ตอนที่ 533 รวมกลุ่มรนหาที่ (1) / ตอนที่ 534 รวมกลุ่มรนหาที่ (2)
ตอนที่ 533 รวมกลุ่มรนหาที่ (1)
ฟ่านจิ่นพบตัวกงเฉิงเหล่ยอย่างรวดเร็วและคำตอบที่เขาได้รับทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาหนิงรุ่ยช่วยฟ่านฉีหายาบำรุงที่เหมาะสมให้ฟ่านจัวมาโดยตลอด และหนิงรุ่ยก็เดินเข้าออกห้องครัวของฟ่านฉีอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคิดถึงการคาดเดาของจวินอู๋เสีย แม้ว่าฟ่านจิ่นจะไม่ต้องการคิดอย่างนั้นแต่ตอนนี้เขาไม่คิดไม่ได้แล้ว
หนิงซินแอบลอบสังหารเขา ส่วนท่านพ่อของนางก็อาจเป็นคนร้ายที่วางยาฟ่านจัว
ฟ่านจิ่นตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขานึกไม่ถึงว่าคนสองคนที่เขาไว้ใจมาโดยตลอดจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อฆ่าเขากับฟ่านจัว
ฟ่านจิ่นนำเรื่องทั้งหมดไปบอกจวินอู๋เสียและฟ่านจัวด้วยใจที่ด้านชา หลังจากบอกเสร็จก็เดินจากไปทันที
เขาต้องการเวลาเพื่อมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“ครั้งนี้พี่ใหญ่น่าจะสะเทือนใจไม่น้อย” ฟ่านจัวถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นแผ่นหลังที่ผิดหวังของฟ่านจิ่น
ส่วนจวินอู๋เสียนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ในลานป่าไผ่ โดยมีใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะนั่งเคี้ยวต้นหญ้าอยู่ข้างๆ ขานางอย่างมีความสุข
“เมื่อถึงเวลาก็ต้องตื่นจากความฝัน” จวินอู๋เสียลูบเจ้าแมวดำตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของนาง
นิสัยของฟ่านจิ่นเป็นอย่างนี้เสมอ เพราะเขามองทุกอย่างในแง่ดีมาโดยตลอดจึงทำให้เขาเป็นคนที่อบอุ่นอย่างนั้น แม้ว่าข่าวลือของจวินอู๋เสียจะทำลายชื่อเสียงของเขาไปด้วย เขาก็เลือกที่จะปกป้องนางโดยที่ไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น
นิสัยแบบนี้ทั้งดีและก็ไม่ดี
ในยามที่สงบสุข คนแบบนี้มีค่าที่สุด แต่ในยามวิกฤต คนแบบนี้ก็เป็นคนที่ถูกกำจัดได้ง่ายที่สุดเช่นกัน
“พี่ใหญ่จะทำอย่างไรต่อไป นิสัยของท่านพ่อก็เหมือนกับเขา ถ้าท่านไม่เกิดความสงสัยด้วยตัวเองแม้ว่าข้ากับพี่ใหญ่จะพูดให้ท่านฟัง ท่านก็จะไม่สงสัยศิษย์น้องของท่าน” ฟ่านจัวนั่งลงในที่ร่ม เขารู้สึกจนปัญญากับนิสัยของสองพ่อลูกสกุลฟ่านจริงๆ ถ้ามิใช่เพราะนิสัยที่เชื่อคนง่ายของพวกเขา พวกเขาก็คงค้นพบแผนการของสองพ่อลูกตระกูลหนิงนานแล้ว
“คอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ ” จวินอู๋เสียไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งมากนัก
นางไม่ได้สนใจว่าสองพ่อลูกสกุลฟ่านจะทำอย่างไร นางแค่ต้องรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรก็พอแล้ว
ฟ่านจัวยิ้มเมื่อมองดูดวงอาทิตย์ตอนเที่ยง หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นมาก
เมื่อหนิงซินปรากฏตัวในลานป่าไผ่อีกครั้ง รอยยิ้มบนใบหน้าของฟ่านจัวยังคงเหมือนเดิม สายตาของเขาจับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังหนิงซิน
“พี่เสี่ยวจัว นี่คืออิ่นเหยียนจากสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ เดิมทีเขากับน้องเสียพักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน เขาไม่ได้เจอน้องเสียมานานจึงรู้สึกคิดถึง วันนี้ข้าจึงพาเขามาด้วย” หนิงซินยิ้มหวานเป็นพิเศษ หลังจากล้มเหลวครั้งนั้น นางก็ใช้เวลาสองวันในการฟื้นฟูก่อนที่จะมาลานป่าไผ่
ครั้งนี้นางพาอิ่นเหยียนมาด้วย จุดประสงค์ชัดเจนมาก
ฟ่านจัวพยักหน้าและยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่สีหน้าของอิ่นเหยียนกลับเย็นชามาก สายตาที่เขาใช้มอง ฟ่านจัวนั้นมีความไม่พอใจอยู่ในนั้น
การหมั้นหมายของหนิงซินและฟ่านจัวนั้นมีมานานแล้ว เรื่องนี้ก็กระจายในสำนักศึกษาเฟิงหัวมานานแล้ว แต่หนิงซินไม่ค่อยใกล้ชิดกับฟ่านจัว เรื่องหมั้นหมายนี้จึงค่อยๆ เงียบหายไปจนผู้คนต่างพากันลืมไปแล้ว อิ่นเหยียนชื่นชอบหนิงซินมานานและคิดจะเอาชนะใจนางให้ได้ แต่ตอนนี้เขากลับถูกนางพามาพบกับฟ่านจัว หัวใจของเขาหล่นวูบตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีจะให้เขายิ้มออกมาได้อย่างไร
เมื่อมองพินิจพิเคราะห์ฟ่านจัวแล้ว อิ่นเหยียนก็แอบเยาะเย้ยในใจ
เป็นบุตรชายของอาจารย์ใหญ่แล้วอย่างไร ก็แค่คนไร้ประโยชน์ที่กำลังก้าวเท้าเข้าไปในประตูแห่งความตายเท่านั้น คนที่กำลังจะตายแบบนี้ไม่คู่ควรกับหนิงซิน!
ในใจของเขาเยาะเย้ยฟ่านจัว สีหน้าของเขาก็มิได้แสดงความเคารพออกมามากนัก ท่าทางของเขาเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นฟ่านจัวอยู่ในสายตาเลย
ตอนที่ 534 รวมกลุ่มรนหาที่ (2)
ฟ่านจัวยังคงเป็นคนที่เป็นมิตรอยู่เสมอ เขาเชิญทั้งสองคนเข้าไปดื่มชาในลานป่าไผ่ราวกับว่าไม่เห็นท่าทีที่ไม่เคารพของอิ่นเหยียนเลย
หนิงซินนั่งอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่เห็นจวินอู๋เสีย นางจึงกล่าวถามด้วยความร้อนใจว่า “ทำไมไม่เห็นน้องเสียเลย”
ฟ่านจัวกล่าวว่า “คิดว่าเขาน่าจะอยู่ในห้องหนังสือ”
“น้องเสียชอบความสงบมาก น้องเหยียนอยู่กับน้องเสียมานานน่าจะคิดถึงนางใช่หรือไม่” หนิงซินมองอิ่นเหยียนด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของอิ่นเหยียนหยุดชะงักไปเล็กน้อย แม้ว่าในใจของเขาจะไม่เต็มใจแค่ไหน แต่เมื่อนึกถึงคำสั่งของหนิงซินก่อนมา เขาจึงต้องกล่าวตอบว่า
“ขอรับ”
เขากับจวินอู๋เสียไม่เคยอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน คืนแรกที่จวินอู๋เสียเข้าสำนักศึกษา อิ่นเหยียนก็ไม่กลับไปที่หอพักเลย และเมื่อเขากลับไป จวินอู๋เสียก็ได้ย้ายออกไปแล้ว
พูดได้ว่านอกจากการพบกันครั้งแรก อิ่นเหยียนก็ไม่เคยพบจวินอู๋เสียในหอพักอีกเลย
ฟ่านจัวแค่หัวเราะออกมาแต่มิได้ตอบอะไร
หนิงซินพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฟ่านจัวเรียกจวินอู๋เสียออกมา แต่ฟ่านจัวก็ทำเหมือนไม่เข้าใจ เขาพูดคุยเปลี่ยนเรื่องกับหนิงซินและอิ่นเหยียนไปเรื่อยๆ ด้วยรอยยิ้ม โดยที่ไม่พูดถึงจวินอู๋เสียแม้แต่คำเดียว
ทำให้หนิงซินร้อนใจเป็นอย่างมาก แต่นางก็ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
อิ่นเหยียนก็ทุกข์ใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเขาต้องมาดูหนิงซินพูดกับฟ่านจัวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ท่าทางสนิทสนม หัวใจของเขาแทบแตกสลาย
หลังจากผ่านไปสามถึงสี่ชั่วยาม จวินอู๋เสียจึงจะปรากฏตัว หนิงซินและอิ่นเหยียนก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที
“น้องเสีย” ทันทีที่หนิงซินเห็นจวินอู๋เสียนางก็ยิ้มออกมาทันทีแล้วแอบตบแขนอิ่นเหยียน สีหน้าของอิ่นเหยียนหยุดชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นจวินอู๋เสียสิ่งเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาคือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าประลองวิญญาณวันนั้น ปากของเขาเหมือนถูกปิดไว้ พูดอะไรไม่ออก
จวินอู๋เสียเหลือบมองหนิงซินเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้านข้าง ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่อยู่ด้านหลังก็เดินตามนางไป แต่เมื่อเห็นหนิงซินและอิ่นเหยียนร่างเล็กๆ ของมันก็หยุดลงทันที
มันจำชายหนุ่มคนนี้ได้ เจ้าคนที่รบกวนเวลาพักผ่อนของมันในวันนั้น
แบ๊ะ
ใต้เท้าเจ้านาย! ที่นี่มีคนร้าย
ใบหน้าของอิ่นเหยียนตึงเครียด เมื่อเห็นเจ้าแกะตัวน้อยจ้องมาที่เขาด้วยความโมโห มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย “นี่คือสัตว์วิญญาณที่น้องเสียนำกลับมาจากป่าประลองวิญญาณหรือ… น่ารักจริงๆ”
เพราะไม่สามารถชอบจวินอู๋เสียได้จริงๆ อิ่นเหยียนจึงพยายามหาเรื่องอื่นมาพูด
“ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ มานี่” จวินอู๋เสียไม่แม้แต่จะมองอิ่นเหยียน นางกวักมือเรียกใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็รีบวิ่งมาที่ข้างขาจวินอู๋เสียทันที จวินอู๋เสียอุ้มมันขึ้นมาแต่ดวงตาของมันก็ยังคงจ้องเขม็งไปที่อิ่นเหยียนด้วยความโมโห
คนชั่ว ต้องกิน
“เออ น้องเสียจะกลับหอพักเมื่อไหร่หรือ” อิ่นเหยียนเหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็ม เพราะเขายังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าประลองวิญญาณวันนั้นอยู่ ฉะนั้นตอนนี้เมื่ออยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสียเขาจึงไม่กล้าทำอะไร
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองอิ่นเหยียนที่อึดอัดมากแต่ก็พยายามแกล้งทำเป็นกระตือรือร้นแล้วกล่าวว่า
“เจ้าคือใคร”
เดิมทีสีหน้าของอิ่นเหยียนก็ไม่ดีอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ดีขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสีย
หนิงซินหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะนางไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะไม่รู้จักอิ่นเหยียน
เป็นไปได้อย่างไร
ครั้งที่แล้วที่จวินอู๋เสียไม่ชอบนางมิใช่เพราะอิ่นเหยียนหรือ แต่เพราะเหตุใดตอนนี้จวินอู๋เสียจึงดูเหมือนไม่รู้จักอิ่นเหยียนเลย
“น้องเสีย เจ้าจำอิ่นเหยียนไม่ได้หรือ เจ้ากับเขาพักอยู่ห้องเดียวกันอย่างไรเล่า” หนิงซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม แล้วสังเกตปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียอย่างระมัดระวัง