บทที่ 237 ผลไม่เป็นตามที่คาด

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 237 ผลไม่เป็นตามที่คาด

สาวใช้พลันโดนสะบัดล้มลงพื้น เจ็บแทบตาย รีบคุกเข่าโขกศีรษะ “ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยเห็นจวินซื่อจื่อเข้าไปจริงๆ ขอฝ่าบาทโปรดสืบสวนด้วย”

“เจ้าใส่ร้ายจวินหย่วนโยวเช่นนี้ ผู้ใดบงการเจ้ากันแน่ หากไม่ตอบมาตามความจริง ข้าจะให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!” น้ำเสียงเด็ดขาดของโม่เหลิ่งเหยียนแฝงแววอำมหิต ทำคนฟังสะท้านเยือก

ฮองเฮาตกใจ พูดต่อด้วยน้ำเสียงดุดัน “ซวนอ๋องถามเจ้าอยู่นะ ตอบมาตามจริงซะ หากกล้าพูดปดแม้เพียงนิด ระวังครอบครัวเจ้าจะต้องตายตามเจ้าด้วย”

สาวใช้ประหวั่นพรั่นพรึง “ไม่มีใครบงการข้าน้อย ข้าน้อยเห็นกับตาตนเอง หากซวนอ๋องไม่เชื่อ ข้าน้อยยินดีตายเพื่อแสดงความบริสุทธิ์”

สาวใช้พูดพลางจะพุ่งชนเสาต้นข้างๆ

โม่เหลิ่งเหยียนถีบสาวใช้ที่จะพุ่งชนเสากระเด็นลอยไป “ต่อหน้าข้าเจ้ายังกล้าเสแสร้งแกล้งทำ หาเรื่องตาย ทหาร คุมตัวนางไว้!”

ฮองเฮาหวั่นใจนัก หากสาวใช้นี้ตาย ก็จะหาความจริงไม่ได้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะโดนซวนอ๋องจับตัวไว้ คราวนี้ลำบากละ

แต่ยังไงก็เป็นผู้ควบคุมวังหลวง สีหน้าฮองเฮาดูราบเรียบมั่นคง “ฝ่าบาท มิสู้คุมตัวสาวใช้ผู้นี้ไว้ก่อน ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลุกคนบนเตียงขึ้นมาก่อน ยังไงนั่นก็เป็นบุตรีของซ่างกวนเฉิงเซี่ยง”

ฮ่องเต้สีหน้าเย็นเยียบ ดวงตาดำขลับทะมึนปรายตามองสาวใช้ผู้นั้น ฉายแววอำมหิตกระหายเลือด “คุมตัวออกไป ข้าจะสืบสวนด้วยตัวเอง

ในห้อง โม่ฉือชิงเตะใส่ชายหญิงบนเตียงไปหลายครั้ง สารเลวน่าตายนัก กล้ามาใส่ร้ายจวินหย่วนโยว คิดทำลายความสัมพันธ์ของเขากับหยุนถิง หาเรื่องตาย

ทั้งสองคนที่หลับเป็นตายเหมือนหมูอยู่บนเตียงคล้ายรู้สึกถึงความเจ็บปวด ถึงเริ่มมีสติ

“เสด็จพี่ พวกเขาตื่นแล้ว!” โม่ฉือชิงรีบร้องเสียงดังทันที

ซ่างกวนหรูลืมตาขึ้น มองคนทั้งห้องแล้วกรี๊ดออกมา และดึงผ้าห่มมาปิดร่างตนเองไว้ทันที

“ฝ่าบาท ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่หม่อมฉันด้วย จวินซื่อจื่อบีบบังคับหม่อมฉัน ขอฝ่าบาทโปรดสืบสวนด้วย!” ซ่างกวนหรูฟ้องอย่างน่าสงสาร

โม่ฉือชิงมองนางอย่างเหยียดหยัน “ซ่างกวนหรูเจ้าตาบอดรึ อยากจะใส่ร้ายจวินหย่วนโยวก็ต้องมีหลักฐาน ขนาดบุรุษที่หลับนอนกับเจ้าเป็นใครยังไม่ดูให้ดี เจ้าอยากได้จวินหย่วนโยวจนบ้าไปแล้วรึ?”

คำพูดเดียวประหนึ่งไม้หน้าสามทุบลงไปที่หัวซ่างกวนหรูอย่างจัง ซ่างกวนหรูรีบหันไปมองบุรุษข้างกาย

พอเห็นใบหน้านั้นชัดเจน ซ่างกวนหรูอึ้งตาแตกเลย “เขาเป็นใครกัน?”

“เขาคือบุรุษที่พึ่งหลับนอนกับเจ้าเมื่อครู่ ซ่างกวนหรูเจ้าอย่าบอกว่าไม่รู้จักเขานะ เมื่อครู่ทุกคนเห็นกันชัดเจน พวกเจ้าสองคนเรือนร่างเปลือยเปล่านอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ผ้าปูเตียงยังมีรอยเลือดอยู่เลย” โม่ฉือชิงบอกอย่างหยันๆ

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นจวินซื่อจื่อแท้ๆ จวินซื่อจื่ออยู่กับข้า เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนอื่น ข้าถอดเสื้อผ้าจวินซื่อจื่อออกแล้วแท้ๆ เขานอนบนเตียงไม่ขยับตัวเลยสักนิด ข้า—“ ซ่างกวนหรูลุกรี้ลุกลน พูดจาไม่เป็นศัพท์แล้ว

พอคำนี้ออกมา ไม่ต่างอะไรกับสารภาพผิดเอง

ทุกคนได้ยินกันชัดเจนแจ่มแจ้ง โดยเฉพาะฮองเฮา ใบหน้าเต็มไปด้วยแววหยามหยันและผิดหวัง

ซ่างกวนเฉิงเซี่ยงที่อยู่ข้างๆเห็นดังนั้น พลันหมุนตัวไปตบหน้าซ่างกวนหรูฉาดใหญ่

“เพี๊ยะ!” เสียงตบหน้าดังสนั่น

ซ่างกวนหรูอึ้งตะลึง ได้สติขึ้นมาหน่อย

“หุบปาก ทำไมข้าถึงมีบุตรที่ไม่รู้จักยางอายเช่นเจ้านะ ยังขายหน้าไม่พอรึ รีบหุบปากซะ!” ซ่างกวนเจิ้นตะคอกดัง

ซ่างกวนหรูถึงได้สติว่าตนทำอะไรลงไป มองผู้ชายแปลกหน้าข้างตัว ทั้งอายทั้งแค้นยิ่งนัก ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้ได้ ทำไมถึงไม่ใช่จวินซื่อจื่อ นางถอดเสื้อผ้าจวินซื่อจื่อออกหมดแล้วแท้ๆ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

“เมื่อครู่คุณหนูซ่างกวนบอกว่านางถอดเสื้อผ้าจวินซื่อจื่อไป หม่อมฉันได้ยินชัดเจนนัก ตอนนี้บุรุษบนเตียงกลับเป็นผู้อื่น มิทราบว่าจวินซื่อจื่อไปที่ใดกันเล่า?” จี๋ผินพลันเอ่ยถามขึ้น

คนอื่นถึงได้สติ จริงด้วย ลือกันว่าจวินซื่อจื่อกระทำการบัดสีกับซ่างกวนหรู ตอนนี้กลับพลิกตาลปัตรเช่นนี้ เพียงแต่จวินซื่อจื่อหายไปไหนเล่า

“จี๋ผิน เวลานี้ท่านสนใจจวินหย่วนโยวทำไมกัน หรือว่าท่านก็มีใจให้เขาเช่นกัน?” ฟู่อี้เฉินพลันถามขึ้น

คำพูดเดียวทำจี๋ผินตกใจหน้าซีดเผือด หันมองฝ่าบาทซึ่งมีสีหน้าไม่น่าดูหนักขึ้น รีบอธิบายว่า “ฟู่ซื่อจื่อ ท่านอย่าใส่ร้ายข้านะ ในใจข้ามีแต่ฝ่าบาท ข้าเป็นสนมของฝ่าบาทนะ จะคิดถึงผู้อื่นได้อย่างไร”

“ก็ท่านถามเองมิใช่รึ ขาอยู่บนตัวของจวินหย่วนโยว เขาอยากไปที่ใดก็ย่อมได้ ท่านเป็นห่วงเขาเช่นนี้ ข้าก็สงสัยสิ ตอนนี้เป็นเรื่องของซ่างกวนหรู ท่านโยงไปถึงจวินหย่วนโยวทำไมกัน

จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงสองสามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว ท่านอย่ามายุแยงตะแคงรั่วสิ สิ่งสำคัญตอนนี้ มิใช่ลงโทษซ่างกวนหรูกับชายผู้นี้รึ กล้าทำเรื่องหน้าไม่อายเช่นนี้ในพระราชวัง ซ่างกวนเฉิงเซี่ยงช่างอบรมบุตรีได้ดียิ่งนัก” ฟู่อี้เฉินเยาะหยัน

จี๋ผินโดนย้อนจนพูดไม่ออก หันหาฮ่องเต้อย่างน่าสงสาร “ฝ่าบาท—“

“แค่กแค่ก!” ชายบนเตียงพลันไอออกมาสองคำ ทำลายบรรยากาศตึงเครียดนี่พอดี

เขาผู้นั้นลืมตาขึ้น พอเห็นภาพเบื้องหน้าก็ตกใจตะลึง “ทำไมคนเยอะอย่างนี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ซ่างกวนเจิ้นถลึงตาใส่อย่างเคียดแค้น “น่าตายนัก เจ้ายังมาถามว่าเรื่องอะไรกัน ความบริสุทธิ์ของบุตรีข้าโดนเจ้าทำลายป่นปี้แล้ว ไอ้สารเลวน่าตายนัก ใครบงการเจ้ากันแน่ หากเจ้ายังไม่พูดความจริงอีก ฝ่าบาทจะต้องจับเจ้าห้าม้าแยกร่างแน่”

เขาเหล่มองทุกคนในห้อง ล้วนแต่ใส่ชุดโบราณ และยังใบหน้าซีดเผือด ท่าทางหวาดกลัวของผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขา มีผ้าห่มคลุมตัว พอก้มหัวลงมองตัวเอง เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้า เขาตกใจ รีบคว้าผ้าคลุมเตียงมาพันตัว

“พวกคุณทำอะไรกันน่ะ ถ่ายละครหรอ?” เขาถาม

“ไอ้สารเลวน่าตาย เจ้ากล้าทำลายความบริสุทธิ์ของบุตรีข้า ยังมีหน้าทำมาไขสือ ขอฝ่าบาทโปรดให้ความเป็นธรรมแก่กระหม่อมด้วย กระหม่อมมีบุตรีแค่คนนี้คนเดียว แต่ไม่คิดเลยว่าจะโดนคนชั่วย่ำยี ฝ่าบท กระหม่อมไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว” ซ่างกวนเจิ้นทั้งเคียดแค้นและน้อยเนื้อต่ำใจ

คราวนี้ซ่างกวนหรูได้สติขึ้นมาเหมือนกัน แผนเดิมที่วางไว้คือ ให้ทุกคนมาเจอตนอยู่กับจวินหย่วนโยว จะได้ให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ ตอนนี้จวินหย่วนโยวหายไป บนเตียงยังมีผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ ต่อให้นางมีปากก็พูดไม่ถูกแล้ว

แต่นางไม่อยากแพ้ และพ่ายแพ้เช่นนี้ไป

“ฝ่าบาท ขอฝ่าบาทให้ความเป็นธรรมกับหม่อมฉันด้วย มันผู้นี้ข่มเหงหม่อมฉัน หม่อมฉันเป็นสตรีอ่อนแอเรี่ยวแรงน้อยนัก มิใช่คู่ต่อกรของเขาเลย ขอฝ่าบาททรงตัดสินด้วย!” ซ่างกวนหรูคร่ำครวญบอกอย่างน่าสงสารยิ่งนัก

ผู้ชายเองก็คุกเข่าลงพื้น “ขอฝ่าบาทคืนความบริสุทธิ์ให้ข้าด้วย ข้าโดนผู้หญิงคนนี้ล่อลวงยั่วยวน ข้ามิได้รักใคร่ไยดีนาง ขอฝ่าบาททรงตัดสินด้วย!”

น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ น่าสงสาร รังเกียจยิ่งนัก คำพูดเดียวทำเอาซ่างกวนหรูโกรธจนเป็นลมไปเลย