออกมา
เธอเห็นว่าเขาจะช่วยเป่าผมให้เธอ ซูสือจิ่นก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย และไม่ได้ยื้อแย่งไดร์เป่าผมมา
ด้วยเหตุนี้ หยานชิงเจ๋อจึงนำไดร์เป่าผมมาเป่าผมให้เธอ ปลายนิ้วของเขาสอดผ่านเส้นผมของเธอ ลมอุ่นในไดร์เป่าผมที่ผ่านเข้ามา แฝงไปด้วยความอบอุ่นในทันที
ซูสือจิ่นมองตนเองและหยานชิงเจ๋อในกระจก ทันใดก็เหมือนกับว่ากาลเวลาหยุดอยู่ที่เวลานี้
เขาอยู่ใกล้กับเธอแบบนี้ พวกเขาอยู่ห้องเดียวกัน ในฐานะสามีภรรยา มันเป็นความฝันในอดีตที่เธอไม่กล้าหวังมากเกินไปจริงๆ
ด้วยผมที่ไม่ยาว ดังนั้นเป่าเพียงครู่เดียวก็แห้งแล้ว
หยานชิงเจ๋ออุ้มซูสือจิ่นขึ้นมาอีกครั้ง นำเธอวางลงบนเตียงของห้องนอน แล้วยกเท้าของซูสือจิ่นขึ้น เพื่อทายาบนข้อเท้าที่บาดเจ็บให้เธอ
เขาทายาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสร็จแล้ว ก็นำชุดนอนชุดหนึ่งจากในตู้เสื้อผ้ามาส่งให้เธอ
ซูสือจิ่นมองเสื้อที่แขวนอยู่ด้านบน ในที่สุดก็ถามในสิ่งที่อยากรู้มาโดยตลอดออกมา: “ทำไมถึงมีเสื้อผ้าเยอะขนาดนี้ล่ะ?”
หยานชิงเจ๋อกล่าว: “แม่ฉันให้คนเตรียมเอาไว้ให้”
ซูสือจิ่นรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
ที่แท้ก็เตรียมเอาไว้ให้เธอจริงๆ ไม่ได้มีผู้หญิงคนอื่น!
แต่เขาไม่ได้เป็นคนเตรียมเอาไว้ แม่ของเขาเป็นคนเตรียม
บางทีอาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ดังนั้น คนทั้งสองจึงรู้สึกเขินอายอย่างมาก จากนั้น ห้องนอนก็เงียบลงไปโดยสิ้นเชิง
ซูสือจิ่นเข้าไปในผ้านวมเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ก็กอดผ้านวม แล้วมองไปยังหยานชิงเจ๋อ
เขาชำเลืองมองเธอ แล้วเอ่ยปากว่า: “คุณนอนเถอะ”
ซูสือจิ่นได้ยินคำพูดของเขา ก็รู้ว่าเขาคงจะยังไม่นอน หรืออาจจะไม่ได้นอนบนเตียงนี้
ในฐานะที่เธอเป็นเด็กผู้หญิง จะรั้งเขาเอาไว้ได้อย่างไร?
ดังนั้น เธอจึงพยักหน้า แล้วหลับตา
หยานชิงเจ๋อเดินมาถึงหน้าประตู ปิดไฟแล้ว เห็นว่าผ้าม่านยังเปิดอยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงเดินไปดึงผ้าม่านปิด
เขาเดินออกมาจากในห้อง แล้วไปยังห้องหนังสือ
ถึงแม้จะเป็นห้องหนังสือที่เตรียมเอาไว้ให้เขา แต่ด้านในก็มีหนังสือจำนวนไม่น้อย ที่เขาไม่เคยอ่านเลย
หยานชิงเจ๋อเดินไปยังชั้นวางหนังสือ หยิบหนังสือที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์เล่มหนึ่ง จากนั้นก็เปิดไฟแล้วนั่งลง
บนโต๊ะ มีนาฬิกาตั้งโต๊ะขนาดเล็กเรือนหนึ่ง กำลังหมุนไปรอบๆ
จนกระทั่งเข็มนาทีหมุนเกือบจะครบรอบแล้ว หนังสือในมือของหยานชิงเจ๋อก็ไม่ได้พลิกเลยสักหน้า
เขาเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น
เหม่อลอยอยู่จนกระทั่งได้ยินการสั่นของมือถือที่อยู่บนโต๊ะ จึงได้สติกลับมา
เขาใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมง คาดไม่ถึงว่าจะอ่านไปได้แค่สามบรรทัด
เขาปิดหนังสือ แล้วลุกขึ้นยืน
เวลานี้ ก็ดึกมากแล้ว มองผ่านหน้าต่างที่ยาวจรดพื้น เขาสามารถมองเห็นบนถนนที่อยู่ไกลๆที่แทบจะไม่มีคนเดินเลย
อีกทั้งยังมีอะไรบางอย่างที่ตกลงมาจากบนท้องฟ้า
เขาเข้าไปมองใกล้ๆ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหิมะตก
หิมะแรกของฤดูหนาวในปีนี้ น่าจะเริ่มตกเมื่อกี้นี้ เพราะเมืองด้านล่างยังไม่ได้ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาว
จู่ๆหยานชิงเจ๋อก็นึกถึงว่า ตอนเด็กๆซูสือจิ่นชอบก่อตุ๊กตาหิมะอย่างมาก แต่เธอมักจะเป็นหวัดเป็นไข้ง่าย ดังนั้น ครอบครัวจึงไม่ให้เธอเล่นหิมะ
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงขอร้องให้เขาช่วยก่อให้ ตอนแรกเขาก็ไม่เห็นด้วย แต่ก็อดทนต่อความออดอ้อนของเธอไม่ไหว สุดท้ายก็ทำได้เพียงประนีประนอม
คิดถึงอดีตแล้ว ในสายตาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแฝงไปด้วยความอ่อนโยน
แต่ตอนนี้……
เขาถูกเหตุผลของตนเองดึงกลับมาสู่ความเป็นจริง ทันใดก็ตระหนักได้ คาดไม่ถึงว่าตนเองจะมีความสัมพันธ์กับเธอ ในสภาวะที่มีสติครบถ้วนดีทุกอย่าง!
คิดถึงตรงนี้แล้ว ในใจของหยานชิงเจ๋อก็พรั่งพรูอารมณ์ที่หงุดหงิดขึ้นมา
แต่ครั้งนี้ไม่ได้เกลียดเธอ แต่กลับเกลียดตัวเอง!
เขาทำแบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เห็นเธอเป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆมาโดยตลอด ทั้งๆที่เกลียดชังคืนนั้นอย่างมาก แต่ก็ยังทำผิดพลาดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!
เขาเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง คิดถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสองในวันพรุ่งนี้ ก็ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า!
และเวลานี้ ซูสือจิ่นที่นอนเอนกายอยู่บนเตียง ก็ขมวดคิ้วแน่น ร่างกายเริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัว
เดิมทีเธอไม่ได้มีความรู้สึกง่วงนอน แต่ความรู้สึกอ่อนเพลียของร่างกายที่ค่อยๆเข้ามา ทำให้เธอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
แต่ทำไมคอถึงแห้งขนาดนี้ หัวก็รู้สึกหนักอึ้ง ไม่สบายไปทั่วทั้งตัว
ซูสือจิ่นพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง จนกระทั่ง ลืมตาขึ้นมา
ความรู้สึกของร่างกายก็ยิ่งชัดเจน ด้วยเหตุนี้ ซูสือจิ่นจึงตระหนักได้ถึงปัญหาหนึ่ง: เธอเป็นไข้แล้ว!
ปวดหัวอย่างรุนแรง คอก็คล้ายกับแสบร้อน ปวดเมื่อยไปทั้งตัว ร่างกายร้อนมาก แต่ก็รู้สึกหนาวอย่างมาก
ภายในห้องเงียบมาก ซูสือจิ่นคิดอย่างคลุมเครือว่า หยานชิงเจ๋อน่าจะหลับอยู่ในห้องนอนอีกห้องหนึ่งใช่ไหม?
เธออยากไปเข้าห้องน้ำ ด้วยเหตุนี้ จึงพยายามขยับไปยังข้างเตียงอย่างยากลำบาก แล้วลุกขึ้นยืนขาเดียว
ทันทีที่ลุกขึ้น ทำให้เลือดในสมองของเธอไหลกลับไม่ทัน ซูสือจิ่นจึงรู้สึกว่าร่างกายสูญเสียการทรงตัว เมื่อตอบสนองกลับมา ก็คาดไม่ถึงว่าเธอจะล้มลงไปบนพื้นแล้ว แต่เมื่อกี้ล้มลงไปได้อย่างไร คาดไม่ถึงว่าเธอจะนึกไม่ออกโดยสิ้นเชิง
แต่ข้างหู มีเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบเข้ามาทันที จากไกลเข้ามาใกล้ จนกระทั่ง หยานชิงเจ๋อรีบเดินมาถึงตรงหน้าเธอ!