ตอนที่ 218 ท่านพ่ออะไร
ตอนที่ 218 ท่านพ่ออะไร
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก ก่อนจะพยักหน้า “เจ้าอยากให้ข้าช่วยใคร?”
“ท่านแม่ของข้า”
“ไท่จื่อเฟย?” อวี้ชิงลั่วตกตะลึง ก่อนจะหันไปมองเย่ซิวตู๋อย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายกลับอยู่ในท่าทางเรียบเฉย ราวกับว่ามิได้รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย
อวี้ชิงลั่วจึงทราบได้ว่า เย่ซิวตู๋ต้องรู้อะไรบางอย่างเป็นแน่
ก็ถูก เย่ซิวตู๋มีหูมีตาอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ไม่น้อย หากจะสืบเรื่องเหล่านั้นภายในตำหนักรัชทายาท ย่อมเป็นเรื่องง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
เพียงแต่เมื่อสองสามวันก่อนนางเห็นไท่จื่อเฟยยังปกติดีอยู่เลย ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าไท่จื่อเฟยสู้จ้าวผิงผู้นั้นไม่ได้ เลยแพ้อีกฝ่ายไปแล้ว?
ไม่ถูกสิ ไท่จื่อเฟยเป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง แม้ว่าจ้าวผิงจะได้รับความโปรดปรานและการปกป้องจากรัชทายาท แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไท่จื่อเฟยอยู่ดี
อวี้ชิงลั่วครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ข้างหูของนางมีเสียงของหนานหนานที่ยังคงไม่เข้าใจดังขึ้น “เสี่ยวเฉิงเฉิง แม่ของเจ้าเป็นอะไรรึ? เกิดอะไรขึ้นกับนาง?”
“ข้า…ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ถึงอย่างไรเย่หลานเฉิงก็เป็นแค่เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบ เขารู้ว่าเกิดเรื่องกับแม่ของตนเอง และอดทนมาได้ถึงตอนนี้ก็นับว่าแตะขีดจำกัดแล้ว ข้างกายเขายังมีหนานหนาน ‘หนุ่มน้อยผู้อบอุ่น’ ที่ถามไถ่อย่างเอาใจใส่ สุดท้ายก็ทำให้อารมณ์ของเขาระเบิดออก ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
“เมื่อครู่ตอนที่ข้ารอท่านอาแปดและหนานหนานอยู่ในห้องชั้นสอง จู่ ๆ ข้าก็เห็นหัวหน้าคนรับใช้เดินเข้ามา บอกว่าจะพาข้าไปเจอท่านพ่อ แต่ตอนที่ข้าเดินไปถึง ท่านพ่อกลับพุ่งตัวลงไปจับตัวเวยเยวี่ยนโหวชั้นล่างแล้ว ข้าคิดว่าครั้งนี้คงไม่ได้เจอกับท่านพ่อแล้ว จึงอยากฝากพ่อบ้านให้ช่วยไปบอกท่านแม่ว่าข้าสบายดี ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของข้า แต่…แต่หัวหน้าคนรับใช้กลับบอกข้าว่า ตอนนี้ท่านแม่ยังนอนอยู่บนเตียง ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะเยียวยาได้”
อวี้ชิงลั่วเบิกตาโตทันที ไท่จื่อเฟย…บาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะเยียวยา?
เป็นไปได้อย่างไรกัน? ในเมื่อไท่จื่อเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุใดถึงไม่มีข่าวคราวแม้แต่น้อย ต่อให้รัชทายาทไม่โปรดปรานมากกว่านี้ ในเมื่อไท่จื่อเฟยอาการหนักขนาดนั้นก็ควรจะพาหมอหลวงไปดูอาการถึงจะถูก
ระหว่างที่เย่หลานเฉินพูดก็ยิ่งเศร้าโศก หนานหนานจึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขาผืนหนึ่ง พร้อมกับยกมือตบบ่าอีกฝ่ายอย่างรู้งาน กล่าวปลอบใจเสียงเบาว่า “เสี่ยวเฉิงเฉิง เจ้าค่อย ๆ พูดนะ…มา…ดื่มน้ำก่อน”
เย่หลานเฉิงส่ายหน้า ปาดน้ำตาและพูดต่อไปว่า “พ่อบ้านบอกว่า เรื่องนี้ด้านนอกยังไม่มีใครรู้ ท่านพ่อไม่ให้คนที่อยู่ในตำหนักแพร่งพรายออกไป พ่อบ้านเป็นคนดี จึงนำเรื่องนี้มาบอกข้าเป็นการส่วนตัว บอกว่าท่านแม่คิดถึงข้ามาก และอยากให้ข้าคิดหาวิธีกลับไปที่ตำหนักรัชทายาท…เพื่อเจอหน้าท่านแม่เป็นครั้งสุดท้าย”
“เพียงแต่ ข้าไม่ได้กลับตำหนักรัชทายาทมาสองปีจึงจำทางไม่ได้แล้ว…ข้าเดินวนไปวนมาบนถนนอยู่นาน แต่ก็ยังหาไม่เจอ…”
อวี้ชิงลั่วรู้สึกบีบหัวใจ จู่ ๆ นางก็รู้สึกได้ว่าหนานหนานโชคดีกว่าเด็กคนนี้มาก แม้ว่าหนานหนานจะไม่มีพ่ออยู่ข้างกายตั้งแต่เกิดออกมา ทว่าเขาก็ยังมีนางที่คอยดูแลอยู่ตลอด มีคนจำนวนมากที่ประคบประหงมเขาจนเติบใหญ่ ไม่เหมือนกับเย่หลานเฉิง แม้แต่บ้าน…ก็ยังหาไม่เจอ
เย่ซิวตู๋รับน้ำชามาจากมือของหนานหนาน จิบเบา ๆ หนึ่งคำ ก่อนจะพูดกับอวี้ชิงลั่วที่เอาแต่ขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา “บาดแผลของไท่จื่อเฟยเป็นผลจากรัชทายาทสั่งให้คนทุบตีนาง ส่วนบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นไหน คงต้องให้เจ้าไปดูด้วยตนเอง”
“ท่านพ่อสั่งให้คนทุบตีหรือขอรับ?” เย่หลานเฉินเงยหน้าอย่างตกตะลึง เขามองเย่ซิวตู๋ที่นั่งอยู่ตรงหน้าราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
เย่ซิวตู๋พยักหน้า “อืม เรื่องรายละเอียด เจ้ากลับไปถามไท่จื่อเฟยเองเถอะ”
เย่หลานเฉิงถึงกับจิตตก ปรากฏว่าท่านแม่ของเขาถูกท่านพ่อสั่งให้คนทุบตีจนบาดเจ็บสาหัสหมดหนทางรักษา เหตุใดถึงได้กลายเป็นเช่นนี้? อยู่ดี ๆ กลับทุบตีท่านแม่ของเขาจนอยู่ในสภาพเช่นนั้น
เย่หลานเฉิงตัวสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปครู่หนึ่งจึงขบฟันแน่นเพื่อให้ใจเย็นลง หันกลับมามองเย่ซิวตู๋ น้ำเสียงแอบสั่นเล็กน้อย “ท่านอาห้า ท่านช่วย…ท่านช่วยพาข้ากลับไป…”
“ไม่ได้” ไม่รอให้เขาได้กล่าวจบ เย่ซิวตู๋ก็ปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใย
ม่านตาของเย่หลานเฉิงหดเล็ก มือที่วางอยู่บนหัวเข่ากำเข้าหากันเล็กน้อย
หนานหนานหันไปมองเย่ซิวตู๋แล้วถามด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะ? เสี่ยวเฉิงเฉิงน่าสงสาร แม้แต่แม่ของตัวเองก็ยังไม่ได้เห็นหน้า เขาถูกขังอยู่ในวังมาสองปีแล้ว สองปีที่ไม่ได้กลับบ้าน น่าสงสารมากเลยนะ”
“ให้พาเขากลับไปย่อมทำได้ แต่เราจะผ่านประตูใหญ่ของตำหนักรัชทายาทแบบเปิดเผยไม่ได้” เย่ซิวตู๋เหลือบมองหนานหนานด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะแอบถอนหายใจออกมา
เรื่องราวยุ่งเหยิงภายในตำหนักรัชทายาทเหล่านั้น เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ดังนั้นตอนที่เขารู้ว่าเกิดเรื่องกับไท่จื่อเฟย เขาจึงเป็นผู้ชมที่ยืนมองด้วยสายตาเย็นชา เรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเองไม่จำเป็นต้องไปสนใจ ถึงอย่างไรเขาและรัชทายาทก็ไม่ได้สนิทกัน ไม่มีความจำเป็นต้องไปยุ่งเรื่องในตำหนักของอีกฝ่าย หากไปยุ่งกับคนแบบรัชทายาทมากเกินไปคงไม่ใช่เรื่องที่ดี
เพียงแต่…เย่หลานเฉิงปรากฏตัวออกมาแล้ว เย่หลานเฉิงเป็นสหายของหนานหนาน และจุดอ่อนของอวี้ชิงลั่วก็คือเด็ก
นอกจากนี้เย่หลานเฉิงยังรู้เรื่องของไท่จื่อเฟยอีก
ด้วยเหตุนี้ ต่อให้เขาสนใจแค่สตรีและลูกชายที่อยู่ข้างกาย แต่ก็มิอาจมองดูคนตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่ช่วยเหลือได้ มิเช่นนั้นทั้งสองคนนี้จะมองเขาอย่างไรล่ะ
“เอ๋ เข้าไปในตำหนักรัชทายาทได้จริง ๆ รึ?” หนานหนานเบิกตาโต เอาแต่ตบแขนของเย่หลานเฉิงด้วยความดีใจ “เสี่ยวเฉิงเฉิง เสี่ยวเฉิงเฉิง เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลแล้วนะ อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้เจอกับแม่ของเจ้าแล้ว”
เย่หลานเฉิงก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน คิดไม่ถึงเลยว่าท่านอาห้าที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไร จะตอบตกลงพาเขาไปพบหน้าท่านแม่จริง ๆ
เขารีบหันหน้ากลับไปมองอวี้ชิงลั่วอย่างมีความหวัง “ท่านป้าชิง…ท่าน…ท่านจะช่วยท่านแม่ของข้าได้หรือไม่?”
“ได้สิ ๆ” ยังไม่รอให้อวี้ชิงลั่วตอบ หนานหนานก็รีบตอบแทนนาง ท่าทางรีบร้อนเช่นนั้น ทำให้อวี้ชิงลั่วถึงกับมุมปากกระตุกวูบ
ทว่าเมื่อเห็นสายตาที่ไม่มั่นใจของเย่หลานเฉิง หลังจากอวี้ชิงลั่วหันไปมองเย่ซิวตู๋ปราดหนึ่ง นางจึงพยักหน้าตอบกลับไป
นางรู้สึกชอบไท่จื่อเฟยคนนั้นมาก หากนางต้องจากโลกนี้ไปคงน่าเสียดายมากจริง ๆ หลังจากนี้เย่หลานเฉิงคงไร้ที่พึ่งพิงยิ่งกว่าเดิม
เย่ซิวตู๋จึงกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “โม่เสียน ไปที่ตรอกหลังตำหนักรัชทายาท”
“พ่ะย่ะค่ะ” โม่เสียนรีบเร่งรถม้า ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปยังถนนอีกเส้นหนึ่ง
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป รถม้าก็กระตุกทีหนึ่งก่อนจะจอดสนิท จากนั้นเสียงทุ้มต่ำของโม่เสียนก็ดังตามมาติด ๆ “ท่านอ๋อง ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เย่ซิวตู๋พยักหน้า หันไปมองคนอื่น ๆ ที่อยู่ในรถม้าพลางกล่าวว่า “หนานหนาน เจ้ารอพวกเราอยู่ที่นี่”
หนานหนานที่กำลังทำท่าจะมุดออกจากรถด้วยความตื่นเต้นถึงกับร่างแข็งทื่อ “ทำไมล่ะ? ทำไมข้าถึงเข้าไปด้วยไม่ได้?”
“เพราะข้าสามารถพาเข้าไปได้แค่สองคนเท่านั้น” เย่ซิวตู๋เลิกคิ้วขึ้น หันไปมองอวี้ชิงลั่วและเย่หลานเฉิงปราดหนึ่ง แค่นี้ก็มีความหมายที่ชัดเจนมากแล้ว
เย่หลานเฉิงพูดกับหนานหนานด้วยความละอายใจ “ครั้งหน้านะ…รอครั้งหน้าข้าจะไปขออนุญาตกับเสด็จปู่ ข้าจะพาเจ้าเข้าไปเล่นด้านในอย่างเปิดเผย ดีหรือไม่?”
หนานหนานบุ้ยปาก รู้สึกเศร้าโศกอย่างมาก จากนั้นก็หันไปถลึงตาใส่อวี้ชิงลั่ว “ท่านแม่ เป็นเพราะท่านนั่นแหละที่ไม่ดี เหตุใดท่านแม่ถึงไม่มีวิชาตัวเบาล่ะ? หากท่านแม่มีก็คงเหาะเข้าไปเองได้แล้ว แบบนั้น ท่านพ่อแค่พาข้ากับเสี่ยวเฉิงเฉิงเข้าไปก็สิ้นเรื่องแล้ว”
“ท่านพ่อ???” เย่หลานเฉิงชะงัก “เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? ท่านพ่ออะไร?”
…………………………
สารจากผู้แปล
แง ไท่จื่อเฟยอาการหนักแถมอาจอยู่ได้ไม่นานด้วย สงสารน้องเฉิงเลย ไอ้รัชทายาทหลงเมียน้อย ฮึ่มมม
หนานหนานโป๊ะแรงมากลูก
ไหหม่า(海馬)