เมื่อเห็นฟู่สีเกอไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เฉียวโยวโยวก็อดไม่ได้ที่จะแก้มแดง หันศีรษะและถามเขาว่า: “ทำไมคุณไม่ไป?”
แม้ว่าโดยปกติฟู่สีเกอมักจะวางมาด แต่นี่เป็นงานคอนเสิร์ตของตู้ลี่ลี่ เธอรับเชิญเราอย่างสมเกียรติแล้ว และเขาควรจะให้เกียรติเธอหน่อย
ในขณะที่สับสนอยู่นั้น ฟู่สีเกอลดน้ำเสียงของเขาลงและพูดกับเฉียวโยวโยวว่า: “มันยังแข็งทื่ออยู่เลย”
เฉียวโยวโยวผงะไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง
แก้มของเธอก็แดงก่ำขึ้นในทันใด และหัวใจของเธอก็เต้นแรงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ และเธอพูดกับตู้ลี่ลี่บนเวทีว่า “เขาเพิ่งเป็นตะคริวที่น่อง อีกไม่นานเขาน่าจะหายดี!”
ตู้ลี่ลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เธอกลัวว่าฟู่สีเกอจะไม่ยอมให้เกียรติเธอ ถ้าเช่นนั้นเธอก็เหมือนโดนตบหน้าเข้าฉากใหญ่แล้วจริง ๆ
หลังจากผ่านไปนานกว่าสิบวินาที ในที่สุดฟู่สีเกอก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นค่อย ๆลุกขึ้นยืน เดินไปที่ด้านหน้าของเวที กระโดดขึ้นไปบนเวทีเบา ๆ
ตู้ลี่ลี่จับไมโครโฟนและพูดกับแฟน ๆ ว่า: “มาเถอะ ยินดีต้อนรับเพื่อนของฉันหน่อยเร็ว คุณชายฟู่! สไตล์ทรงผมและการแต่งตัวของฉันในวันนี้ได้รับการออกแบบโดยเขา! นอกจากนี้ เขาร้องเพลงได้เพราะมากเลย พวกคุณอยากฟังเพลงแนวไหนกันล่ะ?”
เพลงของตู้ลี่ลี่ที่ร้องคู่นั้นมีไม่มากนัก ดังนั้น เกือบทุกคนตะโกนพร้อมกันว่า: “ร้องเพลง “หลังจากวันนี้”!
“โอเค งั้นก็ร้องเพลง “หลังจากวันนี้”!” ตู้ลี่ลี่หยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วพูดกับฟู่สีเกอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอว่า: “คุณชายฟู่ ขอบคุณคุณที่คอยช่วยเหลือฉันมาโดยตลอด! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่ฉันเข้าวงการบันเทิงใหม่ ๆและเริ่มต้นจากศูนย์ ฉันได้เจอผู้คนมากมายและได้สัมผัสเรื่องเลวร้ายมากมาย แต่ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าฉันจะมีชื่อเสียงหรือไม่ก็ตาม คุณก็ดีต่อฉันเสมอต้นเสมอปลาย ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก!”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นเธอจึงโค้งคำนับฟู่สีเกออย่างจริงจัง
ฟู่สีเกอพยุงตู้ลี่ลี่ให้ลุกขึ้นและพูดติดตลกว่า: “อย่าพูดว่าดีกับคุณเสมอต้นเสมอปลายเลยนะ แฟนของผมนั่งอยู่ด้านล่าง เธอได้ยินแล้วอาจเข้าใจผิดได้!”
“ฮ่าฮ่า คุณชายฟู่หวงแหนแฟนสาวมากเลยนะเนี่ย!” เมื่อตู้ลี่ลี่ได้ยินเสียงดนตรีดังขึ้น เธอก็ฮัมเพลงเบา ๆ และพูดว่า: “คุณต้องการใช้โอกาสจากเพื่อนมากมายที่อยู่ในหนิงเฉิงและสายตานับไม่ถ้วนทั่วหน้าจอคอมทั้งประเทศนี้หรือไม่ กล่าวอะไรกับแฟนของคุณหน่อยไหม?”
“โอเค” ฟู่สีเกอมองไปที่เฉียวโยวโยว: “เจ้าโยวเด็กโง่ บทเพลงนี้จะเป็นคำสารภาพรักที่ดีที่สุดของผมที่มอบให้กับคุณ!”
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาร้องเพลงนำก่อน: “หลังจากวันนี้ เราจะไม่เลิกรา พระอาทิตย์ส่องแสงจากอดีตสู่อนาคต ชะตาฟ้าลิขิตจะหยุดไว้ที่สองเรา……”
ตู้ลี่ลี่มองไปที่เฉียวโยวโยว แล้วร้องเพลงอีกครึ่งท่อน: “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะอยู่เคียงข้างฉัน เราจะไม่ทะเลาะกัน และไม่จากกันไปไหน ชั่วนิจนิรันดร……”
เฉียวโยวโยวนั่งอยู่ใต้เวที และเห็นแท่งไฟที่โบกไปมารอบ ๆ พร้อมเสียงฮัมของแฟนๆ รอบตัวเธอ ชั่วขณะหนึ่ง เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างในหัวใจของเธอเริ่มเบิกบานขึ้น ทำให้ทั้งตัวของเธอรู้สึกร้อนรุ่ม
เธอยังคงมองไปที่ฟู่สีเกอ โบกมือให้เขาเหมือนเป็นแฟนคลับคนหนึ่ง
เขายิ้มให้เธอ และส่งจูบมอบให้เธอ
ในเวลานี้ ผู้ช่วยของตู้ลี่ลี่เดินเข้ามา เธอมอบช่อดอกไม้ให้กับเฉียวโยวโยวและพูดกับเธอว่า: “โยวโยว คุณสามารถขึ้นไปมอบดอกไม้ให้กับคุณชายฟู่ได้นะคะ!”
หัวใจของเฉียวโยวโยวสว่างไสว เธอรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย แต่ยังคงถือช่อกุหลาบช่อนั้นไว้ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววิ่งขึ้นไปบนเวที
ฟู่สีเกอมองเฉียวโยวโยวเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าว เขาอ้าแขนด้วยมืออีกข้างของเขาเพื่อโอบกอดเธอ
เฉียวโยวโยวขึ้นไปบนเวที และเป็นครั้งแรกที่ขึ้นบนเวทีในโอกาสดังกล่าว เธอตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก
เธอยื่นดอกไม้ในมือให้ฟู่สีเกอ และเมื่อเธอกำลังจะจากไป เขาก็เหยียดแขนออกโอบกอดเธอไว้แน่น
ทันใดนั้นใต้เวทีก็มีเสียงโห่ร้องแซวในหมู่ผู้ชม
“แฟนผมเขินอายแล้ว!” ฟู่สีเกอยิ้ม ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้นเขาก็วางช่อกุหลาบไว้ข้าง ๆเวที หยิบออกมาหนึ่งดอกยื่นให้กับเฉียวโยวโยวแล้วร้องเพลงต่อ: “ทั้งชีวิตนี้ มอบให้กับสุดที่รักของผม…… ”
“ว้าว!” บรรยากาศในกลุ่มผู้ชมลุกเป็นไฟ และทุกคนก็ส่งเสียงเชียร์: “จูบเลย! จูบเลย!”
หัวใจของเฉียวโยวโยวเต้นแรงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ และเฉียวโยวโยวได้คว้าเอวของเธอ จากนั้นก้มศีรษะลงและจูบเธอ
อีกด้านหนึ่งในอพาร์ตเมนต์ที่ห่างจากคอนเสิร์ตมากกว่า 10 กิโลเมตร ผู้หญิงคนนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ขณะที่มองดูภาพโมเม้นบนหน้าจอนั้น
อีกด้านหนึ่ง ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากอีกห้อง และไม่ได้ยินเสียงกระซิบของเธอชัดเจนนัก เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า: “เสี่ยวหยุน คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”
ผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวหยุนส่ายหัว: “เจียนปอ ไม่มีอะไร”
เมื่อฟู้เจียนปอได้ยินความครึกครื้นในคอมพิวเตอร์ของเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปดู: “ดูหนังเหรอ?”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นภาพด้านบนจออย่างชัดเจน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุดตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“เจียนปอ คุณอย่าดูเลย เดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนช่อง” ในขณะที่เสี่ยวหยุนพูดอยู่นั้น เธอกำลังจะปิดเครื่องโน๊ตบุ๊ค
“ไม่เป็นไร ขอผมดูอีกครั้ง” ฟู้เจียนปอจับที่โน๊ตบุ๊ค
เขาเห็นเพียงฟู่สีเกอและเฉียวโยวโยวจูบกันอย่างดูดดื่ม
นิ้วของเขาสั่นเล็กน้อย หัวใจของเขาดูเหมือนจะถูกบางสิ่งขวางกั้น และเขาก็เหมือนหายใจไม่ออกด้วยความรู้สึกอึดอัด
ใช้เวลานานมากกว่าที่ฟู้เจียนปอจะเห็นฟู่สีเกอปล่อยเฉียวโยวโยว เขาโบกมือให้ผู้คนในกลุ่มผู้ชมแล้วพูดกับตู้ลี่ลี่ที่อยู่ข้าง ๆเขาว่า: “มาร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งงานของเรา ยินดีต้อนรับนะครับ!”
ตู้ลี่ลี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม: “โอเค ฉันต้องใส่ซองสีแดงหนาอย่างแน่นอน!”
จากนั้นฟู่สีเกอก็ยื่นไมโครโฟนให้ตู้ลี่ลี่ แล้วอุ้มเฉียวโยวโยว: “แฟนของผมตื่นเต้นจนเข่าอ่อนหมดแล้ว เดี๋ยวผมจะพาเธอลงไปก่อน!”
มีเสียงปรบมือดังขึ้นในงานคอนเสิร์ต จากนั้นตู้ลี่ลี่ก็พูดอะไรบางอย่าง และบรรยากาศก็คึกคักยิ่งขึ้น
ฟู้เจียนปอค่อย ๆ ปล่อยคอมพิวเตอร์และยืดตัวขึ้น
ข้าง ๆ กัน เสี่ยวหยุนดูเศร้าเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเขา แต่เธอก็ยังพูดว่า: “ในวันนั้นเจอพวกเขาที่ร้านอาหารความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่เลวนะ แต่คาดไม่ถึงว่า พวกเขาคิดวางแผนที่จะแต่งงานกันแล้ว……”
เมื่อฟู้เจียนปอได้ยินคำว่า ‘แต่งงาน’ ร่างกายของเขาก็สั่นอย่างรุนแรง และจากนั้นก็มีเสียงอันขมขื่นออกมาจากมุมริมฝีปากของเขา: “อืม ดีแล้ว”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า: “อีกไม่กี่วันนี้ผมต้องบินไปอเมริกาเพื่อไปเยี่ยมคุณแม่ คุณอยู่คนเดียวก็ดูแลตัวเอง……และลูกด้วยนะ ”
“อืม” เสี่ยวหยุนพยักหน้า เธออยากจะถามเขาว่าเขาจะพาเธอไปหาคุณแม่เมื่อไหร่ แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงปากเธอ เธอก็ไม่กล้าพอที่จะถามอีก
“คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่นั่งบนเครื่องบินเป็นเวลานานมันไม่สะดวก ในอนาคตรอคุณคลอดลูก ผมค่อยพาคุณไปเยี่ยมท่าน” ในขณะที่ฟู้เจียนปอพูดอยู่นั้น มือที่แนบอยู่ข้างลำตัวกำหมัดแน่น ใช้เวลานานกว่าเขาจะพูดจบครึ่งประโยคสุดท้าย: “จากนั้นเราจะเอาทะเบียนบ้านไปจดทะเบียนกัน”
ดวงตาของเสี่ยวหยุนแสดงออกมาด้วยความประหลาดใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่เขาด้วยความตกใจ: “เจียนปอ คุณหมายถึง?”
“อืม” คอของฟู้เจียนปอขยับ พยายามระงับความขมขื่นในหัวใจของเขา: “แต่งงานกัน”
หลังจากที่เขาพูดจบ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกหายใจไม่ออกถ้าเขายังคงอยู่ในห้องนี้ต่อไป ดังนั้นเขาจึงเดินออกไปอย่างรวดเร็วและยืนอยู่ตรงหน้าต่าง
ข้างนอก ในความมืดมิดกลับมีแสงไฟสลัว ๆ
ทันใดนั้นภาพความทรงจำตอนที่เขาและเฉียวโยวโยวเคยอาศัยอยู่ต่างประเทศ และพวกเขาไปร่วมงานคอนเสิร์ตด้วยกัน
ในตอนแรกพวกเขาไม่มีเงินมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อตั๋วที่นั่งให้ไกลที่สุดจากอัฒจันทร์ แต่ถึงอย่างนั้น สายตาของเฉียวโยวโยวก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ในตอนนั้นเขาบอกกับเธอว่า พอกลับมาทำงานมีเงินแล้ว เขาจะต้องซื้อตั๋วที่นั่ง VIP แล้วมองให้ชัดเจนอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาทำงานแล้ว มีงานทำแล้ว และมีเงินเดือนแล้ว
แต่เธอกลับไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไปแล้ว
เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ลูกของเขา ผู้หญิงที่มาจากความผิดพลาดและนอนบนเตียงเดียวกันเป็นเวลาสี่เดือน โดยเขาคิดว่าเขาจะไม่พบเจอเธออีก
เขาจะซื่อสัตย์ต่อการแต่งงานในอนาคตของเขาด้วย เพราะเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่สอนบทเรียนที่ยากจะลืมเลือนในชีวิตของเขา
เขาจะอุ้มลูกไปเยี่ยมคุณแม่ที่อเมริกา เพราะเมื่อมีหลานชาย คุณแม่ก็จะโล่งใจไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจดีว่าผู้หญิงที่เขาเคยรักมากที่สุด ยังมีอนาคตที่สดใส ถึงแม้จะแยกย้ายกันไปคนละทางและจะไม่มีวันได้พบเจอหน้ากันอีก.……
ในขณะที่เฉียวโยวโยวถูกฟู่สีเกออุ้มขึ้น หัวใจของเธอเต้นแรงถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
เธอนั่งลงแล้วพูดด้วยแก้มแดงระเรื่อ: “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันขึ้นไปบนเวทีเพื่อมอบดอกไม้ให้ใครสักคน และในขณะที่คุณเพิ่งมอบดอกไม้ให้ฉัน ฉันรู้สึกประหม่ามากจนไม่รู้จะเอาดอกไม้ไปไว้ที่ไหนแล้ว! ”
ฟู่สีเกอหัวเราะ: “ในอนาคตถ้าที่ไหนจัดงานคอนเสิร์ต พวกเราจะซ้อมกันอีกครั้ง เพื่อในอนาคตคุณจะไม่ต้องรู้สึกประหม่าอีก?”
เฉียวโยวโยวอดไม่ได้ที่จะผลักเขาออก: “คุณคิดว่าเราเป็นเหมือนแฟนคลับตัวยงอย่างนั้นเหรอ!”
“แต่พูดตามตรงนะ จะมีอีกกี่อย่างที่คุณกับผมจะทำร่วมกันครั้งแรก” ฟู่สีเกอพูดเหมือนมีอะไรแอบแฝง
ทันทีที่เฉียวโยวโยวได้ยินเขาพูดแบบนี้ หูของเธอก็รู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย: “เอาล่ะ อย่าเพิ่งพูดถึงหัวข้อแบบนี้ในตอนนี้เลย เมื่อกี้นี้ใครกันนะที่เกือบจะขึ้นเวทีโดยที่เป้าตุงขนาดนั้น?”
“แล้วในอีกสักครู่คอนเสิร์ตก็จะจบลงแล้ว พวกเรา……” ฟู่สีเกอหรี่ตาพร้อมทำท่าเจ้าเล่ห์
“คุณ—” เฉียวโยวโยวพูดไม่ออก
“ยังไงก็ตาม พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปสถานที่แห่งหนึ่ง” จู่ ๆ ฟู่สีเกอก็เลิกยิ้มและทำท่าทางจริงจังทันที
เมื่อเห็นท่าทางที่ค่อนข้างเคร่งขรึมของเขา เฉียวโยวโยวอดไม่ได้ที่จะถามว่า: “จะไปไหน?”
“ไปหาคนที่ล่วงลับไปแล้ว” ฟู่สีเกอกล่าว
“โอเค” เฉียวโยวโยวรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร
มันน่าจะเป็นฮั่วชิงชิงใช่ไหม? เขาตัดสินใจจะคบกับเธอแล้ว ดังนั้นจึงพาเธอไปพบกับแฟนเก่าที่จากไปเพื่อบอกลาอดีตอย่างหมดจด?
เพราะเขากังวลว่าตู้ลี่ลี่จะเรียกตัวเองอีกครั้งในภายหลัง ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของคอนเสิร์ตฟู่สีเกอจึงนั่งนิ่ง ๆ มีเพียงดึงมือเล็ก ๆ ของเฉียวโยวโยวและจูบบางครั้งเท่านั้น
ก่อนคอนเสิร์ตจะสิ้นสุดลง ทั้งสองเดินออกจากหลังเวทีก่อน ขึ้นรถของฟู่สีเกอและกลับไปที่คฤหาสน์ก่อนที่รถจะติด
แค่เดินเข้าประตู เฉียวโยวโยวกำลังจะเปิดไฟ มือของฟู่สีเกอก็คว้ามือของเธอเอาไว้
เขากดเธอผิงกับผนัง จับเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ยกมันขึ้นเหนือศีรษะของเขา และจับเอวของเธอด้วยมืออีกข้างหนึ่ง จากนั้นก้มศีรษะลงและจูบเธอ
เฉียวโยวโยวยังไม่ทันตัว และอากาศในปากของเธอก็ถูกแย่งไป เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปผลักเขา แต่ผลักไม่ออก ดังนั้น เธอจึงเริ่มตะเกียกตะกายหาอากาศหายใจ
เธอไม่เข้าใจว่า ทั้ง ๆที่พวกเขาร่วมรักกันทุกคืน และในตอนเช้าถ้ายังมีเวลาเหลือพวกเขาก็ร่วมรักกันอีก แต่ทำไมฟู่สีเกอถึงมีความปรารถนาที่จะเสพสุขจากกิจกรรมทางเพศอยู่ตลอดเวลา?
ด้วยความที่เธอเหมือนเป็นคนขี้เล่น เธอเอื้อมมือไปสัมผัสตรงนั้นของเขา
แน่นอนว่ามันแข็งเหมือนท่อนเหล็กอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเลย
เมื่อเห็นว่าเฉียวโยวโยวริเริ่มที่จะสัมผัสเขา ฟู่สีเกอหายใจแรงถี่ขึ้น และค่อย ๆจูบริมฝีปากของเธออย่างเร่าร้อน: “เจ้าโยวเด็กไง่ นี่คุณกำลังพยายามจะแอบสำรวจผมอยู่เหรอ?”