ในห้องผ่าตัดในศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและศัลยกรรมกระดูกและข้อนั้น มันดูกว้างขวางและปล่อดโปร่งมาก
จากมุมในห้องสาธิตบริเวณภายในห้องผ่าตัดซึ่งอยู่ภายใต้กล้องพาโนรามาซึ่งห้องนี้มันเหมือนห้องลึกลับ พื้นสีฟ้าอ่อน, ผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้ม, อุปกรณ์สีขาว, อุปกรณ์สีเงิน, และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ที่มีลายทางสีดำหรือสีแดง เพื่อเตือนถึงความน่ากลัวเมื่อจะใช้มันซึ่งถูกจัดอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
มีพยาบาลสาวสองคนในห้องผ่าตัด พยาบาลคนหนึ่งสวมหมวกผ่าตัดหูกระต่ายสีเทาและพยาบาลอีกคนสวมหมวกผ่าตัดสีเหลืองที่มีรูปทรงเหมือนมะเขือเทศ พวกเขาเดินไปรอบ ๆ เตียงผ่าตัดเหมือนผีเสื้อตัวเล็ก ๆ น่ารักสองตัวที่บินไปทางซ้ายและขวาแสดงให้เห็นถึงความอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่กำลังเอาใจใส่ผู้ป่วย
“ หมวกผ่าตัดของคุณน่าสนใจมาก” หลิวเหว่ยรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องนั้นดูหนาวเย็นมาก และเขาเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อยเพราะว่าเขาเคยเห็นสิ่งเหล่านี้ในสารคดีโทรทัศน์ที่ฉายอยู่รายการทีวี
“มีการศึกษาว่าการที่ผู้ป่วยเห็นสีของหมวกผ่าตัดจะช่วยลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วยได้ รวมถึงทางโรงพยาบาลเองก็อนุญาตให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ผ้าตัดซื้อหมวกผ่าตัดและนำมาใช้ในห้องผ่าตัดได้อีกด้วย” จู้ตงยี่พูดช้าๆ และแสดงเหตุผลของเขาออกมา
“ ดังนั้นหมอหลิงเองก็คงไม่มีเวลาไปซื้อหมวกผ่าตัด อีกทั้งเมื่อดูไปหมวกผ่าตัดของผู้อำนวยการจูเป็นหมวกลายดอกไม้สีแดงน้ำเงินนี้คุณเลือกเองรึเปล่าเนี่ย” หลิวเหว่ยพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว ในขณะที่หมอลู่ตอนนี้เขาก็กำลังใช้เครื่องรีแอคเตอร์กับแผลของผู้ป่วยในเวลาเดียวกัน
จู้ตงยี้ ยิ้ม “หมอหลิงเป็นแพทย์ที่เข้มงวดมาก ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นคนป่วยเสียเองพวกเราคงจะต้องใช้เวลานานในการรักษาเขาเพราะเขาน่าจะละเอียดทุกขั้นตอน”
“ผู้ป่วยที่เป็นแพทย์ก็คงจะมีมานานแล้ว เพราะเขาเหล่านั้นรู้ว่าควรจะต้องรักษาอาการบาดเจ็บของเขายังไง” หลิวเหว่ย ตอบหลังจากที่เขาเข้าใจสิ่งจี้ตงยู่พยายามจะหมายถึง
“แต่อย่างไรก็ดีหมอหลิงเองก็เป็นหมอที่เยี่ยมยอด” จี้ตงยี้ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดของหลิวเหว่ยสักเท่าไรโดยตรง หลังจากเป็นหมอมานานเขารู้ว่าคำขอของ หลิวเหว่ยนั้นไม่ได้ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยธรรมดาเพราะผู้ป่วยเหล่านั้นเขาจะไม่เรียกร้องที่จะขออาหารจากภัตตาคารหรูระดับห้าดาวอย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคำขอของหลิวเหว่ยสำหรับแพทย์ไม่ได้เหมือนกับสิ่งที่เขาพูดตอนนี้ ในเวลานั้นหลิวเหว่ยก็ลุกขึ้นยืนและเขาก็มีอาการบาดเจ็บปรากฏขึ้น แต่ก็ไม่ใช่การบาดเจ็บที่ส่งผลต่อเส้นเอ็นหรือกระดูกของเขา ดังนั้นทุกครั้งที่เขามาที่ศูนย์อายุรกรรมกระดูกและเวชศาสตร์เขาจะพิถีพิถันเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและขอการรักษาทางการแพทย์ที่ดีขึ้นเพื่อรับการรักษาที่จะประหยัดเวลาและหาแพทย์ที่อารมณ์ดีเท่านั้น …
หมอคูเป็นแพทย์คนแรกของเขาในเวลานั้น
อย่างไรก็ตามในช่วงสองปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจเอ็นรอยหวายของเขาฉีกขาดครั้งล่าสุดคำขอของหลิ่วเหว่ยก็เริ่มเปลี่ยนไป
ไม่มีใครเปรียบเทียบกับการกระทำของเขาในอดีต แต่ หลิวเหว่ยหันรถเข็นไปรอบ ๆ และเปลี่ยนหัวข้อด้วยรอยยิ้ม “ แต่คุณต้องยอมรับว่าเมื่อพยาบาลสวมหมวกการ์ตูนพวกเขาทำให้คนอื่นรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นคนที่สวมหมวกกระต่ายหูสีเทาเป็นพยาบาลประจำตัวหรือป่าวหรือคุณเรียกพวกเขาว่าหมอผ่าตัด?”
หมอประจำแผนกน้ำหนักสองร้อยปอนด์จ้องไปที่พยาบาลที่กำลังส่ายหัวอยู่และเขาพูดพึมพำกับตัวเองว่า ‘นั่นคือมินิล‘
“เอ๋?” หลิวเหว่ยได้ยินอย่างไม่ชัดเจน
“นั่นคือลอปฝรั่งเศส, สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเซียวหยุน” หมอประจำแผนกน้ำหนัก 220 ปอนด์พูดดังขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็คว้าน้ำแร่ข้างหน้าเขาดื่มน้ำครึ่งขวดในขวดทำให้หนักของเขากลายเป็น 221 ปอนด์
… ..
“10-0 ไหมผ่าตัด” หลิงรันถามหาไหมผ่าตัดอีกครั้งและเขาก็ทำวิธีการเย็บแบบเคสเลอร์ผ่านระนาบโคโรนาและเครื่องบินทัล
มีแนวคิดเกี่ยวกับเครื่องบินสามลำในวงการแพทย์ ระนาบโคโรนาเป็นระนาบจินตภาพที่แบ่งร่างกายออกเป็นส่วนหลังและส่วนท้อง เครื่องบินทัลเป็นขอบเขตทางกายวิภาคที่อยู่ระหว่างด้านซ้ายและด้านขวาของร่างกาย ระนาบตามขวางแบ่งร่างกายจากหัวถึงก้น
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงอาการป่วยที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างชิ้นส่วนต่างๆและศัลยแพทย์จะไม่ผ่าตัดผู้ป่วยด้วยวิธีนี้จริง ๆ … โดยทั่วไปไม่จำเป็นจะต้องทำมันก็ได้ …
เจียนเทียนยู ติดตามหลิงรันและรีบงอเข่าของผู้ป่วยและเกร็งข้อเท้าของผู้ป่วยเพื่อคลายเส้นเอ็นและหมอลู่ช่วยให้หลิงรัน กระชับปมเย็บ ถ้าพูดอย่างมีเหตุผลควรเปลี่ยนตำแหน่งของ เจียนเทียนยู และหมอลู่ให้สลับที่กัน แต่มันอาจเกิดปัญหาคือ: หมอลู่ไม่ค่อยรู้เรื่องในการผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะรู้สึกว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องเมื่อเขางอเข่าของผู้ป่วยและเกร็งข้อเท้า อย่างไรก็ตามเขาไม่มีปัญหาเมื่อพูดถึงการเป็นผู้ช่วยในการเย็บดังนั้น หมอลู่จึงเลื่อนตัวอย่างเงียบ ๆ เขามีความสุขมากทจนคิ้วของเขาสูงขึ้นจนเกือบจะเป็นแนวตั้ง
“ล้างมัน” หลิงรันตรึงปลอกเอ็นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้พื้นที่ที่ถูกเย็บให้เรียบที่สุด
ด้วยเทคนิคการเย็บแบบขัดจังหวะระดับเชียวชาญ ถ้าเขาต้องการต่อรอยประสานที่เขาผ่าตัดให้ราบรื่นแล้ว มันจะทำให้เขาสามารถสร้างมันขึ้นมาได้
เจียนเทียนยู ตอนนี่เขารู้สึกงงกับสถาณการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า
ทักษะของหลิงรันนั้นไม่ได้โดดเด่นเท่าไรในช่วงระหว่างที่เขากำลังทำการผ่าตัด แต่อย่างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เชี่ยวชาญเทคนิคของเขาก็ไม่ได้ดูแย่เลย ท้ายที่สุดแล้วความยากลำบากสูงสุดในระหว่างการ การเย็บก็ยากพอ ๆ กับที่โรงพยาบาลของสหภาพแรงงานกำลังรักษาโรคหวัดเพราะพวกเขาเองคงไม่มีแผนที่ดีกว่านี้สำหรับแพทย์ฉุกเฉินที่ต้องรักษาโรคหวัดและมีตัวหมัดวิ่งกันอยู่เต็มห้องรักษา
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงการซ่อมแซมเส้นเอ็นร้อยหวายด้วยเทคนิคการเย็บแผลด้วยมือระดับเชียวชาญมันได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เอ็นร้อยหวายที่จริงแล้วมันยากมากที่จะเย็บมัน เพราะมันยากมากมันมีความสามารถในการประสานตัวที่ไม่ดีและมีความยืดหยุ่นน้อย ซึ่งมันยากพอที่จะเย็บรอยฉีกทั้งสองด้านจนสุดและมันก็ยิ่งยากขึ้นเมื่อจะต้องเย็บมันออกมาให้เรียบเนียน
แม้ว่าทักษะการเย็บของเจียนเทียนยูนั้นสูงกว่าทักษะของเขามาก แต่ทักษะของเจียนเทียนอยู่ก็ไม่ถึงอยู่ในระดับเชียวชาญเลย
มีการพยายามประหยัดพลังงานของเจียนเทียนยูในการผ่าตัด ซึ่งเขาเองอยู่ในวัยสี่สิบถือได้ว่าเป็นเรื่องยากมาถ้าอยู่ในโรงพยาบาลหยุนหัวเนื่องจากเขาเป็นหัวหน้าแพทย์ในวัยของนี้ มันยากยิ่งกว่าที่เขาจะไปถึงจุดนั้นในศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและกระดูกและข้อ คะแนนความสามารถของเขาได้รับการจัดสรรให้กับการเรื่องข้อ ซึ่งเขาผ่านการผ่าตัดมามากพอแล้ว
แน่นอนว่าระดับของเจียนเทียนในการเย็บนั้นต้องผ่านอย่างแน่นอน แต่โดยทั่วไปมันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะเย็บเอ็นกล้ามเนื้อได้อย่างราบรื่นหมือนกับหลิงรัน
“ไม่มีเลือดไหลออกมาอีก” เจียนเทียนยูยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเขาต่อไป เขาล้างบาดแผลของผู้ป่วยด้วยน้ำเกลือหลายครั้งและสังเกตบริเวณผ่าตัดอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาพบว่ามันไม่ได้มีเลือดไหลออกมา เขาก็หยุดและถามว่า “คุณมักจะเย็บด้วยวิธีนี้หรอ?
“ใช้แล้วฉันมักจะเย็บด้วยวิธีนี้อยู่บ่อยครั้ง” หลิงรันนั้นไม่ถ่อมตัวหรือซ่อนความจริงที่ว่าเขาทำเช่นกัน
จีเทียนยู ไอสองสามครั้งและหัวเราะออกมาดัง ๆ ทันใดนั้น “มันเป็นโชคดีของผู้ป่วยจริงๆ”
หลิงรันเหลือบมองไปที่ เจียนเทียนยูอย่างแปลกประหลาด
เจียนเทียนยู รู้อยู่แล้วว่าหลิงรันนั้นเป็นคนตรงไปตรงมามาก เขาหัวเราะสองสามครั้งแล้วพูดว่า “ฉันหมายความว่าผู้ป่วยรายนี้โชคดีมากที่มีคุณเป็นศัลยแพทย์ของเขาเพียงแค่มองรอยเย็บสุดท้าย ก็พบว่าผู้ป่วยหลายนี้จะสามารถกับมาใช้ชีวิตประจำวันของเขาได้อย่างปกติ”
หลิงรันเพิ่งไอแบบกระแอ่มและพยักหน้าเห็นด้วย เขามีระดับเชียวชาญในการเย็บ, การวิเคราะห์เอ็มอาร์ไอระดับปริญญาเชียวชาญและเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายในระดับที่สมบูรณ์แบบ หากผู้ป่วยของเขาไม่สามารถจัดการกับชีวิตปกติหลังจากนี้มันคงเป็ยเรื่องล้อเล่นกันแน่ๆ
“คุณฝึกฝนเพื่อให้ได้ทักษะระดับนี้มาได้อย่างไร” เจียนเทียนยูมองดูหลิงรันทำการปิดเนื้อและเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากถามขึ้นมา
หลิงรันคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า “ฉันใช้การเย็บกล้วย”
“โอ้…” เจียนเทียนยู คิดว่ามันฟังดูธรรมดามาก จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่า หมอลู่ มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที่ แต่รู้สึกว่าภายในใจของรู้สึกเริ่มเครียดอย่างไม่มีเหตุผล
“คุณช่วยหล่อเฝือกด้วย” หลิงรันเสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้ายและหลังจากที่เขาตรวจสอบทุกอย่างในครั้งเดียวเขาก็ปล่อยให้ผู้ช่วยของเขาทำงานต่อไป
เจียนเทียนยูและ หมอลู่ตอบว่า “โอเค”
ก่อนหน้านี้การแสดงออกของเจียนเทียนยูเริ่มจะไม่พอใจและแต่เมื่อมันเป็นอย่างที่เขาคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาจำได้ว่าหลิงรัน พิจารณาให้ทำการใส่เฝือกหลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็สดใสยิ่งขึ้น
เมื่อเทียบกับความกระตือรือร้นในห้องผ่าตัดแล้วมันทำให้ห้องสาธิตมีแต่เสียงที่เงียบงัน
ประสิทธิภาพการทำงานของหลิงรันนั้นสอดคล้องกับความคาดหวังของจู้ตงยี้อย่างเต็มที่ซึ่งหมายความว่าการทำงานของหลิงรันนั้นเกินความคาดหมายของคนอื่นอย่างสมบูรณ์
การแสดงออกของกลุ่มแพทย์ประจำบ้านกลายเป็นเรื่องแปลกเมื่อพวกเขาเห็นหลิงหรันซึ่งอายุเท่ากันกับพวกเขาทำการผ่าตัดที่แม้แต่หัวหน้าแพทย์สี่สิบคนก็ไม่สามารถทำได้ ความวิตกกังวลมันทะลุสูงขึ้น โดยเพื่อนของพวกเขาเริ่มละอายแก่ใจ
สำหรับหมอคูซึ่งอายุเกือบสองเท่าของหลิงรันเขาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ มาขึ้นเป็นสองเท่าภายในหัวใจของเขา
“คุณคิดอย่างไร?” จู้ตงยี้มองมาหาหมอคู และถามถึงความคิดเห็นของเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหมอคูเป็นผู้ดูแล หลิวเหว่ยอยู่ดี
หมอคูรู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและเมื่อเขาพยักหน้าการรักษาทางการแพทย์ของหลิวเหว่ยอาจถูกส่งไปให้ศัลยแพทย์อีกคน
อย่างไรก็ตามหมอคูไม่สามารถโกหกต่อหน้าคนจำนวนมากได้
“ฉันคิดว่าฉันต้องสังเกตการผ่าตัดอีกหลายครั้ง” หมอคูใช้โอกาสคิดกลอุบายเพื่อให้ได้เวลาในการคิดเพิ่มเติม
จู้ตงยี่หัวเราะเบา ๆ “การผ่าตัดของหลิวเหว่ยควรจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดและเราไม่สามารถสังเกตการณ์การผ่าตัดตลอดไปหรอกนะ”
“ หลิวเหว่ยคุณต้องการเห็นความเก่งที่แท้จริงของหัวหน้าศัลยแพทย์ของคุณใช่ไหม?” หมอคูได้ขอความช่วยเหลือจากหลิวเหว่ย
ภายในใจของหลิวเหว่ยนั้นรู้สึกสงสารหมอคู แต่เขาเลือกที่จะเงียบอย่างชาญฉลาด
การผ่าตัดของเขาล่าช้าไปสักพักแล้ว
จู้ตงยี่ ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ตามที่บาร์ตันกล่าว” มีหลายวิธีที่จะชนะสงครามเช่นเดียวกับที่มีหลายวิธีในการสร้างลวดลายของเสือ … เรากระตือรือร้นที่จะหายาที่เป็นเอกลักษณ์ที่จะให้ผลที่น่าอัศจรรย์ แต่เราลืม ว่าวิธีการที่น่าสนใจของเสือคือการลบผิว มันออกไป… “
หมอคู “อะไรนะอะไรนะ?!”