ตอนที่ 294 การล้างแค้นของมหาสงคราม 1

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 294 การล้างแค้นของมหาสงคราม 1
ตอนที่ 294 การล้างแค้นของมหาสงคราม 1

แค่ทำมันซะ!

สวี่หลิงอวิ๋นรีบวิ่งออกไปจากห้องบัญชาการทันที โดยไม่รีรอให้องค์ชายทั้งสองกล่าวอะไร เกิดอะไรขึ้นกับเธอคนนี้?

เป็นไปได้ไหมว่าเธอรู้สึกโกรธจัดจนต้องการประจันหน้ากับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์?

“รีบไปหยุดองค์หญิงสาม!” แลนเซล็อตรีบออกคำสั่งให้เหล่าทหารไปหยุดสวี่หลิงอวิ๋น เขาหวาดกลัวว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะพลั้งมือทำอะไรลงไปในขณะที่โกรธจัด

ต่อให้วิ่งออกไปสู้จนตัวตาย ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถลงมือทำด้วยพละกำลังของคนคนเดียวได้

“เฮ้ ทำอะไรกัน!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเหล่าทหารทั้งหลายที่อยู่ข้างหน้าเธอ แล้วถึงกับหมดคำพูด “จะหยุดฉันทำไม?”

หลี่อาหรันเข้าใจสวี่หลิงอวิ๋นผิดเช่นกัน โดยคิดว่าองค์หญิงสามจะออกไปกอบกู้สถานการณ์เพียงลำพัง ก่อนจะเกลี้ยกล่อมเธอว่า “องค์หญิงสาม เราควรมองเรื่องนี้ในระยะยาวกันนะพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้ท่านแข็งแกร่งมากแค่ไหน ท่านก็ไม่สามารถต่อต้านศัตรูได้เพียงลำพังหรอกใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

ไกอารีบวิ่งเข้ามา “ท่านหัวหน้า ถ้าท่านจะออกไปหาตัวศัตรู ได้โปรดพาผมไปด้วยนะครับ!”

ไม่เอาน่า ไกอาคนนี้ช่างเป็นแฟนคลับผู้ซื่อบื้อเหลือเกิน!

หลี่อาหรันครุ่นคิดกับตัวเอง เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาถึงได้เทิดทูนหน้ามืดตามัวแบบนี้? ไม่ยอมเกลี้ยมกล่อมองค์หญิงสาม แต่กลับไปเติมเชื้อเพลิงเห็นดีเห็นชอบกับเธอด้วยอย่างนั้นเหรอ?

ไกอาคิดในใจ ไอ้คนสารเลวพวกนี้มันเห็นความสามารถขององค์หญิงสามบ้างไหม? หัวหน้าของเราเจ๋งที่สุดแล้วโว้ย! ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้า ดาวเคราะห์ทั้งสามดวงคงถูกทำลายย่อยยับไปแล้ว!

ในสายตาของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง หัวหน้าของพวกเขาทรงอิทธิพลที่สุด!

สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ประมาทขนาดนั้นหรอก! ฉันก็แค่เพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก”

“เอาล่ะ ไกอามากับฉัน ส่วนคนอื่น ๆ ไปหารือเกี่ยวกับการต่อสู้ต่อเถอะ”

และแล้วองค์หญิงสามก็พาไกอาตรงดิ่งไปยังฝั่งตรงข้ามของยานรบอวกาศ

ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก พวกเขารู้สึกโล่งใจที่รับรู้ว่าองค์หญิงสามไม่ได้ออกไปหาจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์โดยตรง

แลนเซล็อตขมวดคิ้ว สวี่หลิงอวิ๋นจะทำอะไร? ความสงสัยปรากฏขึ้นในหัวใจของเขา รวมถึงความอิจฉาเล็กน้อย

ช่างทหารผู้อ่อนแอจะติดตามไปได้อย่างไร แน่นอนว่าเขาไม่มีทางติดตามไปได้ใช่ไหม? มีอะไรที่เขาพูดคุยด้วยไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

สวี่หลิงอวิ๋นพาไกอาเข้าไปในห้องว่าง “ไกอา นายรีบติดต่อหาผู้บัญชาการที่ประจำการอยู่บนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ที และบอกเขาให้ส่งข้อมูลการติดต่อของเจ้าถั่วชมพูมาให้ฉันที”

ว่าแล้วก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเสียจริง…

ตั้งแต่ถั่วชมพูใช้คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์เป็น มันก็ติดต่อมาทางวิดีโอเพื่อก่อกวนเธอนับครั้งไม่ถ้วน เธอพบว่าการกระทำของมันช่างน่ารำคาญ จึงได้ลบข้อมูลติดต่อของเจ้าถั่วชมพูออก และสลับชื่อของมันใส่ไว้ในโหมดปฏิเสธสายเรียกเข้าแทน

เยี่ยมไปเลย ตอนนี้เธอไม่มีข้อมูลติดต่อของถั่วชมพูแล้ว

เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเธอกลัวว่าถั่วชมพูจะหวังผลประโยชน์จากเธอมากขึ้น เธอจึงได้ปฏิเสธมันซะ!

ไกอา… ไกอาจะโต้แย้งอะไรได้ ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับเกียรติยศและภารกิจที่ ‘แสนยากลำบาก’ นี้

ถงจื่อเจินตอบรับสายเรียกเข้าทางวิดีโอ เนื่องจากเขาเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่ดูแลถั่วชมพู

“ท่านหมายถึงถั่วชมพูเหรอพ่ะย่ะค่ะ?” ถงจื่อเจินพยักหน้า “ได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะส่งข้อมูลการติดต่อของถั่วชมพูให้เดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

สวี่หลิงอวิ๋นตบไหล่ไกอาเบา ๆ คู่หู งานที่ยากเย็นนี้จะให้นายเป็นคนจัดการแล้วกัน!

ไกอารีบติดต่อไปหาถั่วชมพูอย่างรวดเร็วตามข้อมูลการติดต่อที่ถงจื่อเจินให้มา

ไม่ได้เห็นถั่วชมพูเพียงแค่สองสามเดือนเท่านั้น แต่น้ำหนักของมันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ฝูงของมันก็เป็นแบบเดียวกัน เอาแต่นอนกินรอความตายเข้าไปทุกวัน ไม่ต้องพูดถึงความก้าวหน้า พวกมันเป็นแค่ความอัปยศอดสูของเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนเท่านั้น!

สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อมองดูเจ้าตัวอ้วน แทบจะมองไม่เห็นคอของมันด้วยซ้ำ “ถั่วชมพู ดูสิว่าตอนนี้แกกลายเป็นยังไง? ถ้าแกยังเป็นแบบนี้ต่อไป แกจะไม่มีวันหาแฟนได้!”

เมื่อไม่นานมานี้ถั่วชมพูได้ดูละครทางโทรทัศน์หลายเรื่อง และเห็นว่าพวกมนุษย์ส่วนใหญ่ชอบแคะฟันตัวเอง มันที่ชอบเรียนรู้ทุกอย่างจึงขอให้ถงจื่อเจินเอากล่องไม้จิ้มฟันมาให้ จากนั้นจึงใช้อุ้งมือทั้งสองข้างจับไม้จิ้มฟันขึ้นมาแคะเศษเนื้อฝอยออกจากฟันของมัน

“เมี๊ยว…!” ถั่วชมพูทักทายสวี่หลิงอวิ๋นด้วยท่าทางเกียจคร้าน “ราชาอย่างฉันงดงามเหมือนกับดอกไม้ สาวงามทั้งหลายชอบฉันทั้งนั้นแหละ!”

“นี่เธอน่ะผอมอย่างกับกระบอกไม้ไผ่ แล้วใครจะมาชอบเธอ?”

ห๊ะ! สวี่หลิงอวิ๋นสูดลมหายใจ! ถั่วชมพูเรียนรู้วิธีการหยอกล้อผู้คนมานานแค่ไหนแล้ว!

มันจะเป็นแบบนี้ต่อไปใช่ไหม?

“ถั่วชมพู พี่สาวอยากจะขอให้แกช่วยอะไรหน่อย…” สวี่หลิงอวิ๋นเปิดปากพูดเพื่อแสดงความต้องการ ทว่าถั่วชมพูกลับขัดจังหวะเธอเข้าเสียก่อน

“เมี๊ยว…! เรียกฉันว่าราชา” ถั่วชมพูจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นด้วยเจตนาร้าย ผู้หญิงคนนี้สมจริงมาก! พอมันไม่มีประโยชน์ก็ไม่เคยตอบรับวิดีโอของมัน แต่พอมันมีประโยชน์ขึ้นมากลับนึกถึงมันอย่างนั้นเหรอ?

ฮึ่ม! ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เธอเลยเถอะ!

ถั่วชมพูกระดิกหางของมันด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง มันรู้ดีว่าสวี่หลิงอวิ๋นกำลังเร่งรีบ ไม่อย่างนั้นเธอจะนึกถึงมันเหรอ?

สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น หื้ม เจ้าตัวนี้ไม่สนใจไยดีคนอื่นแล้วยังหัดวางมาดอีกนะ!

มันคิดว่าเธอจะยอมเป็นคนอ่อนแอให้มันรังแกหรือไง? เจ้าเด็กเหลือขอ ฝากไว้ก่อนเถอะ!

“โอ้? ราชา?” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบสิ่งของที่มีอนุภาคขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋า ถือไว้ในมือและยื่นให้ไกอาที่อยู่ด้านข้างเธอ

“ไกอา ลองกินดูสิว่าอร่อยไหม!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นและอมยิ้ม “นี่คือท็อฟฟี่สูตรลับของฉันเอง ฉันเพิ่งคิดค้นมันสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปก็มีไม่เยอะ มีแค่ครึ่งกิโลหรือหนึ่งกิโลได้”

ไกอามองดูสิ่งของที่มีขนาดเล็ก และได้ยินว่ามันคือน้ำตาล… ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาเล็กน้อย

เขาหยิบมันใส่เข้าไปในปากอย่างระมัดระวัง และสัมผัสได้ถึงรสหวานเข้มข้นที่มีกลิ่นคล้ายนมฟุ้งกระจายในปาก ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเล็กน้อย

อร่อยมาก!

อร่อยเหมือนน้ำหวานเลย!

‘กึก’ เสียงไม้จิ้มฟันในอุ้งมือของถั่วชมพูตกลงกับพื้น มันจ้องมองชายหนุ่มสองขาราวกับถูกมนตร์สะกด อดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “อร่อยไหมเมี๊ยว?”

“อืม! อร่อย! อร่อยมากเลย! หวานละมุน!” ไกอาไม่รู้ว่าควรจะบรรยายสรรพคุณของรสชาติอย่างไรดี ทำได้เพียงแต่กล่าวสรรเสริญ “อร่อย! อร่อยมาก!”

เจ้าถั่วชมพูอิจฉาตาร้อน!

“เมี๊ยว! คุณผู้หญิง! เธอต้องการอะไรจากถั่วชมพูงั้นเหรอ?” ถั่วชมพูพลิกตัว และเผยให้เห็นหน้าท้องสีขาวปุยดุจดังหิมะ ดวงตาเรียวแบบแมวน้อยกะพริบตา “ถั่วชมพูยินดีรับใช้”

สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองท่าทางของทาสรับใช้ และสัมผัสหัวของมัน

เจ้าถั่วชมพู…ร่างกายที่อ้วนท้วมและใบหน้าที่จ้ำม่ำของแกมันทำให้ความงามของแกหายไปจนหมด แกรู้ตัวบ้างไหม?!

และตาแมวทั้งสองข้างก็เกือบจะจมหายไป!

“จริงเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองมันด้วยความลังเล “แต่แกยังอยากจะให้ฉันเรียกแกว่าราชาอยู่ไหม?”

“เมี๊ยว…! ไม่ต้องหรอก! ราชินีที่รัก!” ถั่วชมพูจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นด้วยท่าทางประจบสอพลอ “ท่านคือราชินีของฉัน ตราบใดที่ท่านให้ลูกกวาดอันนั้นกับถั่วชมพูก็จะไม่มีอะไรอีกเมี๊ยว…!”

สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองมันอย่างเหลืออด “แกจะไม่ยกตัวเองเป็นราชาแล้วงั้นเหรอ?”

“ราชินี… ก็แค่ล้อเล่นน่ะเมี๊ยว… ฉันจะวางยกตัววางอำนาจทั้งที่ท่านอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ท่านเป็นถึงราชินีตัวจริง แต่ตราบใดที่เอาลูกกวาดให้ถั่วชมพู แค่นั้นก็ไม่มีอะไรแล้วเมี๊ยว…”

ถั่วชมพูแลบลิ้นเลียอุ้งเท้าอันกระจิริดของมันที่อยู่บนพื้น ก่อนจะหัวเราะฮิฮิ