ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 111

เจย์ไม่ได้สนใจการยั่วยุของโรสแม้แต่น้อย แต่เขากังวลอยู่อย่างหนึ่ง ‘ถ้าปลาเค็มอย่างเธอยุ่งกับการเป็นผู้ช่วยโลก แล้วใครจะเป็นคนดูแลลูกของเขา ร็อบบี้น้อย?’

เมื่อคิดถึงร็อบบี้น้อยของเขาที่ถูกโรสอุ้มท้องมาสิบเดือน มันก็ทำให้ใจเขารู้สึกไม่ดีอย่างมาก

วันนั้นหลังจากทำงาน เจย์พาเจนสันไปที่เมืองงอกงาม โรสเปิดประตูออก ท่าทางของเธอดูตกใจมากเมื่อเห็นเจย์

พวกเธอเพิ่งจะทะเลาะกันอย่างดุเดือดเมื่อกลางวัน ความเคารพในตัวเองของเขาอยู่ไหน ถึงได้มาหาเธอตอนนี้?

เจย์ยอมเสียสละทุกสิ่งเพื่อลูกชายของเขา แม้กระทั่งมโนธรรมของเขาก็ถูกโยนให้สุนัขกิน ด้วยดวงตาเหมือนลูกพีชที่กะพริบไปมาของเขา เขายิ้มอย่างสุภาพบุรุรษให้โรสแล้วกล่าว “เจนส์คิดถึงน้องชายของเขา ฉันจะพาหนุ่ม ๆ ออกไปดินเนอร์ ไม่คัดค้านใช่ไหม?”

โรสตะลึงในขณะที่ยืนนิ่งอยู่หน้าทางเข้า

‘หมอนี่เชื่อจริง ๆ เหรอว่า เขามีลูกชายแค่สองคน? ถ้าเขายังคงเมินเฉยต่อลูกสาวของเขาอย่างเปิดเผยแบบนี้ หัวใจที่บอบบางของเซ็ตตี้จะต้องแตกออกเป็นเสี่ยงเข้าสักวัน’

โรสรู้สึกรู้สึกหดหู่มาก แต่ร็อบบี้น้อยก็พลันวิ่งเข้ามาแล้วกล่าว “คุณพ่อ พาน้องสาวไปด้วยนะครับ?”

เจย์มองเซ็ตตี้ด้วยหางตา เธอจ้องเขาเหมือนเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจ เขาถึงกับผงะ ‘เด็กน้อยนี่เป็นเจ้ากรรมนายเวรฉันรึไง? ทำไมต้องจ้องฉันอย่างอาฆาตขนาดนั้น?’

เจย์อยากจะปฏิเสธคำขอ

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถพูดคำว่า ไม่ กับร็อบบี้น้อยสุดน่ารักของเขาได้ เจย์ยิ้มแล้วกล่าว “คุณพ่อไม่ว่าอะไร ถ้าผู้ปกครองของเธออนุญาต”

มือของโรสกำหมัดภายใต้แขนเสื้อยาวของเธอ เธอระงับความต้องการของเธอที่ต้องการส่งชายที่ทำร้ายความภาคภูมิใจของลูกสาวเธออย่างโหดร้าย ให้ลอยข้ามทะเลแปซิฟิคไป อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าเด็ก ๆ โรสยังคงรักษาท่าที เธอเดินไปหาเซ็ตตี้แล้วถามอย่างนุ่มนวล “เซ็ตตี้ ลูกอยากไปข้างนอกกับพวกพี่ ๆ ไหม?”

เซ็ตตี้พยักหน้าอย่างน่าสงสาร แต่วินาทีต่อมา เธอก็จ้องไปที่พ่อของเธอแล้วส่ายหัวอย่างรุนแรง “หนูไม่ไปหรอก”

โรสลูบหัวเซ็ตตี้เบา ๆ แล้วดึงเธอมากอด

ร็อบบี้น้อยเห็นว่าเซ็ตตี้ไม่ไปกับพวกเขา เขาจึงวิ่งกลับเข้าไปในบ้านแล้วบึ้งตึง “ถ้าเซ็ตตี้ไม่ไป ผมก็ไม่ไปเหมือนกัน”

เจย์ไม่คาดคิดว่าความสัมพันธ์ของร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้จะดีมากจนพวกเขาไม่ยอมแยกจากกัน เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด

โรสอุ้มเซ็ตตี้แล้วเดินไปหาเจย์ เธอกล่าวอย่างเป็นปฏิปักษ์ “เซ็ตตี้และพี่ชายของเธอไม่เคยแยกจากกันมาก่อนตั้งแต่พวกเขายังเด็ก นายมันโหดร้ายมากที่ทำแบบนี้กับพวกเขา ท่านอาเรส ให้ฉันแนะนำอะไรนายหน่อยนะ นายต้องมีน้ำใจบ้าง ไม่อย่างนั้น กรรมที่นายเคยก่อ มันจะย้อนเข้าตัวนาย”

เจย์ตอบกลับด้วยความโกรธ “ฉันแค่ชวนลูกของฉันออกไปดินเนอร์ แต่เธอก็มาทำตัวแย่กับฉัน โรส นี่เธอจงใจทำให้ฉันดูแย่ในสายตาของเด็ก ๆ อย่างนั้นเหรอ?”

ร็อบบี้น้อยเห็นว่าพ่อและแม่ของเขาทะเลาะกันอีกแล้ว เขารีบขัดทันที “เจนสัน คุณแม่ทำเกี๊ยวมันฝรั่งของโปรดนายด้วย นายอยากจะอยู่ที่นี่แล้วกินด้วยกันไหม? คุณแม่ตั้งใจทำไว้เผื่อนายเลยนะ!”

เจนสันมองที่พ่อของเขา เขาอย่างอยู่ที่นี่สุด ๆ

เจย์ต้องยอมแพ้และไม่ยื้อเรื่องราวอีก เพราะยังไงซะ เขาก็พ่ายแพ้หมดท่า เขาวางแผนจะเอาตัวร็อบบี้น้อยไป แต่จบที่ต้องเสียเจนสันไปอีกคน เขาเป็นนักธุรกิจที่เฉลียวฉลาด เขาพยายามหน้าด้านแล้วกล่าว “โรส รังเกียจไหมถ้าเราจะอยู่ที่นี่แล้วกินเกี๊ยวถูก ๆ ของเธอ?”

โรสส่ายหัวอย่างพูดไม่ออก

‘ทำไมปากของหมอนี่ถึงได้ร้ายกาจนักนะ?’

“จะอยู่หรือไปก็แล้วแต่นายเลย” เธอพึมพำก่อนจะเดินเข้าครัวไป

เมื่อเธอปิดประตูห้องครัว หัวใจของเธอก็เต้นเร็วอย่างยินดี

“ไร้ประโยชน์” เธอตำหนิตัวเองอย่างอับอาย

‘ฉันรู้ดีว่าฉันไม่ได้อยู่ในหัวใจของเขาเลย เขาอยู่ที่นี่เพียงเพราะเขารักลูกของเขา แล้วทำไมฉันยังหวังกับอะไรที่ไม่มีทางเป็นจริง?’

‘นี่ฉันหวังไปเพื่ออะไร?’

‘หวังว่าวันหนึ่งเขาจะลบอคติที่มีต่อฉันแล้วแก้ไขโชคชะตาของพวกเราอย่างนั้นเหรอ?’

ด้านนอกประตู ร็อบบี้น้อยดึงมือของพ่อของเขาอย่างน่ารัก ในขณะที่พยายามพูดเรื่องดี ๆ ของคุณแม่ “คุณพ่อ เกี๊ยวที่คุณแม่ทำอาจจะไม่ได้ทำจากวัตถุดิบที่แพง แต่หลังจากผ่านการปรุงจากฝีมือของคุณแม่ผู้เก่งกาจ เกี๊ยวพวกนั้นจะกลายเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก นักธุรกิจควรรู้ว่าราคาของสินค้านั้นนอกจากมาจากราคาวัตถุดิบแล้วยังมีค่าฝีมือด้วยใช่ไหมครับ? ค่าฝีมือของคุณแม่น่ะประเมินค่าไม่ได้เลย เพราะคุณแม่เติมความรักลงไปด้วย”

เจย์มองร็อบบี้น้อยด้วยความขนลุก เขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบร็อบบี้น้อยที่เต็มไปด้วยความรู้

เจย์จับหลังหัวของร็อบบี้น้อยแล้วถามอย่างอ่อนโยน “ใครสอนลูกพวกนี้? ทั้งปรัญชาและเศรษฐศาสตร์?”

เขามั่นใจว่าไม่ทางที่โรสจะสอนเขา เพราะโรสโตมาด้วยความยากจน การที่เธอมีทักษะแฮ็คเกอร์นั้น ถือว่าน่าทึ่งสำหรับเขามากแล้ว เขาไม่คิดว่าเธอจะมีความเหมาะสมด้านการเงิน หรือแม้แต่สมองในการใช้ความรู้อะไรได้

ร็อบบี้น้อยกอดคอของเจย์แล้วกล่าว “ต้องเป็นคุณแม่แน่นอนอยู่แล้ว! คุณแม่รู้อะไรมากมาย… เธอสอนผมแฮ็ค วาดภาพ เขียนกลอน รูปวาดของเธอสวยกว่าของครูสอนวาดภาพที่โรงเรียนเสียอีก!”

เจย์ตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาไม่เคยคิดว่าโรสจะเป็นแบบนั้นเลย ในหัวเขา เขาพลันนึกไปถึงสายตาที่ท้าทายของโรส มันช่างเต็มไปด้วยความมั่นใจและความเปล่งประกาย

เขาคิดว่าเธอเป็นคนโง่ที่เพ้อฝัน นี่เธอซ่อนความสามารถไว้หรอกเหรอ?

เซ็ตตี้พลันเดินเข้ามาแล้วดึงแขนของร็อบบี้น้อย และมองเจย์อย่างระมัดระมัง “พี่ชาย เขาเป็นคนไม่ดีที่ชอบรังแกคุณแม่นะ อย่าบอกอะไรเขาเรื่องคุณแม่สิ…”

เจย์ตะลึง

เด็กสาวคนนี้มีความระวังต่อเขาสูงมาก จนรู้สึกถึงความเกลียดชังของเขาต่อโรสเลยเหรอ?

“เธอชื่ออะไร?” เขาเป็นคนที่ยุ่งมาก และไม่ต้องการสนใจจะจำเรื่องไม่จำเป็นเล็กน้อย เขาจึงเลือกที่จะลืมชื่อเล่นและชื่อจริงของเซ็ตตี้

“หนูไม่บอกคุณหรอกว่าหนูชื่อ โรเซ็ต ลอยล์” เซ็ตตี้ประกาศอย่างภูมิใจ

เจย์หัวเราะโดยอัตโนมัติ

เขาไม่เคยสังเกตเด็กคนนี้ใกล้ ๆ มาก่อน ยังไงซะ เธอก็ไม่ใช่ลูกในไส้ของเขา ดังนั้น เขาจึงละเลยเธอเสมอ ตอนนี้เมื่อเขาสังเกตเธอดี ๆ เขาถึงได้สังเกตเห็นความงดงามของเด็กหญิงคนนี้

ถ้าเธอไม่ใช่ลูกสาวของโรส เธอคงจะน่าเอ็นดูมาก