ตอนที่ 266 เอาตัวเข้าแลก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 266 เอาตัวเข้าแลก
ถัดมาคือรถม้าที่ไม่ได้หรูหรามากนัก ทว่า มีการแกะสลักอย่างประณีต

ชาวบ้านและสตรีตระกูลสูงศักดิ์ที่อยู่บนชั้นสองรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ไม่คิดว่าจักรพรรดิของต้าเยี่ยนจะนั่งรถม้าเข้ามาในเมืองหลวง พวกเขาจึงอดยลโฉมของบุรุษที่ได้ชื่อว่ารูปงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า

ตอนที่ต้าเยี่ยนตั้งใจจะยึดหนานเยี่ยนกลับคืน พวกเขาประกาศชัดเจนแล้วว่าทำไปเพราะต้องการฟื้นคืนระบอบการปกครองของต้าเยี่ยนเท่านั้น ไม่ได้ต้องการรุกรานต้าจิ้น พวกเขายินดีมอบองค์ชายไว้เป็นตัวประกันที่แคว้นติ้น ดังนั้นต้าจิ้นจึงเตรียมจวนสำหรับพักอาศัยของตัวประกันแห่งต้าเยี่ยนเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนแล้ว

ตอนนั้นหนานเยี่ยนและซีเหลียงร่วมมือกันบุกโจมตีต้าจิ้น ดังนั้นจักรพรรดิแห่งต้าจิ้นจึงชอบใจเป็นอย่างยิ่งที่หนานเยี่ยนและต้าเยี่ยนทำสงครามกันเอง เช่นนี้จะได้ช่วยลดสถานการณ์คับขันของต้าจิ้นลงได้บ้าง ต้าจิ้นตกแต่งจวนของประกันอย่างหรูหราเพื่อแสดงให้ภายนอกรับรู้ว่าต้าจิ้นมีความสัมพันธ์อันดีกับต้าเยี่ยน

ทว่า การแสดงก็คือการแสดงวันยังค่ำ เมื่อจักรพรรดิแห่งต้าจิ้นรับรู้ว่าต้าเยี่ยนยึดหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่สิ้นเปลืองแรงสักเท่าใด เขารู้สึกไม่พอใจอยู่นานเหมือนกัน

ครั้งนี้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเดินทางมายังแคว้นต้าจิ้น รัชทายาทและที่ปรึกษาตกลงกันแล้วว่าจะให้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนประทับที่จวนของตัวประกันที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างหรูหราสวยงาม ให้จักรพรรดิของต้าเยี่ยนได้ทอดพระเนตรเห็นความเป็นอยู่ของโอรส พระองค์จะได้วางพระทัยได้

ภายในรถม้า มู่หรงลี่ซึ่งเดินทางมาเป็นตัวประกันของต้าจิ้นคุกเข่าแทบเท้ามู่หรงอวี้ เด็กชายที่อายุเพียงสิบเอ็ดขวบเงยหน้ามองบิดาที่กำลังเศร้าสร้อย แววตาของเด็กชายใสซื่อและหนักแน่น

“เสด็จพ่อ ลูกเต็มใจเดินทางมาเป็นตัวประกันแทนเสด็จพี่รองเอง ลูกเป็นโอรสที่เกิดจากฮองเฮา มีความน่าเชื่อถือกว่าเสด็จพี่รอง เสด็จพี่รองเป็นคนกล้าหาญ วันหน้าต้องกลายเป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าของแคว้นต้าเยี่ยน หากให้เขามาเป็นตัวประกัน มีแต่จะทำให้เสด็จพี่รองกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ไม่เป็นผลดีต่อต้าเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ ลูกเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง วิทยายุทธ์สู้เสด็จพี่รองไม่ได้ ทว่า กลับถนัดเรื่องคบค้าสมาคมกับผู้คน ลูกสามารถไปมาหาสู่กับคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ของแคว้นต้าจิ้นได้ เสด็จพ่อไม่ต้องเป็นห่วงลูกหรอกพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะระมัดระวังตัวตลอดเวลา ไม่ลืมการเล่าเรียนอ่านตำราพ่ะย่ะค่ะ”

แม้จะกล่าวเช่นนี้ ทว่า นี่คือโอรสที่เกิดจากฮองเฮา…เขาเพิ่งอายุสิบเอ็ดขวบเท่านั้น

“เจ้าเพิ่งจะสิบเอ็ดขวบ อยู่เป็นตัวประกันที่ต้าจิ้น ไร้ครอบครัว ไร้ญาติมิตร เจ้าไม่กลัวหรืออย่างไร”

มู่หรงอวี้มองดูใบหน้าอ่อนเยาว์ของโอรส เอ่ยถามเสียงเบาหวิว

“กลัวพ่ะย่ะค่ะ…” ดวงตาของมู่หรงลี่แดงก่ำ “ทว่า ก่อนที่คุณชายซึ่งอายุเพียงสิบขวบของตระกูลไป๋จะโดนตัดศีรษะ เขายังเปล่งเสียงร้องเพลงประจำตระกูลไป๋อยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ! ความทระนงในศักดิ์ศรี ความกล้าหาญเช่นนั้น ลูกนับถือมากพ่ะย่ะค่ะ ท่านอาเก้าเคยกล่าวว่าหากต้องการเป็นมังกรเหนือผู้คน ต้องยอมเป็นม้างานให้ได้เสียก่อน แม้ลูกอายุยังน้อย ไร้ความสามารถ ทว่า ลูกทราบดีว่าต้าเยี่ยนกำลังลำบาก หากช่วยเหลือต้าเยี่ยนได้บ้าง ลูกยินดีเอาตัวเข้าแลกพ่ะย่ะค่ะ!”

มู่หรงอวี้หลับตาที่แดงก่ำลง ยากจะกล่าวสิ่งใดออกมา เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของบุตรชาย ไอออกมาเล็กน้อยอย่างทนไม่ไหว

“เด็กดี! ลูกของพ่อล้วนเป็นคนดีทั้งสิ้น! ต้าเยี่ยนมีพวกเจ้ามีพี่น้องอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่แข็งแกร่ง พวกเราต้องรวบรวมใต้หล้าได้อย่างแน่นอน!”

มู่หรงลี่กุมมือมู่หรงอวี้แน่น ดวงตาแดงก่ำ “เสด็จพ่ออย่าทรงเอาแต่เป็นห่วงลูกพ่ะย่ะค่ะ ท่านต้องดูแลร่างกายของตัวเองให้ดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

มู่หรงอวี้พยักหน้า จากนั้นกำชับอีกครั้ง “จงจำไว้…หากพบท่านอาเก้าของเจ้า อย่าแสดงพิรุธใดๆ ออกมาเด็ดขาด ท่านอาเก้าของเจ้าเสี่ยงอันตรายเพื่อแคว้นต้าเยี่ยน หากผิดพลาดเพียงนิดเดียว อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตท่านอาเก้าของเจ้าได้”

“เสด็จพ่อทรงวางพระทัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะจำให้ขึ้นใจพ่ะย่ะค่ะ!” มู่หรงลี่ก้มศีรษะแนบพื้น

มู่หรงอวี้พยุงมู่หรงลี่ให้ลุกขึ้นยิ้มๆ “มา…มานี่ ให้พ่อกอดอีกที!”

ต่างกล่าวกันว่า กอดหลานไม่กอดลูก!

ทว่า มู่หรงอวี้จากบุตรชายไปในคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อใด เขายากจะควบคุมตัวเอง…

มู่หรงอวี้กอดบุตรชายไว้ในอ้อมกอดหลวมๆ น้ำตาซึมที่หางตา

รัชทายาทและคนจากจวนรัชทายาทยืนรอต้อนรับจักรพรรดิและโอรสของต้าเยี่ยนอยู่หน้าจวนตัวประกันอย่างสงบ

นึกถึงเรื่องเหลวไหลเมื่อคืนที่เขาเอ่ยชวนเซียวหรงเหยี่ยนมารับเสด็จจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนด้วยกัน รัชทายาทกล่าวชมเซียวหรงเหยี่ยนออกมาอย่างอดไม่ได้

“โชคดีที่หรงเหยี่ยนปฏิเสธที่จะมากับเราในครั้งนี้ เราไม่รังเกียจฐานะพ่อค้าของเขา ทว่า หากจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเกิดไม่พอพระทัยเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วไปทูลฟ้องเสด็จพ่อ เสด็จพ่ออาจคิดว่าเราไม่รู้จักขอบเขตได้”

เฉวียนอวี๋กล่าวยิ้มๆ “ใต้หล้าจะมีผู้ใดไม่แบ่งแยกชนชั้น ให้ความสำคัญกับความสามารถมากกว่าอย่างองค์ชายบ้างพ่ะย่ะค่ะ! ทว่า เซียวเซียนเซิงรู้จักขอบเขตดีเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าเมื่อคืนจะไม่ได้ปฏิเสธองค์ชาย รับปากแล้ว ทว่า เช้านี้กลับส่งคนมาบอกว่าเมื่อคืนเมาหนักลุกไม่ไหว แถมยังส่งของมาขอขมาองค์ชายอีก ช่างเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมากพ่ะย่ะค่ะ!”

รัชทายาทพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

เมื่อคืนเซียวหรงเหยี่ยนไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนของรัชทายาท ชายหนุ่มมอบไข่มุกราตรีเม็ดงามให้รัชทายาท เล่าเรื่องที่หนานเจียงให้รัชทายาทฟังว่าเขามีโอกาสได้พบอ๋องเก้าของต้าเยี่ยน ได้รู้จักกับขันทีใหญ่เฝิงเย่าซึ่งเป็นขันทีปรนนิบัติข้างกายของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนผ่านทางอ๋องเก้า เตรียมวางแผนทำการค้าอย่างหนึ่งร่วมกัน

รัชทายาทอดทึ่งในความโชคดีและความสามารถในการหาเงินของเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ อาจเป็นเพราะดื่มมากเกินไป รัชทายาทนึกได้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนรู้จักกับขันทีข้างกายของจักรพรรดิต้าเยี่ยน เขาจึงชวนเซียวหรงเหยี่ยนไปรับเสด็จจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนด้วยกัน

โชคดีที่เซียวหรงเหยี่ยนรู้จักหลีกเลี่ยง ไม่ใช่คนถ่อยที่ต้องการประจบประแจง นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนเจียมตัว

เมื่อเห็นว่าขวนเสด็จของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รัชทายาทเดินลงจากบันไดด้วยมาดของรัชทายาท มองไปทางเบื้องหน้ายิ้มๆ

ไม่นานรถม้าที่แกะสลักอย่างประณีตก็หยุดลงที่หน้าจวนตัวประกัน

เมื่อเห็นว่าขันทีใหญ่ชราข้างกายของจักรพรรดิต้าเยี่ยนประคองจักรพรรดิลงมาจากรถม้า รัชทายาทรีบเข้าไปทำความเคารพ

“คาราวะจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ…”

“รัชทายาทไม่ต้องมากพิธีหรอก”

น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้นช้าๆ ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก

รัชทายาทเงยหน้าขึ้นยิ้มๆ เมื่อเห็นใบหน้าขาวซีดอ่อนแอของจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน เขาตะลึงงัน

จักรพรรดิต้าเยี่ยนที่ได้สมญานามว่าบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของใต้หล้ามีใบหน้าที่งดงามตราตรึงยิ่งกว่าสตรีเสียอีก ใบหน้าของเขาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ท่ามกลางแสงอรุณที่สาดส่อง…จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนงดงามและศักดิ์สิทธิ์ราวกับอาบอยู่ในแสงของความศักดิ์สิทธิ์ น่าตะลึงและสะกดวิญญาณผู้คนเป็นอย่างยิ่ง

ตะลึงงันอยู่ครู่ใหญ่ รัชทายาทจึงรู้สึกว่าเขาเสียมารยาท เขารีบหันไปมองมู่หรงลี่ที่ลงมาจากรถม้า ดูจากอายุของมู่หรงลี่และใบหน้าที่ถอดแบบจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนออกมาไม่มีผิดเพียน เขาก็เดาได้ว่านี่คือโอรสองค์รองที่เกิดจากฮองเฮาของจักรพรรดิต้าเยี่ยน รัชทายาทใจกระตุกวูบ

นึกไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนจะส่งโอรสที่เกิดจากฮองเฮามาเป็นตัวประกันเช่นนี้!

ในฐานะเจ้าบ้าน รัชทายาททำความเคารพก่อน

“องค์ชายสี่ยอมอยู่ที่แคว้นต้าจิ้นเพื่อเชื่อมไมตรีระหว่างสองแคว้นถือเป็นคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ เรานับถือยิ่งนัก!”

“ข้าไม่ได้ยิ่งใหญ่เช่นที่องค์รัชทายาทตรัสชมหรอกพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงลี่ทำความเคารพอย่างนอบน้อม

“ฝ่าบาท องค์ชายสี่ เชิญพ่ะย่ะค่ะ…”

รัชทายาทผายมือเชิญมู่หรงอวี้และมู่หรงลี่ ระหว่างเดินไปด้านใน เขากล่าวขึ้น “ที่นี่คือจวนที่เสด็จพ่อทรงรับสั่งให้คนจัดเตรียมให้องค์ชายสี่พ่ะย่ะค่ะ บ่าวรับใช้ทั้งหมดล้วนเตรียมไว้เป็นการชั่วคราว องค์ชายสี่เดินทางมาไกล ฝ่าบาทอาจไม่วางพระทัยให้คนอื่นเป็นคนดูแล เมื่อฝ่าบาทและองค์ชายสี่จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว เราจะนำคนพวกนี้จากไปทันที อีกอย่าง จวนนี้ยังไม่ได้แขวนป้าย เราคิดว่าในเมื่อองค์ชายสี่เป็นคนพัก ให้องค์ชายสี่เป็นคนตั้งชื่อเองน่าจะเหมาะสมกว่า”

ที่คือความจริงใจที่ต้าจิ้นมีให้ต้าเยี่ยน พวกเขาจะไม่เข้าแทรกแซงจวนตัวประกันเด็ดขาด อีกทั้งจะให้อิสระกับตัวประกันมู่หรงอวี้ให้ได้มากที่สุด