บทที่ 283 อย่าลากพวกมันมาหาข้า!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 283 อย่าลากพวกมันมาหาข้า!

“ใช่ วิชาที่ข้าบ่มเพาะนั้นค่อนข้างพิเศษไม่เหมือนใคร” ซูอันคิดเกี่ยวกับการที่ผู้เฒ่ามี่ซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ตลอดเวลาราวกับกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับตัวเอง สิ่งนี้ทำให้เขาตระหนักว่าวิชาที่เขาเรียนรู้อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าควรบอกฉู่ชูเหยียน เกี่ยวกับวิชาวัฏจักรหงส์อมตะหรือไม่

โชคดีที่ฉู่ชูเหยียนไม่ได้ถามลึกลงไปกว่านี้ ในโลกนี้วิชาและทักษะการบ่มเพาะของคน ๆ หนึ่งถือเป็นความลับ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ไม่ต่างจากการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเอง อันที่จริงคำถามของนางก่อนหน้านี้เป็นการถามที่ละลาบละล้วงเกินไป แต่นางก็ไม่สามารถต้านทานความอยากรู้ของตัวเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางใกล้จะตายอยู่แล้ว

นางไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตอบคำถามของนางอย่างจริงจัง ทำไมเขาไม่ปิดบังข้าเลย?

ซูอันมองไปที่ฉู่ชูเหยียนและตกอยู่ในภวังค์ความคิด เขากลัวว่านางจะผล็อยหลับไป จึงพยายามหาหัวข้อที่น่าสนใจเพื่อจะชวนนางคุย แต่มีบางอย่างในใจของเขาที่เตือนว่าให้หลบทันที! ชายหนุ่มรีบกระโดดไถลไปด้านข้างตามสัญชาตญาณอย่างรวดเร็ว!

ปึก!

หอกแหลมคมพุ่งลงตรงจุดที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ภายในชั่วพริบตา

ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าตอนนี้มีผีดิบทหารเก้าตัวใช้หอกเป็นอาวุธยืนอยู่ไม่ไกลนัก เมื่อพิจารณาดูสภาพร่างกายและอุปกรณ์ พวกพลหอกผีดิบเหล่านี้น่าจะมีตำแหน่งที่สูงกว่าพวกผีดิบถือขวานอย่างชัดเจน

พลหอกผีดิบกระชับโล่และหอกในมือของพวกมันแน่นและเริ่มก้าวเท้าเดินหน้าอย่างเป็นระเบียบเข้าหาซูอันทีละก้าวเพื่อลดระยะห่าง ฝีเท้าที่เป็นระเบียบและความรู้สึกน่าเกรงขามที่พวกมันปลดปล่อยทำให้ซูอันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังเผชิญกับกองทัพผีดิบทั้งหมด

ด้วยรูปแบบการเคลื่อนพลของพลหอกผีดิบที่มีระเบียบและมีแบบแผน ทำให้ชายหนุ่มไม่มีที่ว่างให้ใช้วิชาร่างก้าวทานตะวัน เขาทำได้เพียงถอยกลับอย่างต่อเนื่อง…

ในไม่ช้าชายหนุ่มก็มองเห็นกำแพงถ้ำอยู่ข้างหลังแล้ว เขารู้ดีว่าหากเอาแต่หนีต่อไป มันจะกลายเป็นจุดจบของตนจริง ๆ ดังนั้นจึงรอโอกาสที่จะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อกระโดดขึ้นข้ามหัวของพวกมัน นี่เป็นทางออกเดียวที่เขาคิดได้ในตอนนี้

แต่ในขณะที่เขากระโดดข้ามพวกมันและลอยอยู่กลางอากาศ พลหอกผีดิบสามตัวก็กระโดดขึ้นมาบนอากาศอย่างรวดเร็วขวางเขาเอาไว้และแทงหอกของพวกมันมาที่ชายหนุ่มจากสามทิศทาง!

ซูอันร้องโวยวายไม่เป็นศัพท์

นี่มันบ้าอะไรกัน! ผีดิบเหล่านี้กระโดดได้คล่องขนาดนี้เลยเหรอ?!

พลขวานผีดิบจอมซุ่มซ่ามก่อนหน้านี้ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าผีดิบทหารโดยรวมมีความสามารถต่ำไปจากที่เป็นจริงมาก

ในขณะที่ลอยตัวค้างอยู่กลางอากาศไม่มีทางที่ซูอันจะหลบได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ง่าย ๆ ชายหนุ่มรีบยกแขนขึ้นและยิงธนูออกจากหน้าไม้จิ๋วที่ติดแขนเอาไว้ใส่พลหอกผีดิบตัวหนึ่ง

พลหอกผีดิบถูกกระแทกลงกับพื้น และหลังจากกระตุกอยู่ครู่หนึ่ง มันก็หยุดเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าลูกธนูเจาะเกราะจะมีประสิทธิภาพอย่างมากกับผีดิบเหล่านี้

ในเวลาเดียวกันนั้น ซูอันก็เรียก ‘แท่งพิษ’ ออกมาและปัดหอกของผีดิบอีกตัวออกไปทางด้านข้างและใช้ประโยชน์จากแรงปะทะนี้พุ่งไปยังพลหอกผีดิบอีกตัวที่กระโดดขึ้นมาบนอากาศ จากนั้นเขาใช้ช่องโหว่นี้ฟันแท่งพิษอย่างรวดเร็วไปยังพลหอกผีดิบที่ชายหนุ่มพุ่งเข้าไปหา ทำให้เกิดเสียงดังจากแท่งพิษที่ขูดกับกระดูก

ซูอันคิดว่าเขาสามารถจบชีวิตของพลหอกผีดิบได้แน่นอน แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น พลหอกผีดิบยังดูปกติดี และตอนนี้เองที่เขาตระหนักได้ว่าผีดิบเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว ดังนั้นการใช้แท่งพิษจึงไม่ได้ผลเลยกับพวกมัน…

ที่เลวร้ายกว่านั้น…พลหอกผีดิบกลับตอบโต้ด้วยการแทงหอกไปทางฉู่ชูเหยียนอีกต่างหาก!

หากหญิงสาวอยู่ในสภาพปกติ พลังของหอกที่พุ่งเข้ามานั้นคงไม่อาจระคายผิวนางได้ แต่ตอนนี้มันมากเกินพอที่จะทำลายร่างกายของนางให้แหลกสลาย หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหลับตาลงเตรียมรับความตาย…

เมื่อเห็นว่าฉู่ชูเหยียนกำลังจะโดนโจมตี ซูอันก็คำรามอย่างโกรธจัดในขณะที่เขาบิดร่างกายของเขาอย่างแรงกลางอากาศเพื่อให้หอกแทงหลังแทน

ฉึก!

อั่ก!

เลือดพุ่งออกมาจากปากของซูอัน แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้มากนักในระหว่างการต่อสู้ ชายหนุ่มใช้แรงกระแทกจากการแทงเพื่อพุ่งออกจากวงล้อมของพลหอกผีดิบ

ในขณะเดียวกัน เมื่อรู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่น ๆ ที่หยดลงบนใบหน้าของนาง ฉู่ชูเหยียนก็ลืมตาขึ้น ซึ่งนางก็ได้เห็นว่ามีเลือดกำลังไหลออกมาจากปากของซูอัน นางจึงคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้นในทันที ขนตายาวของหญิงสาวสั่นเทาด้วยความไม่เชื่อ

“คุณหนู!”

เถาวัลย์จำนวนมากพุ่งขึ้นไปในอากาศกระแทกขวานของพลขวานผีดิบที่กำลังจะฟันไปที่ซูอันและฉู่ชูเหยียน

ซูอันหันศีรษะไปรอบ ๆ และเห็นเฉียวเสวี่ยอิงปรากฏตัวในบริเวณใกล้เคียง ผมของนางกลายเป็นเถาวัลย์อีกครั้งและกำลังโจมตีผีดิบ ในขณะเดียวกัน ซือคุนและลูกน้องระดับสี่อีกสองคนของเขากำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับกลุ่มผีดิบทหาร

“มองอะไรของเจ้า? ข้าไม่ได้กำลังพยายามช่วยเจ้าอยู่หรอกนะ!” เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองของซูอัน เฉียวเสวี่ยอิงก็จ้องกลับไปที่เขาและคำราม

“ข้ารู้ว่าเจ้าอายที่จะยอมรับว่าเจ้าห่วงใยข้า ไม่ต้องห่วง ข้าเข้าใจ!” ซูอัน ตอบกลับด้วยรอยยิ้มร่าเริงทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เขาเจ็บจากแผลจนแทบอยากจะร้องไห้

ฉู่ชูเหยียนนิ่งสนิทไม่ตอบอะไร

คน ๆ นี้ช่างไร้ยางอายจริง ๆ! เขากล้าหยอกล้อผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้ต่อหน้าข้าเลยงั้นเหรอ? เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ทำไมข้าถึงรู้สึก…แปลกๆ?

เฉียวเสวี่ยอิงสังเกตเห็น ซือคุนส่งสายตาแปลก ๆ มาที่นางเมื่อได้ยินคำพูดของซูอัน มันทำให้นางทั้งเขินอายและโกรธเคือง “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +134!

ขณะที่นางพูดคำเหล่านั้น นางส่งเถาวัลย์ตรงไปที่ซูอันโดยตั้งใจจะมัดเขาไว้

แต่ชายหนุ่มได้เตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว เขาหัวเราะและหลบเถาวัลย์อย่างง่ายดายก่อนจะหนีไป เฉียวเสวี่ยอิงพยายามไล่ตามเขาทันที แต่ผีดิบทหารกลุ่มใหม่บุกเข้ามาแล้วขวางทางนางไว้อย่างประจวบเหมาะ

ในทางกลับกัน ซือคุนรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งที่เห็นเช่นนี้ เขาไม่แปลกใจที่ ซูอันจะยึดมั่นกับนางในฝันของเขา แต่ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าจีบสาวใช้ของเขาด้วย! เขาจ้องไปที่พลขวานผีดิบรอบตัวและคำรามอย่างโกรธจัด “ไอ้พวกซากศพ พวกแกกล้าดียังไงมาขวางทางข้า? ลงนรกไปให้หมด!!”

ใบมีดลมอันทรงพลังพุ่งกระจายออกไปอย่างรวดเร็วเฉือนเหล่าผีดิบทหารเป็นชิ้น ๆ ภายในพริบตา พวกผีดิบทหารอาจมีพลังป้องกันที่น่าเหลือเชื่อ แต่ไม่มีทางที่พวกมันจะอยู่รอดได้หลังจากถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ

อย่างไรก็ตาม การกระทำของซือคุนดึงดูดความสนใจของพวกพลหอกผีดิบ พวกมันหันมาหาพร้อมกับเดินตรงปรี่เข้าไปด้วยปลายหอกที่ชี้ไปยังซือคุน ซึ่งพลหอกผีดิบเหล่านี้รับมือยากกว่ามาก แม้แต่ใบมีดลมอันทรงพลังของเขาก็ยังทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยเล็ก ๆ ไว้บนโล่ของพลหอกก่อนที่จะเลือนหายไป

เมื่อดูกลุ่มพลหอกผีดิบที่เดินดาหน้าเข้าหาเขา ใบหน้าของซือคุนก็มืดมนลง เขารวบรวมพลังและบังคับให้ใบมีดลมทั้งหมดรวมตัวกันเป็นใบมีดลมขนาดใหญ่อันเดียวและพุ่งออกไปผ่าโล่ทั้งหมดของหอกผีดิบออกเป็นสองส่วน

พลหอกผีดิบมองดูโล่ที่แตกครึ่งแล้วส่งเสียงร้องที่น่าสังเวชออกมา

“นายน้อย พวกมันกำลังเรียกพวกมาเสริม!” เฉียวเสวี่ยอิงอุทาน

ในขณะที่กลุ่มของซือคุนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ซูอันตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าลึกเข้าไปในถ้ำ เขากำลังคิดที่จะหาที่หลบภัยก่อนจนกว่าทั้งซือคุนและกองทัพผีดิบจะติดพันการต่อสู้ และเล็ดลอดหนีออกจากถ้ำ

ซือคุนสังเกตเห็นว่าซูอันกำลังจะหลบหนี ดังนั้นเขาจึงออกไล่ตามอีกครั้ง เพราะตนเองก็ไม่อยากอยู่ในถ้ำนี้นานจนเกินไป และเขาต้องได้ตัวฉู่ชูเหยียนมาอย่างรวดเร็วกับจบชีวิตของซูอันเสียเพื่อที่เขาจะได้ออกจากสถานที่แห่งนี้ ทว่าเขาไม่แน่ใจว่าตนจะปลอดภัยหรือไม่หากต้องไล่ตามซูอันลึกเข้าไปอีก…

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพลหอกผีดิบได้ขวางเส้นทางของเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่คำรามใส่ซูอันอย่างโกรธจัด แต่แล้วอีกไม่กี่อึดใจเขาก็สังเกตเห็นว่าซูอันหยุดวิ่งก่อนที่จะเริ่มถอยกลับมาทางเขา

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซือคุนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่า ๆ! เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าไม่วิ่งต่อไปล่ะ?”

ซูอันยังคงจ้องมองที่ส่วนลึกของถ้ำในขณะที่เขาถอยกลับ เขาอึกอัก “น้องชิท เจ้าจัดการกับพวกผีดิบหอกได้ทีละกี่ตัว?”

ซือคุนสับสนกับคำถามนี้ แต่แล้วอีกไม่เกิน 2 อึดใจเขาก็ได้ยินเสียงสะท้อนจากส่วนลึกของถ้ำ เขามองเข้าไปและเห็นขบวนรบของพลหอกผีดิบกำลังเดินออกมาจากประตูหินที่ปลายอีกด้านของถ้ำ

ซือคุนถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความสยดสยองและตะโกนว่า “ไอ้บัดซบซูอัน! อย่าแม้แต่จะคิดที่จะลากพวกมันมาทางนี้นะโว้ย!!!”