บทที่ 406 เจียฉิวฉิวหายไป

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 406 เจียฉิวฉิวหายไป

บทที่ 406 เจียฉิวฉิวหายไป

เรื่องที่เสี่ยวชิงตั้งครรภ์นั้น ฉู่ตงหลินกับเกาชิงหนานมองวับเดียวก็รู้แล้ว พลังการมองเห็นของพวกเขานั้นสามารถมองเห็นความจริงทุกอย่าง! แต่ฉู่เหินกลับไม่พูด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้คาดคั้น ตอนนี้หลังจากได้ฟังเรื่องราวที่ฉู่เหินเล่า ดวงตาของทั้งสองก็น้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง

พวกเขาไม่เพียงหาลูกชายเจอ ยังได้ลูกสะใภ้มาอีกคน ที่สำคัญอีกไม่นานพวกเขาก็จะได้อุ้มหลาน ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจนทำให้พวกเขาสองสามีภรรยารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

เกาชิงหนานประคองมือเสี่ยวชิงแล้วพูดคุยเรื่องที่บ้านเธอไม่หยุด ซึ่งที่จริงแล้วเธอกำลังใช้พลังดวงดาวในร่างกายตัวเองบำรุงครรภ์ให้กับเสี่ยวชิง! ตอนนี้เองที่เสี่ยวชิงรู้สึกสบายตัวมาก กระทั่งอาการเจ็บครรภ์จากที่ตั้งท้องก็หายไปหมดแล้ว! พอเห็นแบบนี้เธอจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเกาชิงหนานช่วยเหลือตัวเองอยู่!

เธอถึงรีบพูดอย่างกระดากอายว่า “ขอบคุณค่ะคุณแม่!” เมื่อได้ยินคำนั้น เกาชิงหนานจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วมองไปที่เสี่ยวชิง!

“เด็กโง่ เกรงใจฉันทำไมกัน จำเอาไว้ว่าคุณแม่ที่บ้านเธอเป็นแม่ ส่วนแม่ของสามีก็เป็นแม่ของเธอเหมือนกัน! พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อไปไม่ต้องเกรงใจแล้วนะ!” ขณะที่พูด ดวงตาเธอให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก!

ในตอนนี้เองอยู่ ๆ ฉู่เหินก็รู้สึกสะท้อนเฮือกจนต้องลุกขึ้นยืน! ทุกคนในห้องมองมาทางเขา ไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นอะไรไป

“เสี่ยวเหินเกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ฉู่ตงหลินถามอย่างสงสัย

“มันไม่ถูกต้อง กลับมาตั้งนานแล้ว ทำไมฉันไม่เห็นซ่างกวนเสี่ยวฟู๋กับเจียฉิวฉิวเลยล่ะ!” สิ้นเสียงนี้ เสี่ยวชิงก็เริ่มพยักหน้าอย่างสงสัยบ้างเหมือนกัน เมื่อกี้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายเลยไม่ทันได้ถาม ที่จริงเธอรู้สึกนานแล้วเหมือนกัน!

“พี่ชาย พี่สะใภ้ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋กับเจียฉิวฉิวล่ะ” ที่จริงแล้วทุกคนไม่ได้เดินออกไปไกลจากห้องรับแขกนัก กลับยืนอ้อกันอยู่ด้านทางเดิน! พอได้ยินฉู่เหินโพล่งถามออกมาต่างก็พากันถอนหายใจอย่างคาดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!

หลังได้ยินเสียงของฉู่เหิน ทุกคนที่ยืนรออยู่หน้าทางเดินก็ทยอยเข้ามา! ทว่าตอนนี้ทุกคนเดินเข้ามานั้นใบหน้าไม่ค่อยจะดีนัก เห็นอาการเงียบเชียบก็รู้ได้ว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!

พอเห็นแบบนั้นใบหน้าฉู่เหินก็เคร่งขรึม ไม่ต้องถามเขาก็รู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว อีกทั้งยังเป็นเรื่องของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋กับเจียฉิวฉิวอีกด้วย!

ไม่นานหวงเจี้ยนหมิงก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดเบาๆว่า “10 วันก่อนหน้านี้ จู่ ๆ ก็มีคนชุดดำเข้ามา ความสามารถของพวกเขาสูงมาก กระทั่งคนที่อยู่ที่นี่ทุกคนก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเขา ถ้าไม่ใช่ถอยกลับเข้ามาบริเวณบ้านตากอากาศนี่ เกรงว่าคงจะเป็นอันตรายกันหมด”

“แต่ว่าเรื่องที่น่าร้อนใจก็คือซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอพาเธอกลับไปรักษาที่บ้านแล้ว!” หลังพูดถึงตรงนี้หวงเจี้ยนหมิงก็รู้สึกหมดหนทาง ดวงตาเผยถึงความกลุ้มใจอย่างลึกซึ้ง!

พอฉู่เหินได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงพยายามสงบสติอารมณ์ ต่อมาก็วิเคราะห์ว่าเงียบ ๆ ว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร! ได้ยินพี่ชายบอกว่าเป็นคนชุดดำ อีกทั้งยังมีความสามาถสูงส่ง นี้ก็ไม่น่าจะใช่คนที่เจอระหว่างทางเหล่านั้น เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้มีพลังวรยุทธ์สูงขนาดนั้น ทว่าก็ยังไม่ได้กำจัดว่าพวกตระกูลบ้านนั้นจะมีเรื่องปิดบังอยู่หรือไม่

ถ้าเป็นคนที่มีความแค้นกับเขาบนท้องทะเล ก็มีเพียงหวังปาเทียนเท่านั้น แต่หวังปาเทียนไม่มีทางที่จะมาในตอนนั้นแน่! นอกจากคนเหล่านี้ยังจะมีใครอีก มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเหม่ยชิงแห่งเทียนซาน แต่ว่าพลังวรยุทธ์ของพวกเขาไม่ได้สูงขนาดนั้น ฉู่เหินคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ออก

“แตะต้องลูกสะใภ้บ้านฉู่ หรือว่าพวกมันเบื่อชีวิตตัวเองแล้ว” เกาชิงหนานระเบิดเสียงพร้อมทั้งลุกขึ้นยืน หลังจากนั้นก็หยิบหินสอบสวนขึ้นมาชิ้นหนึ่ง

ตระกูลฉู่แม้ว่าคนจะน้อย แต่พลังของคนในตระกูลนั้นไม่น้อย ถ้าคนในตระกูลเคลื่อนไหวขึ้นมาล่ะก็น่ากลัวว่าจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ขึ้นได้เลย! อย่างวันนี้ที่เกาชิงหนานต้องการจะทำคือใช้พลังอำนาจของบ้านฉู่เพื่อหาต้นตอของคนชุดดำเหล่านั้น

ด้วยพลังอำนาจของบ้านฉู่ ไม่ว่าจะบนบกหรือในมหาสมุทรก็มีไม่น้อยทั้งนั้น ถ้านำพลังทั้งเล็กและใหญ่มารวมกันเกรงว่าจะมีมากกว่าร้อยบ้าน! อย่างในวันนี้ที่เกาชิงหนานกำลังเคลื่อนไหวส่งผลให้ทั่วผืนดินสั่นคลอน!

ทันทีที่เกาชิงหนานส่งข่าวออกไป ผู้เฒ่าตระกูลฉู่เองก็ทำแบบเดียวกัน ด้วยวิธีนี้ก็มากเกินความคาดหมายแล้ว ถ้าบอกว่าเกาชิงหนานเพียงคนเดียวนั้นแสดงออกถึงตัวเองแล้วล่ะก็ งั้นผู้เฒ่าฉู่แห่งตระกูลฉู่ทำแบบนี้นั้นก็หมายถึงการแสดงท่าทีของคนทั้งตระกูลฉู่

ตระกูลฉู่ขึ้นชื่อที่สุดเรื่องการปกป้อง ตอนนี้มีคนกล้ารังแกคนในครอบครัวพวกเขา พวกเขาไม่มีทางไม่เอาผิดแน่! การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของตระกูลฉู่ส่งผลให้นิกายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างพากันตกใจ ทั้งยังกำชับกับลูกศิษย์ในนิกายว่าห้ามไปก่อเรื่องข้างนอก โดยเฉพาะกับตระกูลฉู่

ความโกรธของตระกูลฉู่นั้นไม่ใช่ประโยคล้อเล่น ขุมอำนาจต่าง ๆ รู้ดีว่าแม้ตระกูลฉู่จะคนน้อย แต่พวกเขามีวิธีการมากมายในการเอาคืน! ขุมอำนาจทั้งหลายเหล่านั้นเองก็ไม่กล้าไม่ไว้หน้ตระกูลฉู่ เพราะพวกเขารู้ว่าถ้าสู้กันขึ้นมาจริง ๆ ต่อให้พวกเขาจะทรงอำนาจมากแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะต่อสู้กับคนพวกนี้

ข่าวนี้ถูกส่งไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งนิกายกิเลนก็ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว ฉู่เหินเป็นคนของนิกายกิเลนตั้งแต่แรก และเป็นผู้สืบทอดอย่างลับ ๆ ของพวกเขา วันนี้กลับมีคนรังแกผู้หญิงของฉู่เหินแบบนี้ พวกเขาย่อมยอมไม่ได้!

หัวหน้านิกายกิเลนก็ออกคำสั่งไปอย่างไม่ลังเล ให้นิกายย่อยต่าง ๆ ของนิกายกิเลนออกตามหาเจียฉิวฉิว! หากเพียงเท่านี้ยังไม่ทำให้นิกายอื่น ๆ หวาดกลัวได้ แต่ต้องเข้าใจว่าในเมืองโบราณนั้นฉู่เหินได้ช่วยเหลือผู้คนไว้มาก

ในหนึ่งหมื่นคนมีเพียงส่วนน้อยที่ทอดทิ้งฉู่เหิน ยังมีอีกส่วนมากที่เหลืออยู่ ซึ่งที่เหลืออยู่ส่วนมากไม่มีพรรคไม่มีนิกาย แต่พวกเขาก็เป็นคนมีความสามารถ! เพื่อตอบแทนฉู่เหิน คนเหล่านี้ไม่ลังเลที่จะค้นหาผู้อาวุโสตัวเอง ทั้งยังติดต่อมายังฉู่เหินกันมากมาย

ที่พรรคสนใจมากที่สุดก็คือตอบแทนน้ำใจของคนอื่น ดังนั้นหลายพรรคจึงถือโอกาสนี้ตอบแทนน้ำใจกลับไป นี่จึงทำให้ขุมอำนาจแห่งท้องทะเลนับพันออกคำสั่งพร้อมกัน ด้วยวิธีนี้เรียกได้ว่าได้เกิดสั่นสะท้อนครั้งใหญ่ได้เลย

โจรปล้นพวกนั้นก็ไม่คิดว่าฉู่เหินจะใหญ่โตขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นพึ่งผ่านไปเพียง 2 วัน แต่ตระกูลและพรรคน้อยใหญ่ต่างก็เริ่มทยอยขายข่าวให้กับหมู่บ้านชาวประมง เป็นการบอกนัย ๆ ว่าเรื่องนี้ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังให้การช่วยเหลืออีกด้วย

วันที่สองฉู่เหินปิดตัวอยู่ในห้องตัวเอง ครุ่นคิดอย่างละเอียด จนเขาคิดออกอย่างหนึ่ง! หลังจากผ่านการวิเคราะห์สักพัก ชายหนุ่มก็คิดถึงจุดหนึ่ง ตอนที่เขาไปภูเขาเทียนซานมีกลุ่มผู้มีอำนาจลึกลับมุ่งเป้ามาที่ตน ตอนนั้นเขานึกว่าเป็นคนบนภูเขาเทียนซาน แต่ต่อมาเขาถึงได้รู้ว่าไม่ใช่คนของภูเขาเทียนซาน!

แม้ว่าเขาไม่รู้ว่ากลุ่มอำนาจนั้นเป็นอะไร แต่มีจุดหนึ่งที่คาดได้ว่าเป็นขุมอำนาจลึกลับกับชายชราที่ควบคุมสัตว์กลายพันธุ์หนีไปนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน!

ครั้งก่อนที่ไปสำรวจสุสานเขาก็เคยสัมผัมได้ถึงลมปราณคน ๆ นั้น เพียงแต่เจ้าหมอนั้นเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมากจึงหนีเขาไปได้ ดังนั้นจู่ ๆ ฉู่เหินก็นึกออกว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ไหมที่จะเกี่ยวข้องกัน หลังจากคิดถึงตรงนี้ดวงตาของฉู่เหินก็หรี่แคบลง!