“หมอหลิงฉันคิดว่าช่องหลอดเลือดที่คุณเย็บนั้นเพียงพอเราควรพิจารณาที่จะยุติการผ่าตัดก่อนหน้านี้หรือไม่การลดระยะเวลาในการผ่าตัดจะมีประโยชน์มากทีเดียว” เจียนเทียนยูพูดอย่างอ้อมๆ
จากมุมมองของเขาช่องหลอดเลือดหนึ่งช่องก็เพียงพอแล้วและแผนฉุกเฉินหลิงรันก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในเย็บแผลของเขาทำให้มันก็เกินพอแล้ว
หากพวกเขายุติการผ่าตัดในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าเวลาในการผ่าตัดจะสั้นและจบลงด้วยผลลัพธ์ที่ดี หากพวกเขาวิเคราะห์สิ่งนี้จากผลประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับนี่จะเป็นเวลาที่สมบูรณ์แบบในการยุติการผ่าตัด สำหรับช่องสัญญาณหลอดเลือดทางเลือกโดยหลิงรันพูดถึง? สำหรับเจียนเทียนยูนั่นเป็นการกระทำที่เกินเลยไปแล้ว
หากหลิงรันไม่ได้รับการแจ้งเตือนอัตราการเสร็จสิ้นจากระบบเขาอาจจะลังเลเช่นกัน
ในความเป็นจริงในขณะนี้เขาไม่แน่ใจว่าช่องหลอดเลือดที่สองสามารถเพิ่มการทำงานของเอ็นร้อยหวายของหลิวเหว่ยได้อย่างแน่นอน
แผนของนักวิชาการจู้ตงยี่เป็นแผนทดลองจริง ๆ ไม่มีแผนอื่น ๆ ที่สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับแผนได้ กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือไม่มีใครยืนยันได้ว่าการสร้างช่องทางลำเลียงแรกนั้นมีประโยชน์หรือไม่ พวกเขาสามารถเดาได้หลังจากหลิงเหว่ยฟื้นตัว
อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อประเมินมูลค่าทางคลินิกของแผนอย่างแท้จริงและจากนั้นพวกเขาจะต้องเปรียบเทียบผลลัพธ์กับการผ่าตัดปกติเพื่อให้แน่ใจ
อย่างไรก็ตามแผนนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับบุคคลทั่วไป มันมีความหมายสำหรับนักกีฬาที่มีความต้องการสูงในเวลาพักฟื้นและความแข็งแกร่งของเอ็นร้อยหวายของเขา ความต้องการที่คล้ายกันมักจะทำโดยผู้เชี่ยวชาญเช่นทหารเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะเพิ่มแหล่งที่มาหัวหน้ามันต้องใช้เวลา
เมื่อถึงเวลานั้นหากคุณค่าของแผนนี้ได้รับการพิสูจน์จริง ๆ แล้วมันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อพวกแรงงาน แต่ในระยะปัจจุบันคนเหล่านี้ยังไม่สามารถทนกับความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพและสถานะทางการเงินของพวกเขา หลังจากทั้งหมดแผนการผ่าตัดทดลองไม่ได้รับการคุ้มครองโดย บริษัท ประกันสุขภาพในและต่างประเทศ ความเสี่ยงที่ตามมาเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขาในอนาคตก็เป็นปัญหาเช่นกัน ในตอนนี้หลิวเหว่ยยินดีที่จะรับความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถวิ่งหรือกระโดดได้อีกหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี แต่จริง ๆ แล้วมันจะเป็นการดีกว่าสำหรับคนปกติที่จะรออีกสองสามปีก่อนที่พวกเขาจะลองผ่าตัด
“ความสามารถในการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดที่เราเย็บนั้นมากที่สุดเท่ากับความสามารถในการไหลเวียนของเลือดในสองนิ้วคุณแน่ใจหรือว่ามันเพียงพอแล้ว” หลิงรันพูดด้วยน้ำเสียงที่ละเอียด มันเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำงานของเอ็นร้อยหวายเพื่อฟื้นตัวประมาณ 75% แต่ถ้าเขาต้องการที่จะถึงระดับการกู้คืนที่สูงขึ้นการเย็บหลอดเลือดมากขึ้นไม่ได้เป็นวิธีเดียวที่จะพาเขาไปสู่ความสำเร็จนั้น
ตามหลักวิชาการหลิงรันยังคงสามารถเพิ่มความแข็งแรงของเอ็นร้อยหวายได้อย่างต่อเนื่องเขายังสามารถพิจารณาปัญหาในกระดูกและกล้ามเนื้อโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการยึดเกาะเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการเย็บเส้นเอ็น หลิวเหว่ยอาจมีปัญหาทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัว บางคนจะมีอาการดีขึ้นหากพวกเขาเข้ารับการผ่าตัดในขณะที่บางคนฟื้นตัวได้ช้าชมาก ตัวอย่างเช่นคนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมฮีโมฟีเลียจะไม่เหมาะที่จะเข้ารับการผ่าตัด
แต่จากการตัดสินใจของหลิงรันเขาค่อนข้างจะพิจารณาปัญหาของความสามารถในการไหลเวียนของเลือดเสียมากกว่า
เขาเห็นด้วยกับแผนของนักวิชาการจู้ตงยี่ และด้วยแผนการที่เป็นพื้นฐานของเขาเขามั่นใจว่าแขนงในการส่งถ่ายเลือด [1] จะเชื่อมต่อกับช่องทางหลอดเลือดที่เขาเย็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันไม่สามารถให้เลือดที่เพียงพอกับเอ็นร้อยหวายแต่มันเพียงพอสำหรับการกู้คืนปกติ แต่มันจะไม่เพียงพอสำหรับการกู้คืนที่สุดอัศจรรย์แน่นอน
นี่เป็นความต้องการของกองทัพเมื่อพูดถึงเรื่องโลจิสติกส์ เสบียงจำนวนที่จำกัด เป็นพื้นฐานของการอยู่รอดเสบียงจำนวนมากได้รับอนุญาตให้กองทัพปกป้องแนวระหว่างสงคราม แต่มีเสบียงเพียงพอที่จึงจะอนุญาตให้โจมตี
เจียนเทียนยูพบว่าพูดอะไรไม่ออก เขาขมวดคิ้วประมาณครึ่งนาทีก่อนที่จะตอบว่า “เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ของเราความสามารถในการไหลเวียนของเลือดในตอนนี้เป็นมากกว่าสิ่งที่เราเคยเห็นในผู้ป่วยรายก่อนหน้าของเรา”
“อาจจะเป็นอย่งงั้นแต่….” หลิงรันคิดเรื่องนี้มานานแล้ว จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “นี่คล้ายกับความสามารถในการไหลเวียนของเลือดของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายด้วยการผ่าตัดกึ่งกลางเนื่องจากความเสียหายต่อแขนงหลอดเลือดในการผ่าตัดเหล่านั้นอยู่ในระดับต่ำผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ให้ความสนใจกับปริมาณเลือดใช่ไหมจะเกิดอะไรขึ้นถ้าบางคนหายเร็วขึ้นเพราะบาดแผลและสภาพการผ่าตัดดีขึ้น?
“อืม … มันเป็นไปได้” เจียนเทียนยู ต้องยอมรับว่ามีเหตุผลในคำถามนี้ แต่จากนั้นเขาก็พูดว่า “อย่างไรก็ตามถ้าคุณยังคงเย็บมันต่อไปคุณจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยเก้าสิบนาทีใช่มั้ยมันเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยจริง ๆ หรือไม่ถ้าแผลถูกเปิดเผยเป็นเวลาสามถึงสี่ชั่วโมง การผ่าตัดเล็ก ๆ “
ยิ่งแผลถูกเปิดออกนานโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนก็จะยิ่งสูงขึ้น การผ่าตัดที่กินเวลานานกว่าสี่ชั่วโมงมักจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น สำหรับนักวิ่งระยะสั้นอาการบวมน้ำหรือการอักเสบจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา
เจียนเทียนยู ยังเป็นห่วงว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่สำคัญมากเกินไปและละเลยสิ่งที่สำคัญ
ก่อนหน้านี้ หลิงรันทำการผ่าตัดเกี่ยวกับการปลูกถ่ายนิ้วดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะให้ความสำคัญกับปัญหาของปริมาณเลือด เมื่อรวมกับการพิจารณาก่อนหน้าของเขาหลิงรันตอบกลับโดยไม่ลังเลว่า “การทำให้แน่ใจว่าการถ่ายเทเลือดจะต้องเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเราเสมอเราสามารถรักษาภาวะแทรกซ้อนที่คุณกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาในภายหลัง เพียงพอหรือไม่เรามีวิธีแก้ไขอื่นไหม? “
คำพูดของ หลิงรัน สะท้อนความคิดของ จู้ตงยี่
โดยไม่ต้องรอให้เจียนเทียนยูตอบจู้ตงยี่ก็กล่าวในทันทีว่า “การถ่ายเทเลือดให้เพียงพอเป็นหัวใจของแผนทั้งหมดนี้การผ่าตัดต่อไป”
ในการผ่าตัดวันนี้ตำแหน่งของ หลิงรันในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์นั้นอยู่ในอันดับที่สองในอำนาจแทนที่จะเป็นอันดับแรกตามปกติ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงต้องทำโดยนักวิชาการ จู้ตงยี่ถ้าเขาต้องการที่จะดำเนินการต่อไม่มีอะไรมากที่เจียนเทียนยูสามารถพูดได้ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ขอเปลี่ยนถุงมือด้วยนะ”
“แน่นอน หมอลู่ก็เปลี่ยนแปลงเช่นกันฉันสามารถผ่าตัดต่อได้” หลิงรันหยุดพักหนึ่งก่อนที่จะนั่งอยู่หน้ากล้องจุลทรรศน์ เขาพูดว่า “เช็ดเหงื่อของฉัน”
พยาบาลประจำการที่สวมหมวกผ่าตัดกระต่ายสีเทาตัวเล็กใช้คีมจับผ้ากอซแล้วตบเบา ๆ ที่หน้าผากของหลิงราน เธอกระซิบ “ไม่มีเหงื่อใด ๆ แต่คุณมีผมที่หน้าผากของคุณนั่นคือเหตุผลที่คุณรู้สึกคันให้รอสักครู่ … “
พยาบาลการขัดผิวกายด้วยหมวกผ่าตัดกระต่ายสีเทาตัวเล็ก ๆ ใส่ตาข่ายลงและเปลี่ยนเป็นคีมอีกคู่ เธอเข้ามาใกล้หลิงรันและยืนเขย่งปลายเท้าเพื่อเอาผมออกจากหน้าผากของหลิงรัน เธอพูดว่า “ให้ฉันตรวจสอบคุณอีกครั้ง”
ผมเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากสำหรับศัลยแพทย์ หลิงรันยืนนิ่งเงียบเพื่อให้นางพยาบาลเช็ดใบหน้าของเขา
เมื่อพยาบาลหนุ่มเช็ดใบหน้าของเขาใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง หากเธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อในห้องผ่าตัดเธอคงเขาเอาตัวไปชิดกับหลินรันแล้ว
… ..
แพทย์และพยาบาลในห้องสาธิตยิ้มขณะที่พูดคุยกัน ความสนใจของทุกคนเปลี่ยนจาก Liu Weichen เป็น Ling Ran
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าหมอหลิงจะดื้อขนาดนี้”
“ถ้าเขากล้าโต้เถียงกับหัวหน้าแพทย์เจียน เขาคงต้องมั่นใจมาก”
“มีความมั่นใจอะไรเขาเป็นเด็กและคู่แข่ง“
“เขาเป็นแค่แพทย์หนุ่มแล้วทำไมนักวิชาการจู้จึงเห็นด้วยกับแผนของเขาหรือไม่มันง่ายกว่าแค่สนับสนุนหัวหน้าแพทย์เจียน?”
“เราควรจะพูดคุยเกี่ยวกับผู้ที่สนับสนุนใครตอนนี้หรือไม่คุณไม่ได้สังเกตเห็นว่าหมอหลิงกำลังจะสร้างช่องทางของหลอดเลือดที่สองหรือไม่นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่ามากเลยที่เดียว”
แพทย์หลายคนรู้สึกตื่นเต้นเมื่อหัวข้อเปลี่ยนเป็นทักษะเฉพาะที่ใช้ในการผ่าตัด อย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดอะไรเลยในตอนนี้
“อ๊ะถ้าฉันเป็นคนที่ผ่าตัดฉันอาจจะสร้างช่องทางนั้นขึ้นมาได้ในวันพรุ่งนี้นู้นแหละ” หมอประจำบ้านคนหนึ่งเริ่มสนทนาด้วยการหยอกล้อตัวเอง
“ฉันจะทำมันเสร็จได้ก็คงเป็นคืนพรุ่งนี้”
“ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำให้เสร็จก่อนที่จะเป็นลม”
ทุกคนเริ่มพูด
โรงพยาบาลขนาดเล็กมีชื่อเสียงในการทำให้ศัลยแพทย์หมดแรง หากพวกเขาจะเปรียบเทียบการผ่าตัดรักษาทั้งหมดการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายจะผ่อนคลายมากขึ้น ไม่มีใครเคยคิดว่าการผ่าตัดครั้งนี้จะเกิดขึ้นซึ่งมีการออกแบบที่ซับซ้อนมากตั้งแต่แรกและอาจจะซับซ้อนกว่านี้ไปอีก
“เช็ดเหงื่อ” ได้ยินเสียงของหลิงรันจากหน้าจอแสดงผล จะเห็นได้ว่าเขาใช้ความแข็งแกร่งของเขาไปมากแล้ว เหงื่อที่หยดเต็มหน้าผากเขา
พยาบาลาวผู้สวมหมวกกระต่ายสีเทาตัวเล็ก ๆ ใช้ผ้ากอซเช็ดเหงื่อภายใต้หมวกกระต่ายสีเหลืองขนาดเล็กของหลิงรัน
การผ่าตัดต่อเนื่อง
หมอหนุ่มยังพูดคุยกับพวกเขาต่อไป
“เช็ดเหงื่อ” หลิงรันดูเหนื่อยเล็กน้อย
พยาบาลที่มีหมวกสีเทาขนาดเล็กยังคงมีแรงเหลืออยู่
แพทย์ประจำแผนกน้ำหนัก 225 ปอนด์จับแน่นขวดน้ำแร่ว่างเปล่าแน่น ในขณะนี้เขากำลังจะเสร็จโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น “ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วเนี่ย… “