บทที่ 299 สมเป็นพี่น้องกันจริงๆ

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​ไม่สน​ใจ​”

คำพูด​สาม​คำ​นั้น​เป็น​ราวกับ​ไข่มุก​น้ำแข็ง​ ​มัน​ทำให้​อากาศ​ทั่วทั้ง​ห้อง​คล้าย​กับ​ถูก​แช่แข็ง​เอาไว้​ไม่มี​ผิด

แต่​เงา​ทมิฬ​กลับ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

หนา​นกง​เลี่ย​หันหน้า​ไป​มอง​เงา​ทมิฬ​ ​จากนั้น​เขา​ก็​เดิน​เข้าไป​พร้อมกับ​พัด​ใน​มือ​ ​ตอนที่​เขา​เดินผ่าน​เงา​ทมิฬ​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​มีเลศนัย​ ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​”​เงา​ทมิฬ​ ​วันนี้​ดู​เจ้า​ทำตัว​แปลก​ๆ​ ​ชอบกล​ ​เจ้า​กำลัง​พยายาม​ปิดบัง​อะไร​ไว้​หรือเปล่า​”

เงา​ทมิฬ​ตัว​แข็ง​เกร็ง​ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ ​เขา​อึกอัก​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ตอบ​อย่างไร

หนา​นกง​เลี่ย​พอใจ​กับ​ปฏิกิริยา​ของ​เงา​ทมิฬ​มาก​ ​เขา​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ไป​ด้วย​ใบหน้า​เปื้อน​รอยยิ้ม

หาก​เทียบ​กับ​เจ้า​คน​น่าเบื่อ​พวก​นี้​ละ​ก็​ ​ลูกเสือ​น้อย​อย่าง​เจ้า​เจ็ด​ยัง​น่ารัก​กว่า​พวกเขา​เป็น​ไหน​ๆ

แต่​เจ้า​หนู​นั่น​จะ​กัด​ใครก็ตาม​ที่​คิด​จะ​จับตัว​เขา​ ​นอกจาก​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​เขา​ไม่กล้า​หาเรื่อง​ด้วย​แล้ว​ ​ไม่ว่า​ใคร​หน้า​ไหน​ก็​ไม่​สามารถ​จับตัว​เขา​ได้​!

แต่​ในเวลานี้​เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​กลับ​ทำตัว​เชื่อฟัง​ยิ่งนัก​ ​เขา​ยอมให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จับมือ​เล็ก​ๆ​ ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​ไว้​ ​ขณะที่​มือ​อีก​ข้าง​ของ​เขา​ก็​ง่วนอยู่กับ​การกิน​เนื้อ​แดด​เดียว​ ​เขามอง​นาง​ด้วย​ดวงตา​กลม​โต​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​โดยปกติ​แล้ว​ที่​แห่ง​นี้​เป็น​สถานที่​ที่​ข้า​ใช้​ฝึก​วรยุทธ์​ขอรับ​”

ขณะที่​พูด​ ​เขา​ก็​ก้มลง​ยก​หิน​ก้อน​ขนาด​มหึมา​ขึ้น​ ​ก่อน​จะ​ดัน​มัน​ไป​ไว้​ข้างๆ​ ​ได้​อย่างง่ายดาย​ ​เขา​ทำท่า​ทาง​เหมือนกับ​กำลัง​เชื้อเชิญ​ให้​นาง​เข้า​บ้าน​ของ​ตัวเอง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​สังเกต​ทางเข้า​ถ้ำ​แห่ง​นั้น​ ​มัน​ไม่มี​อะไร​แปลกประหลาด​ ​มี​เพียงแค่​อุณหภูมิ​ของ​มัน​เท่านั้น​ที่​ค่อนข้าง​เย็น​ทีเดียว

“​เสี่ยว​เย​่​ ​ถอย​ไป​”

ระหว่าง​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กำลัง​คิด​เรื่อง​นั้น​อยู่​ ​นาง​ก็​เห็น​เด็ก​ตัวเล็ก​ๆ​ ​กำลัง​วิ่งไล่​สิ่งมีชีวิต​ขนาด​ยักษ์​ที่อยู่​ตรงหน้า​พวก​นาง​ ​แต่​นั่น​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​แปลก​แต่อย่างใด

“​นั่น​มัน​สัตว์​อสูร​นี่​”​ ​หยวน​หมิง​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ชั่วร้าย​ ​”​ข้า​ไม่​คิด​เลย​ว่า​จะ​มี​คน​กล้า​เลี้ยงสัตว์​อสูร​เอาไว้​ใน​สำนัก​ไท่​ไป๋​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ผู้​นี้​ช่าง​ใจกล้า​จริงๆ​”

สัตว์​อสูร​ที่​ชื่อ​เสี่ยว​เย​่​กลอกตา​ของ​มัน​ไปมา​ ​จากนั้น​ดวงตา​สีแดง​เลือด​ของ​มัน​ก็​จับจ้อง​มาที​่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ราวกับ​สัมผัส​ได้​ถึง​อันตราย​จาก​นาง

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ลูบ​หัว​มัน​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​เสี่ยว​เย​่​ ​อย่า​เสียมารยาท​ ​นาง​เป็น​พี่สะใภ้​สาม​ของ​ข้า​ ​พี่​สาม​จะ​ส่ง​กิเลน​อัคคี​มากั​ดนะ​ถ้า​เจ้า​ทำตัว​ไม่ดี​กับ​นาง​ ​เป็น​เด็กดี​แล้วก็​หลีกทาง​ซะ​ ​ข้า​จะ​พัก​เสียหน่อย​”

สัตว์​อสูร​เชื่อฟัง​ที่​เขา​พูด​ ​แล้ว​ขยับ​เข้าไป​ด้านใน​ ​มี​ความเป็นไปได้​สูง​ว่าน​่า​จะ​เป็น​เพราะ​สัตว์​อสูร​ตน​นั้น​ ​อุณหภูมิ​ภายใน​ถ้ำ​แห่ง​นี้​จึง​ค่อนข้าง​ต่ำ​ทีเดียว​ ​และ​นั่น​จึง​ทำให้​ที่นี่​มี​อากาศ​เย็นสบาย​น่าอยู่​มาก

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กับ​เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​นั่งลง​เคียงข้าง​กัน​ ​จากนั้น​นาง​จึง​หัน​มอง​ไปร​อบ​ถ้ำ​ ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​”​สัตว์​อสูร​ตน​นั้น​เข้ามา​อยู่​ใน​นี้​ได้​อย่างไร​หรือ​”​ ​มัน​ไม่น่า​จะ​โง่​พอที่​จะ​หลง​เข้ามา​ด้วยตัวเอง​ได้

“​วันนั้น​ข้า​เจอ​เสี่ยว​เย​่​ตอนที่​กำลัง​ฝึก​วรยุทธ์​อยู่​บน​ภูเขา​ขอรับ​ ​มัน​ได้รับบาดเจ็บ​ ​ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​พามั​นก​ลับ​มากับ​ข้า​ด้วย​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เหลือบมอง​เสี่ยว​เย่อี​กค​รั้ง​ ​นาง​กำลัง​ใช้​สายตา​วัด​ขนาด​ของ​มัน

เจ้า​เจ็ด​ ​เจ้า​อย่า​พูด​ด้วย​ท่าทาง​เหมือน​การนำ​มัน​กลับมา​นั้น​ง่ายดาย​อย่าง​กับ​หยิบ​ไข่​ติดมือ​มาสิ​!

มันตัว​ใหญ่​ไม่ใช่​น้อย​เลย​นะ​!

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ลูบ​ศีรษะ​ของ​สัตว์​อสูร​ตน​นั้น​ ​แม้​ความสูง​ของ​เขา​จะ​ทำให้​เขา​แทบจะ​เอื้อม​ไป​ไม่​ถึง​ศีรษะ​ของ​มัน​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​ทำตัว​เหมือน​เป็น​เจ้านาย​ของ​มัน​อยู่ดี​ ​”​ป่าวิญ​ญา​นกำ​ลัง​ปั่นป่วน​ขอรับ​ ​ตอนที่​ข้า​พบ​เสี่ยว​เย​่​ครั้งแรก​ ​หน้า​ของ​มัน​เต็มไปด้วย​เลือด​ ​ข้า​อยาก​พามั​นอ​อก​ไป​เดินเล่น​หลังจากที่​อาการ​ของ​มัน​หาย​ดี​แล้ว​ ​แต่​พี่​สาม​ห้าม​ข้า​เอาไว้​ ​แล้ว​บอกว่า​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หัวเราะ​แกน​ๆ​ ​พามั​นอ​อก​ไป​เดินเล่น​หรือ​ ​มัน​น่าจะ​ฆ่า​คน​สาม​คน​พร้อมกัน​ได้​ด้วย​ก้าว​เดียว​ด้วยซ้ำ​ ​ถ้า​ไม่ใช่​อย่างนั้น​ ​บรรดา​ลูกศิษย์​ทั่วทั้ง​สำนัก​ก็​คงได้​วิ่ง​แจ้น​เอาเรื่อง​นี้​ไป​ฟ้อง​ท่าน​เจ้าสำนัก​แน่​!

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​กล่าวว่า​ ​”​พี่​สาม​ของ​เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ป้อนส​ตร​อว​์​เบอร์​รี​ให้​สัตว์​อสูร​ตัว​นั้น​กิน​ ส​ตร​อว​์​เบอร์​รี​ผล​นี้​เด็ด​มาจาก​ใน​มิติ​สวรรค์​ ​มัน​สามารถ​เพิ่มพลั​งกาย​และ​ฟื้นฟูสภาพ​ผิว​ได้​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีฤทธิ์​อัน​น่าอัศจรรย์​ใน​การรักษา​บาดแผล​ของ​สัตว์​อสูร​และ​สัตว์​ศักดิ์สิทธิ์​ได้​อีกด้วย

เพื่อ​หลีกหนี​จาก​เหตุร้าย​ที่เกิด​ขึ้น​ ​เสี่ยว​ไป๋​จึง​ยังอยู่​ภายใน​นั้น​ ​แต่​มี​ความเป็นไปได้​สูง​ว่า​เขา​จะ​ออกมา​ได้​ในไม่ช้า​นี้​…

หลังจากที่​สัตว์​อสูร​ตน​นั้น​กลืนส​ตร​อว​์​เบอร์​รีล​งคอ​ ​มัน​ก็​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​แล้ว​เริ่ม​กระเถิบ​ตัว​เข้ามา​หา​ทั้งสอง

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​เอน​ตัว​พิง​ร่าง​อัน​ใหญ่โต​และ​นุ่มนิ่ม​ของ​มัน​อย่าง​มีความสุข​ ​แม้​เขา​จะ​รู้สึก​เหนื่อยล้า​ ​แต่​เขา​ก็​พยายาม​ต่อสู้​กับ​ความง่วง​ของ​ตนเอง​ ​และ​บ่น​ขึ้น​ว่า​ ​”​ท่าน​เจ้าสำนัก​สั่งห้าม​ไม่​ให้​ข้า​กิน​เนื้อ​อีกแล้ว​ขอรับ​”

“​ทำไม​ล่ะ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ดึง​เขา​เข้ามา​กอด​ ​เพื่อให้​เด็กชาย​ตัว​น้อย​หลับ​ได้​สบาย​ยิ่งขึ้น

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​เริ่ม​บ่นพึมพำ​ ​”​ข้า​ไป​อัด​ตาลุง​พวก​นั้น​เข้า​ ​แล้วก็​ไม่ยอม​ให้​พวกเขา​ใช้​ห้องน้ำ​ขอรับ​”

มุม​ปากของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ถึงกับ​กระตุก​ ​”​ใคร​เป็น​คน​สอน​วิธี​นี้​ให้​เจ้า​หรือ​”

“​พี่​สาม​บอกว่า​ต่อให้​อัด​พวกเขา​ไป​ก็​ไร้ประโยชน์​ ​ข้า​ต้อง​ทำลายขวัญ​กำลังใจ​ของ​พวกเขา​แทน​ ​พวก​อาจารย์​มักจะ​ปฏิเสธ​ไม่ยอม​ให้​ข้า​ไป​เข้า​ห้องน้ำ​ใน​ระหว่าง​คาบ​เสมอ​ ​และ​เรื่อง​นั้น​ทำให้​ข้า​รู้สึก​หงุดหงิด​มาก​ขอรับ​ ​ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ให้​คน​พวก​นั้น​ได้​ลิ้มรส​ความรู้สึก​นี้​บ้าง​”​ ​เจ้า​เจ็ด​ค่อยๆ​ ​ผล็อย​หลับ​ไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​นวด​ขมับ​ของ​ตัวเอง​อย่าง​ช่วย​ไม่​ได​ ​พวกเขา​สม​กับ​เป็น​พี่น้อง​กัน​จริงๆ​…

แต่ว่า​

“​สัตว์​อสูร​ปรากฏตัว​ขึ้น​รอบ​สำนัก​เช่นนี้​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ปกติ​หรือเปล่า​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เอ่ย​ถาม​หยวน​หมิง

หยวน​หมิง​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​”​ไม่เลย​ ​ถ้า​เจ้า​อยากรู้​รายละเอียด​ ​เจ้า​คง​ต้อง​ถาม​เสี่ยว​ไป๋​ดู​ ​เขา​รู้จัก​สัตว์​พวก​นี้​ดีกว่า​ข้า​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เห็นด้วย​กับ​เรื่อง​นั้น​ ​และ​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หลับ​ไป​โดยที่​มี​เด็ก​ตัว​น้อย​อยู่​ใน​อ้อมแขน

กว่า​ทั้งสอง​จะ​ตื่นขึ้น​มา​ ​เวลา​ก็​ล่วงเลย​มา​จนถึง​เวลาอาหาร​เย็น​แล้ว

ชิง​จ้าน​ยืน​อยู่​นอก​ถ้ำ​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เข้าไป​ดี​หรือไม่​ ​ใน​ระหว่าง​ที่นา​งกำ​ลัง​ลังเล​อยู่​นั้น​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​เดิน​ออกมา​พร้อมกับ​องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ไม่ได้​ปฏิบัติ​กับ​ชิง​จ้าน​ดี​เท่ากับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​เขา​ปรายตา​มอง​นาง​ ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​”​เจ้า​เป็น​คน​ของ​เลี่ย​ไม่ใช่​หรือ​ ​ทำไม​เจ้า​ถึง​มาติด​ตาม​พี่สะใภ้​สาม​ของ​ข้า​ได้​ล่ะ​”​

ชิง​จ้าน​คุกเข่า​ลง​ข้าง​หนึ่ง​ด้วย​ความเคารพ​ ​ก่อน​จะ​ตอบ​ว่า​ ​”​ทูล​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​หม่อมฉัน​เป็น​องครักษ์​ประจำ​วัง​ปีศาจ​ของ​องค์​ชาย​สาม​เพ​คะ​ ​ก่อนหน้านี้​หม่อมฉัน​ทำหน้าที่​รับผิดชอบ​ดูแล​ความปลอดภัย​ของ​นาย​น้อย​เลี่ย​ ​แต่​หม่อมฉัน​เพิ่ง​ถูก​ย้าย​มารับ​ใช้​พระ​ชายา​เมื่อไม่นานมานี้​นี่เอง​”

“​อ้อ​ ​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​”​ ​สรุป​ว่านาง​ทำงาน​ให้​กับ​พี่​สาม​นี่เอง​ ​จากนั้น​เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​จึง​ดัน​หิน​กลับ​ไป​ไว้​ที่​ตำแหน่ง​เดิม​ของ​มัน​โดย​ไม่​คิดมาก

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​ไปร​อบ​ตัว​ ​นาง​หา​สถานที่​เหมาะ​ๆ​ ​สำหรับ​นั่ง​ทาน​มื้อ​ค่ำ​ไม่ได้​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​พา​เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ไป​ที่​ศาลา​ของ​หอ​ชั้นเลิศ​แทน

เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​ชอบ​กิน​เนื้อ​ ​เขา​ใช้​ฟัน​ซี่​เล็ก​ๆ​ ​ของ​ตน​แทะ​กระดูก​ ​ชิง​จ้าน​รู้สึก​ไม่​อยาก​เชื่อ​เลย​ว่า​ตอนที่​เขา​กินข้าว​ ​เขา​จะ​ดู​สงบเสงี่ยม​ถึง​เพียงนี้

นาง​คิด​ว่า​คง​ไม่มีใคร​สามารถ​คุม​องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย​ได้​นอกจาก​องค์​ชาย​สาม

ไม่อย่างนั้น​อดีต​ฮ่องเต้​ก็​คง​ไม่​บังคับ​ให้​องค์​ชาย​เจ็ด​ไป​ฝึกฝน​บน​เขา​แน่

สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​นี้​อยู่​นอกเหนือ​การคาด​เดา​ของ​นาง​…

ชิง​จ้าน​เคลื่อน​สายตา​ไป​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​กำลัง​ใช้​ผ้าเช็ดปาก​ให้​กับ​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​นาง​เข้าใจ​ได้​ในทันที​ว่า​พระ​ชายา​เป็น​คนเดียว​ที่สามา​รถ​เข้าใกล้​องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย​ได้​เพราะ​ความรัก​ที่นา​งมี​ต่อ​เขา

คนอื่นๆ​ ​จะเข้า​หา​เขา​เพราะ​ต้องการ​ชื่อเสียง​หรือ​เงินทอง

ส่วน​บรรดา​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​เหล่านั้น​ ​พวก​นาง​เข้าหา​องค์​ชาย​เจ็ด​เพียง​เพราะ​ต้องการ​เรียก​ความสนใจ​จาก​องค์​ชาย

แต่​พวก​นาง​ลืม​ไป​ว่า​องค์​ชาย​เจ็ด​นั้น​เกิด​มา​ใน​ตระกูล​ที่​เป็น​เชื้อพระวงศ์​ ​เขา​อาจจะ​ยัง​เด็ก​ ​แต่​เขา​กลับ​โหดเหี้ยม​ยิ่งกว่า​องค์​ชาย​สาม​เสียอีก​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​มอง​กลอุบาย​ที่​พวก​นาง​เสแสร้ง​แกล้งทำ​ออก​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง

อาจ​เป็น​เพราะ​การ​มอง​มัน​ออก​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​นี่เอง​ ​จึง​เป็น​เหตุ​ที่​ทำให้​ทุกครั้งที่​พวก​นาง​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​องค์​ชาย​เจ็ด​ตอน​อยู่​ใน​วัง​หลวง​นั้น​ ​พวก​นาง​จะ​ทำท่า​ทาง​ราวกับว่า​ได้​เห็น​เสือ​ร้าย​ที่​พร้อม​จะ​กัด​พวก​ตน​อยู่​เสมอ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​คิด​ว่า​เจ้า​ลูกเสือ​น้อย​นั้น​เป็น​เด็ก​ที่​น่าสนใจ​มาก​ทีเดียว​ ​ที่จริง​แล้ว​เขา​เป็น​คนที​่​รับมือ​ง่าย​ยิ่งนัก​ ​แม้​ภายนอก​เขา​จะ​ดู​ไม่​เป็น​อย่างนั้น​ก็ตาม​ ​พอกิ​นข​้า​วอิ​่ม​แล้ว​ ​เขา​ก็​จะ​อวด​พุง​เนียน​นุ่ม​สีขาว​ของ​ตน​ให้​เห็น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ดัง​ขึ้น​ระหว่าง​ที่นา​งกำ​ลัง​เพลิดเพลิน​กับ​ภาพ​นั้น​ ​”​พวกเรา​คงมี​ชะตา​ต้องกัน​จริงๆ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เงยหน้า​ขึ้น​มองตาม​สัญชาตญาณ​ ​และ​เห็น​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ยืน​อยู่​ใต้​ต้นไม้​ต้นหนึ​่ง​ ​นาง​อยู่​ใน​ชุด​เสื้อคลุม​ตัว​ยาว​ ​ดู​งดงาม​สดชื่น​ ​นาง​ดู​น่ารัก​กว่า​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ที่​เดินตาม​อยู่​ข้างหลัง​นาง​เสียอีก​…