ตอนที่ 543 ตำบลชานหลิน (6) / ตอนที่ 544 ศิลาดำลึกลับ (1)
ตอนที่ 543 ตำบลชานหลิน (6)
ฟ่านจัวยิ้มแล้วกล่าวว่า “นิดหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้นก็มอบให้เจ้าจัดการไปเลย” เฉียวฉู่ยื่นหินวิญญาณที่เขาได้รับให้ฟ่านจัวอย่างไม่ลังเล
ฟ่านจัวหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะเขาคิดว่าเฉียวฉู่และคนอื่นๆ จะถามคำถามเพิ่มเติมก่อนที่จะวางใจมอบหินวิญญาณให้กับเขา เพราะเรื่องหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณไม่ใช่เรื่องเล็ก หากพบผู้ที่มีเจตนาไม่ดีทำอะไรบางอย่างระหว่างหลอมแหวนก็สามารถทำให้วงแหวนภูติวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ แต่เฉียวฉู่กลับถามแค่คำถามง่ายๆ ก็เชื่อใจเขาแล้วซึ่งเกินความคาดหมายของฟ่านจัวจริงๆ
หลังจากนั้นฮวาเหยาและคนอื่นๆ ก็มอบหินวิญญาณให้ฟ่านจัวโดยไม่ลังเลเช่นกัน
“พวกเจ้าไม่กลัวข้าทำอะไรหรือ” ฟ่านจัวเงยหน้ามองเฉียวฉู่และคนอื่นๆ
“ข้าเชื่อสายตาของน้องเสีย ” เฉียวฉู่หัวเราะออกมา
เด็กน้อยคนนั้นฉลาดหลักแหลมแค่ไหน หากมิใช่คนที่นางเชื่อใจจริงๆ นางไม่มีทางพามาแน่นอน
ฟ่านจัวยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวังอย่างแน่นอน แต่การหลอมแหวนแห่งภูติวิญญาณ ข้ายังต้องการของอย่างอื่นด้วย ครั้งนี้สามารถไปดูที่โรงประมูลได้” ฟ่านจัวก็ไม่อยากพูดเยอะ ผลตอบแทนที่ดีที่สุดคือทำมันออกมา
หลังจากตกลงกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกัน เมื่อมีฟ่านจัวเพิ่มเข้ามา เฉียวฉู่ก็เริ่มกระโดดไปมาอีกครั้ง
แต่ฮวาเหยาและคนอื่นๆ ต่างคิดเหมือนกันว่าฟ่านจัวที่ยิ้มทั้งวันคนนี้น่ามองกว่าฟ่านจิ่นที่เถรตรงคนนั้นมาก
ในตำบลชานหลินมีโรงประมูลเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ชื่อว่าโรงประมูลชานลิน จัดขึ้นทุกๆ สามวัน และวันนี้ก็เป็นวันที่จัดประมูลพอดี หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ทั้งหกคนก็ออกจากโรงเตี๊ยม เมื่อเทียบกับตอนกลางวันแล้ว ตำบลชานหลินในเวลากลางคืนคึกคักกว่ามาก แสงไฟส่องสว่างในความมืด โคมไฟหลากหลายสีถูกแขวนไว้บนที่สูงเพื่อประดับประดาถนนและตรอกซอยที่คึกคักนี้
ในเวลากลางคืนจะมีสิ่งน่าสนใจมากมายเพิ่มขึ้นในตำบลชานหลิน มีทั้งการเล่นกลและการแสดง แม้แต่พ่อแม่ค้าข้างถนนก็มีมากกว่าตอนกลางวัน
ทั้งถนนเต็มไปด้วยผู้คน ศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวก็มีมากมายแล้วยังมีผู้คนจากตระกูลใหญ่ที่มาเพราะศิษย์เหล่านี้ก็มีไม่น้อย แม้ว่าศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวจะยังไม่ได้ก้าวสู่โลกภายนอกอย่างแท้จริง แต่คำว่าศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวก็ทำให้พวกเขาอยู่สูงกว่าคนอื่นมาก ฉะนั้นตระกูลใหญ่เหล่านี้ก็อยากชักชวนพวกเขาตั้งแต่พวกเขายังเด็กไม่รู้เรื่องอะไร เมื่อพวกเขาจบจากสำนักศึกษาออกมาก็สามารถเป็นอีกหนึ่งกำลังของตระกูลได้
เพราะเหตุนี้จึงทำให้ตำบลชานหลินคึกคักกว่าปกติมาก
ชายหนุ่มหกคนถูกกลืนหายไปกับคลื่นฝูงชนอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากผู้คนที่หนาแน่นนี้ จวินอู๋เสียจึงไม่ได้พาใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะออกมาด้วย แต่ทิ้งมันกับเจ้าแมวดำตัวน้อยไว้ที่ห้องและให้เจ้าแมวดำตัวน้อยเฝ้าดูมันไว้
ระหว่างทาง สายตาของฟ่านจัวมองทุกอย่างด้วยความตื่นเต้น บรรยากาศคึกคักนี้ทำให้เขามีความสุขมาก ยังดีที่เฉียวฉู่มีรูปร่างที่แข็งแรงและสูงใหญ่คอยปกป้องฟ่านจัวและจวินอู๋เสียตลอดทางจึงทำให้ทั้งสองไม่พลัดหลงออกจากกลุ่ม
แต่ถึงกระนั้น เสื้อผ้าของฟ่านจัวก็ยังยับเยินเล็กน้อยเมื่อเขาเดินจากถนนที่พลุกพล่านมาถึงที่ที่ไม่ค่อยมีคน
“ที่นี่ช่างคึกคักจริงๆ ” ฟ่านจัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าชอบหรือ” เฉียวฉู่หอบแฮ่กๆ แล้วมองไปที่ฟ่านจัว เขาถูกเบียดจนรองเท้าแทบหลุด
“ไม่ชอบ แต่มันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับข้า” ฟ่านจัวกล่าว
“อีกสองช่วงถนนก็จะถึงโรงประมูลชานหลิน หากเรารีบไปตอนนี้เราอาจทันการประมูลอีกมาก” เฟยเยียนมองแผนที่ที่เขาวาดไว้ในมือแล้วกล่าว
ตอนที่ 544 ศิลาดำลึกลับ (1)
เนื่องจากอยู่ใกล้กับสำนักศึกษาเฟิงหัว ลูกค้าส่วนใหญ่ของโรงประมูลชานหลินจึงเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัว คนที่สามารถเข้าสำนักศึกษาเฟิงหัวได้จะต้องมีฐานะอยู่พอสมควร สิ่งของธรรมดาจึงไม่สามารถดึงดูดสายตาพวกเขาได้ทำให้โรงประมูลชานหลินเต็มไปด้วยสิ่งของล้ำค่ามากมาย พ่อค้ามากมายนำสิ่งของมีค่ามาที่นี่เพื่อประมูล
โรงประมูลชานหลินเริ่มประมูลในเวลาพลบค่ำ เวลานี้ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว นั่นหมายความว่าโรงประมูลได้เริ่มประมูลไปแล้วครึ่งทาง
เมื่อจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ เดินเข้าไป พวกเขาเพิ่งนำสินค้าชิ้นใหม่ขึ้นบนเวทีประมูล และการประมูลที่ดุเดือดก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
โรงประมูลชานหลินมีห้องส่วนตัวอยู่บนชั้นสอง เป็นห้องสำหรับแขกที่ไม่ชอบให้ใครมารบกวน โดยต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อจองห้องพัก จวินอู๋เสียจ่ายเงินเสร็จ ทั้งหกคนก็ตรงขึ้นไปที่ชั้นสองทันที
ห้องไม่ใหญ่มีกำแพงล้อมรอบสามด้าน อีกด้านหนึ่งคือหันหน้าเข้าหาเวทีประมูล ล้อมรอบไปด้วยระเบียงที่มีภาพสลักไว้อย่างงดงาม
อาหารว่างได้ถูกจัดเตรียมไว้ในห้อง และหลังจากที่ทั้งหกคนนั่งลง พวกเขาก็หันไปมองสิ่งของที่อยู่บนเวทีประมูลทันที
ปัจจุบัน สิ่งของที่นำประมูลมากที่สุดคือหินวิญญาณมีตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป หินวิญญาณที่ต่ำกว่าระดับกลางไม่สามารถนำมาประมูลได้
จวินอู๋เสียเฝ้าดูอย่างเงียบๆ สิ่งของบนเวทีไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของนางได้เลย สินค้าต่อจากนี้อีกสองสามอย่างที่ถูกประมูลไปก็ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจนางได้เลย
สำหรับเรื่องใช้เงิน ฮวาเหยา เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ก็ไม่สนใจเช่นกัน มีเพียงฟ่านจัวเท่านั้นที่ดูอย่างเพลิดเพลินและดูเหมือนว่าจะสนใจกระบวนการประมูลมาก
หลังจากนั่งไปหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่จวินอู๋เสียรู้สึกเบื่อหน่ายก็มีเสียงอุทานดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่งของโรงประมูล
เสียงนั้นดึงดูดความสนใจของทั้งหกคนทันที
บนเวทีประมูล ศิลาดำที่มีความสูงเกินครึ่งตัวคนถูกยกขึ้นบนเวที ศิลาก้อนนั้นดูหนักผิดปกติและดำสนิทไปทั้งก้อน ขอบด้านข้างเกิดขึ้นเพราะลมฝน
ศิลาลึกลับที่ไม่รู้ที่มาแบบนี้สามารถนำขึ้นมาประมูลในโรงประมูลได้หรือ เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้ผู้คนมากมาย ผู้รับผิดชอบการประมูลพยายามรักษารอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของตัวเองไว้ แม้ว่าในใจจะไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย
การที่นำศิลาก้อนหนึ่งมาประมูลนั้นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสำหรับทุกคน
แต่คนที่นำศิลาก้อนนี้มาประมูลเป็นคนรู้จักของเจ้าของโรงประมูลชานหลิน ผู้นั้นยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็นของดีแน่นอน โรงประมูลชานลินจึงต้องนำออกมาประมูลอย่างจนใจ แต่ผลสุดท้ายก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายขึ้นทันทีที่นำศิลาก้อนนั้นขึ้นมา
ผู้คนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวทีต่างเงยหน้าขึ้นมองศิลาที่ไม่รู้จักก้อนนั้น เพื่อรอการแนะนำจากโรงประมูลชานหลิน
แต่สุดท้าย คนนั้นกลับกล่าวด้วยสีหน้าแข็งทื่อว่า “ศิลาดำก้อนนี้ถูกค้นพบที่ผาสุดขอบฟ้า ในศิลามีพลังลึกลับบางอย่าง แต่ศิลาก้อนนี้แข็งมากจนตัดไม่ออก หากผู้ใดสามารถแก้ปัญหานี้ได้ก็สามารถประมูลศิลาก้อนนี้ในราคาตั้งต้นไปได้”
ผาสุดขอบฟ้าเป็นหน้าผาที่มองไม่เห็นเบื้องล่าง หมอกใต้หน้าผานั้นหนาจนไม่มีผู้ใดเคยปีนลงไป มีคนเคยพยายามใช้เชือกวัดความสูงของหน้าผา แต่เชือกยาวหนึ่งร้อยเมตรโยนลงไปก็ยังไม่ถึงพื้น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครไปที่นั่นอีกเลย
มีข่าวลือว่ามีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่ทรงพลังอยู่ที่นั่น คนที่ต้องการลงไปที่ด้านล่างของหน้าผาส่วนใหญ่จะหายตัวไป เชื่อกันว่าพวกเขาถูกสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนั้นกลืนกินไปแล้ว
สถานที่ลึกลับกับข่าวลือที่เกี่ยวกับสัตว์วิญญาณตัวนั้นทำให้ผู้ที่สนใจผาสุดขอบฟ้าต่างล้มเลิกความคิดในทันที หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าลองอีกเลย