บทที่ 154 อันเยว่

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

เฉินฮวนฮวนทำหน้างง รู้สึกไม่เข้าใจ

เธอเพิ่งมา ยังไม่ค่อยชินก็เป็นเรื่องปกติ ทำไมคุณครูซูเวยต้องตะคอกใส่เธอด้วย?

แต่ว่า เธอก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งเริ่มก็มีปัญหากับครูฝึกสอนแล้ว อีกหน่อยยังจะอยู่เป็นสุขเหรอ?

ตอนที่เธอกำลังคิด มีผู้หญิงหน้าหวานแถวหน้ารีบหันมาพูดกับเฉินฮวนฮวน “ตอนที่ครูวีวี่จะเริ่มคลาส เราทุกคนต้องโชว์การเต้นเพื่อแสดงความสามารถของเรา แล้วครูจะจัดการสอนตามพื้นฐานของแต่ละคน”

“ได้ยินหรือยัง?” ซูเวยมองเฉินฮวนฮวนตาขวาง แล้วเอ่ยว่า “”นี่อันเยว่ เป็นเด็กฝึกแนวหน้าของเหวินหรานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อีกหน่อยถ้าเธอมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามเธอ เข้าใจไหม?”

ซูเวยรู้ตัวว่าวันนี้อารมณ์ร้อนเกินไป เธอก็แค่คนรับเงินมาแล้วทำงานให้ เธอก็ไม่อยากโดนเด็กฝึกคนอื่นร้องเรียน

“เข้าใจแล้วค่ะ” เฉินฮวนฮวนเพิ่งมาวันแรก ไม่อยากทำให้คุณครูอารมณ์เสีย จึงพยักหน้าให้

จากนั้น เธอจึงหันไปหาอันเยว่ ยิ้มขอบคุณเธอ “ขอบใจนะ”

“ในเมื่อเข้าใจแล้ว งั้นก็รีบออกมาเต้นให้ทุกคนดู อย่ารีรอได้ไหม ไม่ต้องให้ครูบอกหลายรอบ มันเสียเวลาคลาสเรียน” ซูเวยอารมณ์ขึ้นจนถอดหมวกออก แล้วโยนไปที่หน้ากระจก

เด็กฝึกที่อยู่ในห้องก็เกร็งกันมาก ถึงปกติซูเวยจะเข้มงวดอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ดุขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเด็กใหม่คนนี้ไปก่อเรื่องอะไรไว้?

“ค่ะครูซู หนูจะโชว์ตอนนี้เลยค่ะ” เฉินฮวนฮวนเม้มปาก ไม่เถียงอะไร ไม่ได้พูดอะไรมากด้วย

เธอยืนหันหน้าเข้าหาเด็กฝึกสิบเก้าคน แล้วหลับตาลง ในหัวก็คิดสิ่งที่เกาเหวินพูด แล้วพยายามตั้งสติ

จากนั้น ตอนที่เธอลืมตาขึ้น จึงเริ่มเต้นท่าเพลงเชียร์ที่เคยเต้นในโรงเรียน

เฉินฮวนฮวนพยายามควบคุมท่าเต้นของตัวเอง ให้ดูเหมือนตัวเองเป็นเด็กใหม่ที่มีแค่พื้นฐาน เธอทนกับสายตาที่แปลกใจแล้วเปลี่ยนมาเป็นดูถูกของเด็กฝึกคนอื่นได้

“พอแล้ว!” ซูเวยตะคอกเสียงดัง แล้วพูดเสียดสี “เต้นอะไรเนี่ย? ความสามารถแค่นี้ ยังมาร่วมรายการอีก?”

“ครูวีวี่คะ เธอมาแทนเกาเหวินกะทันหันค่ะ ไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยเฉพาะ ครูอย่าคาดหวังกับเธอมากเลยค่ะ คิดซะว่าเกาเหวินไม่อยากเสียโควตาก็พอค่ะครู” จ้าวซีพูดเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้

พอจ้าวซีพูดแบบนี้ เด็กฝึกคนอื่นค่อยทำสีหน้าเข้าใจ ทุกคนเข้าใจว่าทำไมเฉินฮวนฮวนไม่มีความสามารถ แต่มาร่วมรายการได้

ก็แค่ตัวแทนที่โดนยัดเยียดเข้ามากะทันหัน อยู่รอดแค่รอบเดียวแน่นอน ไม่ใช่คู่แข่งพวกเธอหรอก

แต่เฉินฮวนฮวนกลับไม่พูดอะไรเลย แค่ยืนนิ่งๆอยู่กับที่ แล้วเชิดคางขึ้น บนใบหน้าไม่มีความอายใดๆทั้งสิ้น

“ลงไป ครึ่งเดือนนี้ก็ตั้งใจเรียน รอบแรกอย่าถ่วงเพื่อนในทีมก็พอ!” ซูเวยพูดอย่างไม่สบอารมณ์

เฉินฮวนฮวนแค่พยักหน้าให้ สีหน้านิ่งเฉยไม่รู้สึกอะไร แล้วยิ้มอ่อนเอ่ยว่า “ค่ะ”

จากนั้น เธอจึงเดินกลับไปที่ของตัวเอง

หลังจากนั้น ซูเวยก็เริ่มคลาส เธอนำทุกคนเต้นแจ๊สที่เพิ่งเรียนเมื่อสองวันก่อน ทุกคนเต้นเป็นแล้ว คลาสนี้มาเก็บรายละเอียดท่าต่างๆ

เฉินฮวนฮวนไม่เคยดูท่าเต้นนี้ ไม่เคยเรียนเต้นด้วย ตอนที่เสียงดนตรีดังขึ้น เธอจึงตามคนอื่นไม่ทัน แล้วมือไม้ลนลานไปหมด

ซูเวยเหลือบมองเธอ ไม่สนใจเธอ แล้วสอนทุกคนเต้นต่อ เหมือนมองข้ามเฉินฮวนฮวน คิดว่าไม่มีเด็กฝึกคนนี้

พอถึงรอบที่สาม เฉินฮวนฮวนก็จำท่าเต้นได้แล้ว แต่เธอแค่ไม่แสดงออกมา

หนึ่งชั่วโมงครึ่งผ่านไป ถึงเวลาพัก

เด็กฝึกคนอื่นๆก็นั่งล้อมกันเป็นกลุ่ม ดูเหมือนว่ามีกลุ่มของตัวเองแล้ว

เฉินฮวนฮวนกับติงเซียงยืนดื่มน้ำอยู่ข้างหน้าต่าง แล้วได้ยินคนอื่นซุบซิบเรื่องตัวเอง

“เฉินฮวนฮวนคนนั้นน่ารักนะ พวกเธอคิดว่าเขาอาจจะไม่ผ่าน แต่ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ตกตั้งแต่รอบแรกแน่นอน!” เสียงของอันเยว่ แต่เธอพูดเสียงเบามาก

“น่ารักแล้วมีประโยชน์อะไร? ไม่มีความสามารถ ไม่สะดุดตา ยิ่งไม่มีคนหนุนหลังอีก” ฉินฟางที่อยู่บริษัทเดียวกับอันเยว่พูด

ฉินฟางเก่งมาก มีประสบการณ์ไปฝึกต่างประเทศ แต่ไม่ค่อยสูง แล้วผิวคล้ำด้วย หน้าตาก็งั้นๆ เธอจึงเกลียดผู้หญิงที่มีแค่เปลือก

“ใช่ ฉันคิดว่าฟางฟางพูดถูก เฉินฮวนฮวนเป็นแค่ตัวแทนคนอื่น ทางรายการไม่ให้ความสำคัญหรอก คนสวยๆไม่ใช่มีแค่เขาคนเดียวสักหน่อย อันเยว่เธอน่ารักกว่าเขาอีก!”

“ฉันก็ว่างั้น พวกเธอดูสิว่าครูซูเกลียดเธอแค่ไหน อีกหน่อยเฉินฮวนฮวนไม่มีทางได้ซีนหรอก”

“อันเยว่ ฉันว่าเธอได้เดบิวต์แน่นอน เธอทั้งสวยทั้งเก่ง แล้วยังมีแฟนคลับอีก ต้องเป็นตัวเลือกเซนเตอร์แน่นอน”

อันเยว่ฟังแล้วอารมณ์ดีมาก แต่เธอก็โบกมือให้ แล้วแสร้งพูดอย่างถ่อมตัว “พอแล้ว พอแล้ว อีกหน่อยจะเป็นยังไงยังไม่รู้เลย ตอนนี้เราตั้งใจฝึกซ้อมก็พอแล้ว”

“เธอทำได้แน่นอน!”

“ใช่ ใช่ พวกเราเชียร์เธอ ถึงเวลาอย่าลืมเลือกเราเข้าทีมด้วยนะ!”

“ได้ ถ้าฉันได้เลือกเพื่อนร่วมทีม ฉันจะเลือกพวกเธอแน่นอน” อันเยว่ยิ้มหวาน

……

เฉินฮวนฮวนกับติงเซียงอยู่ใกล้พวกเธอ จึงได้ยินที่พวกเธอคุยกัน

ติงเซียงสะกิดแขนเฉินฮวนฮวน แล้วพูดเสียงเบาว่า “อันเยว่คนนั้น เป็นดาวเด่นที่บริษัทดัน เคยแสดงละครเป็นตัวประกอบ มีแฟนคลับด้วย ทุกคนเอาแต่เอาใจเขา เพราะอยากอยู่ทีมเดียวกัน”

“เขาก็เป็นคนดี ยังช่วยฉันอีก” เฉินฮวนฮวนรู้สึกขอบคุณอันเยว่

แล้วเมื่อกี้ด้วย ผู้หญิงคนอื่นนินทาเธอ แต่อันเยว่กลับชมเธอ

พอคิดได้แบบนี้ เฉินฮวนฮวนจึงวางแก้วน้ำลง แล้วเดินไปหาอันเยว่ เอ่ยทักทายเธอก่อน “สวัสดีอันเยว่ เมื่อกี้ในคลาสไม่ค่อยสะดวกคุยกับเธอ ฉันชื่อเฉินฮวนฮวนนะ”

พูดแล้วเธอก็ยื่นมือไปหาอันเยว่

อันเยว่อึ้งเล็กหน่อย ทีแรกเธอคิดว่าเฉินฮวนฮวนโดนคนอื่นดูถูกอาจจะน้อยใจ แต่เฉินฮวนฮวนในตอนนี้ กลับดูใจกว้างเป็นกันเองมาก

ยังไงเธอก็เป็นคนที่ผ่านสังคมมาเยอะ แค่เด็กใหม่คนหนึ่ง เธอไม่ไว้ในสายตาหรอก จึงยื่นมือออกไปจับมือเฉินฮวนฮวน

“สวัสดี สวัสดี ชื่อเธอเพราะจังเลย เธอเรียกฉันว่าเยว่เอ่อร์ก็ได้ ทุกคนเรียกฉันแบบนี้” อันเยว่ยิ้มหวาน การกระทำต่างๆดูเหมือนเป็นดารามาก

เยว่เอ่อร์?

พอได้ยินชื่อนี้ เฉินฮวนฮวนจึงเหม่อไปชั่วขณะ

เพื่อนสนิทเธอหลิ่วเยว่เอ่อร์ เพื่อนที่เธอคิดว่าจะคบไปตลอดชีวิต กลับทำแบบนั้นกับเธอ

ชื่อนี้ เธอไม่อยากเรียกอีก เพราะจะทำให้เธอนึกถึงเยว่เอ่อร์อีกคน

“ฉันเรียกเธออันเยว่ดีกว่า ขอบใจที่เธอช่วยฉันในคลาสนะ” เฉินฮวนฮวนขอบคุณอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอก” อันเยว่ไม่ได้พูดอะไรมาก น้ำเสียงก็เย็นชาไม่น้อย

พอเฉินฮวนฮวนทักทายเสร็จ จึงเดินกลับไปหาติงเซียง

ฉินฟางเห็นเธอเดินไปแล้ว จึงพูดกับอันเยว่ว่า “เธอดีกับคนอื่น คนอื่นอาจจะไม่ดีกับเธอก็ได้ ไม่อยากเรียกชื่อเล่นเธอ คิดว่าปากตัวเองติดทองไว้มั้ง?”

“พวกเธออย่าพูดอย่างนี้สิ เขาอาจจะแค่ไม่สนิทกับฉัน ก็เลยไม่อยากเรียกชื่อเล่นฉัน ไม่เป็นไรหรอก” อันเยว่ยังยิ้มหวานเหมือนเดิม