ตอนที่ 300 องค์ชายเก้าผู้ที่ถนัดก่อเรื่องทำร้ายคนอื่นแต่กลับไม่มีผลดีอะไรกับตัวเอง (3)

หวนคืนชะตาแค้น

“​หนา​นก​งอ​วี​้​ ​เจ้า​รนหาที่​ตาย​!​”​ ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ตวาด​อย่าง​เกรี้ยว​โกรธ​ ​จากนั้น​ก็​ตวัด​แส้​อีกครั้ง

แส้​ยาว​เส้น​นั้น​ตวัด​ไปมา​อย่างไร​้​ทิศทาง​ ​เหล่า​ฝูงชน​ที่​แห่​มุง​ดู​อยู่​ใน​เดิมที​ต่าง​แตกตื่น​รีบ​ถอย​หลบ​ไป​ไกล​เพราะ​กลัว​ถูก​ลูกหลง​ไป​ด้วย​ ​แต่กลับ​คาดหวัง​ใน​ใจ​ลึก​ๆ​ ​ว่า​คุณชาย​หนา​นกง​จะ​จัดการ​สั่งสอนจ​วิ​้น​จู่​ผู้​นี้​แรง​ๆ​ ​ได้​สัก​ครา

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ที่​ยืน​อยู่​อีก​ฝั่ง​มอง​ฉาก​ตรงหน้า​พลาง​ขมวดคิ้ว​แน่น​ราวกับ​ไม่​นึก​ซาบซึ้ง​กับ​เรื่อง​ทุกอย่าง​ที่เกิด​ขึ้นกับ​ตน​เลย​สักนิด​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​ปัด​แขน​เสื้อ​ก่อน​หมุนตัว​เดิน​จากไป​ทาง​ถนน​อีก​ฝั่ง

“​เจ้า​หยุด​เดี๋ยวนี้​นะ​!​”​ ​ครั้น​เห็น​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ทำท่า​จะ​จากไป​ ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​จึง​ไม่มี​กะ​จิต​กะ​ใจมา​ทะเลาะ​กับ​หนา​นก​งอ​วี​้​อีก​พลัน​ร้องเรียก​เขา​เสียง​สูง​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​ที่​อีก​ฝ่าย​ไม่​คิด​สนใจ​นาง​เลย​แม้แต่น้อย​ ​เงา​ร่าง​สีขาว​ค่อยๆ​ ​เดิน​ลับ​จาก​มุมถนน​ไป

“​หนา​นก​งอ​วี​้​ ​เจ้า​รอ​ข้า​ก่อน​เถอะ​!​”​ ​พอ​เห็น​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เดิน​หาย​ไป​ไม่เห็น​เงา​แล้ว​ ​ผิง​หนานจ​วิ​้น​จู่​ก็​กำ​แส้​ชี้​ไป​ทาง​หนา​นก​งอ​วี​้​พลาง​เอ่ย​เสียง​โกรธแค้น

หนา​นก​งอ​วี​้​เลิก​คิ้ว​ถาม​ ​“​ไม่มีปัญหา​ ​ข้า​รอ​ได้​อยู่​แล้ว​ ​แต่จ​วิ​้น​จู่​…​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​ใกล้​จะ​อภิเษก​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​ต้อง​ส่ง​ของขวัญ​ชิ้น​โต​ให้ท่าน​แน่นอน​ ​ยินดี​กับจ​วิ​้น​จู่​ด้วย​…​ในที่สุด​ก็​มี​คน​เอา​สักที​”

“​ข้า​ไม่​อภิเษก​กับ​คน​ไร้ประโยชน์​พรรค์​นั้น​เด็ดขาด​!​”​ ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​กัดฟัน​พลาง​จับจ้อง​หนา​นก​งอ​วี​้​ตาเขม​็ง​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ไม่สน​ใจ​ม้า​อีกต่อไป​แล้ว​รีบ​วิ่งไล่​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เดิน​จากไป​ทันที

หนา​นก​งอ​วี​้​มอง​ม้า​รูปงาม​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง​ไว้​ข้างทาง​พลาง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​เอ่ย​ว่า​ ​“​นับว่า​เป็น​ม้า​ที่​ไม่เลว​ ​ช่าง​ไม่รู้​จักรั​กษา​ของ​เอา​เสีย​เลย​ ​ขาย​แล้วยัง​แลก​เงิน​ตำลึง​มาชด​ใช้ได้​”​ ​ขณะที่​พูด​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​ลูบคลำ​หาเงิน​ตำลึง​ออกมา​สอง​อัน​ก่อน​โยน​ให้​ทุกคน​รอบกาย​แล้ว​กล่าว​ ​“​เอา​ไป​แบ่ง​กัน​เถิด​ ​ถือว่า​เป็น​ค่า​ชดใช้​ให้​แล้วกัน​”

“​หนา​นกง​ ​นี่​ท่าน​?​”​ ​ยาม​ที่​มู่​ชิง​อี​เดิน​ออกมา​ก็​เห็น​หนา​นก​งอ​วี​้​จูง​ม้า​ตัว​นั้น​ของ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​มาร​ออยู​่​ตรงหน้า​ประตู​ก่อน​แล้ว​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ม้า​ชั้นดี​เชียว​ ​ในเมื่อ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ไม่เอา​แล้ว​ ​ข้า​เลย​จะ​ทำ​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​เอา​มัน​ไป​ขาย​เสีย​ ​ประจวบ​กับ​ไม่​กี่​วันก่อน​ข้า​ถูกใจ​ม้า​ขาว​ตัว​หนึ่ง​เข้า​แต่​ยัง​ขาดเงิน​ตำลึง​อยู่​พอดี​”

มู่​ชิง​อี​หันไป​มอง​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เป็น​ม้า​ชั้นดี​จริงๆ​”​ ​ถึงแม้​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​จะ​เป็น​หลานสาว​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​แต่​ด้วย​สถานะ​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​แล้ว​กลับ​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกรงกลัว​นาง​เลย​สักนิด​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่ได้​รักใคร่​บุตรชาย​บุตรสาว​อะไร​มาก​นัก​และ​ยิ่ง​ไม่ได้​ให้ความสนใจ​หลานชาย​หลานสาว​เข้าไป​ใหญ่​ ​มิเช่นนั้น​คง​ไม่​ให้​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​อภิเษก​กับ​มู่​หร​งอ​วี​้​ตามอำเภอใจ​เช่นนี้

ครั้น​ได้ยิน​มู่​ชิง​อีก​ล่าว​เช่นนั้น​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​อด​ดวงตา​เป็นประกาย​ไม่ได้​ ​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​หลิว​อวิ​๋น​ชำนาญ​เรื่อง​ม้า​ด้วย​หรือ​”

มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​อย่าง​ระอา​ใจ​ ​“​คง​กล่าวว่า​ชำนาญ​มิได้​ ​ข้า​รู้​แค่​ผิวเผิน​เท่านั้น​”

หนา​นก​งอ​วี​้​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​รู้​แค่​ผิวเผิน​ก็​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว​ ​พอดี​เลย​หลิว​อวิ​๋น​สนใจ​จะ​ไปดู​ม้า​พัน​ลี้​ชั้นยอด​ที่​หายาก​ใน​ใต้​หล้า​นี้​หน่อย​ไหม​เล่า​”

ถึงแม้​มู่​ชิง​อี​จะ​สนใจ​เรื่อง​ม้า​แต่กลับ​ไม่​มาก​นัก​ ​ทว่า​ครั้น​เห็นท่า​ที​ตื่นเต้น​กระตือรือร้น​เช่นนี้​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​แล้ว​กลับ​ทำให้​นาง​ไม่​อยาก​ปฏิเสธ​คำขอ​ของ​เขา​เลย​ตาม​ไป​ด้วย​

เรื่อง​ที่​หนา​นก​งอ​วี​้​บอกว่า​จะ​เอา​ม้า​ของ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ไป​ขาย​กลับ​ไม่ใช่​เรื่อง​ล้อเล่น​แต่อย่างใด​ ​เพราะ​เขา​จูง​ม้า​ไป​ตลาด​ม้า​ที่อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​เมือง​แล้ว​ขาย​ทิ้ง​ใน​ราคา​สอง​พัน​ตำลึง​ ​จากนั้น​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​ถือ​ตั๋วเงิน​ที่​เพิ่ง​ได้รับ​มา​เมื่อ​ครู่​พลาง​ถอนหายใจ​อย่าง​ท้อแท้

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​มอง​อย่างแปลกใจ​ ​“​หนา​นกง​เป็นอัน​ใด​ไป​หรือ​ ​ขาย​ได้ราคา​ต่ำ​ไป​หรือ​”​ ​ถึงแม้​มู่​ชิง​อี​จะ​ไม่รู้​ราคา​ม้า​ ​แต่​ราคา​สอง​พัน​ตำลึง​ก็​คง​ไม่​ถือว่า​น้อย​แล้ว​กระมัง​ ​ในเมื่อ​ม้า​ตัว​นี้​ก็​แค่​ถือว่า​พอใช้ได้​เท่านั้น

หนา​นก​งอ​วี​้​ถอนหายใจ​ ​“​ม้า​สีขาว​แพง​เกินไป​ ​ลำพัง​แค่​สอง​พัน​ตำลึง​ใช่​ว่า​จะ​รวบรวม​เงินได้​ครบ​ ​ช่างเถิด​ ​ถ้า​ซื้อ​ไม่ได้​แต่​พวกเรา​ได้​ไปดู​สักหน่อย​ก็​ยังดี​ ​หาก​ผ่าน​วันนี้​ไป​คง​ถูก​คนอื่น​ซื้อ​ไป​แล้ว​แน่​”

จากนั้น​ก็​แบ่ง​ตั๋วเงิน​ใน​มือ​แผ่น​หนึ่ง​ให้​มู่​ชิง​อี​ ​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ถึงอย่างไร​ก็​ซื้อ​ไม่ได้​อยู่​แล้ว​ ​ผู้​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ย่อม​มีส่วน​แบ่ง​ด้วย​”

มู่​ชิง​อี​รับ​ตั๋วเงิน​มูลค่า​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​มา​หนึ่ง​ใบ​อย่าง​หมด​คำพูด​ ​นาง​คิด​ว่านาง​พอ​จะเข้า​ใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​คุณชาย​ของ​แม่ทัพ​ใหญ่​ที่​น่าเกรงขาม​หรือ​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​องค์​ชาย​สอง​อย่าง​หนา​นก​งอ​วี​้​ผู้​นี้​จะ​ซื้อ​ม้า​สัก​ตัว​ถึง​ไม่มี​เงิน​ใน​กระเป๋า​จน​ต้อง​ลำบากใจ​เช่นนี้

หนา​นก​งอ​วี​้​ลาก​มู่​ชิง​อี​เบียดเสียด​เข้ามา​ตรงจุด​หนึ่ง​ด้านใน​สุด​ของ​สนามม้า​ ​คนตรง​นี้​ไม่ได้​พลุกพล่าน​อย่าง​ด้านนอก​ ​ขณะเดียวกัน​ท่าทาง​คน​พวก​นี้​เอง​ก็​ดู​สถานะ​ไม่ธรรมดา​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​หนา​นก​งอ​วี​้​เป็น​ลูกค้า​ขาประจำ​ที่นี่​ ​เพราะ​ทันทีที่​เข้ามา​ก็​มี​คน​ทักทาย​เขา​แล้ว​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​รีบ​ทักทาย​กลับ​แล้ว​เปิดปาก​ถาม​โต้งๆ​ ​ว่า​ ​“​ม้า​ตัว​สีขาว​เล่า​”

คนที​่​ขานตอบ​ผู้​นั้น​ชี้นิ้ว​ไป​ทาง​ด้านใน​กล่าว​ ​“​อยู่​ด้านใน​ ​แต่​มี​คน​ไม่น้อย​เลย​ที่​ถูกใจ​มัน​ ​หาก​คุณชาย​สอง​ไม่​รีบ​หน่อย​อาจจะ​ไม่ทันการ​”

หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้มแห้ง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​แต่​หาก​ไม่มี​เงิน​ก็​เปล่าประโยชน์​เช่นกัน

จากนั้น​ก็​เห็น​ม้า​รูปงาม​สีขาว​ดั่ง​หิมะ​ท่ามกลาง​ฝูง​ม้า​ซึ่ง​ถูก​ขัง​อยู่​ใน​คอก​จาก​มุม​ที่​ไม่​ไกล​นัก​ ​เพียงแต่​แวบ​แรก​ที่​เห็น​ก็​ชวน​ให้​รู้สึก​ว่า​เป็น​ม้า​ชั้นดี​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​ ​เจ้า​ม้า​ตัว​นั้น​เดิน​วน​ไป​วน​มา​อยู่​ใน​คอก​อย่าง​หงุดหงิด​ซึ่ง​เห็นได้ชัด​ว่า​อารมณ์ไม่ดี​นัก​ ​อีกทั้ง​ยังฟึด​ฟัด​ใส่​เหล่า​ผู้ชม​ที่​มุง​ดู​มัน​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ด้วย

หนา​นก​งอ​วี​้​มอง​ม้า​สีขาว​ราว​หิมะ​ตัว​นั้น​ด้วย​แววตา​ร้อนรุ่ม​ ​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​ช่าง​เป็น​ม้า​ชั้นดี​ที่​ใน​หมื่น​ลี้​จะ​หา​ได้​สัก​ตัวจริง​ๆ​”

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​เหมือน​ม้า​ตัว​นี้​…​จะ​พยศ​ไม่เบา​”

หนา​นก​งอ​วี​้​เอ่ย​ ​“​นิสัย​พยศ​หน่อย​สิ​ดี​ ​เจ้า​ม้า​ขาว​ตัว​นี้​เป็น​ม้า​ใน​ป่า​ ​ว่า​กัน​ว่า​ตอนแรก​เพื่อ​จะ​จับ​มัน​ทำเอา​บาดเจ็บ​ไป​หลาย​สิบ​คนเลย​ ​ถ้า​ลงสนาม​ศึก​คง​…​”

มู่​ชิ​อี​ลูบ​จมูก​เบา​ๆ​ ​แต่​ไม่​พูด​อะไร​ ​เพียง​คิดในใจ​ ​ท่าน​ไม่​กลัว​ว่า​ถ้า​ลงสนาม​ศึก​แล้ว​มัน​จะ​ไม่​สร้าง​หายนะ​ให้ท่า​นบ​้าง​หรือ

“​ช่าง​เป็น​ม้า​ชั้นดี​จริงๆ​ ​ม้ามี​ความสามารถ​เช่นนี้​…​ราคา​หนึ่ง​หมื่น​ห้า​พัน​ตำลึง​ถือว่า​ไม่​แพง​เลย​”​ ​บุรุษ​บุคลิก​งามสง่า​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เปิดปาก​เอ่ย​ชื่นชม

ส่วน​อีก​คน​ด้าน​ข้าง​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​ไม่พอ​ ​ม้า​ชั้นดี​เช่นนี้​สาม​หมื่น​ตำลึง​ก็​ยัง​ถือว่า​คุ้มค่า​”

ครั้น​ได้ยิน​บทสนทนา​ระหว่าง​ทั้งคู่​ ​หนา​งก​งอ​วี​้​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​พลัน​เผย​สีหน้า​ถมึงทึง​ขึ้น​มา​ในทันที​ ​อย่า​ว่าแต่​สาม​หมื่น​ตำลึง​เลย​ ​เพราะ​แม้แต่​หนึ่ง​หมื่น​ห้า​พัน​ตำลึง​เขา​ก็​ไม่มี​ ​คน​พวก​นี้​ซื้อ​ม้า​ก็​เพื่อ​สร้าง​หน้า​สร้าง​ตา​โดย​ไร้​ซึ่ง​ความรู้​เรื่อง​ม้า​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ในทางกลับกัน​เพราะ​พวกเขา​เลย​ทำให้​ราคา​สูง​ขึ้น​อย่างไร​้​เหตุผล​ ​เกลียด​คน​พวก​นี้​เสีย​จริง​!

“​สหาย​เหอ​หมายความว่า​งานฉลอง​วันเกิด​ของ​ท่าน​พ่อ​ตรง​กับ​เดือน​หน้า​พอดี​ ​หาก​เอา​ม้า​รูปงาม​เช่นนี้​มา​เป็น​ของขวัญ​คง​ดู​มีหน้ามีตา​ไม่น้อย​”

“​ข้า​เอง​ก็​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​เอา​ม้า​ตัว​นี้​มอบให้​พ่อตา​เช่นกัน​”

ครั้น​เห็น​สีหน้า​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​ย่ำแย่​ลง​เรื่อยๆ​ ​มู่​ชิง​อีก​็​แอบ​หัวเราะ​เสียง​เบา​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​หยุด​อยู่​ข้าง​กาย​หนา​นก​งอ​วี​้​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​หนา​นกง​ ​ม้า​ตัว​นี้​สำคัญ​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”

หนา​นก​งอ​วี​้​ถอนหายใจ​อย่าง​จนใจ​ ​“​เงิน​หาง​่าย​ ​แต่​ม้า​ชั้นดี​ยาก​ที่จะ​ไขว่คว้า​มา​ได้​ ​มี​ใคร​ที่เกิด​มา​ใน​ตระกูล​นักรบ​แล้ว​ไม่​อยากได้​ม้า​พันธุ์ดี​หายาก​มา​เป็น​คู่หู​ใน​สนาม​ศึก​บ้าง​เล่า​”

มู่​ชิง​อี​มุ่น​คิ้ว​ขบคิด​ ​จากนั้น​ก็​ดึง​เอา​ตั๋วเงิน​ปึก​หนึ่ง​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ยัด​ใส่​ใน​มือ​เขา​เอ่ย​ ​“​ให้​เจ้า​ยืม​”

“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ชะงัก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​มอง​ปึก​ตั๋วเงิน​ใน​มือ​แวบ​หนึ่ง​ ​ทุก​ใบ​ล้วน​เป็น​ตั๋วเงิน​มูลค่า​ห้า​พัน​ตำลึง​ซึ่ง​มีทั​้ง​หมด​ห้า​ใบ​ ​นอกจากนี้​ยัง​มีตั​๋ว​เงิน​ที่​ตน​เพิ่ง​แบ่ง​ให้​เขา​เมื่อ​ครู่​ด้วย​ ​ทั้งหมด​เป็น​เงิน​สอง​หมื่น​หก​พัน​ตำลึง

“​นี่​…​หลิว​อวิ​๋น​”​ ​แม้แต่​คน​ใจกว้าง​เริงร่า​อย่าง​หนา​นก​งอ​วี​้​ยัง​อด​ผงะ​ไป​ไม่ได้​ ​สอง​หมื่น​กว่า​ตำลึง​ไม่​ใช้​เงิน​จำนวน​น้อย​ๆ​ ​เลย​ ​วัน​แรก​ที่​พวกเขา​รู้จัก​กัน​หลิว​อวิ​๋​นก​็​ให้​เขา​ยืม​เงิน​มาก​ขนาด​นี้​แล้ว​หรือ

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​หนา​นก​งบ​อก​ว่า​เรา​มี​วาสนา​ต่อกัน​มิใช่​หรือ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เจ้า​ก็​เพิ่ง​แบ่ง​ตั๋วเงิน​ให้​ข้า​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​เพื่อน​กัน​ย่อม​ต้อง​ช่วยเหลือ​หยิบยืม​กัน​ใน​ยาม​ทุกข์ยาก​มิใช่​หรือ​ ​อีก​อย่าง​ใช่​ว่า​เจ้า​จะ​ไม่​คืน​ข้า​สักหน่อย​ ​ข้า​ยัง​ต้อง​กลัว​ว่า​จวน​แม่ทัพ​ใหญ่​ผู้​น่าเกรงขาม​จะ​หนี​ไป​ไหน​ได้​อีก​หรือ​”