ตอนที่ 310 พูดถึงความร่วมมือ

“ที่หม่อมฉันเดินทางมาหาในคราวนี้เป็นเพราะต้องการให้ความช่วยเหลือฝ่าบาท!”คู่ซื่อหยียิ้มเบา ๆ

“ให้ความช่วยเหลือ?”

“ให้ความช่วยเหลือข้าอย่างไร?”

ลู่เฟิง มองไปที่ ชื่อหยี พร้อมกับยิ้มออกมา”ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่า แม่นางซื่อหยี จะช่วยเหลืออะไรข้าได้?”

กู้ซื้อหย์ ยิ้มเล็กน้อย”ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทกําลังขาดแคลนเสบียงและวัสดุเชิงกลยุทธ์หรอกหรือข้าสามารถให้ท่านได้มากเท่าที่ต้องการ!”

ลู่เฟิง หรี่ตาลงเล็กน้อยและตอบกลับ”ดูเหมือนว่า แม่นางซื่อหย จะรู้จักอาณาจักรหนานหยานของข้าเป็นอย่างดี ทั้งยังรู้อีกว่าตอนนี้ข้ากําลังขาดวัสดุเชิงกลยุทธ์!”

“หากคิดเป็นนักธุรกิจจะต้องเข้าใจสถานการณ์โดยรวมไม่เช่นนั้นจะสามารถทํากําไรได้อย่างไร?”คู่ซื่อหยีหัวเราะเบา ๆ

“เช่นนั้น แม่นางคู่ต้องการปันส่วนจากสงครามงั้นหรือ?”ลู่เฟิง มองไปที่ อู่ซื่อหยี และกล่าวถามด้วยสถานะทางการเงินของสมาคมการคําอู่ซวนของเจ้าไม่น่าจะขาดแคลนเรื่องพวกนี้”

“ถูกต้องหม่อมฉันมิได้ขาดแคลนสิ่งเหล่านั้นที่หม่อมฉันมาในวันนี้…”

กู้ซื่อหย์ มองไปที่ลู่เฟิงและตอบกลับ”ก็เพื่อมอบของที่พระองค์ต้องการโดยไม่คิดเงินสักนิด!”

“ไม่คิดเงิน?”

ลู่เฟิงมองไปที่ อู่ซื่อหย ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรแบบนี้แต่ในไม่ช้าเขาก็สั่นศีรษะทันที”แม่นางคู่ไม่มีอะไรที่ได้มาแบบฟรี ๆ ดังนั้นอย่าได้พูดเท็จต่อหน้าข้า!”

“ฝ่าบาทคิดว่าหม่อมฉันพูดเท็จ?”

ลู่เฟิงยิ้มและไม่ตอบ

หากเธอมาทําธุรกิจภายในอาณาจักรหนานหยานเขายังคงพอจะเชื่ออยู่ แต่หากต้องการมอบสิ่งของให้ตัวเองในเวลานี้ โดยไม่คิดเงินสักนิด กับโอกาสที่ ว่า อาณาจักรหนานหยานกําลังตกที่นั่งลําบากเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

ด้วยเหตุผลนี้สมาคมการค้าก่ซวนแทบจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ

สมาคมการค้าก่ซวน เป็นสมาคมการค้าของราชวงศ์หยาง พวกเขาไม่น่าจะสนใจอาณาจักรหนานหยานเล็ก ๆ ของเขา ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่า เงิน แทบจะเรียกว่าไร้ค่าในสายตาพวกเขา

เมื่อเห็นการแสดงออกของ ลู่เฟิง กู้ซื้อหย์ ก็เข้าใจ เธอได้สั่นศีรษะเล็กน้อย”ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เคยคิดจะโกหกพระองค์ หม่อมฉันสามารถจัดหาวัสดุให้มากเท่าที่พระองค์ต้องการโดยไม่ต้องการเงินสักนิดจริง ๆ !”

ล่เฟิง ไม่ได้ตอบทันที เขาไตร่ตรองเล็กน้อยและกล่าวถามออกมา”เจ้าต้องการอะไร?”

“หม่อมฉันพูดไปแล้วว่าไม่ต้องเสียอะไรเลย…”

“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเรื่องโกหกแบบนี้หรือไม่?”ลู่เฟิงสั่นศีรษะ”ถ้าเจ้าไม่พูดความจริงออกมาเช่นนั้นก็ออกไปเถอะ!”

“แม้ว่าข้าจะขาดวัสดุเชิงกลยุทธ์จริง แต่ข้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ถ้าเจ้าจะมาคุกคามข้าด้วยสิ่งเหล่านี้ข้า ขอบอกเจ้าไว้เลยว่าเจ้าเพ้อฝันแล้ว”

“ฝ่าบาทตรัสถามได้ตรงจริง ๆ !”

กู้ซื่อหยี ได้สั่นศีรษะทันที”เช่นนั้นข้าจะไม่ปิดบังข้าต้องการความร่วมมือจากท่าน”

“ความร่วมมือ ? ไม่ใช่ว่าพวกเราก็ร่วมมือกันอยู่งั้นหรือ ? เจ้ามาอาศัยผลประโยชน์ในมณฑลสัตว์อสูรของอาณาจักรหนานหยานอยู่ไม่ใช่หรืออย่างไร?”ลู่เฟิง รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับคําพูดของอีกฝ่ายเขารู้สึกเสียใจอย่าง มากที่ต้องปล่อยมณฑลสัตว์อสูรให้กับสมาคมการค้าอู่ซวนมาเอาผลประโยชน์ไป

หลังจากแก้ไขวิกฤติสามอาณาจักรและพวกคนเถื่อนได้แล้ว เขาจะหาทางเอามณฑลสัตว์อสูรกลับคืนมา

กู้ซื่อหยี ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”สิ่งที่หม่อมฉันจะพูดหมายถึงความร่วมมือกันที่ลิ้งซึ้งกว่านี้”

“ความร่วมมือที่ลึกซึ้ง?”

ลู่เฟิง มองไปที่ ชื่อหยี อย่างประหลาดใจเขาได้กล่าวถามอีกครั้ง”เจ้าแน่ใจ?”

รู้สึกถึงการจ้องมองไปที่เย็นชาจากลู่เฟิง กู้ซื้อหย์ ได้ตอบกลับ”หากฝ่าบาทคิดว่าหม่อมฉันกับฝ่าบาทไม่เหมาะที่จะร่วมมือกันเช่นนั้น หม่อมฉันคงมาเสียเที่ยวแล้ววันนี้

“หม่อมฉันขอตัว!”

ก่ซื่อหย ได้เตรียมจะจากไป

ลู่เฟิง เพียงแค่เหลือบมองจากนั้นเขาก็จัดการกับสิ่งของที่อยู่ในมือของเขาต่อ

ก่ซื่อหยี เดินมาได้สองก้าวก็หยุดลงพร้อมกับหันศีรษะไปทางล่เฟิงด้วยความโกรธเล็กน้อย”พระองค์จะไม่ห้ามหม่อมฉัน หรือว่ามีอะไรจะพูดกับหม่อมฉันหน่อยหรือ?”

“จะให้ข้าพูดอะไร?”ลู่เฟิง เงยหน้าขึ้น และมองไปที่ อู่ซื่อหยี ด้วยความงุนงง”จริงสิ ข้าลืมพูดส่งเจ้าสินะ”

“เช่นนั้นเดินทางดี ๆ !”

“ท่าน….”

กู้ซื่อหย รู้สึกหงุดหงิดกับคําพูดของ ลู่เฟิง

สุด!

เธอได้สูดลมหายใจเข้าลึก และมองไปที่ ลู่เฟิง”ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะไม่อ้อมค้อมอีกแล้ว มาพูดถึงความร่วมมือกันที่แท้จริงกันเถอะ”

“เช่นนั้นก็ดี!”

ลู่เฟิง แสดงรอยยิ้มออกมา”หากเจ้าตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกเจ้าก็คงไม่ต้องเหนื่อยเช่นนี้”

“ว่ามาว่าจะร่วมมือกันยังไง?”

อ้อมค้อม ? ท่านเป็นถึงจักรพรรดิ ต่อหน้าจักรพรรดิหากพูดแผนการออกไป ไม่ใช่จะไร้สาระไปหน่อยหรอ?

กู้ซื้อหยี รู้สึกสาปแช่งในใจอย่างลับ ๆ สีหน้าของเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงและยังคงพูด”อย่างที่หม่อมฉันได้พูดไป หม่อมฉัน สามารถมอบวัสดุเชิงกลยุทธ์ที่พระองค์ขาดแคลนได้โดยที่พระองค์ไม่ต้องเสียเงินสักนิด”

“เมื่อกี้ข้าก็เพิ่งพูดไปว่าไม่จําเป็นจะต้องอ้อมค้อม”ลู่เฟิง มองไปที่ ชื่อหยและพูดออกมา”ว่ามาว่าเจ้าต้องการอะไรอย่าได้คิดจะเล่นเกมกับข้าตอนนี้”

กู้ซื้อหย มองไปที่ ลู่เฟิง พร้อมกับถอนหายใจออกมา”ก็ได้”

เธอหยุดเพียงเล็กน้อยและตอบกลับ”หม่อมฉันต้องการคําสัญญาจากฝ่าบาท!”

“สัญญาอะไร?”

“ฝ่าบาทต้องช่วยเหลือหม่อมฉันครั้งนึ่ง!”คู่ซื่อหย มองไปที่ ลู่เฟิง อย่างเคร่งขรึม”ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครพระองค์จะต้องช่วยเหลือหม่อมฉัน!”

ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่น คําพูดของ กู้ซื่อหยี ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

ตัวตนของเธอไม่ธรรมดาหากเธอต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้นมันพิสูจน์ได้ว่าศัตรูที่เธอกําลังเผชิญหน้า นั้นจะต้องทรงพลังอย่างมาก

อย่างน้อยเธอก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้

ลู่เฟิง ไม่คิดว่ามันจะง่าย เพราะนี่เป็นปัญหาของ คุณหนู จากสมาคมการค้าก่ซวน

“ฝ่าบาท สิ่งที่หม่อมฉันพูดหมายถึงอนาคต อาจะหนึ่งหรือสองปี หรือยาวนานกว่านั้น ฝ่าบาทยังไม่ยอมตกลงอีกงั้นหรือ?”คู่ซื่อหย์ ได้กล่าวถาม

คําพูดของเธอฟังดูเบา แต่ค่อนข้างรุนแรง

“คําพูดของเจ้า ข้าหาได้ลังเลไม่!”

ลู่เฟิง สันศีรษะ”ข้าสามารถยอมรับคําขอของเจ้าได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขสามข้อด้วยกัน”

ในท้ายที่สุด ลู่เฟิง ก็วางแผนที่จะตอบตกลง เหตุผลนั้นง่ายมาก เขากําลังขาดแคลนวัสดุเชิงกลยุทธ์จริง ๆ

ก่อนหน้านี้ เขาได้บอกให้ มณฑลเล่ยหยาง และ มณฑลหยู่ซิง เร่ง ส่งคันธนูและลูกศรจํานวนมากมาแต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มาจํานวนมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มณฑลเล่ยหยาง และ มณฑลหยู่ซิง เป็นเพียงมณฑลเล็ก ๆ เท่านั้น

แม้จะผลิตขึ้นใหม่อย่างน้อยจะต้องใช้เวลาสามถึงห้าวัน

ตามข่าวที่ ลู่เฟิง ได้รับ ถั่วปาฟู ถูกฆ่าตาย พร้อมกับ ทหารม้าคนเถื่อนนับแสน พี่ชายของเขาถั่วปาหงจะต้องส่งทัพทหารม้ามาเต็มอัตราอย่างแน่นอน และ ปัจจุบัน น่าจะอยู่ห่างจากเขื่อนเฟิงเฮยปาไม่ถึงหนึ่งวัน

คันธนูและลูกศรในมือของเขาแทบจะหมดลงแล้ว หากพวกคนเถื่อนบุกโจมตีมาพวกเขาจะสามารถต้านทานจากระยะไกลได้เพียงชั่วครู่เท่านั้นที่เหลือจะต้องเผชิญหน้าอย่างเดียว

ด้วยความที่กําลังคนต่างกันเกินไปมีโอกาสอย่างมากที่เขาจะพ่ายแพ้

หากก่ซื่อหยีสามารถจัดหาสิ่งเหล่านี้ได้ มันย่อมแก้ไขความต้องการเร่งด่วนของเขาแล้ว