ตอนที่ 519 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (1) ตอนที่ 520 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 519 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (1) / ตอนที่ 520 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (2)
ตอนที่ 519 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (1)

เมื่อมีเจ้าแกะโง่อยู่ จวินอู๋เสียและทุกคนก็ต่างเลิกค้นหาสัตว์วิญญาณทันที เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาก็เดินทางกลับ งานล่าวิญญาณก็สิ้นสุดลง

การล่าวิญญาณในครั้งนี้ สำหรับศิษย์คนอื่น ๆ อาจรู้สึกเหมือนเดิม แต่สำหรับศิษย์บางคนมันอาจเป็นเรื่องที่ลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต และยังมีศิษย์อีกหลายคนที่จบชีวิตลงที่นี่

ศิษย์ที่กลับออกไปเริ่มทยอยออกมาทีละกลุ่ม มีคนสุขมีคนทุกข์ มีศิษย์หลายคนที่มีบาดแผลตามร่างกายแล้วถูกสหายพยุงออกมา

ศิษย์ทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยมาหลายวันแทบร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจหลังจากออกมาจากป่าประลองวิญญาณ ผู้แข็งแกร่งสามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของพวกเขาที่นี่โดยการล่าสัตว์วิญญาณทุกอย่าง ในขณะที่ผู้อ่อนแอกลายเป็นเป้าหมายในการถูกล่า พวกเขาต้องหลบซ่อนตัวไปมาทุกวัน ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและโศกเศร้า

เหล่าอาจารย์ต่างรวบรวมจำนวนลูกศิษย์ที่กลับมาและบันทึกจำนวนหินวิญญาณที่พวกเขาได้รับระหว่างงานล่าวิญญาณ มีบางคนได้กลับมามากมาย แต่ก็มีบางคนที่กลับมามือเปล่า ทุกคนต่างมีสีหน้าและอารมณ์ที่ต่างกัน

เวลาที่จวินอู๋เสียและทุกคนกลับมาไม่ถือว่าช้าหรือเร็วเกินไป เมื่อพวกเขามาถึงที่พัก ที่พักก็เต็มไปด้วยศิษย์มากมายที่กลับมาก่อน พวกเขานั่งจับกลุ่มพูดคุยถึงประสบการณ์ของตัวเองในป่าประลองวิญญาณอย่างผ่อนคลายหลังจากประหม่ามาเป็นเวลาเจ็ดวัน ในคำพูดเหล่านั้นก็มีทั้งเรื่องจริงและใส่ไข่เข้าไปก็เยอะ แต่ในเวลานี้ก็ไม่มีผู้ใดมาสนใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ ทุกคนแค่ฟังเพื่อความสนุกและบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกายและจิตใจ

เมื่อจวินอู๋เสียและทุกคนกลับมาถึงที่พัก คนที่นับคะแนนพวกเขาคืออาจารย์ที่พวกเขาไม่เคยพบหน้ามาก่อน พวกเขามอบหินวิญญาณระดับต่ำจำนวนหนึ่งออกมาเพื่อให้มันผ่านๆ ไป โดยไม่สนใจคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยของอาจารย์คนนั้น เดิมทีฟ่านจิ่นต้องการจะมอบหินวิญญาณทั้งหมดออกมา

แต่หลังจากเห็นการกระทำของจวินอู๋เสียและทุกคนแล้ว เขาก็เก็บหินวิญญาณส่วนใหญ่ไว้แล้วมอบออกมาแค่ไม่กี่ชิ้น

“ฟ่านจิ่น ต่อไปถ้าเจ้าเข้าร่วมงานล่าวิญญาณ เจ้าอย่าไปอยู่กับศิษย์ที่ไร้ประโยชน์อีก” อาจารย์ที่นับคะแนนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็น ‘คะแนน’ ของฟ่านจิ่น ฟ่านจิ่นมีชื่อเสียงในสำนักศึกษาเฟิงหัวมาก และนิสัยที่ซื่อตรงก็เป็นที่ชื่นชอบของอาจารย์ทุกท่านเช่นกัน แม้ว่าพลังของเขาจะไม่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็ได้รับความคาดหวังจากผู้คนมากมาย

ในอดีต ถึงแม้ว่าคะแนนของฟ่านจิ่นจะไม่ได้เยอะที่สุด แต่ก็ยังมากกว่าคนส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้ จำนวนหินวิญญาณที่ฟ่านจิ่นมอบออกมานั้นน้อยกว่าทุกครั้งมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือหินวิญญาณที่มอบออกมานั้นเป็นหินวิญญาณระดับต่ำทั้งหมด ไม่มีหินวิญญาณระดับกลางแม้แต่ชิ้นเดียว

อาจารย์จึงคิดว่าจวินอู๋เสียและศิษย์ของตึกรองเป็นคนที่ทำให้ฟ่านจิ่นเป็นแบบนี้

ฟ่านจิ่นยิ้มเหยเกและไม่พูดอะไร

การล่าวิญญาณครั้งนี้เขาแทบจะไม่ได้ออกแรงอะไรเลย มีเฉียวฉู่ ฮวาเหยาและทุกคนอยู่ก็แทบไม่มีอะไรให้เขาทำเลย

หลังจากนับคะแนนเสร็จ เฉียวฉู่และทั้งสามคนก็ต้องกลับไปที่พักของตึกรอง หลังจากที่จวินอู๋เสีย บอกลาพวกเขาเสร็จ พวกเขาสี่คนก็จะต้องจากไป แต่ทันใดนั้นฟ่านจิ่นกลับวิ่งตามพวกเขาไป

“เฉียวฉู่ พวกเจ้ารอก่อน”

เฉียวฉู่หันกลับไปมองด้วยความสงสัย และเมื่อเห็นฟ่านจิ่นวิ่งหอบมาหาพวกเขา บนใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาทันที

“ศิษย์พี่ฟ่าน มีอะไรหรือ” ความประทับใจของเฉียวฉู่ที่มีต่อฟ่านจิ่นนั้นไม่เลว

“พวกเจ้านำหินวิญญาณเหล่านี้กลับไปด้วย” ฟ่านจิ่นนำหินวิญญาณที่เขาเก็บไว้ออกมาแล้ววางลงบนมือเฉียวฉู่

“เพราะเหตุใดเจ้าจึงไม่มอบให้อาจารย์” เฉียวฉู่หยุดชะงักไปเล็กน้อย เพราะน้ำหนักของหินวิญญาณในมือของเขาตอนนี้แทบจะเท่ากับน้ำหนักที่แบ่งให้ฟ่านจิ่นก่อนหน้านี้

ฟ่านจิ่นกล่าวอย่างเขินอายว่า “การล่าวิญญาณครั้งนี้ ข้าไม่ได้ออกแรงอะไร สิ่งเหล่านี้ควรเป็นของพวกเจ้า ข้าจะเอาความดีความชอบของพวกเจ้ามาได้อย่างไร ข้ายังมีเรื่องอื่นอีก ข้าต้องไปก่อน แล้วพบกันใหม่” เขารีบหันหลังและวิ่งหนีไปก่อนที่เฉียวฉู่จะกล่าวอะไรออกมา

เฉียวฉู่จับท้ายทอย หรงรั่วกลับหัวเราะออกมา

แม้ว่าฟ่านจิ่นคนนี้จะหัวโบราณไปหน่อย แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นดีมาก

เป็นคนดีคนหนึ่ง

ตอนที่ 520 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (2)

ภายในที่พักอันวุ่นวายนี้ มีร่างหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย

ศิษย์ทุกคนที่จับกลุ่มคุยกันในตอนแรกก็ต่างหันไปมองร่างที่ดึงดูดความสนใจนั้นทันที

จวินอู๋เสียเดินผ่านที่พักอย่างช้าๆ เจ้าแมวดำตัวน้อยนอนอยู่บนไหล่ของนางด้วยท่าทางเกียจคร้าน แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนคือใต้เท้าแกะที่เดินตามหลังจวินอู๋เสีย

ลูกแกะเดินตามหลังจวินอู๋เสียอย่างเงียบ ๆ เหมือนกับหางเล็กๆ ที่ติดตามเหมือนเงา ตัวที่เล็กและขนที่นุ่มปุกปุยนั้นดึงดูดความสนใจของศิษย์หญิงมากมาย แต่ศิษย์ชายทั้งหลายเมื่อเห็นภาพนี้ก็ต่างมองดูด้วยสายตาดูถูก

มีสัตว์วิญญาณมากมายในป่าประลองวิญญาณ มีทั้งสัตว์วิญญาณระดับสูงที่ทรงพลังและสัตว์วิญญาณระดับต่ำที่มีพลังต่ำ

มีสัตว์วิญญาณระดับต่ำบางตัวที่ไม่สามารถโจมตีอะไรได้เลย เป็นเป้าหมายที่ลูกศิษย์ทุกคนไล่ล่า ลูกแกะตัวน้อยและท่าทางที่อ่อนแอนี้แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นสัตว์วิญญาณระดับต่ำ ใบหน้าของจวินอู๋เสียนั้นค่อนข้าง ‘โด่งดัง’ ในสำนักศึกษาเฟิงหัว เมื่อทุกคนเห็นก็รู้จักนางทันที  

เข้าไปในป่าประลองวิญญาณกลับนำสัตว์วิญญาณระดับต่ำกลับมาหนึ่งตัว เรื่องนี้ทำให้ศิษย์คนอื่นๆ รู้สึกน่าขันมาก

“ด้วยพลังของเขาแล้ว ข้าเกรงว่าเขาไม่มีพลังแม้แต่จะฆ่าสัตว์วิญญาณระดับต่ำตัวนั้นให้ตายได้ ไม่เยี่ยงนั้น เขาจะปล่อยให้สัตว์วิญญาณที่อ่อนแอเช่นนั้นเดินตามเขาไปทุกที่แบบนี้ได้อย่างไร” ชายหนุ่มที่เกลียจชังจวินอู๋เสียอยู่แล้วอดพึมพำกับสหายของเขาไม่ได้

“ไม่มีพลังคือไม่มีพลัง แต่ความไร้ยางอายของเขานั้นเป็นที่หนึ่งของโลก เขามีฟ่านจิ่น แม้ว่าผลคะแนนของเขาจะไม่ได้ดีเป็นพิเศษ แต่เขาก็สามารถรอดปลอดภัยออกมาได้ เจ้าก็รู้ว่าคนของฝั่งตึกรองนั้นต่างบาดเจ็บเสียชีวิตกันมากมาย ถ้าไม่ได้รับการปกป้องจากฟ่านจิ่น ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กคนนี้จะสามารถรอดกลับมาได้หรือไม่”

“เมื่อครู่ข้าเห็นผลคะแนนครั้งนี้ของศิษย์พี่ฟ่านนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้ามิใช่เพราะพวกเขา ศิษย์พี่ฟ่านจะมอบหินวิญญาณออกมาแค่นั้นได้อย่างไร”

ศิษย์หลายคนรวมกลุ่มกันวิพากษ์วิจารณ์จวินอู๋เสีย แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินผ่านกลับขมวดคิ้วแล้วจ้องไปที่พวกเขาแล้วกล่าวว่า “จวินเสียมิใช่คนแบบที่พวกเจ้าเอ่ย”

ศิษย์ที่รวมกลุ่มคุยกันหยุดชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นศิษย์พี่จากสาขาผู้ใช้สัตว์วิญญาณ เดิมทีศิษย์พี่คนนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่ตอนนี้ทุกคนกลับรู้จักเขาดี มิใช่เพราะเหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะศิษย์ใหม่ที่ชื่อหลี่จื่อมู่ที่เขาดูแลในปีนี้เป็นคนเดียวที่ได้รับเลือกให้เข้าสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ

ศิษย์พี่ของหลี่จื่อมู่พูดเข้าข้างจวินอู๋เสียหรือ นี้เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของทุกคนจริงๆ!

หลังจากที่ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวเสร็จก็เดินจากไปพร้อมกับสหายของเขาทันที หลังจากเดินไปได้สักพัก สหายของเขาก็กล่าวถามว่า “เพราะเหตุใดเจ้าจึงพูดเข้าข้างจวินอู๋เสีย เจ้ามิใช่โกรธเขาที่แย่งตำแหน่งของหลี่จื่อมู่หรือ…”

ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นว่า “เป็นข้าที่มีตาหามีแววไม่ ถ้าจวินเสียแย่งตำแหน่งของหลี่จื่อมู่จริง ๆ ฆ่าข้าตอนนี้ข้าก็ไม่เชื่อ” เดิมทีในใจของชายหนุ่มคนนี้ก็ต่อต้านจวินอู๋เสียมาก แต่ในป่าประลองวิญญาณ หลังจากปกป้องหลี่จื่อมู่จนได้รับบาดเจ็บ หลี่จื่อมู่ไม่เพียงแต่ไม่สำนึกบุญคุณ เขายังหันไปเข้าร่วมกลุ่มกับฟ่านจิ่นจนทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมาก ในทางกลับกันจวินอู๋เสียคนที่เขาแอบดูถูกมาโดยตลอดกลับทิ้งโอสถวิเศษรักษาบาดแผลไว้ให้พวกเขามากมายอย่างเงียบๆ

และเพราะโอสถรักษาบาดแผลเหล่านั้น ที่ทำให้กลุ่มของพวกเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจนสามารถผ่านงานล่าวิญญาณมาได้ ถ้ามิใช่เพราะความเมตตาของจวินอู๋เสีย เกรงว่ากลุ่มของพวกเขาจะต้องบาดเจ็บจนเสียชีวิตอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

หลังจากผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มาเขาก็เข้าใจแล้วว่า

ข่าวลือนั้นเชื่อถือไม่ได้!