ฝั่งตรงข้ามแม่น้ําเพิ่งเฮยปาคือค่ายของทหารม้าคนเถื่อน
ลั่วปาหง ได้นั่งอยู่ในค่ายทหารใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อยหลังจากดูรายงานความเสียหายจากสนามรบที่ใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในการนับดู
มีผู้เสียชีวิตโดยตรงมากกว่า 550,000 คน ในการรบครั้งนี้
ยังมีบาดเจ็บเล็กน้อยและบาดเจ็บรุนแรงมากถึง 50,000 คน
นี่เทียบเท่ากับเขาสูญเสียทหารไป 600,000 นาย ในสนามรบ
ทหารม้า 1.2 ล้านนาย มาถึงเขื่อนเพิ่งเฮยปา ได้ไม่นาน กลับสูญเสียกองทัพไปมากกว่าครึ่งนึ่ง!
600,000!
นี่คือ จานวนครึ่งนึงของทหารม้าคนเถื่อนทั้งหมดที่เหลืออยู่ของเขา
มันช่างเจ็บปวด!
ช่างน่าเสียใจ!
ถัวปาหง รู้สึกเสียใจมากตอนนี้
ความเสียใจของเขาตอนนี้ คือ การสูญเสียทหารม้า 600,000 นายไป ความแข็งแกร่งของเขาได้ลดลงไปครึ่งนึงตอนนี้ทหารม้าในมือของเขาไม่สามารถข้ามแม่น้ําเฟิงเฮยปาไปโจมตีลู่เฟิงได้เลย
นี่ก็เท่ากับบอกว่าเขาแพ้!
ศึกนี้เขาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
เขาเสียใจที่ไม่ถอนทัพตั้งแต่แรกและได้แต่โทษตัวเอง
“หัวหน้า,ท่านที่ปรึกษาต้องการเข้าพบ”ทหารของลั่วปาหงได้มารายงาน
“ที่ปรึกษา?”
ลั่วปาหง ที่ได้ยินดังนั้น เขาก็ตะคอกออกมาอย่างเย็นชา”เขาคิดที่จะมาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยข้าหรือไม่?”
“ท่านผู้นําา ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นแม้แต่น้อย”ซิน ได้เดินเข้ามาและสั่งให้ทหาร ออกไป
ทหารทั้งหมดได้ออกไปทันที
“ผู้อาวุโส หากท่านคิดจะมาเยาะเย้ยข้าก็กลับไปเสีย”ถั่วปาหง ได้กล่าวอย่างเย็นชา”แม้ข้า ลั่วปาหง จะพ่ายแพ้ย่อยยับ แต่ข้ายังมีทหารอยู่ในมืออีกมากกว่า 600,000 นาย นี่ไม่ใช่กองกําลังที่ใครจะเทียบได้ง่าย ๆ”
จ๋ซินชู ได้มองไปที่ลั่วปาหง และถอนหายใจ”ท่านผู้นํา ท่านเองก็รู้ว่า พวกเรานิกายประตูฉางเหอไม่เคยแทรกแซงกิจการของชนเผ่าอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เผ่าของท่าน และเผ่าฮาร์เรล ตอนนี้เผ่าที่อยู่ใกล้ที่สุดกับอาณาจักรหนานหยาน นอกจากเผ่าลั่วปาของท่านก็คือเผ่าฮาร์เรล พวกเขาจะยกกําลังพลมาที่นี้มันก็สมเหตุสมผล ข้าไม่ต้องการการจะบอกสิ่งใดเป็นพิเศษ”
ลั่วปาหงได้เชิญให้อาวุโสคนนี้นั่ง ยังไงก็ตามอีกฝ่ายก็ยังเป็นถึงผู้อาวุโสของนิกายประตูฉางเหอ
เขาได้ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะพูดขึ้น”เรื่องที่ผู้อาวุโสพูดข้าเข้าใจดี”
ลั่วปาหงรู้ดีถึงสาเหตุที่ จ์ซินชู พูดกับตัวเองในลักษณะนี้ มันเป็นเพราะเขายังมีกองกําลังนับแสนอยู่ในมือทั้งยังเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการเอาชนะอาณาจักรหนานหยาน
ถ้าไม่ใช่ผู้อาวุโสนิกายประตูฉางเหอ เขาคงจะไม่มีวันพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ออกมา
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจู่ซินชู ในที่สุด ลั่วปาหงก็ยอมรับฟังเขา เขาได้พูดทันที”ท่านผู้นําถั่วปาไม่ต้องกังวลมากเกินไป ตราบใดที่กาลังเสริมของเรามา ถึงวันที่ลู่เฟิงจะถูกฆ่าก็อยู่ไม่ไกลแล้ว”
ลั่วปาหงได้ถอนหายใจออกมา แม้เขาจะไม่ชอบคนจากเผ่าฮาร์เรล แต่เขาก็เข้าใจว่าถ้าเผ่าฮาร์เรลไม่ช่วยเขา เขาจะต้องเดือดร้อนจริง ๆ
ตอนนี้ไม่ชอบยังไงก็ต้องชอบ
ถั่วปาหง ได้กล่าวถาม”ตอนนี้เผ่าฮาร์เรลอยู่ที่ใดแล้ว?”
“วันก่อนข้าได้รับข่าวจากพวกเขา พวกเขาได้ยกพลสองล้านและอยู่ห่างจากเป่ยกวนเพียงห้าวันตอนนี้น่าจะเหลือสามวันแล้วก่อนจะถึงเงียกวน ตราบใดที่พวกเขาข้ามแนวกั้นมาได้และมาเสริมทัพเราที่นี่ ทุกอย่างก็เป็นอันสมบูรณ์ทั้งหมด”จู่ซินชูได้ตอบกลับ
ถัวปาหง รู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยิน
แม้เขาจะไม่ชอบมัน แต่ความกดดันที่เผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ก็มากเช่นเดียวกัน หากเผ่าฮาร์เรลมาช่วยมันจะลดแรงกดดันของเขาได้มาก ครั้งต่อไป เขาจะให้เผ่าฮาร์เรลอยู่ทัพหน้าจากนั้นเขาก็สนับสนุนและพักฟื้นไปด้วยในตัว
“รายงาน…รายงานด่วนจากเบี้ยกวน!”
ในขณะนี้ได้มีเสียงตื่นตระหนกด้านนอกค่ายทหาร
“ข่ายงานด่วนจากเยกวน?”
เมื่อลั่วปาหงและซินชูได้ยินหัวใจของพวกเขาก็กระโดดเล็กน้อย
พวกเขารู้ว่าปราการด่านเงียกวน สําคัญอย่างไร ตอนนี้มีรายงานจากเบี้ยกวน มันเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเงียกวน?
“ให้มันเข้ามา!”ลั่วปาหง ได้กล่าวพูดอย่างกังวล
ทหารคนนั้นรีบเข้ามา
“รายงานท่านผู้นํา,ตอนนี้ เปยกวนตกอยู่ในเงื้อมมือของแม่ทัพหรานเหมินแห่ง อาณาจักรหนานหยาน เมื่อเช้านี้ ข้าน้อยได้รับข่าวและไม่กล้าที่จะรอช้ารีบ…”
“ไม่มีทาง!”
ลั่วปาหงได้ตะโกนขึ้นอย่างโกรธเคือง” ที่นั่นมีทหารชั้นยอดห้าพันนายและได้รับความช่วยเหลือจากพ่อมดเขาเป็นผู้ใช้อาคมระดับปฐพีขั้นสูง มีการวางอาคมป้องกันทั่วทั้งเงียกวน มันจะถูกยึดได้อย่างไร?”
“เจ้าจะต้องเป็นสายจาอาณาจักรหนานหยานและถูกส่งมาเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับกองทัพของข้าอย่างแน่นอน!”
“ลากมันออกไปตัดศีรษะซะ!”
“ท่านผู้นํา,ได้โปรดระงับโทสะ สิ่งที่ข้าน้อยพูดเป็นความจริง ไม่…ท่านผู้น่า…”
เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกลากออกไปจากเต็นท์ทหาร เพื่อนําไปตัดศีรษะ
“ลู่เฟิง,เจ้ามันชั่วร้ายจริง ๆ คิดใช้วิธีการเช่นนี้นั่นทอนจิตใจทหารของพวกเรา!”ลั่วปาหง ได้ส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา
จู่ซินชู ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและมองไปที่ ลั่วปาหง”ท่านผู้นําถั่วปา ข้าคิดว่าควรลองตรวจสอบดูว่าสิ่งที่นักรบคนนั้นพูดมาเป็นความจริงหรือไม่เราควรส่ง…”
“หุบปาก!”
ถั่วปาหงได้พูดขึ้น”ผู้อาวุโส ท่านคิดว่า ผู้ใช้อาคมระดับปฐพีขั้นสูงที่อยู่เฝ้าประตู ทิศเหนือจะมีอะไรเกิดขึ้นได้งั้นเหรอ?”
จ๋ซินชูได้สันศีรษะ”มันมีความเป็นไปได้น้อยมาก รูปแบบอาคมของพ่อมดนั้น ทรงพลังมากแม้แต่ข้ายังคงต้องใช้เวลาหากคิดจะจัดการดังนั้นมันไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีเขาอยู่คอยปกป้องปราการเมืองเป๋ยกวน!”
“ใช่!”
ลั่วปาหงได้หัวเราะออกมา”จะมีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วข้าจะส่งกองทัพไปทําไมถูกมั้ย?”
จูซินชูได้มองไปที่ถั่วปาหง และพูดอย่างเคร่งขรึม”อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นโอกาสหนึ่งในหมื่น แต่ข้าก็ไม่คิดว่าพวกเราควรประมาท เหมือนก่อนหน้านี้ ที่ลู่เฟิงล่อให้พวกเราไปติดกับ ผลสุดท้ายเป็นไง…”
จู่ซินชไม่ได้พูดจบ แต่ใบหน้าของถั่วปาหงก็จมลง ท้ายที่สุดนักรบหลายแสนคนของเขาก็ถูกฝังอยู่ในแม่น้ําเพิ่งเฮยปา
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่นึงก่อนที่จะพูดออกมา”ผู้อาวุโส มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ลู่เฟิงจะส่งกองทัพไปโจมตีปราการด่านเมืองเป๋ยกวนจริง ๆ ?”
“แม้จะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นก็ไม่ควรประมาท!”รู้ซินชูได้ตอบกลับ”ตอนนี้ เพิ่งเฮยปาไม่สามารถเริ่มสงครามได้ ทางที่ดีควรส่งทัพทหารม้าแสนนายไปที่เงียกวน เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ หากมีอะไรเกิดขึ้นจริง เราควรรีบเดินทัพกลับไปยึดเงียกวนคืน หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แค่ขจัดความคิดของลู่เฟิงไปเท่านั้น”
ลั่วปาหงได้ครุ่นคิดอยู่ครู่นึ่งและพยักหน้า เขาได้ส่งแม่ทัพไปน่าทัพแสนนาย และออกจากเฟิงเฮยปามุ่งหน้าไปยังเป๋ยกวน
เขาประสบความสูญเสียครั้งใหญ่กับแผนการของลู่เฟิง ตอนนี้ลั่วปาหงไม่กล้าที่จะประมาทอีก
กองทัพของถั่วปาหง เดินทัพอย่างรวดเร็วเพียงเที่ยงของวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็มาถึงไม่ไกลนอกเมืองเฮยเสียนแล้ว
ด้านหน้าคือเมืองเฮยเสียน
ห่างออกไปสิบไมล์ ฮั่วชูปิง ได้นําทัพทหารม้าห้าหมื่นนายมาดักรอที่นี่