บทที่ 330 คนที่มีความสามารถหลากหลาย

เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าหมอนี่พูดหมายถึงเรื่องนี้ ทั้งสามคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกโดยพร้อมเพรียงกัน ขอเพียงคนอื่น ๆ ไม่ถูกเปิดโปง ต้องมีคนรู้และมาช่วยพวกเขาแน่

ทว่าก่อนที่จะมีคนมาช่วย หวังว่าพวกเขาจะยังคงรักษาชีวิตเอาไว้ได้

“เจ้าพูดอะไรกัน เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นหนี้คนนอกมากเพียงนั้นเหมือนกับเจ้าหรืออย่างไร?”

“สูด…” เหตุใดคำพูดนี้เอี๋ยนเฉาถึงไม่ชอบฟังเพียงนี้กัน เป็นหนี้คนนอกอย่างนั้นหรือ?

“ข้าเป็นหนี้ได้อย่างไรพวกเจ้าไม่รู้หรือ? ตอนที่กองทัพทหารเกราะเหล็กถูกคนลอบทำร้าย พวกเจ้าใครบ้างที่ไม่สนใจเสบียงและเบี้ยหวัดของทหารฮะ?” เอี๋ยนเฉาปรายตามองพวกเขา

“ตอนนี้กลับพูดเหมือนตัวเองบริสุทธิ์เสียอย่างนั้น”

เมิ่งเยี่ยนตกใจขึ้นมาทันที “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ที่นี่คือที่ใดเจ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ไม่กลัวคนอื่นได้ยินหรืออย่างไร?”

“อ้อ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ กลัวอะไรกัน อย่างไรเสียก็โดนกันหมดอยู่แล้ว เจ้าคิดว่ามีแค่พวกเราอย่างนั้นหรือ ข้าว่าอีกเดี๋ยวคงมีคนถูกจับมามากกว่านี้อีก” เอี๋ยนเฉานอนลงกับพื้นโดยไม่สนใจสิ่งใดอีก

พลางเริ่มกล่าวหาว่าพวกเขาไม่ใช่คนดี พี่น้องลำบากกลับวิ่งเร็วกว่าสุนัข ไม่มีใครพึ่งได้สักคน ตอนนี้ถูกกรรมตามสนองแล้ว

หลี่หัวยิ่งฟังเขาก็ยิ่งพูดไปไกล จึงอยากจะเข้าไปเตะเขาสักที

ส่วนจ้าวเหนียนก็ตวาดออกมา “พอแล้ว เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน”

เอี๋ยนเฉาหันกลับมามองพวกเขา แววตานั้นมืดมน ก่อนจะยืนขึ้นและเอ่ยออกมา “ตอนที่ข้าถูกจับมาได้ยินพวกโจรพูดว่าจะไปดักปล้นคนที่ถนนหลวงหวยจิ่น ก่วงอวี๋ ชางเกิง เส้นทางเหล่านี้เป็นทางที่เชื่อมกับถนนหลวงหลักสามสายนอกเมืองหลวง และพวกเจ้าสามคนยังขนของออกมาพร้อม ๆ กันอีก พวกเจ้ากำลังทำเรื่องไม่ดีอะไรกัน? พวกเจ้าจะทำให้ข้าลำบากไปด้วยใช่หรือไม่?”

เอี๋ยนเฉาเมื่อดื้อด้านขึ้นมาก็ใช่ว่าจะหยุดได้ง่าย ๆ หากไม่ข่วนคนนี้ ก็จะเอานิ้วยัดจมูกคนนั้น

“พะ…พอแล้ว!” เมิ่งเยี่ยนถูกเขาข่วนบนใบหน้าไปสองครั้งจนเสียโฉม ก็ต่อว่าออกมา “เหตุใดเจ้าถึงทำตัวเหมือนสตรีเช่นนี้กัน!”

เมื่อครู่พวกเขาตกใจมาก ทุกคนออกเดินทางในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เหตุใดเอี๋ยนเฉาถึงบอกชื่อเส้นทางเหล่านั้นได้ถูกกัน ดูเหมือนว่าเรื่องขององค์ชายสามคงถูกเปิดเผยแล้วจริง ๆ ทุกสิ่งที่พวกเขาทำถูกคนรู้เข้าแล้ว ถึงได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือคนอื่นเช่นนี้

จ้าวเหนียนเองก็มีสีหน้าซีดเผือด “เจ้าได้ยินคนพวกนั้นพูดเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”

“ก็ใช่น่ะสิ คิดว่าข้าหลอกพวกเจ้าหรืออย่างไร? ข้าจะหลอกพวกเจ้าไปทำไมกัน คิดว่าข้าเป็นพวกเดียวกับโจรหรืออย่างไร!”

ทั้งสามคนเงียบลง พวกเขาไม่คิดว่าสุนัขโง่อย่างเอี๋ยนเฉาจะเป็นพวกเดียวกับโจรได้ และสามารถหายอดฝีมือมากมายมาวางแผนการใหญ่เพียงนี้ได้จริง ๆ ลูกชายแม่ทัพเอี๋ยนว่างมากหรืออย่างไร ถึงจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับองค์ชายสาม

“พวกเจ้าจะพูดหรือไม่! ข้าเห็นหมดแล้ว ข้าวสารและสมุนไพรมากมายนั่น พวกเจ้าจะทำเรื่องไม่ดีอะไรกันแน่ หากไม่พูดข้าจะตะโกนแล้วนะ หากข้าตายพวกเจ้าก็อย่าหวังว่าจะรอดไปได้ อย่างมากก็แค่ตายด้วยกัน!”

เอี๋ยนเฉาเห็นพวกเขาสามคนยังไม่ยอมพูด ก็ตะโกนขึ้นมา “อ้อ พวกเจ้ายังซ่อนอาหารและเงินเอาไว้อีกไม่น้อยนี่นา!!!!”

เมิ่งเยี่ยนร้อนใจจนเกือบจะเป็นลม ก่อนจะตะคอกออกมาเบา ๆ “เลิกตะโกนได้แล้ว เจ้าไม่อยากตายก็มานี่ ข้าจะบอกเจ้าเอง พอใจหรือยัง!”

เอี๋ยนเฉาเลิกคิ้วขึ้น แล้วเอ่ยอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “แบบนี้ก็พอคุยกันได้หน่อย”

เอี๋ยนเฉาเบียดเข้าไปตรงกลางระหว่างพวกเขาสามคน “รีบพูดมา”

ทั้งสามคนสบตากัน “เจ้ายังได้ยินอะไรมาอีก”

“เฮอะ พวกเจ้ายังจะมาสืบข่าวจากข้าอีกอย่างนั้นหรือ? พวกเจ้าไม่พูดข้าจะตะโกนแล้วนะ”

“ได้ ๆ ๆ ก่อนหน้านี้พวกเราได้รับข่าวมาจริง ๆ มีฝนตกลงมาราวกับน้ำรั่ว เขื่อนในหลูโจวดูเหมือนจะรับไม่ไหวแล้ว พวกเราอยากได้ลาภลอยสักก้อน จึงได้ร่วมมือกันรวบรวมข้าวสารและสมุนไพรจากด้านนอก คิดจะขนออกเมืองหลวงไปก่อน ถึงเวลาเมื่อเกิดเรื่องขึ้น ค่อยเอาออกมาขายในราคาที่สูง เดิมก็อยากดึงเจ้ามาร่วมด้วย แต่เจ้ากลับหนีไปเสียก่อน”

เอี๋ยนเฉาแอบด่าอยู่ในใจ พวกเจ้าจะดึงข้าเข้าร่วมด้วยที่ไหนกัน!? พวกได้ทีขี่แพะไล่

คิดจะหลอกข้าอย่างนั้นหรือ? เรื่องหลอกคนข้าชำนาญกว่าพวกเจ้าเสียอีก

“โอ๊ย เหล่าสหายที่รักของข้า พวกเจ้าเลอะเลือนหรืออย่างไรกัน ต้องมีคนกลั่นแกล้งพวกเจ้าแล้ว!”

ทั้งสามคนหันหน้าไปโดยพร้อมเพรียง “หมายความว่าอย่างไร?”

“เมื่อครู่ข้าโกรธพวกเจ้าอยู่ จึงไม่ได้บอกความจริงกับพวกเจ้า แต่ในเมื่อพวกเจ้ายังคิดถึงข้าอยู่ ข้าจะบอกสิ่งที่เมื่อครู่ข้าแอบได้ยินมาให้พวกเจ้ารู้ก็แล้วกัน”

เอี๋ยนเฉาลดเสียงลงแล้วเอ่ยขึ้นมา “ข้าได้ยินพวกมันคุยกันว่า มีตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงจ้างพวกมันให้มารอดักปล้นอยู่ที่นี่ พวกเจ้าคิดดูดี ๆ สิว่ายังมีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง”

เอี๋ยนเฉาเอ่ยไปสายตาก็ไม่ละจากสีหน้าของสหายรักทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย

คาดว่าตอนนี้เมิ่งเยี่ยนคงจะจิตใจสับสนวุ่นวายไปหมดแล้ว เพราะใครก็ล้วนน่าสงสัยไปหมดบราวนี่ออนไลน์

จ้าวเหนียนเป็นคนที่ขี้ขลาดที่สุด เพียงพริบตาก็พูดออกมาตั้งหลายชื่อ เมื่อเอารายชื่อจากทั้งสามคนรวมกัน ยังมีอีกเจ็ดถึงแปดตระกูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

“บ้านพ่อแม่ของอาสะใภ้รองของข้าก็ซื้อไปไม่น้อย จะลืมญาติไปไม่ได้”

เมิ่งเยี่ยนโกรธมากจนอยากจะเตะเจ้าสุนัขเหล่านี้ให้ตายไปซะ นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลเมิ่ง แต่ปากกลับไม่มีหูรูดถึงเพียงนี้!

“ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันแล้วว่าแค่หาเงินในยามที่บ้านเมืองวิกฤตไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงเกี่ยวกับการที่องค์ชายสามจะเคราะห์ร้ายด้วย เมิ่งเยี่ยน คราวนี้เจ้าทำให้พวกเราซวยจริง ๆ แล้ว”

เมิ่งเยี่ยนหัวเราะเสียงเย็น “พวกเราเป็นตั๊กแตนบนเรือลำเดียวกัน ท่านพ่อของพวกเจ้ากับท่านพ่อของข้าก็เป็นพวกเดียวกันจะหนีไปไหนได้ ตอนนี้จะมาทะเลาะกันเองทำไม มาช่วยกันคิดว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรดีกว่า”

เอี๋ยนเฉาคิดในใจ ไม่สู้เจ้าเลือกวันที่อากาศดีให้ตัวเองตอนถูกเนรเทศยังจะดีซะกว่า

ขณะที่ทุกคนกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น ก็มีคนเดินเข้ามาและนำตะกร้าใบใหญ่หลายใบเข้ามาด้วย พวกเมิ่งเยี่ยนชะโงกหน้าเข้าไปดูก็พบว่าเป็นยาสมุนไพรที่พวกเขาขนมาเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ

เสี่ยวลิ่วจื่อเตะหลี่หัวไปหนึ่งที “คัดแยกให้สะอาด!

ไม่ทำก็ได้ แต่หากไม่ทำหนึ่งชั่วยามข้าจะตัดนิ้วของพวกเจ้าหนึ่งนิ้ว จนถึงพรุ่งนี้เช้าคนในครอบครัวของพวกเจ้าก็จะได้เห็นนิ้วของพวกเจ้า”

“…”

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน คนปกติจะส่งจดหมายกลับบ้านก่อนเพื่อเรียกค่าไถ่ไม่ใช่หรือ แต่นี่มาถึงก็จะส่งนิ้วไปให้ หากกลับไปก็กลายเป็นคนพิการแล้ว

อีกอย่าง ไม่ควรจะสอบสวนพวกเขาก่อนหรืออย่างไร? เหตุใดต้องให้พวกเขามาคัดแยกสมุนไพรด้วย

“มัวอึ้งอะไรกันอยู่ รีบทำสิ” เอี๋ยนเฉาพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก

จ้าวเหนียนจึงตามไปอย่างเงียบ ๆ “เจ้าแยกเป็นหรือ?”

“เจ้าโง่หรืออย่างไร พวกมันหน้าตาไม่เหมือนกัน ก็คัดตามหน้าตาอย่างไรเล่า”

“…” พูดมีเหตุผล

เอี๋ยนเฉาสบตากับเสี่ยวลิ่วจื่อ จากนั้นก็คัดสมุนไพรต่อ แต่จู่ ๆ เสี่ยวลิ่วจื่อกลับกระชากตัวเอี๋ยนเฉาขึ้นมา “เมื่อครู่เป็นสารเลวอย่างเจ้าที่ด่าข้าใช่หรือไม่? พี่น้องทั้งหลาย ปรนนิบัติเขาหน่อยสิ”

เอี๋ยนเฉาทำทีกระโดดขึ้นมาด้วยท่าทางเกินจริง “ลูกพี่ ข้าไม่ได้ด่าท่านเลยนะขอรับ ท่านต้องจำผิดเป็นแน่ ไม่มีทางเป็นข้าแน่ขอรับ

พี่เมิ่ง!! ช่วยข้าด้วย!! พี่หลี่!!!!”

ห้องขังที่เมื่อครู่ยังคึกคักอยู่นั้นก็พลันเงียบลง ทันทีที่ประตูปิดลงก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเอี๋ยนเฉาดังขึ้น

หลี่หัวกลืนน้ำลายลงคอ “เอี๋ยนเฉาคงไม่ถูกตีจนตายหรอกกระมัง”

จ้าวเหนียนพลอยมือสั่นตามไปด้วย “ข้าบอกแล้วว่าข้าทำเรื่องนี้ไม่ได้ ยังจะให้ข้าขนของออกมาด้วยตัวเองอีก”

เมิ่งเยี่ยนเองก็กลัวเช่นกัน หวังว่าตระกูลอื่นจะสามารถไปถึงที่นั่นได้อย่างราบรื่น และรู้ว่าพวกเขายังไปไม่ถึง

ไม่อย่างนั้นคนที่บ้านที่รู้ว่าพวกเขาออกไปส่งของ และต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะกลับ ไหนเลยจะคิดว่าพวกเขาจะถูกโจรภูเขาลักพาตัวไป?

อีกด้านหนึ่ง เอี๋ยนเฉาก็ส่งเสียงตะโกนไปด้วย พลางใช้พู่กันเขียนรายชื่อกับเส้นทางลงบนกระดาษ พร้อมกับตบโต๊ะและกอดเสี่ยวลิ่วจื่อด้วยท่าทางเกินจริงไปด้วย “ชะ…ช่วยด้วย…โอ๊ย!!”

จี้จือฮวนมุมปากกระตุก เมื่อได้เส้นทางมาก็หมุนกายจากไปทันที จัดการเชลยก็ต้องจัดการให้ถึงที่สุด

เพลงในตอนเด็กร้องไว้ได้ดี โดยบอกว่า ‘จัดการ ๆ ๆ ไปเลย~ คนชาญฉลาด!’

.