ตอนที่ 308 ราชวงศ์ปลา

ก่อนอื่นขอแนะนำเรื่อง ‘ชีวิตอัศจรรย์ของพาย’

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานซึ่งดัดแปลงจากหนังสือขายดีในชื่อเดียวกันบนโลก

นิยายเรื่องนี้ไม่เพียงได้รับรางวัลแมนบุ๊กอวอร์ด ยังติดอันดับหนังสือขายดีของนิวยอร์กไทม์สนานกว่าหนึ่งปีอีกด้วย!

เป็นหนังสือขายดีที่แท้จริง

และภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันนี้ใช้เวลาเตรียมการนานหลายปีกว่าจะเริ่มถ่ายทำ

ต่อให้เทคโนโลยีการถ่ายทำของสตาร์ไลท์จะก้าวหน้า สามารถย่นระยะเวลาได้มาก ทว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผลงานชิ้นนี้จะสร้างเสร็จและออกฉายได้รวดเร็วเท่ากับภาพยนตร์สองเรื่องก่อนหน้านี้ของหลินเยวียน

ขอกล่าวถึงความสำเร็จของผลงานชิ้นนี้อีกสักหน่อย…

เป็นผลงานชิ้นเอกซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งหมด 11 สาขา!

อัง ลีได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้

นอกจากนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม และสาขากำกับภาพยอดเยี่ยม

ใช้คำง่ายๆ มาอธิบายก็คือ

น่ากลัวมาก

กระบวนการคัดเลือกพายตัวเอกของภาพยนตร์ต้นฉบับนั้นใช้เวลาประมาณหกเดือน อัง ลีผู้กำกับจัดการออดิชันสามรอบ จนสุดท้ายเหลือผู้ผ่านการคัดเลือก 12 คน และคัดเลือกนักแสดงเป็นรายบุคคล

เรื่องนี้ หลินเยวียนจะโกงไม่ได้

เขาเองก็ต้องการคัดเลือกตัวละครอย่างจริงจังเช่นกัน

เพราะตัวละครเอกนี้ คัดเลือกยากเหลือเกิน!

และนี่เป็นเพียงหนึ่งในความยากทั้งหมดที่มีเท่านั้น

คัดเลือกนักแสดงอย่างไรเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่

หลินเยวียนมั่นใจว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้กำกับซึ่งเป็นผู้ช่วยงานจะรับมือได้!

เช่นเดียวกับเพลงซึ่งมีระดับความยากสูง ผู้ช่วยงานไม่มีทางรับมือได้

ต่อให้มีคำอธิบายโดยละเอียดในบทภาพยนตร์แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้กำกับอย่างอี้เฉิงกงจะถ่ายทำรายละเอียดในบทให้ได้ผลลัพธ์ตรงกันอย่างแท้จริง

หากจะให้อี้เฉิงกงกำกับละก็ มีเพียงวิธีเดียว นั่นก็คือไอเท็มจากระบบปริมาณมหาศาล เพื่อเพิ่มความสามารถในการกำกับภาพยนตร์ของอี้เฉิงกง

สองคำง่ายๆ เปลืองเงิน!

ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงมาตรฐานสูงสุดซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการจากฝ่ายต่างๆ ในกระบวนการถ่ายทำ

รวมไปถึงเงินลงทุนในภาพยนตร์!

ซ้ำยังมีความยากข้อหนึ่งซึ่งระบบได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือปัญหาเรื่องการดัดแปลงภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อบางอย่าง ถ้าหากให้หลินเยวียนดัดแปลงเอง หลินเยวียนคงทำอะไรไม่ถูก…

นอกเหนือจากนั้น…

สเปเชียลเอฟเฟ็กต์สเกลใหญ่และการเตรียมการซึ่งต้องใช้นั้นนับได้ว่าน่าตกใจทีเดียว

ภาพยนตร์ซึ่งถ่ายทำกับฉากเขียวตลอดทั้งกระบวนการนั้น แค่คิดก็รู้ว่าวุ่นวายขนาดไหน

เพราะฉะนั้นหลินเยวียนจึงมั่นใจว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ ตนถ่ายทำไม่ไหว!

อย่างน้อยตนก็ถ่ายทำไม่ไหวภายใต้ระยะเวลาอันสั้น ทำได้เพียงส่งต้นฉบับให้บริษัทไปก่อน เพื่อให้บริษัทใช้เวลาที่มากพอในการเตรียมการ

“คัดเลือกนักแสดงให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพาตัวเอกไปเรียนว่ายน้ำ…ถ้าตัวเอกว่ายน้ำได้อยู่แล้วก็ดีไป อีกอย่างกองถ่ายต้องไปสัมผัสฉากคลื่นจริงที่ทะเล…นี่เป็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต ไม่เคยสัมผัสแล้วจะทำออกมาให้สมจริงได้ยังไง…”

โถ่เว้ย

ยิ่งคิดยิ่งยาก

ไม่ต้องคาดหวังให้หนังเรื่องนี้เสร็จภายในปีนี้เลย

และบทภาพยนตร์ระดับนี้ ระบบเก็บเงินไปแค่ 30 ล้าน เรียกว่ามีมโนธรรมมากทีเดียว

อาจเป็นเพราะระบบตระหนักดีถึงความยากในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงลดราคาลงมา ถ้าหากตนทำแบบสุกเอาเผากิน รังแต่จะทำให้บทดีๆ สูญเปล่า

คุณภาพของบทนี้เหนือกว่าเรื่องนักปรับเสียงเปียโนมาก!

“กลับไปเตรียมการก่อนแล้วกัน”

หลินเยวียนพอจะมีความคิดบ้างแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างน้อยปีหน้าถึงจะเปิดกล้องได้

ใช้เวลานานเหลือเกิน

เขาอยากสั่งผลิตบทใหม่จากระบบ

สั่งผลิตบทที่ถ่ายทำได้ทันทีและไม่ต้องยุ่งยาก

ถ่ายทำเสร็จแล้วค่อยถ่ายทำเรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพาย

ไม่เช่นนั้น อย่างน้อยภายในหนึ่งปีนี้ เขาจะต้องไม่แตะภาพยนตร์เรื่องอื่น ซึ่งนั่นไม่เข้ากับนิสัยของหลินเยวียนเอาเสียเลย ต้องถ่ายทำภาพยนตร์โปรดักชันขนาดใหญ่ ส่วนภาพยนตร์ขนาดเล็กซึ่งระดับความยากต่ำกว่าก็ต้องทำเช่นเดียวกัน ถึงอย่างไรก็ไม่ควรใช้เงินลงทุนหรือฉากมาเป็นมาตรฐานในการตัดสินว่าหนังเรื่องไหนดีหรือแย่

มาพูดนอกเรื่องกันสักหน่อย

จากความสำเร็จของเรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพาย อัง ลีแทบจะนับว่าเป็นผู้กำกับเบอร์ต้นๆ ของโลกจากแดนชานมไข่มุก ฝีมือร้ายกาจกว่าจางอี้โหมวเสียอีก

ถือโอกาสอธิบายสักหน่อย อัง ลีได้รับกรีนการ์ดของสหรัฐอเมริกาแล้ว ทว่ายังไม่ได้รับสัญชาติ เรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในระดับหนึ่ง

ระบบให้ความยากระดับสูงสุดกับตน

นี่เป็นบททดสอบใหญ่ที่สุดที่หลินเยวียนต้องเผชิญตั้งแต่ก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมภาพยนตร์

ดังนั้นหลินเยวียนจึงทั้งดีใจ และทั้งหดหู่

ได้รับบทภาพยนตร์ที่ดีเช่นนี้มา แต่กลับไม่ลงมือถ่ายทำทันที เพราะมันยากจริงๆ

……

หลินเยวียนรู้สึกหดหู่ใจ ทว่าความตกตะลึงที่เขานำมาสู่โลกภายนอกนั้นยังไม่จบเพียงเท่านี้

และนั่นเกี่ยวข้องกับเพลงของเฟิงซั่วและเซวียเหลียงซึ่งขึ้นไปติดสิบอันดับแรกของชาร์ตเพลงในฤดูกาลนี้

ในอุตสาหกรรมเพลงเกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด ว่าสรุปแล้วลูกศิษย์ทั้งสองคนของหลินเยวียนได้รับการสอนสั่งจากหลินเยวียนจริงหรือไม่ พร้อมทั้งทำการขุดข้อมูลเพิ่มเติม

ถึงอย่างไรก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ประเภทนี้เกิดขึ้นมาก่อน

ในทัศนะทั่วไปของผู้คน ถ้าอยากเป็นนักประพันธ์เพลงมือทอง ลำพังเพียงการสอนไม่พอหรอก ทำได้เพียงพึ่งพรสวรรค์ของตน

ปรากฏว่าเมื่อขุดข้อมูลลงไป หลายเรื่องก็กระจ่างขึ้นมา

‘ฉันหาเซวียเหลียง หรือนามปากกาว่าหลี่อวี๋เจอแล้ว เพลงที่เขาประพันธ์ที่ฉีโจวก่อนหน้านี้ เหมือนว่าครั้งก่อนก็มีคนขุดแล้ว…เมื่อก่อนผลงานของเขาถ้าบอกว่าไม่เข้าหูก็เว่อร์เกินไป แต่ฉันบอกได้แค่ว่าก่อนที่จะเจอเซี่ยนอวี๋ ระดับของเพลงของเซวียเหลียงไม่ดีสักเท่าไหร่!’

‘เพราะงั้นเซวียเหลียงเป็นคนที่เซี่ยนอวี๋สอนมากับมือ? พัฒนาจนมาอยู่ระดับนักประพันธ์เพลงมือทอง?’

‘ไม่ใช่แค่เซวียเหลียง ยังมีเฟิงซั่วอีก ผลงานเดบิวต์ของเฟิงซั่วน่าทึ่งมาก มองออกเลยว่ามีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม แต่ก่อนที่เฟิงซั่วจะเป็นลูกศิษย์ของเซี่ยนอวี๋ เขาปล่อยผลงานมาทั้งหมดสี่เพลง มีที่โดดเด่นอยู่เพลงเดียว ส่วนอีกสามเพลงค่อนข้างธรรมดา บอกได้แค่ว่าคนคนนี้มีพรสวรรค์’

‘คุณหมายถึง เซี่ยนอวี๋ค้นพบพรสวรรค์ของเฟิงซั่ว?’

‘ดูจากตอนนี้เป็นแบบนั้นนะ เซวียเหลียงกับเฟิงซั่ว ซึ่งก็คือหลี่อวี๋กับหมัวกุ่ยอวี๋ เป็นนักประพันธ์เพลงมือทองที่เซี่ยนอวี๋ปั้น!’

‘ลูกศิษย์สองคนน่ากลัวขนาดนี้ งั้นฝีมือของเซี่ยนอวี๋อยู่ระดับไหนกันแน่นะ’

‘อยู่ได้แค่ระดับเดียวเท่านั้น ก็คือพ่อเพลง แถมเซี่ยนอวี๋ยังมีความสามารถในการสอนที่พ่อเพลงไม่มีด้วย!’

‘ผมว่าเซี่ยนอวี๋จะได้เป็นพ่อเพลงเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องของเวลาแล้ว ก็เหมือนกับลูกศิษย์ทั้งสองคน ถึงจะเป็นเพราะยังมีผลงานไม่มาก ยังแตะไม่ถึงมาตรฐานนักประพันธ์เพลงมือทอง แต่ฝีมือมีมากพอ ขอเพียงปล่อยเพลงเพิ่ม เพิ่มยอดขายอีกหน่อยก็ใช้ได้แล้ว’

‘…’

เพล้งๆๆ!

เสียงของทัศนะดั้งเดิมซึ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ!

ที่แท้นักประพันธ์มือทองก็สอนกันได้!

เพราะหลี่อวี๋เซวียเหลียงเป็นตัวอย่างที่มีชีวิต

เฟิงซั่วยังเรียกได้ว่ามีพรสวรรค์สูง จึงบ่มเพาะได้ง่าย ทว่าเพลงเมื่อก่อนของเซวียเหลียง ไม่ว่าจะฟังอย่างไร ก็ไม่มีใครคิดว่าเขามีพรสวรรค์ที่ดี!

ถ้าไม่มีเซี่ยนอวี๋ ชั่วชีวิตนี้เซวียเหลียงอาจไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงการเพลงในชื่อหลี่อวี๋เลยก็ได้!

และเมื่อเผชิญกับข้อถกเถียงเหล่านี้ เซี่ยนอวี๋ย่อมไม่มาตอบด้วยตนเอง

เฟิงซั่วกลับชอบเฉิดฉาย

เขาส่งเสียงผ่านปู้ลั่วในทันที ‘ในวงการกำลังขุดข้อมูลของผมและศิษย์พี่ของผม ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ในฐานะผู้ถูกเอ่ยถึง ผมขอบอกทุกคนไว้ตรงนี้ ว่าผมกับศิษย์พี่เป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์สอนมาเองกับมือ นอกจากนั้นผมยังอยากบอกว่า อาจารย์ของพวกเราเป็นหนึ่งในใต้หล้า!’

ข้อความนี้โพสต์ไปได้ไม่นาน เฟิงซั่วก็โพสต์อีกว่า

‘ยังมีคนที่ยังไม่เชื่อ รอให้ศิษย์น้องหญิงของพวกเราออกมาก่อนแล้วกันครับ ศิษย์น้องหญิงของพวกเรากำลังเรียนประพันธ์เพลงกับอาจารย์อยู่ หลังจากนี้เธอจะต้องขึ้นมาชิงตำแหน่งบนชาร์ตเพลงอย่างแน่นอน!’

ทันทีที่โพสต์ที่สองออกไป ในวงการก็ฮือฮากันยกใหญ่

ยังมีปลาอีกตัวที่ยังไม่ออกมา?

อ่า ไม่ใช่สิ

เซี่ยนอวี๋…ยังมีลูกศิษย์อีกหนึ่งคนที่ยังไม่เดบิวต์?

ถ้าหากลูกศิษย์คนที่สามของเซี่ยนอวี๋ออกมาอย่างเป็นทางการ และแตะอยู่ในระดับสูงเฉกเช่นศิษย์พี่ทั้งสอง แบบนั้นคือฝีมือระดับไหนน่ะหรือ!

ระดับราชวงศ์ปลา!?

ไม่เคยมีนักประพันธ์เพลงคนใดที่สามารถทำแบบนี้ได้สำเร็จ ถึงกับบ่มเพาะลูกศิษย์ระดับมือทองได้ถึงสองคน และจะน่ากลัวขนาดไหนถ้าจะเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน!

เฮือก

มีคนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แทบไม่กล้าจินตนาการต่อ

หลังจากนั้น

มีคนมองว่านี่เป็นอาการระยะเริ่มต้นของโรคกลัวปลาในวงการเพลง

……………………………………………….