ตอนที่ 340 อ้วนก็ต้องอ้วนด้วยกัน
พ้นวันแรกไปมู่เถาเยาก็เรียนตามปกติแล้ว
คนตระกูลเย่ว์กลับเผ่าหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จในวันพุธ
วันนี้บ่ายเหลียงจีกลับจากเมืองหลวง
หลังเลิกเรียนวันพฤหัสบดี มู่เถาเยาก็พาลู่จือฉินกับเหลียงจีย้ายกลับเรือนอุ่นรัก
พ่อบ้านจงฝึกวิชาพลังฝ่ามือตามลำพังได้แล้ว ตอนนี้จึงกลับหมู่บ้านเถาหยวนซานไปอีกครั้ง
มีอาจารย์รองกับตี้อู๋เปียนที่แค่ดูก็เข้าใจอยู่ด้วย เธอไม่ต้องกังวลว่าพ่อบ้านจงจะธาตุไฟแตกซ่าน
วันศุกร์เหลียงจีไปส่งมู่เถาเยาที่มหาวิทยาลัยเสร็จก็กลับมารับลู่จือฉินไปจ่ายตลาดด้วยกัน เพราะเสี่ยวเยาเยาจะชวนเพื่อนนักศึกษาที่สนิทมากินข้าวเย็น
ตอนบ่ายมู่เถาเยาก็ไม่ได้ให้เหลียงจีไปรับ เธอกับตี้อู่หลันฉือสแกนเช่ารถจักรยานไฟฟ้าขี่ไปที่ประตูมหาวิทยาลัย
เซียวเซียว หวังหมิ่นชิ่น หมิ่นชีสยารออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว
พอเห็นมู่เถาเยาทั้งสามคนก็ตื่นเต้นดีใจมาก
มู่เถาเยายิ้มพลางแนะนำให้ทุกคนรู้จักตี้อู่หลันฉือ เพื่อนร่วมโต๊ะเรียนคนนี้ติดเธอหนึบมาก!
พอเซียวเซียวเห็นก็ชมใหญ่ “รุ่นพี่หลันฉือสวยมากเลยค่ะ!” โดยเฉพาะหุ่น!
อกตูม เอวคอด ขายาว! ขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงด้วยกันเห็นแล้วยังน้ำลายไหล!
ยืนกับมู่เถาเยาที่สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองยังดูสูงกว่าหน่อย น่าจะสูงราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าได้
ตี้อู่หลันฉือยิ้มกว้าง “ฉันชอบที่สุดเวลาคนอื่นชมว่าสวย!”
เธอหน้าตาเหมือนพ่อ! พ่อเธอเป็นผู้ชายรูปงาม!
หวังหมิ่นชิ่นยิ้มพูด “รุ่นพี่สวยมากจริงๆ ค่ะ”
“อืมๆ พี่ก็ว่าตัวเองสวย ฮี่ๆ…”
มู่เถาเยามีสีหน้าหมดคำจะพูด
นั่งเรียนร่วมโต๊ะกับตี้อู่หลันฉือมาสามสี่วัน รู้ดีว่าเธอหลงตัวเองมากขนาดไหน
หมิ่นชีสยาคล้องแขนมู่เถาเยาพลางพูด “เสี่ยวเยาเยา ทำไมฉันรู้สึกว่าไม่เจอกันสองเดือนเหมือนสองปีเลยล่ะ”
เซียวเซียวดวงตาเปล่งประกาย “ฉันกลับรู้สึกว่ามันเร็วมาก”
หวังหมิ่นชิ่น “เซียวเซียว ฉันเห็นพี่ชายเธอคว้าเหรียญทองว่ายน้ำมาได้ด้วยนะ! ยินดีด้วย”
พวกมู่เถาเยาก็แสดงความยินดีกับเซียวเซียว
“ฮี่ๆ พี่ชายฉันเท่มากใช่ไหม เสี่ยวเยาเยา เธอชอบไหม”
“…”
หวังหมิ่นชิ่นกับหมิ่นชีสยาหัวเราะพรวด
“เซียวเซียว เธอดูหน้าเสี่ยวเยาเยาที่เหมือนเด็กสิบสี่สิบห้า ยังจะกล้าพูดแบบนี้ออกมาอีก!”
“เอ้า! ก็อยากจองให้คนใกล้ตัวไว้ก่อนนี่!”
“ใกล้ที่ไหนกัน พี่ชายเธอไม่ได้อยู่ที่นี่เสียหน่อย! เอาอะไรมาใกล้”
“ฉันอยู่ก็เหมือนกันแหละ ฉันช่วยเดตกับเสี่ยวเยาเยาแทนพี่ชายได้!”
“อุ๊บ…” หวังหมิ่นชิ่นขำเซียวเซียวจะตายอยู่แล้ว
หมิ่นชีสยาขมวดคิ้วพูด “พี่ชายเธอไม่อยาก! ถ้าอยากก็มาเดตเอง!”
ตี้อู่หลันฉือถอนหายใจพลางพูด “ถ้าหาแฟนมันทำแทนกันได้ก็ดีสิ” เธอก็อยากจะช่วยพ่อเธอออกเดต!
แม่ของเธอเสียไปสิบปีแล้วพ่อก็ยังไม่คิดจะแต่งงานใหม่
เขาเพิ่งอายุสี่สิบเจ็ด วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล
เธอเห็นใจพ่อ ไม่ถือสาถ้าพ่อจะแต่งงานใหม่
ต่อให้อีกฝ่ายไม่ชอบลูกเลี้ยงอย่างเธอ แต่ขอแค่ดีกับพ่อเธอ เธอก็รับได้ อย่างไรเสียเธอก็อายุยี่สิบสองแล้ว อีกไม่กี่ปีก็อาจแต่งงาน
“ก็กล้าคิดกันเนอะ!” หวังหมิ่นชิ่นหัวเราะจนท้องแข็ง
เซียวเซียว “เฮ้อ ถ้าฉันเป็นผู้ชายคงดี!”
หมิ่นชีสยาเขกหน้าผากเพื่อนหนึ่งที “ต่อให้เธอเป็นผู้ชายก็ไม่ได้แอ้มหรอกย่ะ!”
“ฉันจะตื๊อสุดชีวิต!”
“อุ๊บ…” หวังหมิ่นชิ่นหัวเราะจนใกล้ตายแล้ว
เวลานี้ปาอินกับถังถังมาถึงแล้ว
“เสี่ยวอินอิน!”
“เซียวเซียว ชีสยา ชิ่นชิ่น ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เซียวเซียว “อืมๆ ไม่เจอนานเลย เอ๊ะ เสี่ยวอินอินอ้วนขึ้นหรือเปล่า เห็นชัดเลยนะ!”
“…อาหารที่ยายฉันทำมันอร่อยเกินไป…” วันๆ กินอิ่มพุงจะแตก ไม่อ้วนขึ้นได้เหรอ!
ไม่ใช่แค่เธออ้วนขึ้น เสี่ยวเฉิงก็ด้วย!บราวนี่ออนไลน์
ถ้าจะอ้วนก็ต้องอ้วนด้วยกัน! ห้ามเธออ้วนคนเดียว!
หมิ่นชีสยายิ้มถาม “อินอิน คนนี้ใครเหรอ ทำไมรู้สึกคุ้นหน้าจัง”
สาวๆ หันไปมองถังถังที่สวมหมวก สวมแว่นตา ใส่ผ้าปิดปาก
เซียวเซียว “คุ้นหน้าจริงด้วย เหมือนใครกันนะ”
ถังถังยิ้มจนดวงตาดอกท้อโค้งมน “แล้วคิดว่าเหมือนใครล่ะ”
“ถังถัง! ราชินีภาพยนตร์ถัง!” พอเซียวเซียวได้ยินเสียงก็จำได้ทันที
“ฮ่าๆ ดีใจขนาดนั้นเลย เป็นแฟนคลับของฉันเหรอ”
เซียวเซียวพยักหน้าไม่หยุด “ใช่ค่ะใช่! ฉันเป็นแฟนคลับของพี่!”
ข่าวเรื่องมีดาราดังมาเรียนคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูได้สะพัดไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว ก็แค่พวกเธอเห็นว่ามากับเสี่ยวอินอินก็เลยคิดว่าเป็นเพื่อนของเสี่ยวอินอิน อย่างไรเสียสองคนนี้ก็เรียนคนละสาขากัน นึกไม่ถึงว่าจะมีความเชื่อมโยง
มู่เถาเยายิ้มพูด “พี่ถังถังเป็นเพื่อนของฉัน รู้จักกันมาหลายปีแล้ว กลับกันก่อนค่อยแนะนำให้รู้จักนะ ตรงนี้คนเยอะ”
นักศึกษาแถวนั้นพอได้ยินเซียวเซียวพูดว่าราชินีภาพยนตร์ถังก็มองมา ยังมีคนที่ทำท่าอยากเข้ามาพูดคุยด้วย
เซียวเซียวพูดด้วยความเกรงใจ “ต้องโทษฉันที่ตื่นเต้นเกินไป”
ถังถังส่ายมือ “ไม่เป็นไรหรอก”
มู่เถาเยาพาทุกคนกลับบ้าน
เหลียงจีกับลู่จือฉินอยู่ในห้องครัว พอได้ยินเสียงก็ออกมา
“นี่อาจารย์สามของฉันกับพี่เหลียงจี”
สาวๆ ยิ้มกว้างทักทายทั้งสองคน
“อาจารย์สามคะ พี่เหลียงจี นี่เพื่อนร่วมโต๊ะของหนูค่ะ ตี้อู่หลันฉือ”
ลู่จือฉินอึ้งไปชั่วขณะ “ตระกูลตี้อู่ที่ฝึกยุทธ์น่ะเหรอ”
“…มีคนรู้จักตระกูลเราเยอะเลยเหรอเนี่ย” ตี้อู่หลันฉือแอบงง
มู่เถาเยายิ้มมีเลศนัย
ลู่จือฉินยิ้มพูด “ก็แค่เคยได้ยิน ไม่รู้จักหรอกจ้ะ แต่คนตระกูลเธอใจกว้างกันทั้งนั้น”
“อาจารย์สามแซ่อะไรเหรอคะ”
“ลู่จ้ะ” ชื่อตามบัตรประชาชนของร่างนี้ก็ชื่อลู่จือฉินเหมือนกัน
ตี้อู่หลันฉือครุ่นคิด พวกตระกูลใหญ่ก็ไม่เห็นมีแซ่ลู่ แต่ก็คิดว่าอาจเป็นตระกูลที่เกี่ยวดองกับตระกูลใหญ่หรือเปล่า
ลู่จือฉินเห็นสีหน้าของเธอก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ จึงยิ้มพูด “ฉันเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่คนมีชาติตระกูลสูงส่งอะไร”
ตี้อู่หลันฉือพยักหน้า เลิกคิดเรื่องนี้ต่อ
มู่เถาเยา “อันที่จริงอาจารย์สามของฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของอธิการบดีเจียง”
วันหน้าอาจารย์สามจะไปใช้ห้องปรุงยากับห้องทดลองของมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูบ่อย คนอื่นๆ อาจเห็นเธออยู่กับอาจารย์สาม ดังนั้นจึงขอพูดไว้ตรงนี้ก่อน
พวกสาวๆ มีสีหน้าสงสัย
ทุกคนรู้ว่าอธิการบดีเจียงเป็นเด็กกำพร้าที่หมอเทวดาหยวนเก็บไปเลี้ยงจนโต แล้วนี่ทำไมถึงมีน้องสาวโผล่มาล่ะ
มู่เถาเยายิ้ม “เรื่องมันยาว แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในตอนนี้ พวกเธอคุยกันไปก่อน ฉันจะไปช่วยอาจารย์สามกับเหลียงจีทำอาหาร”
ปาอินรีบดึงเธอไว้ “เสี่ยวเยาเยา ฝีมือทำอาหารของเธออวดใครไม่ได้จริงๆ ! เธออยู่ดื่มชากับทุกคนไปนะ ฉันไปช่วยเอง”
มู่เถาเยา “…” ยังรังเกียจฝีมือทำอาหารของเธอได้มากกว่านี้อีกไหม!
หวังหมิ่นชิ่นยกมือขึ้น “ฉันทำอาหารพอไหว ไปช่วยได้”
เหลียงจียิ้มพูด “ใกล้เสร็จแล้วจ้ะ เสี่ยวอินมาช่วยคนเดียวก็พอ ทุกคนนั่งดื่มชาในห้องรับแขกไปนะ”
เซียวเซียว “งั้นพวกเราช่วยจัดโต๊ะแล้วกัน”
มู่เถาเยารินน้ำชาให้ทุกคน “พวกเธอดื่มชาก่อน ใบชานี้ปลูกที่หมู่บ้านของพวกเราเอง”
ถังถังหยิบกระปุกใบชาขึ้นมาดู พูดอย่างอารมณ์ดี “ฉันเล่นโฆษณาด้วย”
มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “ใช่ พี่ถังถังรวยเละเลย!”
พี่รองของเธอให้ค่าโฆษณาที่สูงมาก ทั้งยังได้รู้จักกับตระกูลอวิ๋นและเทียนเย่ว์ ชื่อเสียงของถังถังดังเป็นพลุแตก
แต่การที่ยอมพักงานชั่วคราวในช่วงที่กำลังโด่งดังเพื่อมาตั้งใจเรียนหนังสือ คนส่วนใหญ่ไม่มีทางทำได้
ถังถังถอดแว่นออกแล้วขยิบตาให้มู่เถาเยา “ใครใช้ให้พวกเราสนิทกันล่ะ!”
“นางฟ้าถังถังปล่อยวางได้เก่งจริงๆ” เซียวเซียวรู้สึกนับถือมาก
คนอื่นๆ ก็พยักหน้าตาม
“อืม ฉันเข้าวงการบันเทิงเอาสนุกๆ วันหน้าต้องกลับไปรับช่วงต่อกิจการที่บ้านอยู่ดี”
ทุกคน “…!”
ถังถังหลุดหัวเราะ “ตกใจกันมากเลยเหรอ”
เซียวเซียว “แต่ในประวัติบอกว่า…ไม่มีอะไรสักอย่าง”
เธออุตส่าห์เป็นห่วงราชินีภาพยนตร์ถัง อย่างไรเสียวงการนั้นก็เล่นกติกาแฝงกันหนักหน่วงอยู่
“ที่บ้านไม่ชอบน่ะ ก็เลยถูกไล่ออกมา”
ทุกคน “…!”
ถังถังหัวเราะเสียงดัง