“สัตว์ประหลาดพวกนี้มันอะไรกัน?”
แคทเธอรีนถามด้วยสายตาที่แข็งกระด้างขณะมองไปยังศพที่อยู่บนพื้น
มันสูงเพียงเอวของเธอ แต่เป็นสีดำสนิท มันไม่มีปากหรืออวัยวะรับความรู้สึกอื่นใด มันดูเหมือนโกเลมแห่งความมืดมากกว่า
“ไม่สำคัญว่ามันคืออะไร สิ่งสำคัญจริงๆ ตอนนี้คือพวกมันหมดแล้วใช่ไหม?”
ออสตินถามขณะมองไปยังศพอีกศพหนึ่ง โดยหวังว่าจะพบจุดอ่อนของพวกมันที่สามารถใช้ประโยชน์ได้
“ดูเหมือนว่าการประเมินของฉันผิดสินะ”
แคทเธอรีนพูดขณะที่เธอปรากฏตัวข้างๆ พวกเขา ขณะที่มาร์ลีนที่ยืนอยู่ข้างๆ ออสตินก็พยายามทำตัวเงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แคทเธอรีนมองมาร์ลีนแล้วเธอก็หันไปหาออสตินก่อนจะพูดขึ้นมา
“ไม่ว่าการทำสอบนี้จะเป็นอะไรก็ตาม แต่มันกำลังเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัว มันเป็นการค้นหาจุดอ่อนในตำแหน่งของพวกเรา และกำลังพยายามจัดการพวกเราโดยอิงจากเรื่องนั้น”
คำพูดที่แคทเธอรีนพูดทำให้เกิดความเงียบงันอย่างหนัก แต่ก็ไม่นานนักเมื่อออสตินลุกขึ้นพร้อมกับดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยความปรารถนาขณะที่มือของเขาถูกกำแน่น
“ฉันเป็นคนพาพวกเธอมาที่นี่ เพราะงั้นฉันก็จะเป็นคนพาพวกเธอออกไปอย่างปลอดภัยเอง”
ความรู้สึกผิดหนาทึบปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของออสตินในขณะที่เขาพูดคำเหล่านั้นออกมา ทำให้ความตั้งใจของเขาที่จะก้าวไปข้างหน้าอ่อนแอลง ทันใดนั้นทั้งแคทเธอรีนและมาร์ลีนก็วางมือบนไหล่ของเขาก่อนจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“อย่าพูดถึงมันเลย”
เมื่อเห็นคำพูดที่ตัวเองเคยพูดถูกส่งกลับมา รอยยิ้มโง่ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ค่อยๆ ลดลง ในขณะเดียวกับที่มีไฟส่องสว่างในใจของเขา
“เราจะหาทางออกไปด้วยกัน!”
ออสตินพูดด้วยความมั่นใจพร้อมกับรู้สึกคริ้นจ์อยู่ข้างใน
‘ให้ตายเถอะ นี่เริ่มจะเหมือนกับการผจญภัยของรอมคอมแล้วนะ’
ในขณะที่พยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่แสดงอาการคริ้นจ์ออกมา ออสตินก็มองไปทางสาวๆ ด้วยรอยยิ้มขอบคุณในขณะที่เขาพูด
“ขอบคุณนะ”
“ไม่มีอะไรหรอก นายกระโดดลงมาจากบนเนินเขานั่นเพื่อช่วยพวกเรา และพวกเราก็รู้สึกขอบคุณมาก”
มาร์ลีนพูดและแคทเธอรีนก็พยักหน้า
เมื่อเห็นแบบนั้นออสตินก็ยิ้มบางๆ ขณะมองไปยังเส้นทางข้างหน้า
“คราวนี้ฉันจะเป็นผู้นำ…”
พูดเช่นนั้นแล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับมานารอบตัวที่ดังกึกก้องตามความประสงค์ของเขา
“พวกเธอ 2 คนตามฉันมา”
ออสตินพูดขึ้นขณะเดินไปข้างหน้า แผ่นหลังของเขาเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สาวๆ จ้องมอง
“จากนี้ไป มันจะเป็นการสังหารหมู่…”
ออสตินประกาศขึ้นมาพร้อมกับดาบขนาดใหญ่ในมือของเขาที่สั่นไหว
เส้นทางข้างหน้าถูกบดบังและมืดมนเหมือนอย่างเคย หมอกที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทำให้การใช้มานายากขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดส่งผลกระทบต่อออสตินในขณะที่เขาเดินหน้าต่อไปด้วยหลังที่ตั้งตรง
แคทเธอรีนและมาร์ลีนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นความมุ่งมั่นในสายตาของออสตินแล้ว พวกเธอก็รู้ว่าเขาคงจะไม่ฟังอะไรพวกเธอแน่ๆ ในตอนนี้
หลังจากที่พวกออสตินเดินไปได้ 15 ก้าว หมอกรอบตัวพวกเขาก็สั่นสะไหว หลังจากนั้นการโจมตีหลายอย่างที่ทรงพลังมากกว่าก่อนหน้านี้ก็พุ่งมาทางทั้ง 3 คน
ส่วนเล็กๆ ของการโจมตีพุ่งเป้าไปที่ออสติน ในขณะที่การโจมตีส่วนใหญ่มุ่งหวังที่จะเก็บเกี่ยวชีวิตของหญิงสาวอีก 2 คน หนึ่งคนถูกวางยาพิษและไม่สามารถต่อสู้กลับได้ ในขณะที่อีกคนหนึ่งเริ่มไร้ประโยชน์
“ไม่ พวกแกไม่ควรทำแบบนั้น”
ออสตินกระซิบช้าๆ ในขณะที่มานาที่อยู่รอบๆ เคลื่อนตัวไปตามความปรารถนาของเขา กำแพงดิน 2 อันผุดขึ้นต่อหน้าหญิงสาวทั้ง 2 คนเพื่อขัดขวางการโจมตีเป็นเวลาไม่กี่วินาที แต่นั่นก็เกินพอแล้วสำหรับออสตินที่จะตอบสนอง
ออสตินฟันดาบไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ท้าทายตรรกะ การโจมตีของเขาทำลายการโจมตีทั้งหมดที่เล็งมาที่ตัวเองในทันที
จากนั้นดาบของเขาก็ไปอยู่ที่มือซ้ายขณะที่เขาโบกมือกลับไป จากนั้นดาบของเขาก็ไปที่มือขวาในขณะที่เขาโบกมือไปข้างหลังแบบเดียวกัน การโจมตีที่เขาทำนั้นเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที
หญิงสาวทั้ง 2 คนรู้สึกว่ามีกำแพงปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเธออยู่ชั่วครู่ก่อนที่มันจะหายไป และเมื่อกำแพงหายไปแล้ว การโจมตีที่เกิดขึ้นภายหลังพวกเธอก็เช่นกัน
ในไม่ช้าดวงตาทั้งสองของพวกเธอก็เพ่งไปยังคนที่อยู่ตรงหน้า หลังของเขายังคงตั้งตรงอยู่ในขณะที่เขาดูผ่อนคลายด้วยดาบในมือ
ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างเมื่อพวกเธอเห็นสัตว์ประหลาดประเภทเดียวกันอย่างน้อย 6 ตัวที่แตกต่างกันถูกแยกร่างออกจากกันอย่างโหดเหี้ยม
‘นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขางั้นเหรอ?’
มาร์ลีนนึกขณะที่ดวงตาของเธอสว่างขึ้นด้วยความปรารถนาที่จะต่อสู้ ในขณะที่แคทเธอรีนผู้ครุ่นคิดอีกคนมองไปที่การสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในพริบตา ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างหนักเมื่อเธอเข้าใจความจริงอันหนักหน่วง
‘นี่ยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา’
เธอรู้ด้วยเหตุผลง่ายๆ นั่นก็คือการที่ออสตินไม่ได้ใช้ธนู…..
ตำนานของเอเลนอร์นั้นมีอยู่มากมาย ในขณะที่ออสตินบอกว่าเขาใช้ดาบเพื่อปกป้องพวกเธอและแคทเธอรีนก็เห็นด้วยกับความคิดนั้น เธอรู้ว่าตัวเองยังไม่ค้นพบความลับทั้งหมดที่ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอปิดบังอยู่ เช่นเดียวกับมาร์ลีน
ดวงตาของแคทเธอรีนเริ่มเป็นประกายด้วยความปรารถนาที่จะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้าที่เบ่งบานขึ้นในใจของเธอ
โดยธรรมชาติแล้วนางเงือกมีความอยากรู้อยากเห็นและมีความเจ้าเล่ห์มาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความมั่งคั่งและเศรษฐกิจส่วนใหญ่จึงถูกจัดการโดยพวกเขา และความอยากรู้อยากเห็นนี้คือสิ่งที่ชักจูงนางเงือก มันยังเป็นส่วนหนึ่งของหายนะของพวกเขาด้วย
เมื่อนางเงือกอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก เธอจะเริ่มหมกมุ่นอยู่กับมันจนไม่อาจยอมแพ้ได้จนวาระสุดท้ายของชีวิต
ตั้งแต่แรกเกิด นางเงือกทุกคนถูกสอนให้รักษา ‘ความสนใจ’ ที่มีต่อบุคคลอื่นเอาไว้และไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแคทเธอรีนเนื่องจากเธอไม่เคยรู้สึกปรารถนาที่จะเปิดเผยเรื่องนี้บุคคลอื่น แต่ตอนนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ความปรารถนาดังกล่าวกำลังเบ่งบานอยู่ในตัวเธอ
เมื่อมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว จะไม่มีทางหวนกลับ ความปรารถนาอันไม่สิ้นสุดของนางเงือกนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
มีคำพูดที่โด่งดังในหมู่บรรดาผู้ที่ปรารถนาในนางเงือกว่า : ‘การดึงดูดความสนใจของนางเงือกได้ ก็หมายความว่าเธอเป็นของคุณแล้ว’
+600 ความชอบ!
เมื่อเห็นการแจ้งเตือนอย่างกะทันหัน ออสตินซึ่งเงียบอยู่ก็ยิ้มขึ้นมา นี่คือสิ่งที่เขาตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกและไม่พูดถึงพลังของตัวเอง
เขาซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ ในขณะที่ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับแคทเธอรีนและแสดงพลังของเขาในขณะที่ซ่อนบางส่วนเอาไว้ รับบทเป็นตัวละครลึกลับที่มีอดีตที่ไม่มีใครรู้จัก
ทั้งหมดก็เพื่อช่วงเวลานี้ เพื่อจุดประกายความสนใจภายในแคทเธอรีนต่อจากนี้ไป มันคงจะเป็นเรื่องง่ายที่จะกุมหัวใจของเธอไว้ในมือของเขา
“จากนี้ไป.…”
คำพูดของออสตินเริ่มดังขึ้นในขณะที่เขาหันหลังให้พวกเธอ มือของเขาจับดาบไว้แน่น ในขณะที่การเดินของเขาไม่มีอุปสรรคใดที่จะสามารถหยุดเขาได้
“ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว…”
คำพูดนี้กระทบกระเทือนแคทเธอรีนอย่างรุนแรง ผลกระทบของพิษที่เกิดขึ้นในตัวเธอทำให้เธอเชื่อคำพูดที่ออสตินพูดอย่างสมบูรณ์
‘ทำไมฉันถึงดูเชื่อใจเขามากขนาดนี้นะ? อยากรู้จังเลย~~’
ประกายในดวงตาของแคทเธอรีนยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ความสนใจที่เดือดพล่านเพิ่มขึ้น
“คอยดูเถอะ ฉันจะปกป้องเอาไว้ให้ได้ คราวนี้ฉันจะไม่เสียใครไปจากความผิดพลาดของตัวเองอีกแล้ว..…”
เสียงกระซิบแห่งความโศกเศร้าแผ่วเบาดังเข้ามาในหัวใจของแคทเธอรีน แต่คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือมาร์ลีน รูม่านตาของเธอหดตัวลง ในขณะที่หัวใจของเธอเริ่มเต้นเร็วขึ้น ถ้อยคำที่เขาพูดขึ้นมานั้นทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวในอดีต ความขมขื่นในน้ำเสียงนั้นเตือนเธอถึงบาปที่เธอยังมีอยู่
‘เขาเองก็เหมือนกับเรางั้นเหรอ?’
มาร์ลีนถามตัวเองเพียงเพราะอยากรู้จักเพื่อนใหม่ของเธอคนนี้ให้มากขึ้น
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต