บทที่ 285 เอาชีวิตเป็นเดิมพัน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 285 เอาชีวิตเป็นเดิมพัน

เมื่อเห็นว่าซูอันได้ตัดสินใจแล้ว นางจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่ออีก เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายเสียสมาธิเปล่า ๆ แต่อย่างไรก็ตาม นางยังคงขมวดคิ้ว มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะจัดการกับพวกพลหอกผีดิบจำนวนมากพร้อม ๆ กันโดยเฉพาะตอนนี้ที่ชายหนุ่มยังเคลื่อนไหวไม่สะดวกเพราะอุ้มนางเอาไว้

ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ฉู่ชูเหยียนก็ตระหนักว่านางประเมินความแข็งแกร่งของซูอันต่ำเกินไป แม้ในขณะที่อุ้มนางไว้ เขาก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว และทุก ๆ การโจมตีของเขาสามารถเอาชีวิตของพลหอกผีดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อันที่จริงแล้วในแง่ของความแข็งแกร่งและความเร็ว ด้วยผลจากการบาดเจ็บมันทำให้วิชาวัฏจักรหงส์อมตะเพิ่มความแข็งแกร่งของซูอัน จนในตอนนี้เทียบได้กับนางในสภาพปกติเลยด้วยซ้ำ และยิ่งเมื่อรวมกับทักษะการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของเขาด้วย หากสู้กันจริง ๆ ถ้าฉู่ชูเหยียนไม่ใช้พลังธาตุของนาง ก็มีแนวโน้มว่านางอาจจะแพ้ให้เขาในตอนนี้ก็เป็นได้

หลังจากสังหารพลหอกผีดิบยี่สิบสามตัวอย่างต่อเนื่อง ความเร็วของซูอันก็เริ่มลดลง เขาเริ่มหายใจหนัก การอุ้มคนไว้ในแขนข้างหนึ่งและเหวี่ยงหอกด้วยแขนอีกข้างหนึ่งถือเป็นการกระทำที่เหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง แขนขวาของซูอันจึงปวดเมื่อยมากจนเกือบจะถึงขั้นชา

ที่แย่ไปกว่านั้น ยิ่งชายหนุ่มฆ่าพวกพลหอกผีดิบมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดึงดูดความสนใจจากตัวอื่น ๆ มากขึ้นเท่านั้น พวกมันทิ้งซือคุนและพากันมาโจมตีเขาแทน

บัดซบเอ๊ย! นี่ข้ามีเสน่ห์กับพวกผีดิบด้วยงั้นเหรอ?

“น้องชิท! เจ้าชอบพูดเหมือนว่าตัวเองเก่งนักเก่งหนาอยู่ตลอดเวลา ทำไมตอนนี้เจ้าไม่แสดงมันให้ข้าดูสักหน่อยล่ะ? ผีดิบทั้งหมดของเจ้ากำลังมาทางข้าแล้ว!”

ซือคุนตะโกนด่ากลับทันทีโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองอีก “ไอ้ตัวซวยเอ๊ย! ในเมื่อผีดิบพวกนี้เจ้าเป็นคนลากมาตั้งแต่แรก ดังนั้นตอนนี้พวกมันกลับไปหาเจ้ามันก็ถูกแล้วโว้ย!!”

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่มีแต่เสีย ที่ผ่านมาเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้สัมผัสเทพธิดาอันเป็นที่รักของเขาแถมต้องมาทนทุกข์กับพวกผีดิบทหารพวกนี้ มันทำให้ซือคุนรู้สึกคับข้องใจอย่างไม่น่าเชื่อ!

ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!

ในทางกลับกัน ซูอันไม่สนใจคะแนนความโกรธแค้นอีกต่อไป เขากระชับมือซ้ายโอบฉู่ชูเหยียนเข้ามาแนบลำตัวมากขึ้น พร้อมกับยังคงกวัดแกว่งหอกไปที่พลหอกผีดิบ

น่าเสียดายที่ความเร็วและพละกำลังของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานหลังจากที่เขาฆ่าพลหอกผีดิบตัวล่าสุดและกำลังจะถอนหอกออกมา หนึ่งในพวกของมันก็พุ่งหอกของมันไปหาฉู่ชูเหยียนทันที เห็นได้ชัดว่าพวกมันรู้ว่าฉู่ชูเหยียนเป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในขณะนี้

ซูอันกัดฟันในขณะที่เขาบิดตัวบังฉู่ชูเหยียน

ฉึก!!

หอกพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม เขาอยู่ในสภาวะอ่อนแอตั้งแต่เริ่ม และการโจมตีนี้เกือบจะทำให้เขาสิ้นสติ

“อาซู!” ฉู่ชูเหยียนร้องออกมาอย่างตกใจ

ซูอันยิ้มออกมาแล้วตอบว่า “นี่มันคล้าย ๆ กับข้ากำลังเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อมัดใจเจ้าอยู่เลยนะเนี่ยที่รัก หลังจากนี้หากรอดไปได้ในฐานะสามีภรรยาเจ้าคิดจะตอบแทนข้ายังไงดี?”

“ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ทำไมเจ้ายังมีอารมณ์จะล้อเล่นอีก” ฉู่ชูเหยียนอุทาน

ซูอันตอบขณะที่หลบการโจมตีจากหนึ่งในพลหอกผีดิบ “โธ่ ยังไงข้าก็ต้องเจ็บตัวอยู่แล้ว ทำไมข้าถึงจะไม่หาประโยชน์จากมันบ้างล่ะ? ข้าไม่ยอมเจ็บตัวเปล่า ๆ โดยไม่ได้อะไรเลยหรอกนะ”

“…” ฉู่ชูเหยียนไม่ตอบอะไร

นางมีปัญหาในการพยายามตามให้ทันความคิดของซูอัน ในเวลาแบบนี้คนปกติควรคิดเรื่องพวกนี้ไหม?!

แม้ว่าน้ำเสียงของซูอันจะดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่แท้จริงแล้วตอนนี้เขาใกล้จะถึงขีดจำกัดของตัวเองเต็มทน ชายหนุ่มรีบกินยาฟื้นฟูตัวเอง มิฉะนั้นตนอาจจะตายทันทีหากถูกโจมตีอีกครั้ง

พลังงานอันอบอุ่นไหลผ่านร่างกายและแขนขาของเขา แม้ว่าการฟื้นฟูจะไม่รวดเร็วเหมือน ‘น้ำยาศรัทธาพี่น้อง’ แต่ก็ยังค่อนข้างเร็วกว่ายาปกติที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป เขารู้สึกได้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาค่อย ๆ ดีขึ้นและเขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นอีกครั้ง

ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ก่อนหน้านี้จี้เสี่ยวซีร่วมมือกับเขาและมอบยาอันล้ำค่ามากมายจากหมอเทวะจี้ให้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว

ผลของยาฟื้นฟูมีผลให้ซูอันมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อสู้กับพลหอกผีดิบต่อไป แขนของเขายังคงปวดเมื่อยอยู่เสมอ แต่ซูอันทำเป็นไม่สนใจและกระตุ้นตัวเองให้ตื่นตัว และเมื่อชายหนุ่มใช้หอกมากไปจนมันทื่อ เขาก็เพียงแค่โยนหอกของตัวเองทิ้งและแย่งหอกใหม่จากมือของศัตรูมา

ในที่สุดเขาก็สามารถเอาชนะพลหอกผีดิบนับสิบที่อยู่รอบตัวเขาได้

ชายหนุ่มปักหอกลงบนพื้นและยืนเอนกายพิงหอกเอาไว้ เขาหอบหายใจ โดยที่หน้าอกของซูอันพองเข้าพองออกอย่างแรง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ และผมของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่ไหลลงมาถูกเนื้อตัวของฉู่ชูเหยียนที่เขาอุ้มอยู่

ฉู่ชูเหยียนมองดูชายที่คอยปกป้องนางอย่างสุดตัว นางรู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะนาง เขาควรจะสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดายด้วยทักษะการเคลื่อนไหวและความเร็วอันน่าอัศจรรย์ของเขา

นี่เป็นความรู้สึกของการถูกปกป้องจากใครสักคนหรือไม่?

ระดับการบ่มเพาะของซูอันไม่ได้สูงนัก แต่จิตวิญญาณความเป็นนักสู้ของเขากระทบใจของนาง หญิงสาวไม่เคยได้รับการปกป้องจากผู้ชายเช่นนี้มาก่อน หยาดเหงื่อและเลือดที่ซึมเข้ามาในเสื้อคลุมของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นชายซึ่งทำให้หัวใจของนางเต้นเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อเห็นว่าซูอันมองมาที่นาง ฉู่ชูเหยียนก็หลบตาอย่างรวดเร็ว

“โชคดีที่ผีดิบทหารมีแค่นี้ ถ้ามีมากกว่านี้ ข้าอาจจะทนไม่ได้จนถึงตอนนี้” ซูอันกล่าว

ชายหนุ่มรู้สึกว่าไม่น่าพูดออกมาเลย ในทันทีที่เขาพูดจบก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ประสานกันดังขึ้นอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นเห็นผีดิบทหารอีกกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้ามา แต่คราวนี้ไม่ใช่พลหอกผีดิบแล้วเพราะพวกมันใช้กระบี่เป็นอาวุธ แถมกลิ่นอายความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าพลหอกผีดิบซะอีก!

ใบหน้าของซือคุนซีดขาว “อ…อ…ไอ้ปากหมา ไอ้เวร ไอ้ตัวซวย ไอ้ซูอัน!!! ข้าเกลียดเจ้า!!!!”

ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!

ซูอันถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เริ่มจากผีดิบถือขวาน ตามด้วยพลหอกผีดิบ และตอนนี้คือพลกระบี่ผีดิบ นรกเอ๊ยนี่เราอยู่ในเกม Civilization V งั้นเหรอ?!

ซูอันสาปแช่งในใจ แต่เขาก็ยังดึงปลายหอกออกจากพื้นดินและตั้งท่าพร้อมสู้ มือของเขายังคงสั่น ไม่ใช่จากความกลัว แต่มาจากการออกแรงมากเกินไป

“วางข้าลงเถอะ! เจ้าอาจยังมีโอกาสรอดถ้าเจ้าวิ่งหนีตอนนี้ เจ้าช่วยข้ามาหลายครั้งแล้ว และข้ารู้สึกขอบคุณเจ้ามาก แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องอดทนแบบนี้ แม้ว่าข้าจะไม่ตายด้วยน้ำมือของพวกเขา ข้าก็มีเวลาชีวิตเหลืออยู่ไม่มาก เจ้าอย่าเอาชีวิตมาทิ้งกับข้าเลย!”

พวกเขาทั้งสองอยู่ใกล้กันจนฉู่ชูเหยียนสามารถสัมผัสได้ถึงร่างกายที่สั่นเทาของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน นางรู้ว่าเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว คงไม่อาจทนรับการโจมตีของพลกระบี่ผีดิบเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

“อย่าพูดอะไรอีก เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้วข้าจะทิ้งเจ้าได้ยังไง?” ซูอันเผยรอยยิ้มอันขมขื่น “แน่นอน หากเจ้าต้องการช่วยข้า เจ้าก็จูบข้าสักทีสองที เผื่อข้าจะมีกำลังใจ มีเรี่ยวแรงพอจะถล่มพวกมันให้ราบเป็นหน้ากลอง”

“…” ฉู่ชูเหยียนเงียบไป

ในเวลาแบบนี้เจ้ายังคงทำตัวเป็นคนหน้าไม่อายได้อีกเหรอ?