แน่นอนว่าในสายงานดังกล่าวพวกผู้เชียวชาญชอบที่จะคิดว่าตัวเองอยู่บนจุดยอดของสายอาชีพนั้นอยู่ตลอดเวลา และชอบที่จะมองพวกที่ตำกว่าตัวเองด้วยสายตาที่เหยียดหยามอยู่เสมอ
ฮานเหว่ยลิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพที่สำนักกีฬาติดต่อให้เขา เขามาดูแลอาการของเหล่านักกีฬาที่ได้บาดเจ็บอยู่เป็นประจำ เขาจะเป็นคนตรวจสอบแผนการผ่าตัดที่ส่งโดยโรงพยาบาลต่าง ๆ ประเมินอาการบาดเจ็บของนักกีฬาตัดสินใจจ่ายค่ารักษาพยาบาลควบคุมจำนวนเงินที่จ่ายและตัดสินใจว่าสำนักกีฬาควรดำเนินการจ่ายเงินให้โรงพยาบาลต่อไป … ด้วยอำนาจดังกล่าวและการแพทย์ของเขาเอง ชื่อเสียงของเขานั้นย่อมมีอิทธิพลต่อคนอื่นๆมาก
เมื่อเขาเห็นนักวิชาการอย่างจู้ตงยี้ เขาก็แสดงท่าทีที่สุภาพออกมาเพราะเขารู้ว่าเขาคงไม่อยากมีปัญหากับนักวิชาการอย่างจู้ตงยี้แน่ๆ อย่างไรก็ตามฮานเหว่ยลิน ไม่จำเป็นต้องทำตัวสุภาพต่อศัลยแพทย์หนุ่มอย่างหลิงรัน
“นายเป็นคนผ่าตัดให้กับหลิวเหว่ยหรอ?” ฮานเหว่ยลิน คว้าโอกาสที่จะพูดก่อนที่คนอื่นจะได้อธิบายอะไรออกมา
หลิงรันมองดูคนอื่นอย่างประหลาดแล้วมองไปที่จู้ตงยี่และเจียนเทียนยู
เขาเป็นคนไม่ชอบพูดอีกทั้งน้อยมากที่เขาจะคุยกับคนที่ไม่คุ้นเคย เข้าแทบจะไม่สนใจแม้แต่น้อยสำหรับคำถามที่ถามตะกี้
ถ้าหลิงรันต้องตอบคำถามทุกข้อที่ทุกคนถามเขา เขาจะไม่สามารถตอบคำถามทั้งหมดที่คนอื่นถามเขาได้ตั้งแต่ป.3 ซึ่งถ้าเขามั่วตอบปัญหาพวกนั้นเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตเลย
จู้ตงยี่หัวเราะเบา ๆ และทำให้การเปิดตัว “นี่คือผู้อำนวยการของสำนักกีฬาของเรา: อธิบดีหวังผู้อำนวยการซูหัวหน้าหม่าและฮานเหว่ยลิน และก็นักข่าวเหว่ย และนักข่าวลี่ … “
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณหมอลิง” ผู้สื่อข่าวเหว่ยเอาเริ่มที่จะกล่าวทักทายเขามองหลิงรันราวกับว่าเขาเห็นภาพในหัวข้อข่าวหน้าหนึ่ง
ฮานเหว่ยลิน พูดและพูดว่า “ให้ฉันแนะนำตัวเองก่อน ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญในการตรวจสอบและประเมินผลการรักษาทางการแพทย์ทั้งหมดในสำนักกีฬาของเรา หมอหลิงดูยังเด็กเลยนะ”
หลิงรันยิ้มและพยักหน้า เขาทำให้เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญดูไม่สนใจ
“หมอหลิงคุณช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับการไหลเวียนของการผ่าตัดได้ไหม” ฮานเหว่ยลิน ดูสุภาพแบบผิวเผิน แต่ในใจเขาไม่ค่อยเชื่อใจหลิงรันเท่าไร
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพของสำนักกีฬาฮานเหว่ยลิงเก่งในเรื่องการนวดและการการตรวจสอบร่างกายบริเวณแขนและขา เขามักทำหน้าตาเหยีดพวกแพทย์ที่กำลังศึกษาอยู่และนักกีฬาที่ไม่ค่อยเคารพ เขาไม่ชอบคนที่มีรูปร่างหน้าตาดีและดูเป็นธรรมชาติ
แต่หลิงรันไม่เหมือนหมอที่ฮานเหว่ยลิน คุ้นเคย หลิงรันไม่ได้ให้คำตอบที่รวดเร็วและละเอียดถี่ถ้วนเหมือนอย่างที่เขาให้กับครอบครัวของผู้ป่วย
หลิงรันให้คำตอบที่ไม่คาดคิดกับฮานเหว่ยลิน “จำเป็นต้องบอกคุณด้วยหรอ”
มันเหมือนหลิงรันพยายามดูหมิ่นฮานเหว่ยลินและเขาหยักคิ้วขึ้น เขากล่าวอย่างจริงจังว่า “แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเราต้องประเมิน สถาณการณ์ของการผ่าตัดของคุณอย่างเต็มที่คุณก็รู้ว่าหลิวเหว่ยเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่สำคัญที่สุดในสำนักกีฬาของเราเขาเป็นนักกีฬาดาวเด่นที่ ประเทศให้ความสนใจเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเขา เขาจะต้องอยู่ในการดูแลของเราตลอดเวลา … “
“คุณควรไปถามนักวิชาการ จู้ตงยี่เกี่ยวกับสภาพหลังการผ่าตัดของหลิวเหว่ย” หลิงรันขี้เกียจเกินไปที่จะพูดคุยกับเขาต่อ
จู้ตงยี่ยิ้มและพยักหน้าแสดงว่าเขายอมรับงานนี้แล้ว เขาแตกต่างจากแพทย์ทั่วไปและไม่ใช่คนที่ ฮานเหว่ยลินจะสามารถทำอะไรกับเขาได้
อิทธิพลของฮานเหว่ยลินถูกสกัดไว้ในทันที่ แต่สำนักกีฬาก็ยังหนุนหลังเขาอยู่ ฮานเหว่ยลินตบไปที่แขนของเขาเล็กน้อยแล้วยิ้มอีกครั้ง เขาพูดว่า “หมอหลิงถ้าเราต้องการถามนักวิชาการจู้ตงยี่เราคงจะถามเขาไปแล้ว ตอนนี้เรามีคำถามบางอย่างเกี่ยวกับการผ่าตัดที่เราอยากรู้จากคุณ … “
“มันเหมาะสมแล้วใช่ไม” หลิงรันไม่ตอบฮานเหว่ยลิน แต่ดูที่จู้ตงยี่
จู้ตงยี่ให้ความร่วมมือกับสำนักกีฬาเป็นอย่างดี เขาอาจพบว่าสิ่งนี้มันดูน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เขาไม่ต้องการให้สถานการณ์ตึงเครียดไปกว่านี้ เขาหัวเราะและพูดว่า “ผู้เชี่ยวชาญฮันต้องการรู้สถาณ์การตอนนั้นของคุณ คุณสามารถบรรยายสรุปให้เขาได้หรือไม่?”
ในที่สุดฮานเหว่ยลิน ก็รู้สึกสบายใจเล็กน้อย ‘ดูสินักวิชาการอยู่ที่นี่ด้วยเพื่อสนับสนุนฉัน’
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แล้ว ฮานเหว่ยลินรู้ว่าพวกของอธิบดีต้องการรู้อะไรจึงถามไปก่อนว่า “ทำไมหลิวเหว่ยจึงตัดสินใจทำการผ่าตัดทันที”
หลินรันเกิดความงุนงงและถามกลับไปว่า “ทำไมคุณถามคำถามนี้กับฉัน”
“ คุณเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์คุณไม่ทราบหรือยังไงว่าสาเหตุอะไรที่หลิวเหว่ยจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด?” ฮานเหว่ยลินรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
หลิงรันรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้น ถ้ามีคนถามหลิงรันว่าเขาเกลียดคนประเภทไหนที่สุดฮานเหว่ยลินก็คงอยู่ในลิสต์แรกของเขาแน่ๆ
เมื่อเขาพิจารณาว่ามีคนอยู่จำนวนมากและมีจู้ตงยู่และคนอื่นอยู่ตรงนั้นด้วย หลิงรันจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ ฉันคิดว่าหลิวเหว่ยตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดนี้เพราะเอ็นร้อยหวายของเขาฉีกหาก คุณอยากรู้ว่าเหตุว่าหลิวเหว่ยจึงตัดสินใจทำการผ่าตัดในทันทีคุณต้องถามตัวเขาเองเพราะว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่พวกเขาตอบได้ “
นักข่าวทั้งสองเข้าใจความหมายนั้นและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ฮานเหว่ยลินพูดค่อนข้างไม่สุภาพ “หลิงรันมันไม่มีความหมายเลยที่นายจะปกป้องหลิวเหว่ยถ้านายปกป้องเขาเช่นนี้นายจะทำให้สถาบันนี้สูญเสียความไว้วางใจจากสำนักกีฬาและเราจะไม่สามารถสานต่อความร่วมมือนี้ระหว่างกันได้อีก .” น้ำเสียงของ ฮานเหว่ยลินทำให้รู้สึกผิดหวัง แต่ก็มีความอาฆาตพยาบาทมากกว่า
ฮานเหว่ยลินเคยเจอแพทย์มาหลายคนโดยเฉพาะหมออายุน้อยที่หวังจะเติบโตและมีชื่อเสียงด้วยการทำการผ่าตัดให้นักกีฬาเพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่าตัดและกลายเป็นแพทย์ที่โด่งดัง
แพทย์ในยุคปัจจุบันนี้มีทำเงินได้มากเพราะชื่อเสียง และเหนือสิ่งอื่นใดมันมีความสำคัญสำหรับแพทย์ที่จะเข้าสังคมของแพทย์ไม่ก็เป็นศัลยแพทย์อิสระ
หลิงรันนั้นค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ดังนั้นเขาจึงมองฮานเหว่ยลิน อย่างเงียบ ๆ เพราะเขาไม่ได้ประจำอยู่ที่เซี่ยงไฮ้และแม้ว่าเขาจะอยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นของเขาเขาก็ไม่สนใจที่จะทำงานกับสำนักกีฬาอยู่แล้ว
กลุ่มเป้าหมายระดับสูงของเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวาย คือนักกีฬา แต่กลุ่มเป้าหมายหลักก็ยังคงเป็นคนธรรมดา แต่เมื่อสรุปแล้วจำนวนการแพทย์ที่สามารถรักษาเอ็นร้อยหวายให้กับคนธรรมมันมีมากเพียงพอแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับแพทย์ที่จะต้องรักษาเอ็นร้อนหวายของนักกีฬากับพบว่าไม่มีแพทย์เฉพาะทางมากพอที่จะทำยังงั้นได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำการผ่าตัดให้กับนักกีฬาอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องการชื่อเสียงใดๆ
สำหรับโรงพยาบาลหยุนหัวที่หลังรันสังกัดอยู่นั้นไม่ได้ให้บริการที่เฉพาะทางเช่นนี้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่หลิงรันจะจินตนาการถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังการร่วมมือของพวกเขา
ในความเป็นจริงหากแผนการผ่าตัดของนักวิชาการจู้ตงยี่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นมันจะถูกนำไปใช้กับคนทั่วไปในที่สุด ในเวลานั้นหลิงรันไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดพวกนักกีฬาเหล่านี้แล้ว อีกทั้งเขายังสามารถทำการผ่าตัดแบบเดียวกันกับคนธรรมดาได้อีกด้วย
หากเอ็นร้อยหวายแข็งแรงขึ้นสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและสามารถปรับตัวให้เข้ากับการออกกำลังกายที่มีความเข้มสูงได้หลังจากใช้เทคนิคการักษาเอ็นร้อยหวายใหม่ จะไม่มีอะไรเลวร้ายถ้าการผ่าตัดนั้นเกิดขึ้นกับคนทั่วไป เทคนิคการผ่าตัดทั้งหมดได้รับการพัฒนาอย่างช้าๆด้วยวิธีนี้ ในการเริ่มต้นมีภาวะแทรกซ้อนมากมายในการผ่าตัดดังนั้นจึงเหมาะสำหรับบางคนเท่านั้นที่จะได้รับการผ่าตัด ด้วยการพัฒนาที่ช้าปต่ต่อเนื่องทำให้เทคนิคเหล่านนี้ไปประยุกต์ใช้กับคนในวงกว้างได้
หลิงรันต้องการการผ่าตัดที่น่าสนใจไม่ใช่พบเจอคนที่น่าเบื่อเช่นนี้ เขาจะปฏิเสธอย่างสุภาพที่จะไม่สนใจตอบคำถามของฮานเหว่ยลิน
เจียนเทียนยูยิ้มและเริ่มไกล่เกลี่ยความขัดแย้งนี้ “ ความร่วมมือของเรากับสำนักกีฬาดีมากอยู่แล้วในขณะนี้เวลานี้การผ่าตัดของหลิวเหว่ยค่อนข้างราบรื่นและไม่เกิดปัญหาอะไรระหว่างการผ่าตัด”
ฮานเหว่ยลิน ตอบสนองอย่างฉับไวมากขึ้น เขาเปลี่ยนน้ำเสียงของเขาแล้วพูดว่า “งั้นมาพูดถึงสถานณ์การณ์การผ่าตัด หมอลิงคุณคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันใช้แผนการผ่าตัดของนักวิชาการจู้ตงอี้ ซึ่งเป็นแผน A. ” หลิงรันเป็นคนตอบคำถามเอง
ฮานเหว่ยลิน ตกตะลึงเล็กน้อยแล้วถามว่า “อะไรคือเนื้อหาเฉพาะของแผนการผ่าตัด A”
“เทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวาย โดยใช้รอยแผลแพทย์ด้านข้างเราจะสร้างหลอดเลือดตรงบริเวณแผ่นพับใต้ผิวหนัง … “
ฮานเหว่ยลิน ส่ายหัว “ฉันรู้ว่ามันเป็นเทคนิคการรักษาเส้นเอ็น แต่ฉันหมายความว่าฉันต้องการทราบความแตกต่างระหว่างแผนการผ่าตัด A และการรักษาเส้นเอ็นแบบปกตินี้”
หลิงรันให้ความสนใจเรื่องนี้เล็กน้อบ หลังจากเขาคิดเรื่องนี้แล้วเขาก็พูดอย่างเด็ดขาดว่า “ปริมาณเลือด!”
เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้หลิงรันก็ขอเอ็มอาร์ไอสแกนของหลิวเหว่ยและวางมันลงบนผนังโดยตรง เขากล่าวว่า “เราได้สร้างแขนงเส้นเลือดของเอ็นร้อยหวายของ หลิวเหว่ยจุดนี้ จุดนี้ ตรงนี้ เพื่อให้มันสามารถ …
ฮานเหว่ยลิน รู้สึกเวียนหัวเพียงแค่มองดู เขารู้สึกว่าหัวของเขากระแทกขณะฟังคำอธิบาย ตามความจริงเขาได้ทบทวนแผนของนักวิชาการจู้ตงยี่ แต่ไม่ได้คาดหวังว่าแผนการนี้จะถูกนำไปใช้ในที่สุด
“มันเสี่ยงเกินไปไม่ใช่หรอ!” ฮานเหว่ยลิน ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป “คุณจะนำแผนที่มีความเสี่ยงมาใช้ได้อย่างไร?”
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญกำลังโมโห แล้วผู้อำนวยการของสำนักกีฬาก็เริ่มวิตกกังวลเช่นกัน
“สถานการณ์ตอนนี้คืออะไร”
“มันอันตรายมากเหรอ?”
“มีมาตรการฉุกเฉินในหรือ??”
“นักกีฬพวกนี้ไม่มีเหตุผลที่จะทำยังไงและพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องดูแลร่างกายของเขายังไง … “
เจียนเทียนยูพยายามอธิบายให้พวกเขาอย่างรวดเร็ว“ แผนนี้มีความเสี่ยงเล็กน้อยจริง แต่ผลจะยังคงดีมากจนถึงตอนนี้การผ่าตัดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ … ”
ฮานเหว่ยลิน ไม่ได้สนใจเขาเลยและเขาก็พยายามจะดูถูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “ แม้ว่าการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จแต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าหลิวเหว่ย จะดีขึ้นประการแรกจากมุมมองของฉันคุณไม่ควรให้การผ่าตัดที่มีความเสี่ยงเช่นนี้”
“เป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงมากถ้ามองในมุมมองคุณ แต่จากมุมมองของเราเป็นความเสี่ยงเป็นที่ยอมรับ” หลิงรันขัดจังหวะคำพูดของ ฮานเหว่ยลินและอธิบายขั้นตอนต่างๆในการผ่าตัดให้เขาฟัง ซึ่งในตอนนั้นหลิงรันกังวลหลายครั้งเนื่องจากมีระบบแจ้งเตือนเขาขึ้นมา อย่างไรก็ตามในการผ่าตัดทดลองครั้งนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีความกังวลอย่างต่อเนื่องตลอกการผ่าตัด
แต่ที่สำคัญที่สุดการผ่าตัดในครั้งนี้ถูกดำเนินการโดยเขาทั้งหมด ซึ่งมันก็ไม่ได้มีความท้าทายอะไรมากนักเพราะเขาทำการผ่าตัดได้อย่างราบรื่นจนเสร็จมีเพียงสัญญาณทางกายภาพที่สำคัญสำหรับหลิวเหว่ยนั้นคงคือการเย็บเส้นเอ็นนั้นราบรื่นการสร้างแขนงหลอดเลือดก็ประสบความสำเร็จและเขาก็สร้างมันขึ้นมาได้สองท่อ – แต่ละท่อมีค่าเผื่อเพียงพอสำหรับความผิดพลาด อาจกล่าวได้ว่าการผ่าตัดทั้งหมดได้ทำอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย หากนี้ไม่ใช่การทดลองผ่าตัดจริงมันก็ดูเหมือนกับการผ่าตัดสิบถึงยี่สิบครั้งที่เคยผ่านมาสำหรับหลิงรันซึ่งมันไม่ได้ดูหน้าประหลาดใจอะไรเลย
ในความเป็นจริงสำหรับ เจียนเทียนยู, จู้ตงยี่และคนอื่น ๆ นอกเหนือจากการสงสัยในการตัดสินของเขาสองสามครั้งในการผ่าตัด การผ่าตัดส่วนอื่นๆก็ไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจเช่นกัน
เนื่องจากพวกเขาไม่เห็นระบบแจ้งและอัตราการเสร็จสิ้นภารกิจ
ฮานเหว่ยลิน ไม่เชื่ออย่างที่หลิงรันพูด “คุณหมายถึงอะไรโดยความเสี่ยงในการผ่าตัดเป็นที่ยอมรับ? แผนการผ่าตัดทั้งหมดของคุณนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยง”
“คุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายใช่มั้ย?” หลิงรันถามกลับไป
ฮานเหว่ยลินหันหน้ามองหลิงรันทันทีอย่างประหม่า “คุณหมายถึงอะไร”
หลิงรันกระตุกปากของเขา “หากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายคุณควรพบว่านี้มันน่าสนใจ”
ในขณะนี้ฮานเหว่ยลิน ดูเหมือนจะรู้สึกว่าเขากำลังโดนดูถูก ตอนนี้เขารู้สึกไม่มั่นใจ “คุณหมายถึงอะไรที่น่าสนใจ? การที่คุณทำการผ่าตัดนี้หรอ! -“
“การผ่าตัดที่ยากและมีความเสี่ยง แต่สามารถทำให้สำเร็จได้ก็คือการผ่าตัดที่น่าสนใจ” หลิงรันหยุดและมองไปที่ฮานเหว่ยลิน “ แผนการผ่าตัดมีความเสี่ยงสำหรับคุณเป็นเรื่องปกติ เพราะคุณไม่รู้วิธีผ่าตัดดังนั้นคุณจึงรู้สึกว่า ความการผ่าตัดนี้ไม่น่าจะสำเร็จได้ซึ่งก็เป็นความคิดปกติของคนที่ไม่รู้เรื่องการผ่าตัด”
เมื่อหลิงรันพูดตอนสุดท้ายน้ำเสียงของเขา เขาดูผ่อนคลายมาก หลังจากนั้นเขาก็ปลอบโยนคนอื่น