ตอนที่ 292 ครั้งแรก ณ เมืองหลวงแคว้นเย่ว์ (3)

หวนคืนชะตาแค้น

​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ ​“​เกือบ​เที่ยง​แล้ว​”

​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งม​อง​นาง​พลาง​เอ่ย​ ​“​พวก​เจ้า​รีบ​ไป​เถิด​ ​ไม่นาน​คงมี​คน​ตามมา​”

​มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ไป​ด้วยกัน​เถิด​”

​“​เมื่อคืน​ข้า​ได้รับบาดเจ็บ​ภายใน​ ​ข้า​จะ​เป็นตัว​ถ่วง​พวก​เจ้า​เอา​ได้​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​หาก​ตอนนี้​ทิ้ง​เจ้า​ไป​ ​สู้​ข้า​ทน​ดูดาย​ไม่​ช่วย​ท่าน​ตั้งแต่​ก่อนหน้านี้​เสีย​ยังดี​กว่า​ ​หาก​เจ้าสำนัก​มั่ว​รู้สึก​ว่ายัง​ขยับ​ไหว​อยู่​ล่ะ​ก็​ ​พวกเรา​รีบ​ไป​กัน​เถิด​ ​ด้านหน้า​มี​คน​ไล่​ล่า​ตามมา​แล้ว​จริงๆ​”

​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งม​อง​นาง​ด้วย​สายตา​ลึกล้ำ​แวบ​หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีกแล้ว​เกาะ​ต้นไม้​ที่อยู่​ด้านหลัง​ประคอง​กาย​ลุกขึ้น​เงียบๆ

​เดิมที​ควร​ใช้เวลา​ใน​การ​เดินทาง​แค่​สอง​วัน​เท่านั้น​ ​ทว่า​พวกเขา​สาม​คน​เดิน​อยู่​ใน​เขา​เกือบ​ห้าวัน​ถึง​จะ​ออกมา​ได้​ ​อู๋​ซิน​คนเดียว​ต้อง​คอย​ดูแล​สตรีที​่​ไม่มี​วิทยา​ยุทธ​ติดตัว​และ​บุรุษ​ผู้​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​ภายใน​สอง​คน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ต้อง​เดิน​อ้อม​เพื่อ​หลบเลี่ยง​คนที​่​ตาม​ไล่​ล่า​อยู่​ไม่น้อย​ ​กระทั่ง​ในที่สุด​พวกเขา​ก็​เดิน​ออกมา​จาก​หุบเขา​ ​ทุกคน​เลย​อด​ลอบ​ผ่อน​ลมหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ไม่ได้

​หลาย​วัน​มานี​้​เพื่อ​หลบเลี่ยง​คนที​่​ไล่​ล่า​ตามมา​ด้านหลัง​ ​พวกเขา​สาม​คน​ไม่มีใคร​ได้​พักผ่อน​ดี​ๆ​ ​เลย​สัก​คน​ ​โชคดี​ที่​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เสนอ​ยาบำรุง​ให้​ ​ต่อให้​มู่​ชิง​อี​จะ​ร่างกาย​ค่อนข้าง​อ่อนล้า​เหน็ดเหนื่อย​มา​หลาย​วัน​แต่กลับ​ไม่ได้​เจ็บป่วย​อะไร​ ​โชคดี​ที่​ไม่ใช่​ว่า​ทุกคน​จะ​มี​ผีเสื้อ​หลงทาง​คอย​ลอบทำร้าย​ ​ขณะที่​เดิน​กัน​ใน​ป่า​ลึก​พวกเขา​สาม​คน​ต่าง​ระมัดระวัง​ตัว​จน​สุดท้าย​ก็​ไม่​ถูก​ใคร​เห็น​เข้า

​“​หลาย​วัน​มานี​้​ลำบาก​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​คน​แล้ว​ ​พวกเรา​แยกย้าย​กันต​รง​นี้​เถิด​”​ ​ครั้น​ใกล้​ถึง​เบื้องหน้า​เมือง​เล็ก​ๆ​ ​แห่งหนึ​่ง​ใน​เขตแดน​แคว้น​เย​่ว​์​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​หันไป​กล่าว​กับ​พวกเขา​สอง​คน

​เดิมที​พวก​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่ได้​คิด​จะ​เดินทาง​พร้อม​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ต่อ​เช่นกัน​เลย​ไม่ได้​เกรงใจ​ ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​เจ้าสำนัก​มั่ว​เกรงใจ​ไป​แล้ว​ ​พวกเรา​ล่ำ​ลากัน​ตรงนี้​เถิด​”

​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งม​อง​มู่​ชิง​อี​พลาง​มุ่น​คิ้ว​ ​จากนั้น​ก็​ยกมือ​ขึ้น​ล้วง​หยิบ​ป้าย​คำสั่ง​สีเงิน​อัน​หนึ่ง​ออกมา​แล้ว​ส่ง​ให้พร​้​อม​กล่าว​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​ต้อง​ขอบคุณ​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​ด้วย​ ​วันหน้า​หาก​มีเรื่อง​ใด​ก็​ถือ​เจ้า​สิ่ง​นี้​มาหา​ข้า​ที่​เย​่า​กู่​หวัง​แล้วกัน​”

​มู่​ชิง​อี​แอบ​หวั่นไหว​ใน​ใจ​ ​คำมั่นสัญญา​ของ​เจ้าสำนัก​เย​่า​กู่​หวัง​ย่อม​ไม่​สามารถ​เมินเฉย​ได้​ ​จึง​ยื่นมือ​ไปรั​บมา​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เจ้าสำนัก​มั่ว​ ​ลาก่อน​”

​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​พยักหน้า​แล้ว​หมุนตัว​จากไป​โดย​ไม่​หันกลับ​มาม​อง​อีก

​“​คุณหนู​ ​เย​่า​หวัง​กู่​ผู้​นี้​…​”​ ​อู๋​ซิน​ขมวดคิ้ว​มุ่น​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​เพราะ​ก่อนหน้านี้​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ช่วยชีวิต​มู่​หร​งอ​วี​้​ไว้​และ​ยัง​ทำเอา​พวกเขา​เหนื่อย​แทบตาย​ ​ดังนั้น​ไม่ว่า​จะ​เป็น​มู่​ชิง​อี​หรือ​อู๋​ซิน​ต่าง​มี​ความทรงจำ​ที่​ไม่ดี​กับ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​นัก​ ​เพียงแต่​หลังจาก​ได้​ทำความรู้จัก​ใน​ช่วง​ระยะเวลา​หลาย​วัน​มานี​้​ ​นอกจาก​เจ้าสำนัก​มั่ว​จะ​เป็น​คนพูด​น้อย​ไป​บ้าง​ ​แต่​ดูท่าทาง​จะ​ไม่ใช่​คนเลว​ร้าย​อะไร

​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​“​บางที​อาจมี​เรื่อง​เข้าใจผิด​ ​หา​ตัว​พี่ใหญ่​กับ​พี่ชาย​ให้​เจอ​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​ ​หาก​ไม่ต้อง​เป็นปฏิปักษ์​กับ​เย​่า​หวัง​กู่​ก็​เป็นเรื่อง​ดี​ไม่น้อย​”​ หาก​กล่าว​กันตาม​จริง​นาง​ไม่​อยาก​เป็น​ศัตรู​กับ​คน​อย่าง​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เลย​ ​แต่ก่อน​จะ​หา​ตัว​พี่ใหญ่​และ​พี่ชาย​เจอ​ ​นาง​จะ​ไม่​ไปมาหาสู่​กับ​คน​ผู้​นี้​แน่นอน​ ​หาก​พี่ใหญ่​และ​พี่ชาย​เป็น​อะไร​ไป​…​ไม่ว่า​จะ​ด้วย​เหตุผล​ใด​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​คือ​ศัตรู​ของ​นาง

​อู๋​ซิน​พยักหน้า​ ใน​ใจ​ของ​คุณหนู​เกรง​ว่าความ​สำคัญ​ของ​คุณชาย​ใหญ่​ไม่มีใคร​มา​แทนที่​ได้​ ​เพราะ​ผีเสื้อ​หลงทาง​ของ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ทำให้​คุณชาย​ใหญ่​หายตัว​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย​ ​คุณหนู​ไม่​ฉวยโอกาส​ลอบฆ่า​เขา​ก็​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว

​ครั้น​เห็น​สีหน้า​เข้าใจ​ของ​อู๋​ซิน​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ถอนหายใจ​ ใช่​ว่านาง​ไม่เคย​คิด​จะ​ฆ่า​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​สักหน่อย​ ​แต่​นาง​ไม่แน่ใจ​ว่า​ตอนนั้น​พวกเขา​จะ​ฆ่า​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ได้​จริงๆ​ ​หรือเปล่า​ ​คน​อย่าง​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ ​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​เขา​ไม่​เหมือน​คนที​่​จะ​สลัด​เกราะ​ป้องกันตัว​เอง​ทิ้ง​ต่อหน้า​คนแปลกหน้า​สัก​เท่าไร​ ​หลังจาก​ทำความรู้จัก​กัน​มา​หลาย​วันนา​งก​็​ยิ่ง​มั่นใจ​ ​เพียงแต่​นาง​ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ถึง​พยายาม​หยั่งเชิง​คนที​่​เพิ่ง​เคย​เจอกัน​โดยบังเอิญ​อย่าง​นาง​เช่นนี้​ด้วย

​มู่​ชิง​อี​เล่น​ป้าย​คำสั่ง​สีเงิน​ที่​สลักคำ​ว่า​ ​‘​มั่ว​’​ ​ใน​มือ​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ระบาย​ยิ้ม​ออกมา​ อย่างน้อย​หลาย​วัน​มานี​้​ใช่​ว่านาง​จะ​ไม่ได้​อะไร​เลย​ ​เพราะ​ตราประทับ​ของ​เจ้าสำนัก​…​คง​ไม่ใช่​แค่​ให้​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​จัดการ​เรื่อง​ธรรมดาๆ​ ​แน่นอน​

​พอ​เข้า​เมือง​มามู​่​ชิง​อีก​็​เปลี่ยน​จาก​ชุด​เด็กสาว​เป็น​ชุด​บุรุษ​สีขาว​ ​ใน​มือถือ​พัด​รูป​ภูเขา​แม่น้ำ​ราวกับ​คุณชาย​รูปงาม​บุคลิก​คล่องแคล่ว​ปราดเปรียว​คน​หนึ่ง

​อู๋​ซิน​เอง​ก็​เปลี่ยน​จาก​ชุด​แคว้น​หวา​เป็น​ชุด​ประจำ​แคว้น​เย​่ว​์​สีดำ​เช่นกัน​ ​ต่อให้​พวกเขา​สอง​คน​เดิน​ใน​เมือง​เล็ก​ๆ​ ​อย่าง​เขต​ชายแดน​นี้​แต่กลับ​ไม่​ตกเป็น​เป้าสายตา​ของ​ใคร​เลย​ ​พอ​เข้า​เมือง​มาก​็​ได้ยิน​ข่าว​เล่าลือ​มา​ไม่น้อย​ ​กล่าวว่าต​วน​อ๋อง​ที่​พา​คณะ​ทูต​ไป​แคว้น​หวา​ก่อนหน้านี้​พา​องค์​ชาย​เก้า​กลับมา​ถึง​แคว้น​แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​ปิติยินดี​ประทาน​เงินเดือน​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​ให้​เป็น​สองเท่า​ ​อีกทั้ง​ยัง​แต่งตั้ง​บุตร​คน​รอง​อย่างต​วน​อ๋อง​ขึ้น​เป็น​หรงจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​กล่าว​ได้​ว่าความ​โปรดปราน​เช่นนี้​เป็น​สิ่ง​ที่​เหล่า​องค์​ชาย​ทุกคน​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​ต่าง​ใฝ่ฝัน​ทีเดียว

​นอกเหนือจากนี้​องค์​ชาย​เก้า​ที่​ออกเดินทาง​ไป​แคว้น​หวา​กับต​วน​อ๋อง​ก็​ล้ม​ป่วย​อีกครั้ง​หลังจาก​กลับมา​ถึง​ ​ถึงแม้​องค์​ชาย​เก้า​จะ​อายุ​เกือบ​ยี่สิบ​ชันษา​แล้วแต่​ยัง​มิได้​อภิเษก​แต่อย่างใด​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรง​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​เก้า​ขึ้น​เป็น​อวี​้​อ๋อง​[1]​ ​อีกทั้ง​ยัง​ประทาน​จวน​ให้​ย้ายออก​ไป​อยู่​นอก​วัง​แล้ว

​บรรดา​องค์​ชาย​แคว้น​เย​่ว​์​ต่าง​รับรู้​เรื่อง​ความ​โปรดปราน​องค์​ชาย​เก้า​ของ​ฝ่า​บาท​กัน​ถ้วนหน้า​ ​หลังจาก​องค์​ชาย​แคว้น​เย​่ว​์​บรรลุนิติภาวะ​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​อภิเษก​แล้ว​หรือไม่ก็​ต้อง​ย้ายออก​จาก​วัง​ ​ทว่า​องค์​ชาย​เก้า​กลับ​อยู่​ใน​วัง​จนกระทั่ง​อายุ​สิบ​เก้า​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่ได้​รับ​การ​แต่งตั้ง​ตำแหน่ง​ใด​ ​แต่​เหล่า​องค์​ชาย​องค์​หญิง​สูงส่ง​จนถึง​ลูกหลาน​คน​มีอำนาจ​ใน​เมืองหลวง​กลับ​ไม่มีใคร​กล้า​หาเรื่อง​องค์​ชาย​ผู้​นี้​เลย​ ​และ​บัดนี้​ในที่สุด​ฝ่า​บาท​ก็​คิด​จะ​ให้​องค์​ชาย​เก้า​ย้ายออก​จาก​วัง​ไป​ประทับ​ที่​จวน​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยัง​กลัว​ลูก​รัก​จะ​น้อยใจ​เลย​แต่​ตั้ง​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​ให้​องค์​ชาย​เก้า​ที่​มิได้​สร้าง​ความดี​ความชอบ​ใด​เลย​ ​นี่​จึง​ทำให้​องค์​ชาย​ที่​อายุ​สิบ​สี่​สิบห้า​ชันษา​เริ่ม​ไม่ไว้วางใจ​ใน​ราชสำนัก​ ​เช่นนี้​ภายในใจ​ของ​บรรดา​องค์​ชาย​ที่​แก่งแย่งชิงดี​ทั้ง​ใน​ที่ลับ​และ​ที่โล่งแจ้ง​จะ​ยอม​ได้​เช่นไร

​อีกทั้ง​มีเรื่อง​ที่​ไม่​เล็ก​และ​ไม่​ใหญ่​เกิดขึ้น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรง​แต่งตั้ง​คน​ๆ​ ​หนึ่ง​ที่​มีนาม​ว่า​จู​อวี​้​ขึ้น​เป็น​อาน​ซุ่นจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​ทั้ง​นอก​และ​ใน​ราชสำนัก​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่มีใคร​รู้ที​่​มาที​่​ไป​ของ​คน​ผู้​นี้​และ​ไม่มีใคร​รู้​เลย​ว่า​เหตุใด​เขา​ถึง​ถูก​แต่งตั้ง​ตำแหน่ง​ ​แต่​ด้วย​ความอำมหิต​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ใช้​ปกครอง​แคว้น​เย​่ว​์​มา​หลาย​สิบ​ปี​จึง​ทำให้​เหล่า​ขุนนาง​และ​ตระกูล​ชื่อดัง​ต่างๆ​ ​ยอมจำนน​ ​ยาม​ที่​ฝ่า​บาท​ทรง​ป่าวประกาศ​เรื่อง​นี้​ให้​พวกเขา​ทราบ​ ​นอกจาก​พวกเขา​จะ​กล่าวว่า​ ​‘​พระองค์​ทรงพระ​ปรีชาสามารถ​’​ ​แล้ว​ ​ทาง​ที่​ดี​ไม่​ควร​พูด​อะไร​อีก

​เดิมที​เรื่อง​พวก​นี้​ไม่ได้​แพร่สะพัด​เร็ว​ขนาด​นี้​ ​แต่​มู่​ชิง​อี​และ​อู๋​ซิน​เดินทาง​มาช​้า​ ​อีกทั้ง​อาศัย​อยู่​ใน​เขา​มา​หลาย​วัน​ ​ตอนที่​พวกเขา​ออกมา​อย่า​ว่าแต่​ขบวน​ที่​เดินทาง​กลับมา​ของ​พวก​หรง​เหยี​่​ยน​จะ​ถึง​นาน​แล้ว​เลย​ ​เพราะ​แม้แต่​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ใน​เมืองหลวง​แคว้น​เย​่ว​์​ยัง​จบ​ลง​แล้วด้วย

​เพียงแต่​เหมือน​เรื่อง​พวก​นี้​จะ​เป็นเรื่อง​ที่​พูดคุย​สนทนา​กัน​หลัง​มื้อ​อาหาร​ทั่วไป​ ​ทว่า​พอ​มู่​ชิง​อี​ได้​ฟัง​แล้ว​กลับ​รู้สึก​สังหรณ์ใจ​ลึก​ๆ​ ​ว่า​จะ​เกิดเรื่อง​ไม่ดี​ขึ้น

​พวกเขา​ไม่​มัว​เสียเวลา​ระหว่างทาง​อีก​ ​มู่​ชิง​อี​และ​อู๋​ซิน​รีบเร่ง​ม้าเร็ว​จนกระทั่ง​มาถึง​เมืองหลวง​แคว้น​หวา​ภายใน​เวลา​เจ็ด​วัน

​หาก​เทียบ​กับ​พื้นที่ราบ​ลุ่ม​อย่าง​แคว้น​หวา​แล้ว​ ​ภายใน​เขต​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​มี​ภูเขา​สูงใหญ่​และ​แม่น้ำ​มากกว่า​ ​ถึงแม้​เมืองหลวง​จะ​ตั้งอยู่​ใน​พื้นที่​ขนาด​กว้างขวาง​ ​ทว่า​ด้านหลัง​กลับ​ติดกับ​ภูเขา​สูงใหญ่​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ ​ทิวทัศน์​งดงาม​แตกต่าง​จาก​แคว้น​หวา​อย่าง​สิ้นเชิง

​ทันทีที่​เข้า​เมือง​มาก​็​มี​ผู้ดูแล​กิจการ​ภายใต้​นาม​ของ​ตระกูล​กู้​ออกมา​ต้อนรับ​ ​ตระกูล​กู้​สามารถ​ยืนหยัด​ได้​เป็น​ร้อย​ปี​โดย​ไม่​ล้ม​เพราะ​ใช้​หลักการ​อย่าง​สำนวน​ที่ว่า​กระต่าย​มีสาม​โพรง​[2]​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​กิจการ​ของ​ตระกูล​กู้​ไม่ได้​มี​แค่​ที่​แคว้น​หวา​ที่​เดียว​ ​เท่าที่​รู้​มา​แม้แต่​แคว้น​เย​่ว​์​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ซึ่ง​ละแวก​รอบ​แคว้น​ล้วน​มี​กิจการ​ของ​ตระกูล​กู้​ทั้งสิ้น​ ​หลังจาก​มู่​ชิง​อี​ตัดสินใจ​จะ​มา​แคว้น​เย​่ว​์​กิจการ​หลัก​ๆ​ ​ของ​ตระกูล​กู้​ก็​ค่อยๆ​ ​ย้าย​มาที​่​แคว้น​เย​่ว​์​ ​รวมถึง​พวก​ที่​คอย​ดูแล​กิจการ​ต่างๆ​ ​ให้​ตระกูล​กู้​อย่าง​พวกเฝิง​จื่อ​สุ่ย​เอง​ก็​ล่วงหน้า​มา​แคว้น​เย​่ว​์​ก่อน​แล้ว​ ​เพียงแต่​เพราะเฝิง​จื่อ​สุ่ย​มี​งาน​มากมาย​ล้นมือ​เลย​มาช​้า​กว่า​มู่​ชิง​อี​อยู่เล็ก​น้อย

​คนที​่​รุดหน้า​เข้ามา​ต้อนรับ​มู่​ชิง​อีก​็​คือฮู​หยิน​วัยกลางคน​อายุ​ราวๆ​ ​สามสิบห้า​สามสิบ​หก​ปี​คน​หนึ่ง​ ​ใบหน้า​งดงาม​ ​อีกทั้ง​บุคลิก​ยัง​สง่างาม​เหมือน​มาจาก​ตระกูล​ผู้มีความรู้​ ​เพียงแต่​หาก​เทียบ​กับ​สตรี​แคว้น​เย​่ว​์​แล้ว​ออกจะ​ใจกว้าง​และ​หนักแน่น​กว่า​มาก​ ​ครั้น​เห็น​พวก​มู่​ชิง​อี​ ​อีก​ฝ่าย​ก็​รีบ​เข้ามา​ต้อนรับ​แล้ว​เอ่ย​อย่างนอบน้อม​ว่า​ ​“​ข้า​เหมย​เหนียง​ผู้ดูแล​กิจการ​ของ​ตระกูล​กู้​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​ ​คารวะ​คุณชาย​เจ้าค่ะ​”

———————————

[1]​อวี​้​อ๋อง ​ลำดับขั้น​ทัดเทียม​กับ​ชิน​อ๋อง

[2]​กระต่าย​มีสาม​โพรง ​สำนวน​นี้​หมายถึง​เชิง​ว่า​คน​เจ้าเล่ห์​ต้องหา​ที่​หลบซ่อน​ตัว​ไว้​หลาย​ๆ​ ​ที่