ตอนที่ 296 ลูกน้องทรงอิทธิพลเริ่มโค่นล้มเจ้านาย (3)

หวนคืนชะตาแค้น

​อยู่ดีๆ​ ​บัดนี้​ก็​ปรากฏตัว​เจ้านาย​โผล่​มากะ​ทัน​หัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​เจ้านาย​ที่​อายุ​น้อย​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ด้วย​ ​คน​พวก​นี้​ย่อม​เกิด​ความรู้สึก​ไม่พอใจ​อยู่​แล้ว​ ​ความรู้สึก​นั้น​เปรียบเสมือน​เขา​กำลัง​กลืน​กิน​อาหาร​หายาก​ชั้นเลิศ​ได้​เพียง​ครึ่ง​เดียว​ ​ทว่า​เพิ่ง​ลิ้มลอง​รสชาติ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ดื่มด่ำ​รส​สัมผัส​ดี​ก็​ถูก​คน​บีบบังคับ​ให้​คาย​ออกมา​ ​เพราะเหตุนี้​จึง​มี​คน​รู้สึก​ไม่​ค่อย​ชอบใจ​นัก

​ขณะที่​ทุกคน​ต่าง​กำลัง​ถกเถียง​กัน​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​นอก​ประตู​ก็​ปรากฏตัว​หนุ่มน้อย​รูปงาม​สวม​ชุด​สีขาว​กุม​พัด​ใน​มือ​คน​หนึ่ง​ย่างกราย​เข้ามา​ช้าๆ​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​ชะงัก​ใน​แวบ​แรก​ ​ไม่ว่า​ใคร​ได้​เจอะ​เจอ​หนุ่มน้อย​ผู้​นี้​ก็​คง​อดใจ​ไม่ไหว​ชื่นชม​ใน​ความสง่างาม​ดู​อนาคต​ไกล​ ​หล่อเหลา​ราศี​จับ​สักครั้ง​ ​บุคคล​เช่นนี้​หาก​กล่าวว่า​เป็นคุณ​ชาย​ที่​ได้รับ​การ​ดูแล​สั่งสอน​มาจาก​ตระกูล​ผู้ดี​มีความรู้​ละ​ก็​ย่อม​เชื่อ​กัน​อยู่​แล้ว​ ​แต่​หาก​กล่าวว่า​เขา​จะ​มาดู​แลกิ​จการ​ใหญ่โต​เหล่านี้​กลับ​ทำให้​ใครต่อใคร​คง​มิ​อาจ​ยอมจำนน​ได้​ ​แค่​เพียง​แวบ​แรก​ที่​เห็น​ก็​อดใจ​แค่น​เสียง​ดูถูก​ใส่​ไม่ได้​แล้ว

​“​ท่าน​นี้​คือ​คุณชาย​ของ​พวกเรา​ ​คุณชาย​หลิว​อวิ​๋น​”​ ​เหมย​เหนียง​ระบาย​ยิ้ม​ให้​ทุกคน

​“​ขอ​คารวะ​คุณชาย​”​ ​ผู้ดูแล​ทุกคน​ต่าง​กุลีกุจอ​รีบ​ลุกขึ้น​ทำความเคารพ​ ​เพียงแต่​หว่าง​คิ้ว​กลับ​ไม่​แสดง​ความ​ยำเกรง​เลย​สักนิด​ ​เหมย​เหนียง​เอง​ก็​เห็นท่า​ทาง​ของ​คน​พวก​นั้น​จึง​มุ่น​คิ้ว​เล็กน้อย​ ​กำลัง​เปิดปาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​ทว่า​พอ​เห็น​มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​เบา​ๆ​ ​ถึง​ยอม​กลืน​คำพูด​นั้น​เก็บ​กลับ​ไป

​มู่​ชิง​อี​เดิน​ไป​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ตัวหลัก​ด้านหน้า​สุด​ ​ส่วน​เหมย​เหนียง​นั่งลง​ตรง​ทาง​ฝั่ง​ขวา​ของ​นาง​ ​ทว่า​อู๋​ซิน​กลับ​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​นาง​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​พลาง​กวาดตา​มอง​ทุกคน​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง

​ครั้น​เห็น​เช่นนั้น​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​ผงะ​ไป​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ ​“​คุณชาย​ ​นี่​คือ​…​”

​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​นี่​คือ​องครักษ์​ติดตาม​ตัว​ข้า​ ​ไม่ต้อง​สนใจ​หรอก​”

​ครั้น​เห็น​ว่า​อู๋​ซิน​ไม่ใช่​คน​หาเรื่อง​ด้วย​ง่ายๆ​ ​ทุกคน​พลัน​แอบ​กระสับกระส่าย​ใน​ใจ​ ​ชั่วขณะ​นี้​พวกเขา​เดา​ไม่​ออก​ว่า​ตกลง​แล้ว​เจ้านาย​ตัว​น้อย​ผู้​สุขุม​เยือกเย็น​ตรงหน้า​ผู้​นี้​เป็น​ใคร​กัน​แน่

​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่ได้​คิด​จะ​เกรงอกเกรงใจ​พวกเขา​แต่อย่างใด​ ​นาง​คว้า​สมุดบัญชี​เล่ม​หนึ่ง​ขึ้น​มาจาก​โต๊ะ​ด้าน​ข้าง​แล้ว​โยน​ลง​ตรงกลาง​โต๊ะ​พลัน​เอ่ย​ถาม​ ​“​ของ​ใคร​”

​ทุกคน​ต่าง​เงยหน้า​มอง​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​บุรุษ​รูปร่าง​ผอมแห้ง​ใบหน้า​ดู​ซื่อสัตย์​จริงใจ​อายุ​ราว​สี่​สิบ​กว่า​ปี​คน​หนึ่ง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​กล่าว​ ​“​รายงาน​คุณชาย​ ​ของ​ข้า​เอง​ ​ข้า​คือ​โจว​เฉิง​ผู้ดูแล​ร้านอาหาร​ขอรับ​”

​มู่​ชิง​อี​เงยหน้า​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เย็นชา​กล่าว​ ​“​กิจการ​ร้านอาหาร​ของ​ตระกูล​กู้​ครองตลาด​ใหญ่​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​ ​เจ้า​รับผิดชอบ​ร้านอาหาร​หก​แห่ง​ใน​ละแวก​เมืองหลวง​ ​ซึ่ง​หนึ่ง​ใน​นั้น​ยัง​รวมถึง​หอ​เย​่ว​์​หวา​ร้านอาหาร​ชั้นนำ​ใน​เมืองหลวง​ที่​รายได้​ทะลุ​เจ็ด​หมื่น​ชั่ง​ทุก​เดือน​ด้วย​ ​ไหน​ตอนนี้​เจ้า​บอก​ข้ามา​สิ​ ​เหตุใด​ตลอด​สี่​ปี​มานี​้​ใน​บัญชี​กลับ​เหลือ​เงิน​ไม่​ถึง​สาม​แสน​ชั่ง​ได้​เล่า​”

​โจว​เฉิง​เผย​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ ​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​รายงาน​คุณชาย​ ​ข้า​เอา​รายได้​จาก​กิจการ​ส่งมอบ​ให้​ผู้ดูแล​เหมย​ทุกปี​!​ ​ใน​สมุดบัญชี​ของ​ร้านอาหาร​ย่อม​ไม่มี​อยู่​แล้ว​”

​มู่​ชิง​อี​ยิ้มเยาะ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ใช่​ ​ผ่าน​ไป​สาม​ปี​ ​สาม​ปีก่อน​เจ้า​ส่งมอบ​ให้​ห้า​แสน​ชั่ง​ ​สอง​ปีก่อน​เจ้า​ส่ง​มาสาม​แสน​ห้า​หมื่น​ชั่ง​ ​ปีก่อน​เจ้า​ส่ง​มาส​อง​แสน​ชั่ง​ ​เหตุผล​เพราะ​…​กิจการ​ไม่ดี​?​”

​“​คือ​…​เวลานี้​ใน​เมืองหลวง​เอง​ก็​มี​ร้านอาหาร​ผุด​ขึ้น​เป็น​ดอกเห็ด​ ​เลย​ทำมาค้าขาย​ยาก​มาก​จริงๆ​”​ ​โจว​เฉิง​ยังคง​แถ​ไม่​เลิก

​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​ทำ​ธุรกิจ​ไม่​เป็น​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่ต้อง​ทำ​ ​ข้า​ค่อย​หา​คนอื่น​มารับ​ช่วงต่อ​ ​อีก​เรื่อง​…​ใน​บัญชี​ยัง​ขาดเงิน​ไป​อีก​หก​แสน​เจ็ด​หมื่น​สาม​พัน​สอง​ร้อยชั่ง​ ​เจ้า​ต้องหา​มาชด​ใช้​ให้​ครบ​ ​หาก​ขาด​ไป​แค่​ชั่ง​เดียว​…​พวกเรา​ก็​ไป​เจอกัน​ที่​ศาล​เถิด​”

​“​หก​…​หก​แสน​เจ็ด​หมื่น​สาม​พัน​สอง​ร้อยชั่ง​”​ ​โจว​เฉิง​หน้าซีด​ ​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​แค่นี้​เขา​จะ​ไปหา​เงิน​หก​แสน​เจ็ด​หมื่น​สาม​พัน​สอง​ร้อยชั่ง​มาจาก​ไหน​ ​และ​ยิ่ง​คิดไม่ถึง​ว่า​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ผู้​นี้​จะ​คำนวณ​เศษ​เงินได้​ชัดเจน​ครบถ้วน​ขนาด​นี้​ ​“​ไม่​!​ ​คุณชาย​ใส่ร้าย​ป้ายสี​กัน​แล้ว​…​ข้า​…​ข้า​จะ​ไป​มีเงิน​มากมาย​ขนาด​นั้น​ได้​เช่นไร​กัน​”

​มู่​ชิง​อี​ฉีก​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​อย่างนั้น​หรือ​ ​เช่นนั้น​จวน​หลัง​ใหญ่​ใน​เมืองหลวง​หลัง​นั้น​ ​รวมถึง​เรือน​สาม​แห่ง​นอกเมือง​ ​อีกทั้ง​ได้ยิน​มา​ว่า​อนุ​คนที​่​สี่​ของ​เจ้า​ก็​ใช้​เงิน​ซื้อ​มาตั​้ง​หนึ่ง​หมื่น​เจ็ด​พัน​ชั่ง​ ​ถ้า​ขาย​ๆ​ ​ทิ้ง​ไป​คง​พอ​หามา​ได้​สัก​แสน​กว่า​ชั่ง​กระมัง​ ​แล้วก็​ร้านค้า​ภายใต้​นาม​ของฮู​หยิน​เจ้า​หลาย​ร้าน​พวก​นั้น​ด้วย​…​โจว​เฉิง​ ​เจ้า​กำเริบเสิบสาน​นัก​!​”

​พอตบ​โต๊ะ​ ​หนุ่มน้อย​ที่​ดูเหมือน​ร่าง​เล็ก​ตัว​บาง​กลับ​แผ่​ความ​น่าเกรงขาม​ออกมา​ไม่น้อย​ ​ครั้น​เห็น​สีหน้า​ของ​หนุ่มน้อย​ตรงหน้า​เย็นชา​ดั่ง​น้ำแข็ง​ ​ทุกคน​ก็​ลอบ​ตื่นตระหนก​ใน​ใจ​ ​“​โจว​เฉิง​ ​เดิมที​เจ้า​เป็น​แค่​บัณฑิต​ตกอับ​ ​ยาจก​ที่​ยากจน​ข้นแค้น​ไม่มี​กิน​ ​ผู้ดูแล​ที่​รับผิดชอบ​กิจการ​ใน​เมืองหลวง​รุ่น​ก่อน​ช่วยเหลือ​เจ้า​เอาไว้​ ​บ่ม​เพาะเลี้ยง​ดู​เจ้า​จน​กลายเป็น​ผู้ดูแล​ร้านอาหาร​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ตอบแทน​ตระกูล​กู้​เช่นนี้​หรือ​ ​ตอนนี้​ข้า​จะ​บอก​เจ้า​ให้​ ​ในเมื่อ​ตระกูล​กู้​สามารถ​ชุบเลี้ยง​เจ้า​มา​ได้​ ​ตระกูล​กู้​เอง​ก็​สามารถ​เหยียบ​เจ้า​จน​จม​กอง​โคลน​ใหม่​ได้​เช่นกัน​!​”​

​โจว​เฉิง​ยัง​อยาก​ฮึด​สู้​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ ​“​ไม่​นะ​ ​คุณชาย​ใส่ร้าย​ข้า​แล้ว​ ​ข้า​เคารพ​ยกย่อง​ตระกูล​กู้​มาชั​่ว​ชีวิต​ ​แต่​สุดท้าย​กลับ​มี​จุดจบ​เช่นนี้​…​คุณชาย​ใส่ร้าย​ข้า​ ​ข้า​ไม่ยอม​!​ ​พวก​เจ้า​จะ​ไม่ยอม​ช่วย​ข้า​พูด​บ้าง​เลย​หรือ​ ​วันนี้​ข้ามี​จุดจบ​เช่นไร​ ​พรุ่งนี้​พวก​เจ้า​เอง​ก็​คง​ไม่​ต่างกัน​กับ​ข้า​หรอก​”

​บางคน​ที่นั่ง​อยู่​ก็​พลอย​หวั่นไหว​ตาม​ไป​ด้วย​ ​ชั่งใจ​ครู่หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ก็​มี​คน​เปิดปาก​เอ่ย​ ​“​คุณชาย​…​”

​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​มู่​ชิง​อีก​็​คลี่​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ผู้ดูแล​หวง​ ​เจ้า​อย่า​เพิ่ง​รีบ​เปิดปาก​พูด​เลย​ ​อีก​เดี๋ยว​ข้า​ยัง​ต้อง​สะสาง​บัญชี​กับ​เจ้า​!​”

​“​ผู้ดูแล​เฉิน​ ​ผู้ดูแล​หลิน​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เรียบ

​บุรุษ​วัยกลางคน​คน​หนึ่ง​และ​ผู้เฒ่า​อายุ​หกสิบ​ปี​คน​หนึ่ง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​เอ่ย​อย่างนอบน้อม​“​คุณชาย​”

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ตลอด​หลาย​ปีนี​้​พวก​เจ้า​สอง​คน​ลำบาก​ไม่น้อย​ ​นอกจาก​เงินเดือน​ของ​ปีนี​้​ ​ทุกคน​จะ​ได้​เพิ่ม​อีก​สอง​หมื่น​ชั่ง​ ​ส่วน​อีก​เรื่อง​ผู้ดูแล​หลิน​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​ท่าน​มีบุ​ตร​ชาย​ที่​มี​ความสามารถ​มาก​อยู่​คน​หนึ่ง​ ​หาก​สนใจ​เจ้า​ลอง​ชี้นำ​สอน​งาน​เขา​ดู​ ​หาก​มี​ความสามารถ​มาก​พอ​จะ​รับได้​ ​วันหน้า​ก็​ให้​มารับ​ช่วงต่อ​จาก​เจ้า​เถิด​”

​ครั้น​ได้ยิน​เช่นนั้น​ผู้ดูแล​หลิน​ก็​ยิ้ม​ร่า​ ​เขา​ยอม​ทำงาน​เหน็ดเหนื่อย​เพื่อ​กิจการ​ใน​มือ​มาชั​่ว​ชีวิต​ ​รวมถึง​ดูแล​กิจการ​ที่​ทำเงิน​ไม่น้อย​อีกด้วย​ ​แต่​เขา​กลับ​มีบุ​ตร​ชาย​ถึง​สอง​คน​ ​กิจการ​แค่นี้​คง​ไม่พอ​แบ่ง​แน่นอน​ ​หาก​ให้​บุตรชายคนโต​สืบทอด​มรดก​ตน​แล้ว​ให้​ลูก​คน​รอง​มารับ​ตำแหน่ง​ต่อ​จาก​เขา​ก็​ถือว่า​เป็นธรรม​ต่อ​บุตรชาย​ทั้งสอง​ของ​เขา​แล้ว

​“​ขอบคุณ​ความเมตตา​ของ​คุณชาย​มาก​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​ชี้นำ​สอน​งาน​บุตรชาย​ข้า​อย่างดี​ ​มิก​ล้า​ทรยศ​ต่อ​พระคุณ​นี้​ของ​คุณชาย​แน่นอน​”

​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​สื่อ​ว่า​ให้​อู๋​ซิน​มาป​ระ​คอง​ตัวผู้​เฒ่า​ลุกขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​ผู้ดูแล​เฉิน​อีก​ฝั่ง​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ผู้ดูแล​เฉิน​ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​ ​เจ้า​ยัง​อยาก​ก้าวหน้า​กว่านี​้​หรือไม่​เล่า​”

​ผู้ดูแล​เฉิน​ผงะ​ไป​แล้ว​รีบ​เอ่ย​ ​“​ข้า​ยินดี​เสียสละ​ยอม​ทำ​ทุกอย่าง​เพื่อ​คุณชาย​อยู่​แล้ว​ขอรับ​”

​“​ข้า​ไม่ได้​ต้องการ​ให้​เจ้า​เสียสละ​ทำ​ทุกอย่าง​ ​ขอ​แค่​พยายาม​อย่างเต็มที่​ก็​พอ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ต่อจากนี้​ไป​ ​กิจการ​ใน​มือ​ของ​โจว​เฉิง​ก็​มอบให้​เจ้า​จัดการ​ต่อ​แล้วกัน​”

​“​ขอรับ​ ​คุณชาย​”​ ​ผู้ดูแล​เฉิน​ดีใจ​ยกใหญ่​ ​เพราะ​เดิมที​กิจการ​ใน​มือ​ที่​โจว​เฉิง​ดูแล​มีมาก​กว่า​เขา​ถึง​สอง​สาม​เท่า​ ​ถึงแม้​โจว​เฉิง​จะ​ไม่ได้​เป็นเจ้าของ​ร้านอาหาร​เหล่านี้​แต่​เป็น​แค่​ผู้​ดำเนินกิจการ​เท่านั้น​ ​ทว่า​ก็​นับว่า​มีหน้ามีตา​ใน​แวดวง​ค้าขาย​ของ​เมืองหลวง​พอสมควร​แล้ว

​ครั้น​เห็น​มู่​ชิง​อีก​ล่าว​เสียงอ่อน​เสียงหวาน​ว่า​จะ​เอา​ทุกอย่าง​ของ​ตน​มอบให้​คนอื่น​ ​โจว​เฉิง​ก็​เผย​สีหน้า​เกรี้ยว​โกรธ​ ​“​คุณชาย​…​คุณชาย​ ​ข้า​ถูก​ใส่ความ​…​คุณชาย​โปรด​ตรวจสอบ​ให้​ชัดเจน​ที​เถิด​”

​“​ตรวจสอบ​ให้​ชัดเจน​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​เหมือน​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​หาก​เจ้า​บอก​ข้า​ได้​ว่า​…​เจ้า​ไป​เอา​เงิน​จาก​ไหน​มาซื​้อ​ตัว​อนุภรรยา​และ​ซื้อ​จวน​ซื้อ​เรือน​พวก​นั้น​ได้​ล่ะ​ก็​…​ข้า​อาจจะ​พิจารณา​เรื่อง​การ​ตรวจสอบ​ดู​”

​โจว​เฉิง​พูดไม่ออก​ ​เขา​จะ​พูด​ออกมา​ได้​เช่นไร​ ​เพราะ​เขา​เป็น​ผู้ดูแล​มานาน​ ​อีกทั้ง​มีเงิน​มหาศาล​ไหลผ่าน​มือ​ทุกวัน​แล้ว​จะ​ไม่​ให้​หวั่นไหว​ได้​อย่างไร​ ​ตอนแรก​เริ่ม​เขา​แค่​งุบงิบ​มา​เล็กน้อย​ ​ขอ​แค่​เขา​ระมัดระวัง​ตัว​หน่อย​ใคร​ก็​คง​ดู​ไม่​ออก​ ​ทว่า​ตอนหลัง​เขา​กลับ​โลภมาก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​จน​แม้แต่​ตัว​เขา​เอง​ก็​ยัง​หักห้ามใจ​ไม่อยู่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​หลาย​ปี​มานี​้​ไม่มี​เจ้านาย​คนใด​มาส​อด​ส่อง​ดูแล​สัก​คนเลย​ทำให้​เขา​ค่อยๆ​ ​ทำตาม​อำเภอใจ​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​กระทั่ง​บางที​ยัง​เผลอ​คิด​วิธี​จะ​ฮุบ​กิจการ​เหล่านี้​มา​เป็น​ของ​ตัวเอง​ด้วยซ้ำ