เจียง​ซื่อ​ดับ​ฝัน​อาหมาน​ ​“​เดี๋ยวนี้​ไม่​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​ออก​ไป​คนเดียว​จะ​ได้​ไม่​เป็น​ที่​สะดุดตา​ ​อีก​อย่าง​ทั้ง​เจ้า​และ​อา​เฉี่ยว​จะ​ต้อง​เฝ้า​เรือน​ไว้​ให้​ดี​ ​หาก​มี​ผู้ใด​เข้ามา​ก็​ช่วยกัน​คิด​หาวิ​ธี​บ่ายเบี่ยง​”

ช่วง​กลางวัน​ก็​มักจะ​ลำบาก​เช่นนี้

เนื่องจาก​มีเรื่อง​ผี​หง​เย​่ว​์​ ​เจียง​เชี่ยว​และ​คนอื่นๆ​ ​จึง​ถูกเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​สั่งห้าม​ไม่​ให้​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ฉะนั้น​ช่วง​กลางวัน​จึง​ทำได้​เพียง​ไป​เยี่ยม​เรือน​พี่สาว​ทีน​้​อง​สาว​ที​ ​เมื่อวาน​เรือน​ของ​เจียง​ซื่อ​ก็​เพิ่ง​ต้อนรับ​เจียง​เชี่ยว​ไป​หมาดๆ

วันนี้​นาง​จำเป็นต้อง​ออก​ไป​ทำ​ธุระ​ข้างนอก​ ​หาก​มี​คน​มา​เยี่ยม​ที่​เรือน​อีก​คง​วุ่นวาย​ไม่น้อย

เจียง​ซื่อ​รู้​ว่า​อาหมาน​เป็น​คน​ใจร้อน​ ​ก่อน​จะ​ออก​ไป​นาง​จึง​กำชับ​อา​เฉี่ยว​ไว้​ว่า​ ​“​เรือน​ไห่​ถัง​นี้​ข้า​ฝาก​ไว้​ใน​ความดูแล​ของ​เจ้า​”

“​คุณหนู​วางใจ​ได้​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​คอย​รอ​เปิด​ประตู​ให้​คุณหนู​ยาม​ออก​ไป​ตอนกลาง​ดึก​หลายครั้ง​หลาย​ครา​ ​เมื่อ​ต้อง​เผชิญ​เหตุการณ์​เช่นนี้​อีก​จึง​มิได้​รู้สึก​แตกตื่น​แต่อย่างใด

ก็​แค่​ปลอมตัว​เป็นสาว​รับใช้​ที่​แอบหนี​ออก​ไป​ข้างนอก​ช่วง​ตอนกลางวัน​ ​จะ​เป็นเรื่อง​ใหญ่​อะไร​กัน

หาก​เจียง​ซื่อ​ใคร่​จะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ก็​นับว่า​มิใช่​ปัญหา​เลย​สักนิด

ยาม​ที่นาง​ปลอมตัว​เป็น​บ่าว​รับใช้​ ​นาง​จะ​ทา​ผิว​ให้​มีสี​คล้ำ​ลง​ ​ทา​คิ้ว​ให้​แบน​เรียบ​ ​ทำให้​คนที​่​พบเห็น​รู้สึก​คุ้นตา​ตั้งแต่​แวบ​แรก​ ​ราวกับว่า​เป็น​บ่าว​รับใช้​ที่​เห็น​อยู่​ใน​จวน​ทุกวัน​ ​แต่​หาก​จะ​ให้​บอกชื่อ​เสียง​เรียง​นาม​ของ​นาง​ ​กลับ​นึกไม่ออก​เสีย​อย่างนั้น

แค่​รู้สึก​คุ้นหน้า​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ ​จะ​มี​ใคร​เก็บ​ชื่อ​บ่าว​รับใช้​ใน​จวน​มา​ใส่ใจ​กัน​เล่า

เจียง​ซื่อ​เดิน​มาถึง​ที่​มุม​ประตู​แล้ว​ยัด​เหรียญทองแดง​พวง​หนึ่ง​ให้​นาย​ประตู​ ​และ​บอก​เพียง​ว่า​ต้องการ​ไป​ซื้อ​ผง​สำหรับ​ใส่​เรือน​ผม​จาก​พ่อค้า​ ​เท่านั้น​ก็​ทำให้​นาง​ออกมา​ได้​สำเร็จ​

ท้องฟ้า​ด้านนอก​ดูก​ว้าง​ขวาง​ขึ้น​ทันตา​ ​แตกต่าง​จาก​ยาม​ที่​มอง​จาก​ใน​จวนปั​๋ว​ยิ่งนัก

เจียง​ซื่อ​เร่งฝีเท้า​ ​ไม่นาน​นาง​ก็​ไป​ถึง​จุด​ที่​นัดพบ​กับ​อวี​้​จิ​่น

ทั้งคู่​นัด​กันที่​โรงน้ำชา​แห่งหนึ​่ง​ ​เพียง​เจียง​ซื่อ​เอ่ย​ชื่อ​ห้อง​พิเศษ​ ​เสี่ยว​เอ้อร​์​ใน​ร้าน​ก็​พานาง​ขึ้น​มาบน​ชั้นสอง

หลง​ต้าน​ยืน​เฝ้า​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ห้อง

เจียง​ซื่อ​ส่งสัญญาณ​ให้​พนักงาน​ผู้​นั้น​ออก​ไป​ได้​ ​แล้ว​นาง​ก็​ทำท่า​จะ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง

เมื่อ​เห็น​สาว​รับใช้​กำลังจะ​เดิน​เข้าไป​ ​หลง​ต้าน​ก็​รีบ​เข้ามา​ขวาง​พลาง​เอ่ย​ด้วย​ใบหน้า​เย็นชา​ ​“​น้องสาว​เข้าไป​ไม่ได้​ ​ไม่เช่นนั้น​พี่ชาย​ไม่​รับประกัน​ว่า​จะ​ไม่​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​สตรี​”

เจียง​ซื่อ​พิศ​มอง​หลง​ต้าน

นึกไม่ถึง​ว่ายา​มอยู​่​ต่อหน้า​หญิงสาว​แปลกหน้า​จะ​กลายเป็น​คนละ​คน​!

สายตา​ที่​มอง​มาทำ​ให้​หลง​ต้าน​รู้สึก​ตงิดๆ​ ​เริ่ม​สัมผัส​ได้​ถึง​ลางสังหรณ์​บางอย่าง​ ​ความรู้สึก​นั้น​ยิ่ง​ทำให้​เขา​อยาก​ไล่​หญิงสาว​ตรงหน้า​ไปให้พ้น​ทาง​ให้​เร็ว​ที่สุด​ ​เพราะ​หาก​ตา​ไม่เห็น​แล้ว​ ​ใจ​จะ​ได้​ไม่​เป็นกังวล

เขา​หันค​วับ​ไป​มอง​ที่​ประตู​เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​เจ้านาย​จะ​ไม่รู้​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ก่อน​จะ​หันมา​คลี่​ยิ้ม​ชั่วร้าย​ให้​เจียง​ซื่อ​ ​“​น้องสาว​ ​ให้​พี่​พา​ไป​ดื่ม​ชา​สัก​ถ้วย​ดี​ไหม​”

สาว​รับใช้​ตรงหน้า​ไม่ได้​วิ่งหนี​ไป​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​อย่างที่​เขา​คิด​ ​ทว่า​กลับ​ยืน​นิ่ง​อยู่​อย่างนั้น

คราวนี้​กลายเป็น​หลง​ต้าน​ที่​เริ่ม​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​เขา​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​คาง​ตัวเอง​เบา​ๆ​

หรือว่า​เขา​รูปงาม​เกินไป​ ​เด็กสาว​นาง​นี้​ถึง​ได้​ตราตรึง​ไม่​ขยับเขยื้อน​ไป​ไหน​?

แบบ​นั้น​ก็​ไม่ดี​สิ​ ​เขา​มิได้​เป็น​คน​ใจง่าย​เช่นนั้น​!

เจียง​ซื่อ​อดไม่ไหว​จึง​เอ่ยปาก​ ​“​หลง​ต้าน​ ​ข้า​เอง​”

หลง​ต้าน​ตะลึงงัน

เจียง​ซื่อ​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ยัง​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ ​“​คุณหนู​เจียง​”

หลง​ต้าน​ ​“​…​”

เวร​แล้ว​ ​เวร​แล้ว​ ​ขายหน้า​เสีย​จริง​!

ในขณะนั้น​บานประตู​ถูก​เปิด​ออก​ ​เป็น​อวี​้​จิ​่​นที​่​ยื่นมือ​ออกมา​ดึง​เจียง​ซื่อ​เข้าไป​ก่อน​จะ​หันไป​สบตา​หลง​ต้าน​พลาง​หัวเราะ​ ​“​ขากลับ​ข้า​จะ​พา​ไป​ดื่ม​ชา​สัก​ถ้วย​แล้วกัน​”

ประตู​ปิด​ลง​อีกครั้ง​ ​หลง​ต้าน​พิง​ประตู​ด้วย​ท่าทาง​สิ้นหวัง​เต็มประดา

อวี​้​จิ​่​นพิ​นิจ​พิศ​มอง​เจียง​ซื่อ​แล้ว​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​ที่แท้​ก็​ปลอมตัว​เช่นนี้​ออกมา​นี่เอง​”

เจียง​ซื่อ​ดึง​ชาย​เสื้อ​ ​หัวเราะ​ขึ้น​พลาง​ถาม​ ​“​เหมือน​มาก​ใช่ไหม​ล่ะ​”

อวี​้​จิ​่​นม​อง​นาง​แล้ว​ถอนหายใจ

เจียง​ซื่อ​เลิก​คิ้ว

“​เจ้า​เนี่ยนะ​ ​ถ้า​รีบ​แต่ง​ๆ​ ​กับ​ข้า​ก็​ไม่ต้อง​ยุ่งยาก​ขนาด​นี้​ ​เพราะ​ถ้า​ถึง​เวลา​นั้น​เจ้า​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​ ​อยาก​จะ​ไป​ที่ไหน​ ​ข้า​ก็​จะ​ไป​กับ​เจ้า​ทุกที่​”

เจียง​ซื่อ​มิได้​ตอบ​ ​นาง​นั่งลง​แล้ว​ริน​น้ำชา​ใส่​ถ้วย​และ​ยกขึ้น​มา​จิบ​สอง​สาม​อึก​ ​“​ผู้​นั้น​อยู่​ที่ไหน​”

อวี​้​จิ​่น​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ ​แต่​ไม่นาน​ก็​กลับมา​ร่าเริง​โดยพลัน

เมื่อ​ครู่​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​ ​นาง​ไม่​ปฏิเสธ​เสียด​้วย

ไม่​ปฏิเสธ​ก็​เท่ากับ​ยอมรับ​?

“​ชาย​คน​นั้น​เป็นอันธ​พาล​เพ่นพ่าน​อยู่​ใน​ซอย​คัง​ผิง​ ​นาม​ว่า​เหล่า​อวี​๋​ ​ตอนนี้​ให้​คน​จับตาดู​อยู่​”

ซอย​คัง​ผิง​?

เจียง​ซื่อ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​

แล้ว​อวี​้​จิ​่​นก​็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ต้อง​ไป​ที่​สำนัก​ฮั่น​หลิน​”

ตาของ​เจียง​ซื่อ​กระตุก​เบา​ๆ​ ​นาง​หันไป​มอง​ชายหนุ่ม

อวี​้​จิ​่น​ผุด​ยิ้ม​ราวกับ​มิใช่​เรื่องใหญ่​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​อา​ซื่อ​ ​ข้า​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​เจ้า​ให้​ตามหา​ชาย​ผู้​นี้​ทำไม​กัน​”

เจียง​ซื่อ​อยาก​จะ​กลอกตา​ใส่​อวี​้​จิ​่น

หาก​นาง​ไม่รู้​จัก​ชาย​ผู้​นี้​มาก​่อน​ ​คง​ถูก​เขา​หลอก​ให้​เสียท่า​เป็นแน่

อวี​้​ชี​มิใช่​คนพิถีพิถัน​ที่​มักจะ​คิด​อะไร​ลึกซึ้ง​ ​หลายครั้ง​เขา​มักจะ​ทำ​อะไร​เลินเล่อ​ตามอำเภอใจ​ ​แต่ทว่า​บางครั้ง​ก็​ดู​หลักแหลม​จน​น่า​ตกใจ​เช่นกัน

เหมือนกับ​คราวนี้​ ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​เอ่ย​อะไร​ ​เขา​กลับ​พูดถึง​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ขึ้น​มาก​่อน

ตั้งแต่​กลับมา​จาก​วัด​ไป๋​อวิ​๋น​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​ลา​ขาด​จาก​ตระกูล​จู​โดย​สมบูรณ์​ ​แม้​อวี​้​ชี​จะ​มิได้​ซักไซ้​ ​แต่ว่า​คงคาด​เดา​ได้​ไม่ยาก​จาก​วิธีการ​ของ​นาง

อันที่จริง​ก็​เดา​ได้​ไม่ยาก​ดัง​ว่า​ ​หาก​พี่สาว​คนโต​ถูก​ทำร้าย​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ก็​ย่อม​ตกเป็น​ผู้ต้องสงสัย​ราย​แรก​ ​ไม่ว่า​พฤติกรรม​ที่​แสดงออก​มา​จะ​ดู​มีสัม​พันธ์​รักใคร่​ลึกซึ้ง​ฉัน​สามีภรรยา​เพียงใด​ ​แต่​อย่างน้อย​นาง​ก็​ต้อง​ชั่งใจ​ไว้​ก่อน

เห็นได้ชัด​ว่า​อวี​้​ชี​ก็​คิด​เช่นนั้น

ในเวลานี้​ ​ไม่มี​ความจำเป็น​ที่​เจียง​ซื่อ​จะ​ต้อง​ปิดบัง​ ​จึง​บอก​ไป​ตามตรง​ ​“​ข้า​อยาก​จะ​รู้​ว่า​เขา​มี​ความเกี่ยวข้อง​ใด​กับ​ตระกูล​จู​”

“​เรื่อง​นั้น​ง่าย​นิดเดียว​ ​คนเลว​อย่างนั้น​ไร้​สัจจะ​ยิ่งกว่า​อะไร​ดี​ ​หาก​จับตัว​มา​ได้​ ​ต่อให้​ยัง​ไม่ทัน​ทรมาน​ก็​ยอม​บอก​หมดเปลือก​แล้ว​”​ ​อวี​้​จิ​่​นก​ล่า​วจ​บก​็​ถอนหายใจ​ออกมา

จนถึง​ตอนนี้​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ยัง​ไม่​ปริปาก​เลย​สัก​คำ​ ​ไม่เห็น​น่ารัก​เหมือน​พวก​นักเลง​พวก​นั้น​เลย

“​ข้า​อยาก​ไป​ถาม​ด้วยตัวเอง​”

อวิ​้​จิ​่น​ตกใจ​ ​แต่​แล้วก็​พยักหน้า​รับ​ ​“​ไม่มีปัญหา​ ​ข้า​จะ​จัดการ​ให้​”

ซอย​คัง​ผิง​เป็น​จุดรวม​ตัว​ของ​สำนัก​สาม​ลัทธิ​เก้า​กระแส​ ​ยาม​นี้​จึง​ดู​คึก​ครื้น​อยู่​ไม่น้อย

เหล่า​อวี​๋​เดิน​ออกมา​จาก​ตรอก​มืด​ด้วย​ท่าทาง​ที่​ยัง​ง่วงเหงาหาวนอน​ ​เดิน​ไป​ไม่​ไกล​ก็​ไปรว​มอยู​่​กับ​พวก​เหล่า​นักเลง​พวก​เดียวกัน

“​นี่​ ​เหล่า​อวี​๋​ ​เดี๋ยวนี้​ชักจะ​ห้าวหาญ​ใหญ่​แล้ว​ ​ท่าทาง​กร่าง​ไม่เบา​ ​ให้​มัน​เพลา​ๆ​ ​หน่อย​”​

เหล่า​อวี​๋​ยกมือ​บอกปัด​อย่าง​สุขารมณ์​ ​“​ถุย​ ​กว่า​ข้า​จะ​ยืน​ด้วย​ลำแข้ง​ตัวเอง​ได้​ ​เจ้า​ก็​เหน็บ​ให้​มัน​น้อย​ๆ​ ​หน่อย​”​

คนที​่​สนทนา​ด้วย​ถาม​ด้วย​ความอิจฉา​ ​“​ข้าว​่า​ ​หมู่นี้​เจ้า​ดู​อยู่ดีกินดี​เหลือเกิน​ ​ไปร​่ำ​รวย​มาจาก​ไหน​งั้น​หรือ​”

เหล่า​อวี​๋​กลอกตา​ใส่​ชาย​ผู้​นั้น​ ​“​อย่า​มา​แส่​เรื่อง​ของ​ข้า​!​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​เหล่า​อวี​๋​เดิน​หาย​กลับ​เข้าไป​ใน​ตรอก​จน​ลับตา​แล้ว​ ​ชาย​ผู้​นั้น​จึง​สบถ​ขึ้น​ว่า​ ​“​ภูมิใจ​อะไร​นักหนา​ ​ถ้า​มีเงิน​จริง​ก็​คง​ไปเที่ยว​ที่​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย​แล้ว​…​”

ข้อความ​ประโยค​หลัง​ขาด​ห้วง​ไป

ชาย​ผู้​นั้น​ตะลึงพรึงเพริด​ที่​เห็น​เหล่า​อวี​๋​ถูก​แบก​ออกจาก​ตรอก​ใน​สภาพ​หมดสติ​ ​ใช้เวลานาน​พอสำ​ควร​กว่า​ชาย​ผู้​นั้น​จะ​ได้สติ​กลับมา

เขามอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ ​แล้ว​รีบ​ก้มหน้า​วิ่งหนี​ไป​โดยพลัน

เขา​ไม่มีทาง​ร้อง​ให้​คน​ไป​ช่วย​เหล่า​อวี​๋​อย่างแน่นอน​ ​เพราะ​ตอนที่​เหล่า​อวี​๋​ไปเที่ยว​ซ่อง​ก็​ไม่เคย​เรียก​เขา​เลย​สักครั้ง

เหล่า​อวี​๋​ตื่นขึ้น​แล้ว​พบ​ว่า​ตนเอง​อยู่​ใน​ที่​มืด​แคบ​ๆ​ ​เขา​ยื่นมือ​ออก​ไป​คลำ​ทั่วๆ​ ​ทั้ง​สี่​ด้าน​ ​รู้สึก​ว่า​เป็น​ของแข็ง​ที่​มิได้​ร้อน​หรือ​เย็น

ที่นี่​ที่ไหน

เหล่า​อวี​๋​ทั้ง​งุนงง​ทั้ง​หวาดกลัว​จึง​ตะโกน​ขอความช่วยเหลือ

แต่​ดูเหมือนว่า​เสียง​ที่​ตะโกน​ออก​ไป​จะ​ถูก​กักขัง​อยู่​ใน​ที่​แคบ​นี้​เช่นเดียวกับ​ร่าง​ของ​เขา

เหล่า​อวี​๋​ยิ่ง​กลัว​จับใจ​ ​เขา​ร้อง​ตะโกน​พลาง​ดิ้น​สุด​ชีวิต​ ​แต่​แล้ว​เขา​ก็​สัมผัส​ได้​ว่า​ถูก​ยกขึ้น​ไป​ด้านบน​ ​พร้อมกับ​มีเสียง​แว่ว​ตามมา

เหล่า​อวี​๋​ผวา​จน​แทบ​ไม่กล้า​ขยับตัว​ ​จากนั้น​ก็ได้​สติ​จึง​พยายาม​ใช้​มือ​ดัน​ด้านบน​จน​สุด​แรง

มี​ช่องว่าง​เล็ก​ๆ​ ​เกิดขึ้น​ ​มีแสง​สว่าง​วาบ​ส่อง​ผ่าน​เข้ามา​ด้านใน

ในที่สุด​เหล่า​อวี​๋​ก็​ปีน​ออกมา​ได้​สำเร็จ​ ​เขา​หันกลับ​ไป​มอง​ ​และ​ใน​ชั่วพริบตา​นั้น​เขา​ก็​หวาดกลัว​จน​ปัสสาวะ​ราด​

แม่เจ้า​ ​นี่​มัน​โลงศพ​นี่​หว่า​!